นิยามของคำว่าสวย แต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่ถ้าพูดถึงความบางเบาของโน๊ตบุ๊คแล้ว เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจไปในทางเดียวกัน เช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊ค HP ENVY 13 รุ่นใหม่ ที่ต้องบอกว่าใครที่ชื่นชอบโน๊ตบุ๊คที่กระทัดรัด บางเบา พกพาสะดวก ดีไซน์หรูในราคาจับต้องได้ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
HP Envy 13-ba0039TX มาในสไตล์ของ โน๊ตบุ๊คทำงาน และไลฟ์สไตล์ พูดง่ายๆ คือ ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เน้นที่การพกพา ด้วยความบางเบา น้ำหนักเพียง 1.3Kg. หน้าจอขนาด 13.3″ ในแบบ IPS ให้ความคมชัดสูง ความละเอียด Full-HD และมีซีพียู Intel Gen10 เป็นขุมพลังในการทำงาน ซึ่งมีให้เลือกทั้ง Intel Core i5 และ Core i7 จับคู่มากับกราฟิกแยก GeForce MX350 จะต่างจากในรุ่นที่แอดมินโป้งรีวิวไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย แต่ก็ตอบสนองต่อการใช้งานด้านความบันเทิงและการเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ได้ดียิ่งขึ้น ให้ Storage ในแบบ SSD 512GB M.2 PCIe ตามมาตรฐาน และระบบเสียงคุณภาพจาก Bang & Olufsen กับการเชื่อมต่อ WiFi 6 AX มาในบอดี้สีเงินหรูหรา การรับประกัน 2 ปี แบบ On-site service
และในรุ่นที่ได้รับมาทดสอบนี้ ใช้ซีพียู Intel® Core™ i5-10210U ความเร็ว 1.6GHz บูสท์ได้ถึง 4.2GHz ซึ่งถือว่าจัดจ้านมากๆ ในโน๊ตบุ๊คระดับอัลตร้าบุ๊ก หรือกลุ่มบางเบาเช่นนี้ แต่ค่า TDP ค่อนข้างต่ำ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องของความร้อน แม้ว่าจะเป็นซีพียู U series แต่ก็เป็นสถาปัตยกรรมรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับ AI ในการเรียนรู้การใช้งานของคุณ ในการเพิ่มความเร็วในการทำงาน นอกเหนือจากสเปคที่จัดมาให้ เช่น แรม DDR4 8GB และ SSD 512GB ที่จัดว่าเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบัน และบอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นนี้เลยว่า ความเร็วของ SSD ว่ากันที่ 3,xxxMB/s ซึ่งถือว่าเร็วแรงที่สุดอีกรุ่นหนึ่งในเวลานี้ เปิดเครื่อง บูตระบบ เข้าเกมและโอนถ่ายไฟล์มั่นใจได้ ใช้เวลาสั้นมากๆ
Specification
- HP ENVY Laptop – 13-ba0039tx
- Intel® Core™ i5-10210U (1.6 GHz base frequency, up to 4.2 GHz with Intel® Turbo Boost Technology, 6 MB L3 cache, 4 cores)
- Intel® Integrated SoC
- 8 GB DDR4-2666 SDRAM (onboard)
- 512 GB PCIe® NVMe™ TLC M.2 SSD
- 13.3″ diagonal FHD, IPS, BrightView, micro-edge, WLED-backlit, edge-to-edge glass and HP Sure View integrated privacy screen, 1000 nits, 72% NTSC (1920 x 1080)
- Intel® Wi-Fi 6 AX 201 (2×2) and Bluetooth® 5 Combo (Supporting Gigabit file transfer speeds)
- 1 microSD media card reader
- USB 3.1 Type-C® 10Gbps สำหรับ (USB Power Delivery, DisplayPort™ 1.2 ฟีเจอร์ HP Sleep and Charge) USB Type-A 5Gbps (ฟีเจอร์ HP Sleep and Charge) USB Type-A 5Gbps และ AC ชาร์จไฟ รวมถึง คอมโบ headphone/microphone
- Starting at 1.3 kg
- 65 W Smart AC power adapter
- 3-cell, 51 Wh Li-ion
- Audio by Bang & Olufsen; Dual speakers; HP Audio Boost 2.0
การออกแบบและฟีเจอร์
HP ENVY Laptop – 13-ba0039tx มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียกว่า บางเบา แต่เร้าใจ ด้วยบอดี้สีเงิน Natural Silver ดูล้ำสมัย ตัดกับขอบสีดำของหน้าจอ ขอบจอบางพิเศษ กับพื้นที่คีย์บอร์ดที่ถูกจับวางไว้แบบพอดี เพื่อให้ไซส์ของโน๊ตบุ๊คเล็กและกระทัดรัดให้มากที่สุด
โน๊ตบุ๊คขนาดบางเป็นพิเศษ และหน้าจอขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 1.3Kg จึงสามารถถือได้ด้วยมือเดียว ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะใส่ Soft case หรือจะใส่กระเป๋าสะพาย ก็แทบจะไม่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัด เหมาะกับสายพกพาที่แท้จริง
บอดี้เกือบทั้งหมดเป็นอะลูมิเนียม แข็งแรง Cover ด้านบนสีเงิน Natural Silver โทนเดียวกับบอดี้ แต่มีพื้นผิวให้จับได้ถนัดมือ ไม่เป็นรอยนิ้วมือให้เสียอารมณ์
บอดี้ด้านในมาในโทนสีดำของขอบจอ ซึ่งบางพิเศษ มีโลโก้ HP อยู่บริเวณของด้านล่าง โครงสร้างหลัก ยังคงเป็นโทนสีแบบเดียวกับบอดี้ เพื่อให้ดูสอดคล้อง หน้าจอเป็นแบบกระจก ซึ่งเพิ่มสีสันให้กับภาพได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็อาจเกิดแสงรบกวนจากภายนอกได้บ้าง แม้ว่าจะมีการเคลือบมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
บานฝาพับเป็นแบบชิ้นเดียว ยาวตลอดกึ่งกลางของโน๊ตบุ๊ค จึงมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ ประเด็นคือ ใครที่ชอบนิ้วเดียวเปิดฝา อาจจะต้องปรับตัวใหม่ เพราะฝาปิดแน่นจนต้องจับตัวโน๊ตบุ๊คไว้ แล้วใช้อีกมือเปิด Cover ขึ้นมา นับว่าเป็นข้อดี เพราะเวลาที่ตั้งบนโต๊ะ หน้าจอไม่สั่นไหวง่าย
หน้าจอของ ENVY 13 รุ่นนี้ จะต่างจาก ENVY 360 เพราะพับไม่ได้ และไม่ได้เป็นหน้าจอสัมผัส โดยมาในขนาด 13.3″ diagonal ความละเอียด FHD พาแนล IPS พร้อมเทคโนโลยี BrightView ขอบบางเฉียบ micro-edge จึงให้สัดส่วนพื้นที่หน้าจอกว้างขวางเลยทีเดียว
คีย์บอร์ดของ HP ENVY 13 รุ่นนี้ เป็นพลาสติกสีเงิน ตัดช่องสีขาวของตัวอักษร พร้อมปรับดีไซน์ใหม่ในแบบ Island Style เพื่อให้กดปุ่มได้แม่นยำและพิมพ์ง่ายขึ้น เท่าที่ลองใช้ ดูจะลงตัวกับทั้งคนที่นิ้วเล็กและนิ้วใหญ่ ให้สัมผัสและการตอบสนองได้ดีพอสมควร และระยะ Travel key ไม่ลึกเกินไป
HP Sure View ฟังก์ชั่นป้องกันการแอบมอง ด้วยการกดปุ่ม F1 ซึ่งโดยปกติจะมีอยู่ในโมเดลระดับท็อปเท่านั้น โดยฟีเจอร์ Privacy Screen จะเป็นคุณสมบัติในการ ลดมุมมองหน้าจอลง เพื่อป้องกันคนภายนอกมาแอบมองหน้าจอ ยิ่งใครที่มีข้อมูลส่วนตัว จำเป็นอย่างมากเมื่อใช้งานนอกสถานที่
แถบเมนูด้านบนขวาของโน๊ตบุ๊ค นอกจาก Play/ Pause, FW/RW ก็ยังเพิ่ม HP Commmand Center และเปิด-ปิดกล้องเว็บแคม ซึ่งเป็นรูปแบบของคีย์ลัด ที่จัดมาได้อย่างลงตัว สำหรับโน๊ตบุ๊คเล็กๆ เช่นนี้
กล้องเว็บแคม HP Wide Vision HD camera สำหรับการใช้งานในโอกาสต่างๆ
ทัชแพดขนาดย่อม วางค่อนไปทางขวามือ ซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างไปจากโน๊ตบุ๊คไซส์ 15.6″ ที่มักจะเลื่อนมาทางซ้ายมากกว่า ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะ ไม่ได้มี Numpad มาด้วย ก็ไม่จำเป็นต้องเว้นเผื่อไว้ เพื่อความสะดวก
จะสังเกตได้ว่า HP ยังคงใส่ใจในเรื่องของการระบายความร้อนในทุกๆ โมเดล สำหรับ ENVY 13 นี้ ยังคงใช้รูปแบบการเปิดฝา เป็นตัวดันโน๊ตบุ๊คให้ยกสูงจากพื้น เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับอากาศเวียนอยู่ด้านใต้ของเครื่อง
ในส่วนของพอร์ตต่อพ่วง จะสังเกตได้ว่า พอร์ตจะดูเล็ก แต่จริงๆ แล้ว ผู้ใช้สามารถปรับตัวพอร์ตให้กางออกได้ สำหรับติดตั้งพอร์ต USB ลงไป ทำให้มิติของโน๊ตบุ๊คบางลงได้เยอะ
มาถึงพอร์ตต่อพ่วงของโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้กันบ้าง พอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ มีมาให้มากพอสมควร ประกอบด้วย USB 3.1 Type-C® 10Gbps สำหรับ (USB Power Delivery, DisplayPort™ 1.2 ฟีเจอร์ HP Sleep and Charge) USB Type-A 5Gbps (ฟีเจอร์ HP Sleep and Charge) USB Type-A 5Gbps และ AC ชาร์จไฟ รวมถึง คอมโบ headphone/microphone
จุดสแกนลายนิ้วมือ หรือ Fingerprint scan จะย้ายมาอบู่ตรงด้านบนของคีย์บอร์ด แทนการวางตรงบริเวณที่วางมือด้านขวา ซึ่งอาจจะดูแปลกตาไปบ้าง แต่ก็ใช้งานได้สะดวกเช่นกัน
คีย์บอร์ดของ HP ENVY 13 รุ่นนี้ เป็นพลาสติกสีเงิน ตัดช่องสีขาวของตัวอักษร พร้อมปรับดีไซน์ใหม่ในแบบ Island Style เพื่อให้กดปุ่มได้แม่นยำและพิมพ์ง่ายขึ้น เท่าที่ลองใช้ ดูจะลงตัวกับทั้งคนที่นิ้วเล็กและนิ้วใหญ่ ให้สัมผัสและการตอบสนองได้ดีพอสมควร และระยะ Travel key ไม่ลึกเกินไป
บอดี้ด้านหลังจะเป็นจุดที่หนาที่สุด แต่ก็ยังบางกว่าโน๊ตบุ๊คในหลายๆ รุ่น เพื่อเสริมโครงสร้างให้แข็งแรง ในการรับน้ำหนักของตัวเครื่องและบานพับ นอกจากนี้เราจะเห็นแถบยางขนาดเล็ก ในการยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น และกันบอดี้เป็นรอยได้เช่นกัน ในจุดนี้ถ้าทำแถบให้กว้างออกมาอีกนิด ก็จะดีไม่น้อย
ด้านใต้ของเครื่อง เป็นจุดระบายความร้อน ด้วยช่องเล็กๆ เรียงตัวยาวตลอดทั้งบอดี้ เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ดูเรียบง่ายจะต่างจากโมเดลที่แล้วเล็กน้อย ในส่วนของลวดลายที่อาจจะหวือหวามากเกินไป
สติ๊กเกอร์โลโก้ Windows บอกถึงการมีระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home มาด้วย เป็นมาตรฐานที่มีในโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แถบด้านข้างเล็กๆ นี้ ที่มีอยู่ด้านใต้ของโน๊ตบุ๊คทั้ง 2 ด้าน เป็นช่องลำโพง โดยเสียงที่ได้จัดว่าทำได้ดีเกินคาด สำหรับโน๊ตบุ๊คเล็กๆ เช่นนี้ เรื่องของมิติอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เสียงกลาง และแหลมมาชัด สามารถให้ความบันเทิงในแง่ของการดูหนังสบายๆ แม้ไม่ได้ใส่หูฟัง ส่วนการเล่นเกมทั่วๆ ไป ก็สนุกได้ ไม่รู้สึกอื้ออึงเกินไป ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะลำโพงเอียงองศาออกทางด้านข้าง สะท้อนจากพื้นขึ้นมา ทำให้เสียงชัดมากขึ้น
ด้วยอแดปเตอร์ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย ก็ทำให้ตัวเครื่องยังเบากว่าโน๊ตบุ๊คในระดับเดียวกันอยู่เล็กน้อย เมื่อเทียบกันรุ่นต่อรุ่น (13.3″)
ผลการทดสอบ
มาดูการทดสอบกันบ้าง เริ่มต้นจากการเช็คสเปคพื้นฐานบน CPU-z โน๊ตบุ๊ค HP รุ่นนี้ มาพร้อมซีพียู Intel Core i5-10210U ความเร็ว 1.6GHz สามารถบูสท์ไปได้ถึง 4.2GHz ทำงานในแบบ 4 core/ 8 thread รองรับการทำงานทั่วไปได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็น งานเอกสาร แต่งภาพ ดูหนัง หรือจะเป็นการเล่นเกมง่ายๆ ทั่วไป มีแรม DDR4 มาให้ 8GB เพียงพอต่อการใช้งาน
กราฟิกการ์ด GeForce MX350 เป็นตัวช่วยที่ดีในด้านมัลติมีเดียบนโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ จัดว่าเป็นการ์ดจอแยกรุ่นเล็ก สำหรับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มทำงานและโน๊ตบุ๊คบางเบา รวมถึงค่า TDP ต่ำ ทำให้ไม่ก่อให้เกิดความร้อนมากนัก อีกทั้งประสิทธิภาพยังเพียงพอต่อการใช้งานในทุกๆ วันได้สบาย รวมถึงการเล่นเกมง่ายๆ ในแบบที่ไม่ใช้ทรัพยากรมากเกินไป เช่น DOTA2 หรือจะเป็น Free Fire และ PUBG Lite เป็นต้น
การทดสอบแบบง่ายๆ บน CPU-Z เมื่อเทียบกับซีพียูเดสก์ทอป Intel Core i7-7700K จะเห็นได้ว่า มีความต่างอยู่ไม่มาก ในแง่ของการทำงานแบบมัลติเธรด แต่ค่า TDP ต่ำกว่าอีกด้วย
ด่านการทดสอบถัดมา เป็นการทดสอบ SSD ด้วย CrystalDiskMark ความเร็วในการทำงานนั้นถือว่าจัดจ้านทีเดียว ด้วยความเร็วที่สูงถึง 3,5xxMB/s (Read) และ 2,9xxMB/s (Write) ซึ่งจัดว่าเป็น SSD PCIe ที่มีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดี หากเทียบกับ SSD PCIe 3.0 ในท้องตลาด
ถัดมาเป็นการทดสอบ CINEBench ที่เป็นการเรนเดอร์กราฟิก ด้วยการทดสอบหน่วยประมวลผลอย่างหนักหน่วง คะแนนออกมาที่ 1137 ซึ่งเป็นรองซีพียูพีซีในตระกูล Core i7 ที่เป็นแบบ 4 core/ 8 thread อยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ใช้ไฟต่ำกว่า รวมถึงใช้พลังงานน้อยกว่าอีกด้วย
มาดูในการเล่นเกมกันบ้าง แม้ว่าจะไม่ได้วางตัวมา สำหรับการเล่นเกมอย่างชัดเจน แต่ด้วยกราฟิกแยก GeForce MX350 นี้ ก็แสดงศักยภาพได้น่าประทับใจ ในการเล่นเกม DOTA2 ด้วยการตั้งค่า High หรือเปิดสุด เฟรมเรตสามารถไปได้ถึง 40fps และลดลงมาอยู่ราวๆ 25fps เมื่อเจอเอฟเฟกต์หนักๆ แต่ถ้าปรับในโหมด Medium ก็ทำเฟรมเรตได้มากกว่า 60fps ทำให้เล่นได้ลื่นสบายตามากขึ้น
สำหรับคนที่ใช้งานซอฟต์แวร์ออฟฟิศ ถ้ากังวลว่าหน้าจอจะเล็กไปหรือไม่ การจำลองใช้งานหน้าเอกสาร MS Word นี้ ด้วยการ Split หน้าจอแบบ 2 เอกสาร ก็ยังเห็นตัวอักษรและภาพได้ชัดเจน และพื้นที่ก็ไม่ได้ดูแคบ จนใช้งานไม่สะดวก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับ Scale และฟอนต์ในการใช้งานด้วย
ส่วนการจัดการทรัพยากรแรม กับแรมขนาด 8GB ที่ติดตั้งมาให้นี้ จัดว่าเพียงพอต่อการใช้งาน เราลองเปิดแท็ปจำนวนมากบน Google Chrome ที่เป็นเว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยม จำนวน 15 แท็ป และบางส่วนจะเป็นหน้าที่มีเอฟเฟกต์ รวมถึงการเล่นวีดีโอยูทูปไปด้วย เมื่อรวมกับบรรดาโปรแกรมพื้นฐาน และที่รันอยู่เบื้องหลัง ก็ยังใช้งาน memory ไปแค่ 81% เท่านั้น เรียกว่ายังพอมีเรี่ยวแรงให้ขยับขยายไปทำอย่างอื่นได้
และอีกจุดสำคัญ ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ การทดสอบระยะเวลาการทำงานของแบตเตอรี่ HP ENVY 13 ให้แบตมาที่ระบุว่าเป็น 52070 mWh ชาร์จเต็มที่ (4008 mAh) ซึ่งจากระยะเวลาในการทำงานนั้น จะอยู่ที่ราว 10.20 ชั่วโมง สำหรับการทดสอบด้วยการเปิดวีดีโอ Youtube ด้วยระดับ Volume 30% และความสว่างหน้าจอที่ 30% เช่นเดียวกัน ทั้งหมดอยู่ในโหมด Battery Saver นับว่าเป็นตัวเลขที่ดี สำหรับโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมซีพียูระดับ 4 core/ 8 thread และมีกราฟิกแยกมาด้วย
ในแง่ของความร้อน เช็คด้วยซอฟต์แวร์ทดสอบยอดนิยมอย่าง OCCT ที่สร้างโหลดระดับ 100% ให้กับโน๊ตบุ๊ค จำลองให้เหมือนว่า ทำงานอย่างเต็มกำลัง เรียกว่าทรมานในทุกๆ คอร์ ซึ่งตัวเลขที่ได้นั้นพีคสุดจะอยู่ที่ประมาณ 83 องศาเซลเซียส และคงที่อยู่ที่ประมาณ 62 องศาเซลเซียส เท่านั้น นับว่า HP ENVY 13 รุ่นนี้ ทำการบ้าน สำหรับการระบายความร้อน ได้ค่อนข้างดีทีเดียว และยังมีเสียงรบกวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
Conclusion
ไม่ใช่แค่ครั้งแรกหรือโมเดลแรกๆ ที่ทาง HP พยายามใส่ความเป็นเอกลักษณ์เข้ามา ให้กับผู้ใช้โน๊ตบุ๊คในตระกูล ENVY เช่นเดียวกับ HP ENVY 13 รุ่นนี้ ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมาจนถึงรุ่นล่าสุด กับการออกแบบที่มีความเป็นกันเองกับผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ หรือฟังก์ชั่นการใช้งาน หรือแม้กระทั่งวัสดุ รวมถึงเทคโนโลยีที่จัดเต็มมาในโน๊ตบุ๊คไซส์เล็กๆ เช่นนี้ เอาใจคนที่ชอบความบางเบา พกพาง่าย เดินทางสะดวก เพราะถ้าใช้งานเปิดๆ ปิดๆ และตั้งโหมดการใช้งานให้ประหยัดพลังงานด้วยแล้ว ก็น่าจะเกินระดับ 9-10 ชั่วโมง ที่สำคัญน้ำหนักเบา รวมอแดปเตอร์แล้ว ก็ยังเบากว่า 1.5Kg หน้าจอกว้างขวาง แม้ว่าจะมีแสงสะท้อนอยู่บ้าง ตามสไตล์ของจอกระจก แต่การเคลือบมาเป็นอย่างดี ก็ช่วยลดไปได้พอสมควร แต่สิ่งที่น่าจะถูกใจคอบันเทิงก็คือ ระบบเสียงที่ให้มาจัดจ้านเกินตัว การวางมุมลำโพงมาได้ดี จึงให้เสียงที่สะใจ ซึ่งถ้าดูที่ราคา ซึ่งเคาะออกมา 3 หมื่นต้นๆ แต่หากมองที่สเปคแล้ว ซีพียู Intel Core i5-10210U และมีแรม 8GB ให้กราฟิกแยกตัวท็อปของ MX series มาด้วย ราคานี้ถือว่าน่าจะลงตัวกับความสามารถที่ไม่ธรรมดาเลย
แม้ว่าจะมีขนาดที่บางกระทัดรัด แต่ HP กลับมองถึงความสำคัญในการรีดความร้อนออกจากเครื่องได้ไว ด้วยพัดลมที่ช่วยระบายความร้อน ซึ่งสอดคล้องกับทางลมได้ดี ขออย่างเดียวคือ อย่าใช้งานในพื้นที่ที่ปิดกั้นทางลมบริเวณด้านใต้ เช่น วางบนผ้า ที่นอน หรือพื้นที่อื่นใด แค่วางบนโต๊ะหรือจุดใด ที่มีช่องว่างด้านใต้โน๊ตบุ๊คให้ระบายลมได้ดี และมีช่องทางลมร้อนออกได้ไว เท่านี้ก็ใช้งานได้สบายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในบ้านหรือนอกสถานที่ก็ตาม ส่วนอุณหภูมิตามที่ทดสอบ HP ENVY 13 แม้โหลดเต็มที่บนโปรแกรม แต่ก็นิ่งๆ อยู่ที่ประมาณ 60 องศาเซลเซียสเท่านั้น
HP ENVY 13 ได้การรับประกันจาก HP On-site Service รับซ่อมให้ถึงบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend (Plus) 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง, พร้อมเช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และบริการ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมง
จุดเด่น
- บอดี้บาง น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- หน้าจอสว่างสดใส มองเห็นชัด
- ใช้พลังงานจากแบตได้ 10 ชั่วโมง
- ปุ่มคีย์บอร์ดขนาดใหญ่ สัมผัสได้แม่นขึ้น
- มีไฟ Backlit ปรับได้ 3 ระดับบนคีย์บอร์ด
- ระบายความร้อนได้ดี เสียงรบกวนน้อย
- อแดปเตอร์เล็ก พกพาได้ง่าย
- รับประกันแบบ On-site service
ข้อสังเกต
- หน้าจอกางได้ในประมาณ 120 องศา
- ต่อพอร์ต USB ค่อนข้างยากเล็กน้อย
- ไฟคีย์บอร์ดต้องปรับระดับสูงสุด เพื่อความชัดเจนในที่แสงน้อย
ราคา: ประมาณ 32,900 บาท
การออกแบบ ถือเป็นส่วนที่มีความสำคัญของโน๊ตบุ๊ค ENVY 13 รุ่นนี้ เพราะเรียกว่า โน๊ตบุ๊คสื่อได้ถึงบุคลิกของผู้ใช้ได้ชัดเจน ในส่วนของความสวยงาม และขนาดที่ลงตัว บางเบา พกพาง่าย แม้ไม่ได้เน้นเรื่องของเส้นสายหรือความโค้งเว้าให้ดูหวือหวา แต่กลับสร้างความเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างชัดเจน ว่ากันตั้งแต่เรื่องของสีสันบอดี้ และวัสดุ รวมไปถึงมุมการปรับหน้าจอ และความลาดเอียง ที่ดูแล้วสื่อถึงความีไลฟ์สไตล์ได้อย่างชัดเจน
แม้จะมาพร้อมความเรียบหรูดูดี แต่เรื่องบอดี้ที่บาง และน้ำหนักที่เบา ถึงแม้จะรวมอแดปเตอร์แล้ว ก็ยังทำให้คุณพกพาใส่กระเป๋าเป้ หรือกระเป๋าสะพายได้แบบไม่อึดอัด และดูไม่เป็นภาระ แม้จะต้องเดินทางไกลออกไป ยิ่งเรื่องของการจับถือ มือเดียวก็เอาอยู่ แม้เล็ก แต่ก็พิมพ์ได้ถนัด ปุ่มมีไฟ LED มองเห็นชัด และเรื่องการระบายความร้อนยังทำได้ดี เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ที่คุณใช้ได้ยาวนาน ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง
ด้วยความที่เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบา และจัดลูกเล่นที่เป็นคุณสมบัติเด่นๆ ให้กับผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของฟังก์ชั่นความปลอดภัย ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่ปรับให้ใช้ง่ายขึ้น ด้วยการแทรกมาในชุดคีย์บอร์ด และฟังก์ชั่นการปิดกล้องเว็บแคม ที่เลือกผ่าน Hotkey รวมไปถึงการป้องกันการแอบมองหน้าจอ HP Sure View ซึ่งนับว่าหาได้ยากในโน๊ตบุ๊คระดับเดียวกัน และที่ขาดไม่ได้คือ ระบบเสียงที่จัดจ้าน รองรับทั้งการดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมอีกด้วย พร้อมการระบายความร้อนที่ดี จึงถือว่าคว้าคะแนนในส่วนของ Best Ultrabook ได้ไม่ยาก
