โดดเด่นด้วยระบบประมวลผลภาพอันทรงพลังอย่าง BIONZ XR™ ที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นใหม่และให้พลังการประมวลผลเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 8 เท่า พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพตัวใหม่แบบ Full Frame Black-illuminated Exmor R™ CMOS ด้วยความละเอียดภาพ 12.1 ล้านพิกเซล รวมถึงลด Rolling Shutter ลง เพื่อให้ภาพสวยเมื่อถ่ายภาพในที่แสงน้อย
- ความไวแสงสูงพิเศษกับช่วง ISO ที่ขยายได้จาก 40 – 409,600
- รองรับการบันทึกวีดีโอที่มีความละเอียดของภาพระดับ 4K/120p, ความลึกของสี 10bit 4:2:2 การบันทึกแบบ All-Intra มาพร้อม Codec XAVC-HS และตัวแปลงสัญญาณ H.265
- ช่วงไดนามิกกว้างถึง 15+ สต็อป สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์
- ครั้งแรกในตระกูล Alpha™ กับการบันทึกวีดีโอ 4K 60p ที่ 16-bit RAW Video ถ่ายทอดผ่านสาย HDMI
- ระบบ Fast Hybrid Autofocus ครอบคลุมพื้นที่ 92% ของเซ็นเซอร์รับภาพ โดยมีจุดโฟกัส Phase Detection จำนวน 759 จุด
- Eye-AF แบบเรียลไทม์ที่ได้รับการปรับปรุง สำหรับการบันทึกภาพนิ่งและการบันทึกภาพยนตร์
- กลไกการกระจายความร้อนแบบใหม่ สามารถบันทึกวีดีโอด้วยความละเอียดของภาพระดับ 4K/60p, ที่ 10bit 4:2:2 ได้ต่อเนื่องกว่าหนึ่งชั่วโมง
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล 5 แกนในตัว พร้อมด้วยโหมด Active ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อรองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวด้วยมือให้ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED ความละเอียดสูงสุดในโลกอยู่ที่ 9.44 ล้านจุด และขนาดใหญ่ถึง 0.64 type
- จอแสดงผล LCD ขนาด 3 นิ้ว พร้อมระบบสัมผัส สามารถเปิดจากด้านข้างและพับหมุนเอียงได้รอบทิศทาง
- ระบบเมนูที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมจอแสดงผลและรองรับการสั่งงานด้วยระบบสัมผัส
- ถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องความเร็วสูงสุด 10fps สำหรับภาพไฟล์ RAW ที่ไม่มีการบีบอัดติดต่อกันมากกว่า 1000 ภาพ รองรับการใช้งานในระบบโฟกัส(AF) และระบบวัดแสง(AE) อย่างเต็มรูปแบบ
- ช่องเสียบการ์ดแบบ Dual CFexpress Type A สามารถรองรับการ์ดได้ทั้ง 2 รูปแบบ เพื่อให้กล้องทำงานได้เร็วขึ้น ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด
(กรุงเทพฯ / 14 ส.ค. 2563) บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดตัวกล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลสรุ่น Alpha 7S III (อ่านว่า อัลฟ่าเซเว่นเอส มาร์ค ทรี) ซึ่งถือเป็นกล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลสรุ่นที่ 3 จากตระกูล A7S Series ที่ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพขึ้นไปอีกขั้น โดย Alpha 7S III โดดเด่นด้วยเซ็นเซอร์รับภาพตัวใหม่แบบ Full Frame Black-illuminated Exmor R™ CMOS ที่มีความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล รวมถึงชิปประมวลผลภาพอันทรงพลังอย่าง BIONZ XR™ ที่ได้รับการปรับปรุงให้สามารถประมวลผลเร็วขึ้นถึง 8 เท่า และให้ Dynamic Range กว้างถึง 15 สต็อป รวมถึงระบบระบายความร้อนแบบใหม่ ทำให้สามารถใช้ในงานบันทึกวีดีโอได้ต่อเนื่องด้วยความละเอียดของภาพระดับ 4K/120p, 10bit 4:2:2 ได้เกินหนึ่งชั่วโมงหรือจนกว่าแบตเตอรี่จะหมด ขณะเดียวกันยังมาพร้อมช่องใส่การ์ดแบบ Dual CFexpress Type-A ที่สามารถใส่การ์ดได้ทั้ง 2 รูปแบบ โดยจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่จะให้การประมวลผลข้อมูลความเร็วสูง อีกทั้งยังมาพร้อมระบบเมนูรูปแบบใหม่ที่จะสามารถรองรับการสัมผัสได้เต็มรูปแบบผสานกับจอแสดงผล LCD ที่สามารถเปิดจากด้านข้างและสามารถพับหมุนได้รอบทิศทาง เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพได้อย่างลงตัว ทำให้ Alpha 7S III เป็นกล้องถ่ายวีดีโอที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
สำหรับกล้อง Alpha 7S III ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยต่อยอดมาจากรุ่นเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพของการถ่ายวีดีโอ และภาพนิ่งที่ยอดเยี่ยม เซ็นเซอร์ภาพ Exmor R™ CMOS แบบฟูลเฟรม 35 มม. แบบใหม่จะช่วยลด Rolling Shutter ลงได้ถึงสามเท่า รวมถึงยังใช้เทคนิคขั้นสูงที่หลากหลายเพื่อให้แน่ใจว่ามีความไวแสงสูง ด้วยสัญญาณรบกวนต่ำทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีแสงน้อยโดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าแสงขนาดใหญ่ นอกจากจะได้คุณภาพของภาพที่ดีขึ้นแล้ว เซ็นเซอร์ภาพระบบใหม่นี้ยังมีระบบ AF ที่ตรวจจับระยะห่างของระนาบโฟกัส ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในกล้อง ในตระกูล “S Series”
ยิ่งไปกว่านั้นกล้อง Alpha 7S III ยังมาพร้อมชิปประมวลผลภาพอันทรงพลังอย่าง BIONZ XR™ ที่ให้พลังในการประมวลผลถึง 8 เท่า และยังมีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์แบบ OLED ความละเอียดสูงสุดในโลกอยู่ที่ 9.44 ล้านจุด และขนาดใหญ่ถึง 0.64 type รวมถึงช่องเสียบการ์ดแบบ Dual CFexpress Type-A สามารถรองรับการ์ดได้ทั้ง 2 รูปแบบ เพื่อให้กล้องทำงานได้เร็วขึ้นและขนาดเล็กกะทัดรัด
โซลูชั่นเวิร์กโฟลว์วีดีโอระดับมืออาชีพ
ความสามารถของกล้อง Alpha 7S III รองรับการบันทึกวีดีโอที่มีความละเอียดของภาพระดับ 4K ที่120 เฟรมต่อวินาที ระบบบันทึกสีแบบ 10bit 4:2:2 All-Intra ให้คุณสามารถทำงานด้านวีดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยโหมดการบันทึกภาพยนตร์ขั้นสูงที่หลากหลาย อาทิ การเข้ารหัสแบบ All-Intra โดยมีการรองรับรูปแบบ การบันทึก MPEG-H HEVC/H.265 (XAVC HS™) และ HLG (Hybrid Log-Gamma) มอบประสิทธิภาพ ในการบีบอัด เพื่อให้คุณภาพของภาพที่เหนือกว่าและขนาดไฟล์ที่เล็กกว่า ทั้งยังรองรับการทำงานไฟล์ S-Gamut, S-Gamut3 และ S-Gamut. Cine ระบบเดียวกับกล้องบันทึกวีดีโอระดับมืออาชีพ เพื่อช่วยให้งานวีดีโอออกมาสวยและมีคุณภาพสูง เท่านั้นยังไม่พอยังสามารถ Output ได้ที่ 4K/60p แบบ 16-bit RAW Video ผ่านการเชื่อมต่อ HDMI บนอุปกรณ์ที่รองรับได้อีกด้วย
การปรับปรุงคุณภาพของภาพ
ด้วยการทำงานของเซ็นเซอร์รับภาพตัวใหม่แบบ Full Frame Black-illuminated Exmor R™ CMOS และชิปประมวลผลภาพแบบใหม่อันทรงพลังอย่าง BIONZ XR™ ที่อยู่ในกล้อง Alpha 7S lll ทำให้คุณภาพของภาพได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยค่า ISO จากเดิมอยู่ที่ 80-102,400 สามารถขยายได้ถึง 80 – 409,600 สำหรับการถ่ายวีดีโอ และ 40-409,600 สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง เพื่อให้ ISO มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผสานกับช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นมาพร้อมสัญญาณรบกวนต่ำในทุกการตั้งค่า ส่งผลให้คุณภาพของภาพดีขึ้น โดยลดสัญญาณรบกวนลง 1 สต็อป ในช่วงกลางและความไวแสงสูง
การใช้งานที่หลากหลาย
- ประสิทธิภาพของระบบโฟกัสอัตโนมัติขั้นสูงสำหรับการใช้งานแบบไฮบริด
เป็นครั้งแรกในกล้อง Alpha 7S Series ที่มาพร้อมระบบ Fast Hybrid Autofocus โดยการรวม AF ตรวจจับระยะห่างและ AF ตรวจจับคอนทราสเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถติดตามวัตถุในพื้นที่กว้างด้วยวามเร็วและแม่นยำ เมื่อใช้ในระยะชัดลึกที่แคบ การแสดงออกของโฟกัสที่ละเอียดสามารถทำได้เมื่อคู่กับเลนส์ E-Mount ของ Sony สำหรับสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวมากจะมีการติดตามแบบเรียลไทม์และ Eye AF แบบเรียลไทม์ เพื่อรักษาโฟกัสให้คงที่ในวัตถุที่ต้องการ Eye AF แบบเรียลไทม์ขั้นสูงของ Sony ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับได้ 30% จากระบบก่อนหน้า ด้วยระบบประมวลผลภาพใหม่ ช่วยให้มั่นใจในการตรวจจับที่แม่นยำและเชื่อถือได้แม้ว่าใบหน้าของวัตถุจะมองไปทางอื่น การติดตามแบบเรียลไทม์เริ่มต้นได้ง่ายๆ โดยการสัมผัสวัตถุบนหน้าจอ Eye AF แบบเรียลไทม์ จะเริ่มโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบดวงตา
- การตั้งค่าระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ยืดหยุ่นสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหว
ด้วยคุณสมบัติของระบบ AF หลายอย่างสำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพ รวมถึง AF Transition Speed ในการตั้งค่า เพื่อสร้างการเปลี่ยนแร็คโฟกัสได้อย่างดายและการตั้งค่า AF Subject Shift Sensitivity ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งค่า AF เริ่มต้นการติดตามแบบเรียลไทม์ แต่ยังเขียนและถ่ายภาพในขณะที่ใช้ Gimbal หรือขณะถ่ายภาพเดี่ยว ตอนนี้มันเป็นไปได้ที่จะเน้นการสัมผัสระหว่างโหมดแมนนวลโฟกัสบนหน้าจอ LCD หรือสามารถให้ฟังก์ชั่นควบคุมการถ่ายภาพระยะไกลผ่านแอพพลิเคชั่น Imaging Edge Mobile ที่ติดตั้งอยู่บนอุปกรณ์มือถือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบระบายความร้อนแบบใหม่
กล้อง Alpha 7S III ได้รับการปรับปรุงในเรื่องของระบบการบายความร้อนแบบใหม่ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถลดวามร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แม้ในขณะที่บันทึกวีดีโอด้วยความละเอียดของภาพระดับ 4K/60p ที่ 10bit 4:2:2 ได้ต่อเนื่องนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ด้วยระบบระบายความร้อนรูปแบบใหม่จะช่วยให้เซ็นเซอร์ภาพ และอุณหภูมิของตัวกล้องระหว่างประมวลผลสามารถทำงานได้ตามปกติจึงลดการเกิดปัญหากล้องตัดการทำงานในระหว่างการบันทึกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้ตัวกล้องมีความร้อนสูงเกินไป และยังป้องกันฝุ่น และไอน้ำไปโดยปริยายอีกด้วย
- ฟังก์ชั่น Movie Assist
กล้อง Alpha 7S III มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวภายในตัวกล้องแบบ 5 แกน เพื่อรองรับการถ่ายภาพยนตร์ในขณะที่กล้องอยู่ในมือได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นกล้อง E-Mount ในตระกูล Alpha™ ตัวแรกที่หน้าจอด้านหลังสามารถเปิดจากด้านข้างและพับปรับองศาได้รอบทิศทาง จอแสดงผล LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล ทำให้สามารถมองเห็นแม้ในสภาพแวดล้อมที่สว่างแจ้ง
นอกจากนี้กล้อง Alpha 7S III ยังเพิ่มระบบอินเตอร์เฟซออดิโอแบบดิจิตอลใน Multi Interface(MI) เพื่อการบันทึกเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อใช้กับไมโครโฟนภายนอก และชุดอแดปเตอร์ XLR-K3M ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม รวมถึงให้ความสามารถในการบันทึกเสียงดิจิตอล 4-Channel 24bit โดยไม่ต้องใช้สายเคเบิลหรือแบตเตอรี่ ให้มีอิสระในการสร้างภาพยนตร์ด้วยระบบ Alpha
การถ่ายภาพนิ่งที่โดดเด่น
กล้อง Alpha 7S III ยังโดดเด่นด้วยขุมพลังของระบบ Fast Hybrid Autofocus และ Phase Detection จำนวน 759 จุด ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 92% ของเซ็นเซอร์ภาพ รวมถึงการทำงานของระบบออโต้โฟกัส สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ และสามารถใช้ออโต้โฟกัสได้ในสภาพแสงสลัวเทียบเท่า EV-6 ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นวัตถุหากมองด้วยตาเปล่า
ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถบันทึกภาพไฟล์ RAW ได้ต่อเนื่อง 1000 เฟรม โดยสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยชัตเตอร์แบบกลไกได้เร็วขึ้น 10fps ในโหมด Live View กล้อง Alpha 7S III ยังมาพร้อมช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์แบบ Quad-XGA ขนาด 0.64 นิ้ว พร้อมด้วยจอแสดงผล OLED ความละเอียดสูง โดยมีอัตราขยายอยู่ที่ 0.90x ให้มุมมองภาพในแนวทแยง 41 องศา และจุดสายตา (Eyepoint) สูงถึง 25 มม. เพื่อการรับชมภาพที่ชัดเจน และความผิดเพี้ยนต่ำ นอกจากนี้ยังสามารถทนต่อฝุ่นละอองและความชื้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
นอกจากนี้ยังรองรับไฟล์ภาพแบบ HEIF เพื่อคุณภาพของภาพที่ดีกว่าและประสิทธิภาพการบีบอัดที่ยอดเยี่ยมกว่าไฟล์ JPEG และยังมาพร้อมสี 10 bit ทั้งยังสามารถถ่ายภาพนิ่ง High Dynamic Range ในโหมด HLG บนทีวี หรือสามารถเชื่อมต่อผ่าน HDMI จากกล้อง Alpha 7S III ได้โดยตรงอีกด้วย
การออกแบบเพื่อประโยชน์ที่หลากหลาย
- ถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงด้วย CFexpress Type A
กล้อง Alpha 7S III มาพร้อมช่องใส่การ์ดแบบ CF-Express Type-A สามารถรองรับการ์ดได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ UHS-I และ UHS-II SDHC / SDHC ทำให้มีความเร็วในการเขียนและอ่านสูง ในขณะที่ ตัวกล้องมีขนาดกะทัดรัด การ์ด CF-Express Type-A จะมีขนาดเล็ก แต่จะให้การประมวลผลข้อมูลความเร็วกว่า SD Card UHS-II ทั่วไป จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพนิ่งที่เป็นไฟล์ RAW ได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถใช้สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ในระดับ 4K 120p รวมถึงสามารถ ถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงไปยังเครื่อง PC ได้เร็วกว่าการ์ดธรรมดาถึง 1.7 เท่าเลยทีเดียว
- ระบบเมนูรูปแบบใหม่พร้อมหน้าจอสัมผัส
ด้วยระบบโครงสร้างเมนูรูปแบบใหม่ในกล้อง Alpha 7S III สามารถรองรับการสัมผัสได้เต็มรูปแบบ เพื่อการควบคุมที่รวดเร็วและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น โดยสำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายทั้งภาพนิ่งและบันทึกวีดีโอ สามารถทำการแยกการตั้งค่าการใช้งานทั้งสองรูปแบบคู่ได้ เพื่อความรวดเร็วในการเปลี่ยนระหว่างการใช้งานอีกด้วย
- สร้างความน่าเชื่อถืออย่างสูงให้กับผู้ใช้งาน
กล้อง Alpha 7S III ได้รับการออกแบบมาให้มีด้ามจับ และทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานในระดับ มืออาชีพ เพื่อเพิ่มสะดวกสบายในขณะใช้งาน อีกทั้งยังได้รับการปรับปรุงให้มีคุณสมบัติในการป้องกันฝุ่น และความชื้นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นกล้องรุ่นแรกในตระกูล Alpha Series ที่รองรับ USB PD (Power Delivery) ทำให้การชาร์จไฟในขณะกำลังโอนถ่ายข้อมูลเป็นไปได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
- การเชื่อมต่อขั้นสูงสำหรับการทำงานระดับมืออาชีพ
กล้อง Alpha 7S III เป็นกล้องที่เหมาะสำหรับนักข่าวที่ต้องการถ่ายภาพนิ่ง และวีดีโอ ที่ต้องการความรวดเร็วในการส่งภาพข่าว และวีดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยตัวกล้องที่รองรับ 5GHz[i]/2.4GHz wireless LAN (IEEE 802.11ac) และเทคโนโลยี MIMO (multiple-input and multiple-output) เพื่อปรับปรุงคุณภาพการรับ-ส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับ A7R lV เท่านั้นยังไม่พอยังรองรับ USB tethering รูปแบบใหม่ที่จะช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ 5G ได้เป็นอย่างดี อาทิ การรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Xperia 1 ll ของโซนี่ ผ่านสาย USB บนเครือข่าย 5G เพื่อใช้ในการโอนไฟล์ FTP ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ การเชื่อมต่อ LAN ผ่านสาย USB ยังสามารถโอนถ่ายไฟล์ FTP ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอได้อย่างเสถียร และรวดเร็ว อีกด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมสาย USB Type-C™ ที่รองรับการถ่ายโอนข้อมูลด้วยเทคโนโลยี SuperSpeed USB 5Gbps (USB 3.2) ที่จะสามารถโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูงสุดหรือระยะไกลได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับใช้จัดการไฟล์ภาพที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างราบรื่น และไม่สะดุด
Pre-booking
โซนี่ไทยเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่สนใจกล้อง สามารถสั่งจองกล้อง Alpha A7S III ได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม ถึง 6 กันยายน 2563 ที่โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา และที่ร้านตัวแทนจำหน่ายที่เลือกสรร โดยจะได้รับของสมนาคุณพิเศษคือ Memory Card แบบ CFexpress Type A ความจุ 80GB มูลค่า 8,990 บาท พร้อมรับส่วนลด 30% เมื่อแลกซื้อแบตเตอรี่ รุ่น NP-FZ100 ได้สูงสุด 3 ก้อน (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) และรับส่วนลด 3,000 บาท (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) เมื่อซื้อเลนส์ G Master รุ่น SEL1635GM, SEL2470GM, SEL70200GM, SEL85F14GM, SEL24F14GM ลูกค้าที่สั่งจองกล้อง A7 S III จะสามารถรับกล้องได้ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป
กล้อง Alpha 7S III จะริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม ศกนี้ ในราคา 121,990 บาท (เฉพาะบอดี้) พร้อมรับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th และทดลองสัมผัสประสบการณ์ถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยีสุดล้ได้ที่โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา ร้านโซนี่ เซ็นเตอร์ และร้านผู้แทนจำหน่ายกล้องชั้นนำที่เลือกสรร
