Acer Promotion Brochure ยกขบวนสินค้า Notebook, PC พร้อมโปรโมชั่นสุดแรง ของใหม่ราคาถูกคุ้มค่า ที่มีเฉพาะงานนี้เท่านั้น! โปรโมชั่น! สุดพิเศษ ในงาน Commart 2020 ที่บูธ Acer ณ ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 3 – 5 มีนาคม 2563 นี้ โดยมาพร้อมกับสินค้าราคาพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Aspire 3, Swift3, Swift 5, Nitro 5, Predator รุ่นต่างๆ ปี 2020 ที่ให้ของแถมมาเพียบ ไม่ว่าจะเป็น SSD 512GB, ลำโพงไร้สาย และอื่นๆ อีกมากมาย
รวมถึงมีในส่วนของ Acer Windows Mixed Reality Headset (AH501S) ซึ่งบอกเลยว่า Acer ทำการตลาดได้รวดเร็วก่อนใครเสมอมา หลายปีก่อนก็ทำออกมาเป็นเจ้าแรก โดยในรุ่นนี้ก็เป็นการอัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้าในหลายๆ ส่วนด้วย ที่สำคัญคือมีราคาวางจำหน่ายประมาณ 14,990 บาทเท่านั้น ซึ่งในงาน Commart 2020 ครั้งนี้ก็จัดโปรโมชั่นพิเศษลดเหลือเพียง 9,990 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าราคาไม่แพงเลย ถ้าเทียบกับประสบการณ์เล่นเกมที่เราจะได้
นอกเหนือจากนั้นยังมี Gaming Notebook รุ่นล่าสุดและโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ มากมาย อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นลดราคาโน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวจริงอย่าง Predator และในส่วนของ PC รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอมอนิเตอร์ โปรเจคเตอร์ อุปกรณ์ต่างๆ มาให้เลือกซื้อมากมาย ทาง Acer เองก็มีโปรโมชันสินค้าเด็ดๆ มาให้ซื้อหาด้วยเช่นกัน ลองดูตามโบรชัวร์ Acer Promotion Brochure กันได้เลย ในส่วนของโปรโมชั่นหน้างานจะมาอัพเดทกันอีกทีนะครับ รอติดตามกันได้เลย
Acer Nitro 5 (Core i/Ryzen)ราคา 26,990 – 39,990 บาท
สมการรอคอยของใครหลายๆ คน ที่ต้องการ Gaming Notebook ชิปประมวลผล Intel Core i / AMD Ryzen รุ่นใหม่ในตลาด กับการมาของ Acer Nitro 5 AN515-55 สเปก Intel Core i Gen 10H และ Acer Nitro 5 AN515-44 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H โดยเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมหน้าจอ 15.6″ ราคาคุ้มค่า ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ทั้งจากสเปกที่แรงลื่นหลากหลาย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่จัดเต็ม และประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วน 3 ชั่วโมง โดยมีการอัพเกรดหลายๆ อย่างด้วยกัน ในราคาที่ไม่แพงเลย
สำหรับ Acer Nitro 5 AN515-55 จะเป็นสเปก Intel เลือกใช้ชิปประมวลผล Core i5-10300H / Core i7-10750H เป็นขุมพลังหลัก ทำงานร่วมกับการ์ดจอระดับ Gaming หลากหลายรุ่นอย่าง NVIDIA GeForce / GTX 1650 (4GB GDDR5) / GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) / RTX 2060 (6GB GDDR6) ที่แรงลื่นกว่าเดิมแน่นอนในส่วนของแรมจัดเต็มมาให้เลยที่ 16GB DDR4 Bus 2933MHz แบบ 1 แถว ได้ SSD M.2 NCMe PCIe ความจุ 512GB หน้าจอเป็นพาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลทั้งการเล่นเกมหรือทำงาน แน่นอนว่าได้ Windows 10 ใช้งานได้ทันที ซึ่งแบ่งได้ตามรุ่นตามราคาได้ดังนี้
- Core i5-10300H / GTX 1650 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 29,900 บาท
- Core i5-10300H / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 31,900 บาท
- Core i5-10300H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 35,900 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 39,900 บาท
ส่วน Acer Nitro 5 AN515-44 เป็นรุ่นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4600H และ Ryzen 7 4800H ที่แรงลื่นแบบสุดๆ ผสานการทำงานกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB) / GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ส่วนแรมได้มาตรฐานเป็นขนาด 8GB/16GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA3 ภายหลัง) สำหรับหน้าจอจะเป็น 15.6″ IPS Refesh Rate 144Hz ที่ลื่นกว่าสีดีกว่า พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 โดยแบ่งตามรุ่นต่างๆ ได้ตามนี้
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 26,990 บาท
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 29,990 บาท
- Ryzen 7 4700H / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 32,990 บาท
สำหรับ Acer Nitro 5 AN515-55 และ Acer Nitro 5 AN515-44 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง Refresh Rate ที่ 144Hz แบบ 3ms ให้การแสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมได้มาตรฐานขอบเขตสี NTSC 72% ด้วย
Acer Nitro 5 AN515-55 / Acer Nitro 5 AN515-44 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ดีไซน์มีการปรับปรุงใหม่ให้มีความโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม ด้วยเส้นสายลวดลายที่ดูดุดันกว่าที่เคย โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม และที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo
นอกจากนี้ Acer Nitro 5 ยังมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย
Acer Nitro 5 ติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ พร้อมกับการตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. ติดตั้งปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีแดง รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นไฮไลน์เด่นออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ RGB แบบ 4 โซน ดูแล้วเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความติดมือ ดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน จะเอาไปเล่นเกมหรือทำงานก็ตอบสนองได้ดีเยี่ยม
Acer Swift 3 (Ryzen) ราคา 22,990 – ,990 บาท
Acer Swift 3 SF314-42 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ 14″ สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series พร้อมจัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า พร้อมความทรงพลัง โดยในส่วนของ U Series ที่เน้นประหยัดพลังงานแต่ยังให้ความแรง ซึ่งเดิม AMD ก็ทำตลาดในกลุ่มนี้ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยราคาที่ถูก ประสิทธิภาพดี ได้ความแรงที่เหนือชั้นกว่าเดิมมากด้วยเมื่อเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นเดิมๆ ที่เป็น H Series โดย Acer Swift 3 ปี 2020 ได้สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series พร้อมขายในไทยแล้ว มีราคาที่ 22,990 – 25,990 บาท ได้สถาปัตยกรรมเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร สุดล้ำหน้ากว่าที่เคยมีมาในตลาดโน๊ตบุ๊ค
ซึ่ง Acer Swift 3 สเปก Ryzen 4000 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U ที่แรงและดีกว่าเดิมแน่นอน มาพร้อมกับการ์ดจอออนชิปเป็น Radeon RX VEGA 6 / 7 รุ่นใหม่ ตัวเครื่องรองรับการติดตั้งแรมขนาด 8GB DDR4 โดยติดตั้งที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB แสดงผลผ่านทางหน้าจอขนาด 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แบบจอด้านลดแสงสะท้อนได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญยังได้ในส่วนของโปรแกรมเอกสาร Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาทด้วย
ตัวเครื่องสีสัน Mauve Purple ที่ออกเป็นสีม่วงแบบมังคุดไทยๆ ให้ความโดดเด่นไม่เหมือนใคร หรือมีอีกสีคือสีเงินสว่างๆ Pure Silver ที่เหมาะกับทั้งหนุ่มๆ ลุคเท่แบบคลูๆ หรือสาวๆ ที่ดูน่ารักสดใส เหมาะมากๆ สำหรับคนทำงานจริงจังพนักงานออฟฟิศ หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว เพียงพอที่จะเอาไปทำงานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอได้เลยล่ะ แต่ก็ยังรองรับพกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสุดถึง 13 ชั่วโมง ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัว
ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก โดยมาพร้อมกับบางเพียง 15.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น (รุ่นก่อน 1.35 กิโลกรัม) ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่ตัวเครื่องเทียบเท่ากับหน้าจอ 13.3″ อย่างรุ่นก่อนๆ ที่บางเบาที่สุดรุ่นหนึ่ง พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นแบบรู้สึกได้ จนรุ่นเก่าต้องอิจฉาเลยทีเดียว กับแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมยังสามารถชาร์จได้รวดเร็วด้วยการชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง
- Ryzen 5 4500U / Radeon 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 22,990 บาท
- Ryzen 7 4700U / Radeon 7 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 25,990 บาท
Acer Swift 5 (Core i) ราคา 30,990 – 36,990 บาท
Acer Swift 5 รุ่นใหม่ปี 2020 สเปกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 อย่าง Core i5-1035G1 / Core i7-1065G7 ใช้การ์ดจอออนชิปอย่าง Iris Graphics G7 หรือมีรุ่นการ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce MX350 มาพร้อมหน้าจอ 14″ Full HD พาเนล IPS เกรดสูง sRGB 97% โดยมีน้ำหนักเพียง 990 กรัมเท่านั้น ส่วนสเปกอื่นๆ ก็ครบครันทั้งแรมขนาด 16GB LPDDR4X แบบออนบอร์ด และที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB รองรับการทำงานที่เต็มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ความบันเทิง หรืองานประมวลผลหนักๆ ก็พอได้เลย เหมาะกับคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เบาที่สุด แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง +
ได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ทันที ทำงานพื้นฐานได้แบบสบายๆ สนับสนุนการทำงานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ ส่วนความบันเทิงดูหนังฟังเพลง ชม Netflix ก็สบายๆ ไปอีก และพอที่จะใช้งานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็พอได้บ้าง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติก็ลื่นไหล จากการที่มีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX350 (2GB GDDR5) ที่แรงพอๆ กับ GTX 960M เลยทีเดียว
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ เช่น Thunderbolt 3 (เป็น USB 3.1 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด ได้ประกันจะเป็นแบบ 3 ปี โดยปีแรกเป็นแบบ On-site Serive ซ่อมฟรีถึงบ้าน และกรณีส่งซ่อมตามศูนย์ก็จะซ่อมอย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมงอีกด้วย ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) มาใช้งานทันที นับว่าคุ้มค่าจริงๆ ที่เหนือกว่าหลายๆ แบรนด์
เรียกได้ว่าถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ ที่เบาที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดก็ว่าได้ ส่วนความบางอาจจะไม่มาก โดยอยู่ที่ 14.95 มิลลิเมตร แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คพกพามาตรฐานระดับสูงอยู่ดี อีกทั้งในรุ่นใหม่นี้ได้ดีไซน์พิเศษโดยมียางรองขอบเครื่องด้านหลังช่วยยกตัวเครื่องให้เอียงสูงขึ้นเมือเรากางหน้าจอ ส่งผลให้พิมพ์ง่ายขึ้นและมุมมองดีขึ้นด้วย วัสดุจากอลูมิเมียนผสมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษแต่ก็ยังแข็งแรงและทนทาน กับสีสัน Charcoal Blue พร้อมแซมด้วยสีทองตามจุดต่างๆ เหมาะทั้งหนุ่มๆ หรือสาวๆ ยุคใหม่ที่ดูทันสมัยสวยงามลงตัว ส่วนสี Moonstone White นับว่าเป็นอีกสีที่ดูหรูหราไม่แพ้กัน เน้นขาวๆ สะอาดๆ
- Core i5-1035G1 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 30,900 บาท
- Core i7-1065G7 / MX350 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 36,900 บาท
Predator Triton 300 ราคา 43,990 – 59,990 บาท
Acer Predator Triton 300 มีตัวเลือกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H อย่าง Core i5-10300H ทำงานที่ความเร็ว 2.50 – 4.50 GHz แบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด และ Core i7-10750H ทำงานที่ความเร็ว 2.60 – 5.0 GHz แบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ทำงานร่วมกับการ์ดจอระดับสูงที่ได้ทั้งความแรงและร้อนน้อยกว่าอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) / RTX 2070 Max-Q (8GB GDDR6) สนนราคาเริ่มต้นถูกสุด ที่ 43,990 บาทในฝั่งของ Gaming Notebook แบรนด์ Predator
แรมมาตรฐานเป็น DDR4 Bus 2933MHz ขนาด 16GB / 32GB พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB / 1TB มีหน้าจอความละเอียดสูงระดับ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz / 3ms ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ใครจะเอาไปทำงานหรือเล่นเกมอันนี้ไม่ว่ากัน ได้ Windows 10 ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมด้วยกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลแบบคู่ในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน
Acer Predator Triton 300 (2020) ในส่วนของดีไซน์ภายนอกก็ดูเรียบหรู วัสดุเป็นอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่องสีดำแซมด้วยสีฟ้า Predator ที่โดดเด่น เป็น DNA ของ Gaming Notebook จากทาง Acer Predator ปี 2020 นี้ก็ว่าได้ มีความบางสุด 19.9 มิลลิเมตร และเบาที่ 2.3 กิโลกรัม และถือว่าเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่ขอบบาง แต่ไม่ได้มีการตัดชุด Numpad ด้านขวาออกไปแต่อย่างใด เชื่อว่าหลายคนน่าจะถูกใจสิ่งนี้ โดยมีปุ่มที่ใหญ่และช่องว่างที่พอดี ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน
สำหรับดีไซน์ตัวปุ่มเองก็มีความพิเศษที่เป็นขอบสีขาวกึ่งโปร่งแสงให้ความสวยงามเวลาใช้งานจริง รวมถึงบริเวณด้านขวายังมีการทำปุ่ม Hotkey พิเศษ เรียกซอฟต์แวร์ PredatorSense ขึ้นมาได้ รวมไปถึงมีปุ่มปรับระดับเสียง ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยปุ่ม WASD, PredatorSense และปุ่มทิศทางที่จะมีขอบที่โปร่งแสงแบบพิเศษที่สำคัญไฟ LED ก็เป็นแบบ 4 โซน เราสามารถตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ ให้วิ่งไปมาตามโปรไฟล์ต่างๆ ผ่านทางซอฟต์แวร์ PredatorSense หรือจะปรับเป็นสีเดียวนิ่งๆ ก็ทำได้ เช่นตั้งไว้เป็นสีขาวหรือสีฟ้าสีเดียว
- Core i5-10300H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 43,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 54,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2070 Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 59,990 บาท
Predator Helios 300 ราคา 49,990 – 59,990 บาท
Acer Predator Helios 300 ปี 2020 ที่จะจำหน่ายในประเทศไทย มาพร้อมกับหลากหลายสเปกและราคา หลักๆ แล้วเป็นชิปประมวลผลเป็น Core i7-10750H (2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz) ส่วนการ์ดจอเริ่มต้นเป็น NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) / RTX 2070 Max-Q (8GB GDDR6) พร้อม แรมขนาด 16GB / 32GB DDR4 Bus 2933 MHz ที่เก็บข้อมูลเป็นแบบ SSD M.2 แบบ NVMe PCIe ที่ความจุ 512GB – 1TB รวมถึงยังใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ได้อยู่ จัดว่าให้สเปกมาเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไปมากๆ แต่เหมาะสำหรับการเล่นเกมแบบสุดๆ
มีตัวเลือกหน้าจอขนาด 15.6″ หรือ 17.3″ แบบด้าน ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพ IPS ตอบสนองที่ 144Hz 3ms แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนล บนซอฟแวร์เสียง DTS:X Ultra ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-C จำนวน 1 ช่อง, USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, ช่องเสียบหูฟังไมค์ขนาด 3.5 มิลลิเมตร พร้อมด้วยช่องสาย Lan RJ45 พร้อม E2600 Ethernet Controller
Acer Predator Helios 300 (2020) จะมีหน้าจอขนาดใหญ่ที่ 15.6″ และ 17.3″ แต่กลับมีความเล็กลงจากมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดจากการที่ขอบจอบาง จากการที่ขอบจอบางที่ 7.9 มิลลิเมตร มีพื้นที่การแสดงผลที่ 79% โดยได้ความแรงไม่แพ้ Gaming Notebook เครื่องหนักๆ หนาๆ แบบแต่ก่อน โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่พกพาได้สะดวก รักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้พกพาพอได้ หรือหยิบใส่กระเป๋าแบบสบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง กับน้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม และ 2.9 กิโลกรัม ตามลำดับ
คีย์บอร์ดถือว่าเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ / 17.3″ โดยบริเวณด้านขวาของชุดคีย์บอร์ดยังมีการทำปุ่ม Hotkey พิเศษ เรียกซอฟต์แวร์ PredatorSense ขึ้นมาได้ ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีกเวลาที่จะปรับแต่งการใช้งานโหมดต่างๆ รวมไปถึงการปรับรอบพัดลมหรือปรับสีไฟคีย์บอร์ดด้วย อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยปุ่ม WASD, PredatorSense และปุ่มทิศทางที่จะมีขอบที่โปร่งแสงแบบพิเศษที่เป็นโทนฟ้าต่างจากปุ่มคีย์บอร์ดอื่นๆ ที่สำคัญไฟคีย์บอร์ด LED ก็เป็นแบบ RGB แบ่ง 4 โซน เราสามารถตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ ผ่านทางซอฟต์แวร์ PredatorSense หรือจะปรับเป็นสีเดียวนิ่งๆ ก็ทำได้
- Core i7-10750H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 49,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2070 Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 57,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2070 Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 17.3″ IPS 144Hz ราคา 59,990 บาท
Predator Triton 500 ราคา 79,990 – 89,990 บาท
Acer Predator Triton 500 ใช้ชิประมวลผลรุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i Gen 10H ในรุ่น Core i7-10875H ทำงานที่ความเร็ว 2.3 – 5.1 GHz แบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด ซึ่งให้ความแรงและ Core การทำงานที่มากกว่า i7-10750H ทำงานร่วมกับการ์ดจอระดับสูงรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q (8GB GDDR6) / RTX 2080 Super Max-Q (8GB GDDR6) เป็นตัวแรงที่สุดในฝั่งของ Gaming Notebook
แรมมาตรฐานเป็น DDR4 Bus 2933MHz ขนาด 32GB พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB มีหน้าจอความละเอียดสูงระดับ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน 300Hz / 3ms / G-Sync ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ใครจะเอาไปทำงานหรือเล่นเกมอันนี้ไม่ว่ากัน ได้ Windows 10 สนนราคา 79,990 / 89,990 บาท
ซึ่งจากสเปกนี้ทำให้รองรับการเล่นเกมในปัจจุบันลื่นๆ ได้ทุกเกมแน่นอน ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมด้วยกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลแบบคู่ในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง Thunderbolt 3, USB 3.1 Type-A และ LAN RJ45 Killer Ethernet E3100, Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth V5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน Killer Wi-Fi 6 AX1650G
สำหรับ Acer Predator Triton 500 ถือว่าเป็น Gaming Notebook มาตรฐานใหม่ที่มีความเบาบาง ขอบจอบางที่ได้ความแรงไม่แพง Gaming Notebook เครื่องหนักๆ หนาๆ แบบแต่ก่อน โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่พกพาได้สะดวก ด้วยน้ำหนักเพียง 2.1 กิโลกรัม บางที่ 17.9 มิลลิเมตร (จัดว่าเป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ ที่บางเบาที่สุดในโลกรุ่นนึง) ทำให้ถือมือเดียวได้ หรือหยิบใส่กระเป๋าแบบสบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
คีย์บอร์ดของ Acer Predator Triton 500 มีการตัดชุด Numpad ด้านขวาออกไป แม้ว่าหลายคนอาจจะไม่ถูกใจนัก ซึ่งก็ต้องทำความเข้าใจว่าถ้ามีมันจะแน่นเกินไป ดูใช้งานไม่ได้จริงแถมยังไม่สวยงาม ทำให้ทาง Acer ตัดสินใจเลือกที่จะเน้นใช้งานแป้นคีย์บอร์ดหลักด้วยการไว้ตรงกึ่งกลางตัวเครื่องแทน โดยมีปุ่มที่ใหญ่และช่องว่างที่พอดี ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน นอกจากนี้บริเวณด้านขวายังมีการทำปุ่ม Hotkey พิเศษ เรียกซอฟต์แวร์ PredatorSense ขึ้นมาได้ รวมไปถึงมีปุ่มปรับระดับเสียง ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก
อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยปุ่ม WASD, PredatorSense และปุ่มทิศทางที่จะมีขอบที่โปร่งแสงแบบพิเศษ ที่สำคัญไฟ LED ก็เป็นแบบ Per-Key RGB แบบเต็มรูปแบบ เราสามารถตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ ผ่านทางซอฟต์แวร์ PredatorSense หรือจะปรับเป็นสีเดียวนิ่งๆ ก็ทำได้ ส่วนในการใช้งาน Turbo เราก็สามารถกดปุ่มได้เลย