Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้การ์ดจอ NVIDIA GeForce เป็นหนึ่งใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ราคาคุ้มค่า ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ทั้งจากสเปกที่แรงลื่นหลากหลาย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่จัดเต็ม ซึ่งได้รับการพัฒนาหลายๆ ส่วนจาก Acer Nitro 5 ก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ภายนอก คีย์บอร์ดไฟ RGB และอื่นๆ เป็นการต่อยอดพร้อมแข่งกันกับ Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ ในราคาเริ่มต้นที่ 26,990 บาทเท่านั้น ทุกรุ่นได้ประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วน 3 ชั่วโมง
สำหรับ Acer Nitro 5 ปี 2020 รุ่นที่ได้รีวิวนี้เป็นเครื่องจริงสเปกขายจริง โดยเป็นชิปประมวลผล Ryzen 4800H ทำงานร่วมกับการ์ดจอ GeForce GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ที่แรงลื่นกว่าเดิมแน่นอน ในส่วนของแรมจัดเต็มมาให้เลยที่ 16GB DDR4 Bus 3200MHz แบบ 8GB จำนวน 2 แถว ส่วนที่เก็บข้อมูลให้มามาตรฐาน SSD M.2 NCMe PCIe ความจุ 512GB หน้าจอเป็นพาเนล IPS เกรดดี รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลทั้งการเล่นเกมหรือทำงาน แน่นอนว่าได้ Windows 10 ใช้งานได้ทันที โดยแบตเตอรี่ใช้งาน 7 ชั่วโมง ในราคาเพียง 32,990 บาท
VDO Review
NBS Verdict
การมาของ Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 เทียบกับ Acer Nitro 5 AN515 ที่สเปกเป็น Core i Gen 10H นับได้ว่ามีความคล้ายกันเกือบทั้งหมด หลักๆ แล้วแตกต่างกันที่สเปกภายในเท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ซื้ออย่างเราๆ มีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น โดยเป็นโน๊ตบุ๊ค เล่นเกมราคาคุ้มค่ารุ่นล่าสุดของทาง Acer ทำให้ตลาด Gaming Notebook สนุกสนานแน่นอน จากการแข่งขันของโน๊ตบุ๊คสเปกใหม่ๆ กับราคาที่ถูกคุ้มค่ากว่าเดิม
ซึ่งเหมาะกันคนที่ต้องการ Gaming Notebook ที่ได้สเปกใหม่ล่าสุด โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพสูง จากชิปประมวลผล Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H จับคู่มากับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX GTX 1650 (4GB GDDR6)/ 1650 Ti (4GB GDDR6) ได้แรมขนาด 8GB / 16GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz พร้อม SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ให้ความแรงลื่นในการทำงานและเล่นเกม ที่น่าประทับใจกว่า Acer Nitro 5 รุ่นก่อนๆ ที่เคยมีมาแน่นอน
ฟีเจอร์อื่นๆ ก็ยังครบเครื่องด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB แบบ 4 โซน คล้ายกับที่เคยมีมาในรุ่นพี่อย่าง Predator Series ปรับแต่งได้อิสระประมาณนึง และได้การตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. เสริมอารมณ์ในการเป็น Gaming Notebook ไปอีกระดับ ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra ให้เสียงจะชัดเจนและสามารถจำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 3 มิติได้
รวมไปถึงมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ ซึ่งดีเยี่ยมกว่ารุ่นก่อนหน้าเช่นกัน พร้อมการอัพเกรดอินเตอร์เน็ตไร้สายเป็น Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO ที่ดีกว่า และ LAN RJ45 ก็เป็น Killer Ethernet E2600 โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 ตรงนี้เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ชัดเจนทีเดียว
สำหรับคนไหนสนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ได้ดีไซน์ใหม่ที่จัดว่ามีการอัพเกรดให้ดู Gaming มากยิ่งขึ้น โฉบเฉียวมากยิ่งขึ้น มีการแซมสีแดงให้ดูโดดเด่น การเชื่อมต่อต่างๆ ก็ครบครันกว่าหลายๆ รุ่น พร้อมเน้นให้ประสิทธิภาพความแรงที่สดใหม่เหนือชั้นล่ะก็ Acer Nitro 5 รุ่นนี้ สเปก Ryzen 4000H น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว
จากราคาและสเปกคุ้มๆ ได้หน้าจอเทพๆ ทั้งลื่นไหลและค่าขอบเขตสีที่ดีมากๆ รวมไปถึงการทดสอบใช้งานจริงต้องบอกว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 7 ชั่วโมง ในส่วนนี้ก็ถือว่าทำได้ดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ พอตัว อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้คือ แม้ว่าหน้าจอจะสเปกเดียวกับ Core i Gen 10H แต่ว่ามีเกรดของหน้าจอ IPS น้อยกว่านั่นเอง
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบมาใหม่ ให้ความ Gaming กว่าเดิม ขอบหน้าจอบาง งานประกอบแน่นหนา
- การแกะอัพเกรดทำได้ง่ายกว่าเดิม รองรับ SSD M.2 สองสล็อต และ HDD/SSD 2.5″ อีก 1 ช่อง
- สเปคประสิทธิภาพสูงจาก Ryzen 4000H + NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti
- ได้แรมขนาด 8GB / 16GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB มาเลย
- มีโปรแกรม Nitrosense ปรับรอบพัดลมติดตั้งมาให้ในเครื่องเลย
- จัดการความร้อนทำได้ดีเยี่ยม เย็นทั้ง CPU / GPU เมื่อใช้งานหนักๆ
- หน้าจอพาเนล IPS เกรดคุณภาพสูง พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.2 Type-A, USB 3.2 Type-C, HDMI
- LAN RJ45รองรับ Killer Ethernet E2600 ช่วยลด Ping เวลาเล่นเกมออนไลน์
- Wi-Fi 6 AX มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO ดีกว่าแบบเดิมๆ
- คีย์บอร์ดมีไฟ RGB แบบ 4 โซน สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 7 ชั่วโมง
- เป็น Acer Nitro 5 ที่มีราคาเริ่มต้นถูกสุดที่ 26,990 บาท
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Acer Care Center
ข้อสังเกต
- ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว
- หน้าจอแม้สเปกจะเหมือนกัน แต่ทดสอบแล้วมีขอบเขตสีที่น้อยกว่ารุ่น Core i Gen 10H
- ยังไม่มีสเปกการ์ดจอ GTX 1660 Ti / RTX 2060 เหมือนกับรุ่น Core i Gen 10H
Specification
สเปกภายในของ Acer Nitro 5 สเปก AMD เลือกใช้ชิปประมวลผล Ryzen 4000H อย่าง Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H มาพร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากการที่ได้เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรมโค้ดเนม Renoir (เรอนัวร์) สุดล้ำหน้า ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนานกว่า ที่กับคู่มากับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) หรือ GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ส่วนแรมได้มาตรฐานเป็นขนาด 16GB แบบ DDR4 Bus 2933MHz ทันทีแบบไม่ต้องอัพเกรดกันให้เสียเวลา มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA3 ภายหลัง) พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
- Ryzen 7 4800H (2.90GHz – 4.20 GHz ,8 core/16 thread ,TDP 45W )
- Ryzen 5 4600H (3.00GHz – 4.0 GHz ,6 core/12 thread ,TDP 45W)
หน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง Refresh Rate ที่ 144Hz แบบ 3ms ให้การแสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra
มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 26,990 บาท
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 28,990 บาท
- Ryzen 7 4800H / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 32,990 บาท
Hardware / Design
การดีไซน์ออกแบบ Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับ Acer Nitro 5 AN515-55 ที่เป็นสเปก Core i Gen 10H โดยวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกเกรดดี ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางเบากว่าเดิมแน่นอน รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Nitro 5 หน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร พื้นที่สัดส่วนกว่า 80% ทำให้มีขนาดเครื่องกระทัดรัด
ซึ่งมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม จัดว่าเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ขนาดหน้านี้โดยได้เป็นหน้าจอ Refresh Rate ที่ 144Hz ทั้งสีสันและลื่นไหลจัดว่าดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามแม้จะมีความคล้ายกันกับสเปก Core i Gen 10H ก็จริง แต่ในส่วนของการทดสอบเราก็จะทำการทำซ้ำอีกที
สำหรับสีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำแซมด้วยสีแดง แต่เพิ่มความโดดเด่นและสวยงาม ที่ต้องว่า Acer Nitro 5 AN515-44 ฝาหลังจะมีลักษณะลวดลายผิวไม่เรียบลักษณะคล้ายโลหะบลัชปัดเสี้ยนบริเวณด้านข้างซ้ายและขวา ฝาบนจะโลโก้คำว่า Acer สีดำคมเข้มไม่ธรรมดา ผิวฝาบนพื้นผิวเป็นพลาสติกมีสีดำด้านให้สัมผัสดีมีคุณภาพสูง พร้อมขอบตัวเครื่องหลังเป็นสีแดงแทนที่สีดำเหมือนรุ่นก่อนๆ รวมไปถึงขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับ จะเป็นสีดำพร้อมกับมีคำว่า Nitro สีแดงติดตั้งเอาไว้ โดยสามารถกางหน้าจอได้กว่า 145 องศาทีเดียว
ตัวเครื่องด้านในของ Acer Nitro 5 AN515-44 ยังให้ดีไซน์คล้ายรุ่นก่อน ที่มีการติดตั้งปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนสุดของชุดคีย์บอร์ด รวมไปถึงยังมีการติดตั้งปุ่ม NitroSense ไว้เหนือแป้นตัวเลขด้วย กดใช้งานได้สะดวกดี แต่ก็โดดเด่นกว่าด้วยที่คีย์บอร์ดนั้นเป็นไฟ RGB แบบแบ่งเป็น 4 โซน พร้อมกับใช้ขอบของปุ่มคีย์บอร์ดเป็นสีขาวทั้งหมดแทนที่สีแดงแบบเดิมๆ
นอกจากนั้นก็เป็นสติกเกอร์ต่างๆ ติดเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX รวมไปถึงมีการบอกถึงบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงตามสไตล์ของ Acer อีกด้วย อีกทั้งยังมีการแจกแจงถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิเช่น Dual SSD M.2 + One HDD Slot / ขอบจอบาง / Network Optimize / NitroSense + CoolBoost / HDMI Port / ระบบเสียง DTS:X เป็นต้น
ฝาล่างของตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบสากๆ ทำให้หยิบจำแล้วไม่ลื่นไหล พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่พร้อมกับพัดลม 2 ตัว ที่กรณีที่เราเปิดเครื่องก็จะเห็นไฟสี RGB จากคีย์บอร์ดติดอยู่ด้วย ดูแล้วก็สวยงามไปอีกแบบ อีกทั้งเราจะเห็นในส่วนของสติ๊กเกอร์ปิดน็อตที่เราสามารถเจาะทะลุได้
สำหรับเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย ในส่วนนี้ก็ถือว่ามีอัพเดทจากรุ่นเดิมเช่นกัน นับได้ว่าทั้งดีไซน์และฟีเจอร์ยังคงเอกลักษณ์ตามมาตรฐานของ Acer Nitro 5 ปี 2020 เต็มๆ
Keyboard / Touchpad
Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H ติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ พร้อมกับการตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. ติดตั้งปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีขาว รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นไฮไลน์เด่นออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ RGB แบบ 4 โซน ดูแล้วเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความติดมือ ดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน จะเอาไปเล่นเกมหรือทำงานก็ตอบสนองได้ดีเยี่ยม
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ดีไซน์มีลักษณะขอบแดงรอบๆ ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีแดง ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS เกรดดี ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง ซึ่งเป็น Refresh Rate ที่ 144Hz ให้แสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz
โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้วทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา พร้อมติดตั้ง Webcam และไมโครโฟนได้ปกติ
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H รุ่นนี้ แม้จะดูจากสเปกก็มีความคล้ายกับสเปก Core i Gen 10H แต่ทางทีมงานก็ต้องทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ เพื่อดูว่าสามารถแสดงสีสันได้เหมือนกันไหม ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 60% และ Adobe RGB ที่ 45% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอ
โดยบอกตามตรงว่าให้ขอบเขตสีที่น้อยกว่าสเปก Core i Gen 10H ประมาณหนึ่ง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างเพียงๆ ต่อทุกๆ การทำงาน ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องซ้ายแถวกลาง จะมีแสงสว่างลดลงไปที่ 13% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง Acer Nitro 5 AN515-44 ก็ได้คะแนนไป 3.5 คะแนน ส่วนคะแนนรวมบอกได้เลยว่าน้อยกว่าสเปก Core i Gen 10H เช่นกัน แน่นอนว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปก็ตอบสนองพอได้ แต่สำหรับคนที่ใช้มืออาชีพด้านสีสันก็ต้องระวังหน่อย ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว เทียบกับ Acer Nitro 5 รุ่นก่อนๆ ที่ใช้สเปก AMD Ryzen ก็ถือว่ายังคงมาตรฐานที่ดีได้เช่นเดิม โดยรุ่นก่อนเป็น 120Hz แต่รุ่นนี้เป็น 144Hz แล้ว
ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Nitro 5 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวทำงานแบบสเตอริโอ โดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ นอกจากนี้ยังได้ระบบเสียงเป็น Acer Trueharmony และ DTS:X Ultra เพิ่มประสิทธิภาพเสียงในทุกย่านเสียง พร้อมจำลองเสียง 3 มิติได้ เพื่อรองรับความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลง ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่ารุ่นเก่าด้วย
Connector / Thin And Weight
Acer Nitro 5 (2020) จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ทั้งในการโอนถ่ายไฟล์หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เทียบกับรุ่นก่อนก็ถือว่าดีกว่าหลายด้าน ส่วนพอร์ตชาร์จไฟอแดปเตอร์ถูกย้ายจากด้านข้างไปไว้ด้านหลังแล้ว
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน ทางด้านการพกพา Acer Nitro 5 ทำได้น่าพอใจในระดับที่ใกล้เคียงกับรุ่นเดิม จากการที่มีน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.3 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.6 กิโลกรัม นับได้ว่าพอพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่ได้บ้าง
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 นั้นสามารถทำได้ง่ายเช่นเดิม เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยควรทำอย่างระมัดระวัง แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมมีฮีท์ไปป์ 3 เส้นพร้อมลักษณะชิ้นโลหะขนาดใหญ่พาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองแยกอิสระจากกัน ช่องระบายความร้อนแบบ 4 ทิศทางที่ดีกว่ารุ่นก่อนๆ แน่นอน
แรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 8GB DDR4 Bus 3200MHz มาแล้ว 2 แถว โดยรองรับสูงสุดที่ 32GB ส่วน SSD M.2 NVMe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน โดยใส่มาแล้ว 1 ตัวที่ 512GB พร้อมมีการติดตั้งซิลิโคนที่แผงฝาล่างให้ด้วย แน่นอนว่ารองรับการใส่ SSD M.2 เป็น 2 ตัวพร้อมๆ กัน แล้วตั้งเป็น Raid ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นช่องใส่ HDD หรือ SSD แบบ 2.5″ ที่สามารถอัพเกรดได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามการแกะฝาล่างนั้นไม่ทำให้หลุดประกัน แต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วเกิดความเสียหาย
Performance / Software
Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 รุ่นที่นำมาทดสอบ ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H ที่แรงกว่า AMD Ryzen 7 3750H รุ่นก่อนหน้าแบบก้าวกระโดด ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 2.90 – 4.20 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 12MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 45W ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น AMD Ryzen 3000 H หรือ Intel Core i Gen 9H เลยทีเดียว ที่สามารถดูได้จากผลการทดสอบเล่นเกมที่ลื่นไหลกว่า Gaming Notebook สเปกเดิมๆ มาก
สำหรับ AMD Ryzen 7 4800H แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังรวมไปถึงเล่นเกมเป็นหลัก ก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 3000 H Series เป็นเท่าตัว ส่วนแรมได้ขนาด 8GB จำนวน 2 แถว (Dual Channel) มาตรฐาน DDR4 Bus 3200 MHz โดยถ้าจะอัพเกรดเพิ่มต้องถอดของเดิมออกก่อน พร้อมให้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ซึ่งมีช่องว่างใส่ SSD M.2 NVMe อีก 1 ตัวไว้อัพเกรดภายหลังได้ รวมถึง HDD 2.5″ SATA 3 อีก 1 ช่อง ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon 7 มีความเร็วในการทำงานที่ 1600MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ
โดยมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ที่ต้องบอกว่าแรงกว่า GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) รุ่นเล็กกว่าประมาณหนึ่ง จากที่สเปกภายในได้รับการอัพเกรดขึ้น เห็นได้ชัดจากแรมการ์ดจอจะเป็น 4GB GDDR6 แทนที่รุ่นก่อนที่เป็น 4GB GDDR5 เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา ร้อนน้อยกว่าแต่ก็แรงไม่แพ้กัน เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H / Intel Core i7-9750H ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2441 MB/s และเขียนที่ 1804 MB/s ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5127 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุดจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming อย่าง GeForce GTX 1650 Ti ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว อีกทั้งสเปกใช้แรมไป 16GB ก็ผลในการทดสอบด้วย
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง RE 3 / BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด !!! จากกราฟตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลสุดๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ โดยในส่วนของ RE 3 ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น MAX ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB ซึ่งเกินกว่าตัวการ์ดจอที่ 4GB แต่ก็ยังทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลน่าประทับใจอยู่
ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่ ทั้ง 7 เกมที่เราได้ทำการทดสอบไป ยิ่งถ้าเทียบกับ Gaming Notebook สเปกก่อนหน้าทั้งส่วนของ AMD Ryzen 3000H หรือ Intel Core i Gen 9H จะเห็นว่าแรงกว่าเดิมมากๆ
และด้วยพาเนล IPS แบบ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 144Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมาต่ำๆ หน่อย
Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
นอกจากนี้ทาง Acer Nitro 5 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 7:37 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานระดับนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Acer Nitro 5 รุ่นนี้ จากการที่เป็นสเปกใหม่ Ryzen 4000H ทำให้ Hardware Monitor ไม่สามารถตรวจสอบได้ถึงข้อมูลของ CPU ต้องดูจาก Core Temp แทน เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียสต่ำสุด ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมดพัดลมระดับสูงสุดด้วยารปรับเป็น CoolBoots เพื่อให้พัดลมทำงาน 100%
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ประมาณ 87 องศาเซลเซียส นับว่าอยู่ในเกณฑ์เย็นอย่างน่าประทับใจเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook สเปกใกล้เคียงนี้ ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 62 องศาเซลเซียสเท่านั้น ดูจากโปรแกรม Hardware Monitor โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยโหมด CoolBoots นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถเลือกที่จะปรับรูปแบบการทำงานของพัดลมได้ทั้ง Auto หรือ Manual ด้วย
Conclusion / Award
ประทับใจมากๆ สำหรับการมาของ Gaming Notebook สเปก AMD Ryzen 4000H ปี 2020 รุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง Acer Nitro 5 AN515-44 ที่นอกจากได้ดีไซน์ใหม่ๆ ในกลิ่นอายเดิมแล้ว คือได้สเปกชิปประมวลผล Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti ด้วยสเปกที่แรงลื่นกว่าเดิม พร้อมแรมขนาด 8GB / 16GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe 512GB ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดเครื่อง ที่สำคัญคือได้คีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งได้
โดดเด่นด้วยการรองรับอัพเกรดใส่ SSD M.2 NVMe อีกจำนวน 1 ช่อง (ใส่ไปแล้ว 512GB 1 ช่อง) และ HDD/SSD 2.5″ SATA 3 จำนวน 1 ช่อง เพิ่มได้ภายหลัง พร้อมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2600 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยการเล่นเกมที่ลื่นไหลได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่า มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ทั่วไปที่ไม่มีตรงนี้ อย่างที่ Gaming Notebook รุ่นราคาใกล้เคียงกันทำไม่ได้ ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.2 Type-C จำนวน 3 ช่อง พร้อมงานประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ การถอดอัพเกรดก็ง่ายเหมือนเดิม เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย
สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีกว่ารุ่นๆ คือ ชิปประมวลผลไม่ร้อนเกิน 90 องศาเซลเซียสเลย จากการที่ทาง Acer ออกแบบมาได้ดีขึ้น รวมถึงชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H ก็ให้ความแรงที่เพียงพอ เทียบแล้วดีกว่า Ryzen 3000H รุ่นก่อน ฉะนั้นถ้าดูจากผลทดสอบอุณหภูมิก็นับว่าทำได้ดีตามเกณฑ์มากๆ แล้ว ส่วนการ์ดจอ NVIDIA GeForce ที่เป็นรุ่นใหม่ สมกับการ์ดจอ Gaming ที่ทาง NVIDIA อัพเดทจริงๆ คือให้ความแรงที่พอตัว แต่ความร้อนต่ำมากๆ น่าประทับใจ ซึ่งรองรับการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด อีกทั้งได้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7 ชั่วโมงด้วย เทียบกับค่าตัวแล้วอยู่ในช่วงราคา 30,000 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตคือขอบเขตสีหน้าจอเป็นรองสเปก Core i Gen 10H
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Nitro 5 AN515-44 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer Nitro 5 AN515-44 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ สเปก AMD Ryzen 4000H ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของ Nitro 5 Series (สเปก Core i Gen 10H ก็เหมือนกัน 100%) ที่ได้รับการปรับปรุงในมีความลงตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก ดูแล้วน่าจะโดนใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง น้ำหนักเบาแค่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยมจากทาง Acer ที่คิดมาเป็นอย่างดีแล้ว อีกทั้งได้คีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งได้
Best Performance
Acer Nitro 5 AN515-44 สเปกชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 4000H อย่าง Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากการที่ได้เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรมโค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) สุดล้ำหน้า ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนานกว่า พร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti ที่แรงลื่นรองรับทุกๆ การทำงานหรือเล่นเกม มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe และรองรับฮาร์ดดิสก์ 2.5″ มาตรฐาน SATA 3 อีก 1 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz ได้หน้าจอ IPS 144Hz แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Value
Acer Nitro 5 มีตัวเลือกไม่ว่าจะเป็น Acer Nitro 5 AN515-44 หรือ Acer Nitro 5 AN515-55 ซึ่งรุ่น Acer Nitro 5 AN515-44 ใช้ชิปประมวลผล Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti กับราคาเริ่มต้นเพียง 26,990 บาท หน้าจอ 15.6″ ที่ได้ 144Hz ทุกรุ่นด้วย เรียกได้ว่าสมการรอคอยการมาของ Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นที่ทุกคนให้ความสนใจ จากสเปกที่ดี ราคาคุ้มค่า ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 สเปกด้วยกัน กับช่วงราคาสองหมื่นบาทกลางๆ ถึงสามหมื่นบาทต้นๆ เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่มีประสิทธิภาพสูงและฟีเจอร์เพียบแบบนี้
VDO Review
NBS Verdict
การมาของ Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 เทียบกับ Acer Nitro 5 AN515 ที่สเปกเป็น Core i Gen 10H นับได้ว่ามีความคล้ายกันเกือบทั้งหมด หลักๆ แล้วแตกต่างกันที่สเปกภายในเท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ซื้ออย่างเราๆ มีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น โดยเป็นโน๊ตบุ๊ค เล่นเกมราคาคุ้มค่ารุ่นล่าสุดของทาง Acer ทำให้ตลาด Gaming Notebook สนุกสนานแน่นอน จากการแข่งขันของโน๊ตบุ๊คสเปกใหม่ๆ กับราคาที่ถูกคุ้มค่ากว่าเดิม
ซึ่งเหมาะกันคนที่ต้องการ Gaming Notebook ที่ได้สเปกใหม่ล่าสุด โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพสูง จากชิปประมวลผล Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H จับคู่มากับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX GTX 1650 (4GB GDDR6)/ 1650 Ti (4GB GDDR6) ได้แรมขนาด 8GB / 16GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz พร้อม SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ให้ความแรงลื่นในการทำงานและเล่นเกม ที่น่าประทับใจกว่า Acer Nitro 5 รุ่นก่อนๆ ที่เคยมีมาแน่นอน
ฟีเจอร์อื่นๆ ก็ยังครบเครื่องด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB แบบ 4 โซน คล้ายกับที่เคยมีมาในรุ่นพี่อย่าง Predator Series ปรับแต่งได้อิสระประมาณนึง และได้การตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. เสริมอารมณ์ในการเป็น Gaming Notebook ไปอีกระดับ ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra ให้เสียงจะชัดเจนและสามารถจำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 3 มิติได้
รวมไปถึงมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ ซึ่งดีเยี่ยมกว่ารุ่นก่อนหน้าเช่นกัน พร้อมการอัพเกรดอินเตอร์เน็ตไร้สายเป็น Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO ที่ดีกว่า และ LAN RJ45 ก็เป็น Killer Ethernet E2600 โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 ตรงนี้เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ชัดเจนทีเดียว
สำหรับคนไหนสนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ได้ดีไซน์ใหม่ที่จัดว่ามีการอัพเกรดให้ดู Gaming มากยิ่งขึ้น โฉบเฉียวมากยิ่งขึ้น มีการแซมสีแดงให้ดูโดดเด่น การเชื่อมต่อต่างๆ ก็ครบครันกว่าหลายๆ รุ่น พร้อมเน้นให้ประสิทธิภาพความแรงที่สดใหม่เหนือชั้นล่ะก็ Acer Nitro 5 รุ่นนี้ สเปก Ryzen 4000H น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว
จากราคาและสเปกคุ้มๆ ได้หน้าจอเทพๆ ทั้งลื่นไหลและค่าขอบเขตสีที่ดีมากๆ รวมไปถึงการทดสอบใช้งานจริงต้องบอกว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 7 ชั่วโมง ในส่วนนี้ก็ถือว่าทำได้ดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ พอตัว อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้คือ แม้ว่าหน้าจอจะสเปกเดียวกับ Core i Gen 10H แต่ว่ามีเกรดของหน้าจอ IPS น้อยกว่านั่นเอง
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบมาใหม่ ให้ความ Gaming กว่าเดิม ขอบหน้าจอบาง งานประกอบแน่นหนา
- การแกะอัพเกรดทำได้ง่ายกว่าเดิม รองรับ SSD M.2 สองสล็อต และ HDD/SSD 2.5″ อีก 1 ช่อง
- สเปคประสิทธิภาพสูงจาก Ryzen 4000H + NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti
- ได้แรมขนาด 8GB / 16GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB มาเลย
- มีโปรแกรม Nitrosense ปรับรอบพัดลมติดตั้งมาให้ในเครื่องเลย
- จัดการความร้อนทำได้ดีเยี่ยม เย็นทั้ง CPU / GPU เมื่อใช้งานหนักๆ
- หน้าจอพาเนล IPS เกรดคุณภาพสูง พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.2 Type-A, USB 3.2 Type-C, HDMI
- LAN RJ45รองรับ Killer Ethernet E2600 ช่วยลด Ping เวลาเล่นเกมออนไลน์
- Wi-Fi 6 AX มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO ดีกว่าแบบเดิมๆ
- คีย์บอร์ดมีไฟ RGB แบบ 4 โซน สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 7 ชั่วโมง
- เป็น Acer Nitro 5 ที่มีราคาเริ่มต้นถูกสุดที่ 26,990 บาท
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Acer Care Center
ข้อสังเกต
- ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว
- หน้าจอแม้สเปกจะเหมือนกัน แต่ทดสอบแล้วมีขอบเขตสีที่น้อยกว่ารุ่น Core i Gen 10H
- ยังไม่มีสเปกการ์ดจอ GTX 1660 Ti / RTX 2060 เหมือนกับรุ่น Core i Gen 10H
Specification
สเปกภายในของ Acer Nitro 5 สเปก AMD เลือกใช้ชิปประมวลผล Ryzen 4000H อย่าง Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H มาพร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากการที่ได้เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรมโค้ดเนม Renoir (เรอนัวร์) สุดล้ำหน้า ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนานกว่า ที่กับคู่มากับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) หรือ GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ส่วนแรมได้มาตรฐานเป็นขนาด 16GB แบบ DDR4 Bus 2933MHz ทันทีแบบไม่ต้องอัพเกรดกันให้เสียเวลา มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA3 ภายหลัง) พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
- Ryzen 7 4800H (2.90GHz – 4.20 GHz ,8 core/16 thread ,TDP 45W )
- Ryzen 5 4600H (3.00GHz – 4.0 GHz ,6 core/12 thread ,TDP 45W)
หน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง Refresh Rate ที่ 144Hz แบบ 3ms ให้การแสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra
มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 26,990 บาท
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 28,990 บาท
- Ryzen 7 4700H / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 32,990 บาท
Hardware / Design
การดีไซน์ออกแบบ Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับ Acer Nitro 5 AN515-55 ที่เป็นสเปก Core i Gen 10H โดยวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกเกรดดี ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางเบากว่าเดิมแน่นอน รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Nitro 5 หน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร พื้นที่สัดส่วนกว่า 80% ทำให้มีขนาดเครื่องกระทัดรัด
ซึ่งมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม จัดว่าเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ขนาดหน้านี้โดยได้เป็นหน้าจอ Refresh Rate ที่ 144Hz ทั้งสีสันและลื่นไหลจัดว่าดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามแม้จะมีความคล้ายกันกับสเปก Core i Gen 10H ก็จริง แต่ในส่วนของการทดสอบเราก็จะทำการทำซ้ำอีกที
สำหรับสีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำแซมด้วยสีแดง แต่เพิ่มความโดดเด่นและสวยงาม ที่ต้องว่า Acer Nitro 5 AN515-44 ฝาหลังจะมีลักษณะลวดลายผิวไม่เรียบลักษณะคล้ายโลหะบลัชปัดเสี้ยนบริเวณด้านข้างซ้ายและขวา ฝาบนจะโลโก้คำว่า Acer สีดำคมเข้มไม่ธรรมดา ผิวฝาบนพื้นผิวเป็นพลาสติกมีสีดำด้านให้สัมผัสดีมีคุณภาพสูง พร้อมขอบตัวเครื่องหลังเป็นสีแดงแทนที่สีดำเหมือนรุ่นก่อนๆ รวมไปถึงขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับ จะเป็นสีดำพร้อมกับมีคำว่า Nitro สีแดงติดตั้งเอาไว้ โดยสามารถกางหน้าจอได้กว่า 145 องศาทีเดียว
ตัวเครื่องด้านในของ Acer Nitro 5 AN515-44 ยังให้ดีไซน์คล้ายรุ่นก่อน ที่มีการติดตั้งปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนสุดของชุดคีย์บอร์ด รวมไปถึงยังมีการติดตั้งปุ่ม NitroSense ไว้เหนือแป้นตัวเลขด้วย กดใช้งานได้สะดวกดี แต่ก็โดดเด่นกว่าด้วยที่คีย์บอร์ดนั้นเป็นไฟ RGB แบบแบ่งเป็น 4 โซน พร้อมกับใช้ขอบของปุ่มคีย์บอร์ดเป็นสีขาวทั้งหมดแทนที่สีแดงแบบเดิมๆ
นอกจากนั้นก็เป็นสติกเกอร์ต่างๆ ติดเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX รวมไปถึงมีการบอกถึงบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงตามสไตล์ของ Acer อีกด้วย อีกทั้งยังมีการแจกแจงถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิเช่น Dual SSD M.2 + One HDD Slot / ขอบจอบาง / Network Optimize / NitroSense + CoolBoost / HDMI Port / ระบบเสียง DTS:X เป็นต้น
ฝาล่างของตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบสากๆ ทำให้หยิบจำแล้วไม่ลื่นไหล พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่พร้อมกับพัดลม 2 ตัว ที่กรณีที่เราเปิดเครื่องก็จะเห็นไฟสี RGB จากคีย์บอร์ดติดอยู่ด้วย ดูแล้วก็สวยงามไปอีกแบบ อีกทั้งเราจะเห็นในส่วนของสติ๊กเกอร์ปิดน็อตที่เราสามารถเจาะทะลุได้
สำหรับเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย ในส่วนนี้ก็ถือว่ามีอัพเดทจากรุ่นเดิมเช่นกัน นับได้ว่าทั้งดีไซน์และฟีเจอร์ยังคงเอกลักษณ์ตามมาตรฐานของ Acer Nitro 5 ปี 2020 เต็มๆ
Keyboard / Touchpad
Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H ติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ พร้อมกับการตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. ติดตั้งปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีขาว รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นไฮไลน์เด่นออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ RGB แบบ 4 โซน ดูแล้วเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความติดมือ ดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน จะเอาไปเล่นเกมหรือทำงานก็ตอบสนองได้ดีเยี่ยม
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ดีไซน์มีลักษณะขอบแดงรอบๆ ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีแดง ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS เกรดดี ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง ซึ่งเป็น Refresh Rate ที่ 144Hz ให้แสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz
โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้วทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา พร้อมติดตั้ง Webcam และไมโครโฟนได้ปกติ
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H รุ่นนี้ แม้จะดูจากสเปกก็มีความคล้ายกับสเปก Core i Gen 10H แต่ทางทีมงานก็ต้องทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ เพื่อดูว่าสามารถแสดงสีสันได้เหมือนกันไหม ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 60% และ Adobe RGB ที่ 45% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอ
โดยบอกตามตรงว่าให้ขอบเขตสีที่น้อยกว่าสเปก Core i Gen 10H ประมาณหนึ่ง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างเพียงๆ ต่อทุกๆ การทำงาน ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องซ้ายแถวกลาง จะมีแสงสว่างลดลงไปที่ 13% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง Acer Nitro 5 AN515-44 ก็ได้คะแนนไป 3.5 คะแนน ส่วนคะแนนรวมบอกได้เลยว่าน้อยกว่าสเปก Core i Gen 10H เช่นกัน แน่นอนว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปก็ตอบสนองพอได้ แต่สำหรับคนที่ใช้มืออาชีพด้านสีสันก็ต้องระวังหน่อย ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว เทียบกับ Acer Nitro 5 รุ่นก่อนๆ ที่ใช้สเปก AMD Ryzen ก็ถือว่ายังคงมาตรฐานที่ดีได้เช่นเดิม โดยรุ่นก่อนเป็น 120Hz แต่รุ่นนี้เป็น 144Hz แล้ว
ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Nitro 5 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวทำงานแบบสเตอริโอ โดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ นอกจากนี้ยังได้ระบบเสียงเป็น Acer Trueharmony และ DTS:X Ultra เพิ่มประสิทธิภาพเสียงในทุกย่านเสียง พร้อมจำลองเสียง 3 มิติได้ เพื่อรองรับความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลง ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่ารุ่นเก่าด้วย
Connector / Thin And Weight
Acer Nitro 5 (2020) จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ทั้งในการโอนถ่ายไฟล์หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เทียบกับรุ่นก่อนก็ถือว่าดีกว่าหลายด้าน ส่วนพอร์ตชาร์จไฟอแดปเตอร์ถูกย้ายจากด้านข้างไปไว้ด้านหลังแล้ว
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน ทางด้านการพกพา Acer Nitro 5 ทำได้น่าพอใจในระดับที่ใกล้เคียงกับรุ่นเดิม จากการที่มีน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.3 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.6 กิโลกรัม นับได้ว่าพอพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่ได้บ้าง
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 นั้นสามารถทำได้ง่ายเช่นเดิม เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยควรทำอย่างระมัดระวัง แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมมีฮีท์ไปป์ 3 เส้นพร้อมลักษณะชิ้นโลหะขนาดใหญ่พาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองแยกอิสระจากกัน ช่องระบายความร้อนแบบ 4 ทิศทางที่ดีกว่ารุ่นก่อนๆ แน่นอน
แรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 8GB DDR4 Bus 3200MHz มาแล้ว 2 แถว โดยรองรับสูงสุดที่ 32GB ส่วน SSD M.2 NVMe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน โดยใส่มาแล้ว 1 ตัวที่ 512GB พร้อมมีการติดตั้งซิลิโคนที่แผงฝาล่างให้ด้วย แน่นอนว่ารองรับการใส่ SSD M.2 เป็น 2 ตัวพร้อมๆ กัน แล้วตั้งเป็น Raid ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นช่องใส่ HDD หรือ SSD แบบ 2.5″ ที่สามารถอัพเกรดได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามการแกะฝาล่างนั้นไม่ทำให้หลุดประกัน แต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วเกิดความเสียหาย
Performance / Software
Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 รุ่นที่นำมาทดสอบ ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H ที่แรงกว่า AMD Ryzen 7 3750H รุ่นก่อนหน้าแบบก้าวกระโดด ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 2.90 – 4.20 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 12MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 45W ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น AMD Ryzen 3000 H หรือ Intel Core i Gen 9H เลยทีเดียว ที่สามารถดูได้จากผลการทดสอบเล่นเกมที่ลื่นไหลกว่า Gaming Notebook สเปกเดิมๆ มาก
สำหรับ AMD Ryzen 7 4800H แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังรวมไปถึงเล่นเกมเป็นหลัก ก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 3000 H Series เป็นเท่าตัว ส่วนแรมได้ขนาด 8GB จำนวน 2 แถว (Dual Channel) มาตรฐาน DDR4 Bus 3200 MHz โดยถ้าจะอัพเกรดเพิ่มต้องถอดของเดิมออกก่อน พร้อมให้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ซึ่งมีช่องว่างใส่ SSD M.2 NVMe อีก 1 ตัวไว้อัพเกรดภายหลังได้ รวมถึง HDD 2.5″ SATA 3 อีก 1 ช่อง ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon 7 มีความเร็วในการทำงานที่ 1600MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ
โดยมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ที่ต้องบอกว่าแรงกว่า GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) รุ่นเล็กกว่าประมาณหนึ่ง จากที่สเปกภายในได้รับการอัพเกรดขึ้น เห็นได้ชัดจากแรมการ์ดจอจะเป็น 4GB GDDR6 แทนที่รุ่นก่อนที่เป็น 4GB GDDR5 เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา ร้อนน้อยกว่าแต่ก็แรงไม่แพ้กัน เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H / Intel Core i7-9750H ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2441 MB/s และเขียนที่ 1804 MB/s ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5127 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุดจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming อย่าง GeForce GTX 1650 Ti ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว อีกทั้งสเปกใช้แรมไป 16GB ก็ผลในการทดสอบด้วย
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง RE 3 / BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด !!! จากกราฟตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลสุดๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ โดยในส่วนของ RE 3 ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น MAX ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB ซึ่งเกินกว่าตัวการ์ดจอที่ 4GB แต่ก็ยังทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลน่าประทับใจอยู่
ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่ ทั้ง 7 เกมที่เราได้ทำการทดสอบไป ยิ่งถ้าเทียบกับ Gaming Notebook สเปกก่อนหน้าทั้งส่วนของ AMD Ryzen 3000H หรือ Intel Core i Gen 9H จะเห็นว่าแรงกว่าเดิมมากๆ
และด้วยพาเนล IPS แบบ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 144Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมาต่ำๆ หน่อย
Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
นอกจากนี้ทาง Acer Nitro 5 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer Nitro 5 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H หรือ Acer Nitro 5 AN515-44 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 7:37 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานระดับนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Acer Nitro 5 รุ่นนี้ จากการที่เป็นสเปกใหม่ Ryzen 4000H ทำให้ Hardware Monitor ไม่สามารถตรวจสอบได้ถึงข้อมูลของ CPU ต้องดูจาก Core Temp แทน เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียสต่ำสุด ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมดพัดลมระดับสูงสุดด้วยารปรับเป็น CoolBoots เพื่อให้พัดลมทำงาน 100%
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ประมาณ 87 องศาเซลเซียส นับว่าอยู่ในเกณฑ์เย็นอย่างน่าประทับใจเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook สเปกใกล้เคียงนี้ ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 62 องศาเซลเซียสเท่านั้น ดูจากโปรแกรม Hardware Monitor โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยโหมด CoolBoots นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถเลือกที่จะปรับรูปแบบการทำงานของพัดลมได้ทั้ง Auto หรือ Manual ด้วย
Conclusion / Award
ประทับใจมากๆ สำหรับการมาของ Gaming Notebook สเปก AMD Ryzen 4000H ปี 2020 รุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง Acer Nitro 5 AN515-44 ที่นอกจากได้ดีไซน์ใหม่ๆ ในกลิ่นอายเดิมแล้ว คือได้สเปกชิปประมวลผล Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti ด้วยสเปกที่แรงลื่นกว่าเดิม พร้อมแรมขนาด 8GB / 16GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe 512GB ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดเครื่อง ที่สำคัญคือได้คีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งได้
โดดเด่นด้วยการรองรับอัพเกรดใส่ SSD M.2 NVMe อีกจำนวน 1 ช่อง (ใส่ไปแล้ว 512GB 1 ช่อง) และ HDD/SSD 2.5″ SATA 3 จำนวน 1 ช่อง เพิ่มได้ภายหลัง พร้อมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2600 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยการเล่นเกมที่ลื่นไหลได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่า มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ทั่วไปที่ไม่มีตรงนี้ อย่างที่ Gaming Notebook รุ่นราคาใกล้เคียงกันทำไม่ได้ ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.2 Type-C จำนวน 3 ช่อง พร้อมงานประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ การถอดอัพเกรดก็ง่ายเหมือนเดิม เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย
สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีกว่ารุ่นๆ คือ ชิปประมวลผลไม่ร้อนเกิน 90 องศาเซลเซียสเลย จากการที่ทาง Acer ออกแบบมาได้ดีขึ้น รวมถึงชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H ก็ให้ความแรงที่เพียงพอ เทียบแล้วดีกว่า Ryzen 3000H รุ่นก่อน ฉะนั้นถ้าดูจากผลทดสอบอุณหภูมิก็นับว่าทำได้ดีตามเกณฑ์มากๆ แล้ว ส่วนการ์ดจอ NVIDIA GeForce ที่เป็นรุ่นใหม่ สมกับการ์ดจอ Gaming ที่ทาง NVIDIA อัพเดทจริงๆ คือให้ความแรงที่พอตัว แต่ความร้อนต่ำมากๆ น่าประทับใจ ซึ่งรองรับการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด อีกทั้งได้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7 ชั่วโมงด้วย เทียบกับค่าตัวแล้วอยู่ในช่วงราคา 30,000 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตคือขอบเขตสีหน้าจอเป็นรองสเปก Core i Gen 10H
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Nitro 5 AN515-44 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer Nitro 5 AN515-44 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ สเปก AMD Ryzen 4000H ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของ Nitro 5 Series (สเปก Core i Gen 10H ก็เหมือนกัน 100%) ที่ได้รับการปรับปรุงในมีความลงตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก ดูแล้วน่าจะโดนใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง น้ำหนักเบาแค่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยมจากทาง Acer ที่คิดมาเป็นอย่างดีแล้ว อีกทั้งได้คีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งได้
Best Performance
Acer Nitro 5 AN515-44 สเปกชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 4000H อย่าง Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากการที่ได้เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรมโค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) สุดล้ำหน้า ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนานกว่า พร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti ที่แรงลื่นรองรับทุกๆ การทำงานหรือเล่นเกม มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe และรองรับฮาร์ดดิสก์ 2.5″ มาตรฐาน SATA 3 อีก 1 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz ได้หน้าจอ IPS 144Hz แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Value
Acer Nitro 5 มีตัวเลือกไม่ว่าจะเป็น Acer Nitro 5 AN515-44 หรือ Acer Nitro 5 AN515-55 ซึ่งรุ่น Acer Nitro 5 AN515-44 ใช้ชิปประมวลผล Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti กับราคาเริ่มต้นเพียง 26,990 บาท หน้าจอ 15.6″ ที่ได้ 144Hz ทุกรุ่นด้วย เรียกได้ว่าสมการรอคอยการมาของ Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นที่ทุกคนให้ความสนใจ จากสเปกที่ดี ราคาคุ้มค่า ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 สเปกด้วยกัน กับช่วงราคาสองหมื่นบาทกลางๆ ถึงสามหมื่นบาทต้นๆ เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่มีประสิทธิภาพสูงและฟีเจอร์เพียบแบบนี้