Windows 10 นั้นยิ่งปบ่อยอัปเดทใหม่ๆ ออกมามากเท่าไรยิ่งมีปัญหาเพิ่มให้ผู้ใช้ปวดหัวมากขึ้นจริงๆ ล่าสุดนั้นมีผู้ค้นพบว่าอัปเดทใหม่ล่าสุดของ Windows 10 ที่มีรหัส KB 4052623 ขึ้นไปนั้นได้มีการอัปเดทโปรแกรมป้องกันไวรัสบน Windows หรือ Microsoft Defender Antimalware ให้เป็นเวอร์ชัน 4.18.2007.8 ซึ่งจริงๆ แล้วนั้นการอัปเดทถือเป้นสิ่งที่ดีเพราะนั่นหมายถึงการพัฒนาที่เพิ่มมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น ทว่าผู้ใช้นั้นจะไม่สามารถทำการปิดโปรแกรมการตรวจสอบไวรัสนี้แบบถาวรได้อีกต่อไป
ในอดีตที่ผ่านมานั้นผู้ใช้สามารถทำการปิดการใช้งาน Microsoft Defender Antimalware ได้อย่างถาวรด้วยการเข้าไปแก้ไข registry key ที่ใช้ชื่อว่า DisableAntiSpyware ได้ผ่านทางโปรแกรม regedit ของ Windows 10 เอง ทว่าบน Windows 10 อัปเดทใหม่ดังกล่าวนี้นั้นพบว่าทาง Microsoft ได้นำเอา registry key ที่ใช้ชื่อว่า DisableAntiSpyware ออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลก็คือผู้ใช้นั้นไม่สามารถที่จะเข้าไปตั้งค่าเพื่อปิดการใช้งาน Microsoft Defender Antimalware ได้เองแล้วนั่นเอง
ทาง Micorosoft ได้อธิบายเหตุผลที่นำเอา registry key ที่ใช้ชื่อว่า DisableAntiSpyware ออกไปบนอัปเดทใหม่นี้ว่า โดยปกติแล้วนั้นเมื่อผู้ใช้ลงโปรแกรม Anti Virus ของผู้ผลิตรายอื่นบนระบบปฎิบัติการ Windows 10 แล้วนั้น ตัวโปรแกรม Microsoft Defender Antimalware จะทำการปิดการใช้งานตัวเองโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ดังนั้นแล้ว registry key ที่ใช้ชื่อว่า DisableAntiSpyware จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรากฎให้ปรับค่าบน regedit อีกต่อไป
งานนี้สำหรับผู้ใช้โปรแกรม Anti Virus ของผู้ผลิตรายอื่นอยู่แล้วนั้นก็คงไม่มีปัญหาเท่าไรนัก แต่กับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการลงโปรแกรม Anti Virus ของผู้ผลิตรายอื่นและต้องการที่จะปิดการทำงานของ Microsoft Defender Antimalware แบบถาวรด้วยนั้นก็จะมีปัญหาอยู่ สิ่งที่ท่านสามารถทำได้ ณ ตอนนี้นั้นก็คือการเข้าไปปิดการใช้งาน Microsoft Defender Antimalware บน ‘Virus & protection settings’ ตรง real-time protection ได้ก่าน ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก Microsoft Defender Antimalware ก็จะเปิดการใช้งานกลับมาเองโดยอัตโนมัติ
ที่มา : pcgamer