Acer Brochure ฉบับล่าสุด ประจำสิงหาคม / กันยายน 2020 ที่รวบรวม Acer Notebook รุ่นใหม่ๆ เน้นสเปกที่ได้ Intel Core i Gen 10 / AMD Ryzen 4000 Series ทั้งในของ U Series / H Series รุ่นใหม่ๆ อาทิ Aspire 5 / Swift 3 / Swift 5 / Spin 5 / Nitro 5 / Predator รุ่นต่างๆ ใครสนใจที่จะซื้อ Notebook / PC หรืออุปกรณ์อื่นๆ ของ Acer หลากหลายประเภทที่มาใหม่ ใครที่สนใจก็ห้ามพลาดติดตามกัน มีสินค้าทั้งคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ต อุปกรณ์เสริมต่างๆ มาให้เลือกซื้อมากมาย ทาง Acer เองก็มีโปรโมชันสินค้าเด็ดๆ มาให้ซื้อหาด้วยเช่นกัน
โดยรุ่นที่น่าสนใจมีทั้งตัวคุ้มค่าบางเบาสุดๆ อย่าง Swift 3 รุ่นใหม่ๆ ที่มีราคาคุ้มค่า เหมาะแก่การใช้งานเบาๆ ได้สเปกเป็น AMD Ryzen 4000U หรือถ้าเบายิ่งกว่านั้นก็จะเป็น Swift 5 ซึ่งครบครันด้วยสเปก Intel Core i Gen 10 และการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 + Thunderbolt 3 รวมไปถึง Aspire 5 ที่เน้นหน้าจอใหญ่ 15.6″ เน้นคุ้มค่า หรือถ้าใครอยากได้ 2-in-1 Notebook หน้าจอ 13.5″ แบบปรับจอได้ 360 องศา ก็ลองดูเป็น Spin 5 กันดูได้
ส่วนถ้าใครไปสาย Gaming เลยก็แนะนำเป็น Nitro 5 รุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมสเปก Core i Gen 10H หรือ Ryzen 4000H ที่เล่นเกมได้ลื่นไหนแน่นอนกับราคาที่คุ้มสุด แต่ถ้าอยากได้ Gaming Notebook ที่เหนือชั้นกว่านั้น สามารถดูเป็น Predator Helios / Triton ได้เช่นกัน สเปกเป็น Core i Gen 10H ที่สำคัญ Notebook หลายๆ รุ่นของ Acer ยังมาพร้อมกับประกัน 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน โดยทุกรุ่นมีบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย กรณีที่ส่งศูนย์บริการด้วยตนเอง
เอาเป็นว่าลองไปชมว่ามีรุ่นไหนที่เราจะแนะนำบ้าง พร้อมกับโบรชัวร์โปรโมชั่นกันเต็มๆ จากทาง Acer ว่ามีอะไรน่าสนใจราคาเท่าไหร่กันเลย ได้ ที่นี่
ดูหน้าสเปกราคาของโน๊ตบุ๊ค Acer ทั้งหมด ได้ ที่นี่ *** ราคาขายจริงหลายรุ่นถูกกว่าในโบรชัวร์นี้
Acer Aspire 5 (Ryzen) ราคา 19,990 – 22,990 บาท
Acer Aspire 5 A515-44G โน๊ตบุ๊คดีไซน์เด่น เน้นความคุ้มค่า ขนาดหน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล TN สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U ที่ล้ำหน้า จากเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร สถาปัตกรรมเรนัวร์ (Renoir) เน้นประหยัดพลังงานแต่ยังให้ความแรง ซึ่งเดิม AMD ก็ทำตลาดในกลุ่มนี้ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยราคาที่ไม่แพง แต่ประสิทธิภาพดี ได้ความแรงที่เหนือชั้นกว่าเดิมมากด้วยเมื่อเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นเดิมๆ ที่เป็น H Series
Acer Aspire 5 A515-44G มีสเปกให้เลือกอยู่ 3 รุ่นหลักๆ มีชิปประมวลผล Ryzen 5 45000U / Ryzen 7 4700U พร้อมมีรุ่นการ์ดจอแยกรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon RX640 (4GB GDDR5) ส่งผลให้รองรับงาน 3 มิติ หรือเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหล ได้แรมขนาด 8GB DDR4 Bus 3200 MHz พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 256GB / 512GB รองรับการใช้งานพื้นฐานเป็นหลัก อย่างโปรแกรมเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง ซึ่งจะอัพเกรดแรมหรือ HDD 2.5″ ก็ทำได้ง่ายๆ สนนราคาเริ่มต้นที่ 16,990 – 22,990 บาท
โดยมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.1 Type-C, USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด ซึ่งแบตเตอรี่สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 15 ชั่วโมงกว่าๆ แบบต่อเนื่อง ประกันเป็น 2 ปี พร้อมส่งศูนย์ซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมง ตามมาตรฐานของ Acer กับช่วงราคาโน๊ตบุ๊คนี้
ในเรื่องของการดีไซน์มีปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมสีสันให้เลือกคือสีเงินและสีดำ ตามยุคสมัยของโน๊ตบุ๊คปี 2020 ที่เน้นมิติตัวเครื่องที่เล็กกระชับ ด้วยขอบหน้าจอที่บางลง พร้อมตัวเครื่องมีความบางที่ 17.95 มิลลิเมตร ที่ความเบาเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น โดยใช้วัสดุประกอบหลักเป็นพลาสติกและโลหะซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง และบางดูเผินๆ ก็แอบคล้าย Acer Swift 3 / Swift 5 เหมือนกัน ต่างกันแค่ลดความเป็น Ultrabook ลงให้ดูเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานมากกว่า ซึ่งส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วเรียบง่าย ไม่หวือวา ไม่สะดุดตานัก
- Ryzen 5 45000U / Radeon 6 / RAM 8GB / SSD 256GB / จอ 15.6″ TN ราคา 16,990 บาท
- Ryzen 5 45000U / Radeon RX640 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ TN ราคา 19,990 บาท
- Ryzen 7 47000U / Radeon RX640 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ TN ราคา 22,990 บาท
Acer Nitro 5 (Core i/Ryzen)ราคา 26,990 – 39,990 บาท
สมการรอคอยของใครหลายๆ คน ที่ต้องการ Gaming Notebook ชิปประมวลผล Intel Core i / AMD Ryzen รุ่นใหม่ในตลาด กับการมาของ Acer Nitro 5 AN515-55 สเปก Intel Core i Gen 10H และ Acer Nitro 5 AN515-44 ปี 2020 สเปก Ryzen 4000H โดยเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมหน้าจอ 15.6″ ราคาคุ้มค่า ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ทั้งจากสเปกที่แรงลื่นหลากหลาย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่จัดเต็ม และประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วน 3 ชั่วโมง โดยมีการอัพเกรดหลายๆ อย่างด้วยกัน ในราคาที่ไม่แพงเลย
สำหรับ Acer Nitro 5 AN515-55 จะเป็นสเปก Intel เลือกใช้ชิปประมวลผล Core i5-10300H / Core i7-10750H เป็นขุมพลังหลัก ทำงานร่วมกับการ์ดจอระดับ Gaming หลากหลายรุ่นอย่าง NVIDIA GeForce / GTX 1650 (4GB GDDR5) / GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) / RTX 2060 (6GB GDDR6) ที่แรงลื่นกว่าเดิมแน่นอนในส่วนของแรมจัดเต็มมาให้เลยที่ 16GB DDR4 Bus 2933MHz แบบ 1 แถว ได้ SSD M.2 NCMe PCIe ความจุ 512GB หน้าจอเป็นพาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลทั้งการเล่นเกมหรือทำงาน แน่นอนว่าได้ Windows 10 ใช้งานได้ทันที ซึ่งแบ่งได้ตามรุ่นตามราคาได้ดังนี้
- Core i5-10300H / GTX 1650 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 29,900 บาท
- Core i5-10300H / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 31,900 บาท
- Core i5-10300H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 35,900 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 39,900 บาท
ส่วน Acer Nitro 5 AN515-44 เป็นรุ่นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4600H และ Ryzen 7 4800H ที่แรงลื่นแบบสุดๆ ผสานการทำงานกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB) / GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ส่วนแรมได้มาตรฐานเป็นขนาด 8GB/16GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA3 ภายหลัง) สำหรับหน้าจอจะเป็น 15.6″ IPS Refesh Rate 144Hz ที่ลื่นกว่าสีดีกว่า พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 โดยแบ่งตามรุ่นต่างๆ ได้ตามนี้
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 26,990 บาท
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 29,990 บาท
- Ryzen 7 4700H / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 32,990 บาท
สำหรับ Acer Nitro 5 AN515-55 และ Acer Nitro 5 AN515-44 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง Refresh Rate ที่ 144Hz แบบ 3ms ให้การแสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมได้มาตรฐานขอบเขตสี NTSC 72% ด้วย
Acer Nitro 5 AN515-55 / Acer Nitro 5 AN515-44 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ดีไซน์มีการปรับปรุงใหม่ให้มีความโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม ด้วยเส้นสายลวดลายที่ดูดุดันกว่าที่เคย โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม และที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo
นอกจากนี้ Acer Nitro 5 ยังมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย
Acer Nitro 5 ติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ พร้อมกับการตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. ติดตั้งปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีแดง รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นไฮไลน์เด่นออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ RGB แบบ 4 โซน ดูแล้วเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความติดมือ ดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน จะเอาไปเล่นเกมหรือทำงานก็ตอบสนองได้ดีเยี่ยม
Acer Swift 3 (Ryzen) ราคา 22,990 – ,990 บาท
Acer Swift 3 SF314-42 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ 14″ สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series พร้อมจัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า พร้อมความทรงพลัง โดยในส่วนของ U Series ที่เน้นประหยัดพลังงานแต่ยังให้ความแรง ซึ่งเดิม AMD ก็ทำตลาดในกลุ่มนี้ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยราคาที่ถูก ประสิทธิภาพดี ได้ความแรงที่เหนือชั้นกว่าเดิมมากด้วยเมื่อเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นเดิมๆ ที่เป็น H Series โดย Acer Swift 3 ปี 2020 ได้สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series พร้อมขายในไทยแล้ว มีราคาที่ 22,990 – 25,990 บาท ได้สถาปัตยกรรมเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร สุดล้ำหน้ากว่าที่เคยมีมาในตลาดโน๊ตบุ๊ค
ซึ่ง Acer Swift 3 สเปก Ryzen 4000 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U ที่แรงและดีกว่าเดิมแน่นอน มาพร้อมกับการ์ดจอออนชิปเป็น Radeon RX VEGA 6 / 7 รุ่นใหม่ ตัวเครื่องรองรับการติดตั้งแรมขนาด 8GB DDR4 โดยติดตั้งที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB แสดงผลผ่านทางหน้าจอขนาด 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แบบจอด้านลดแสงสะท้อนได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญยังได้ในส่วนของโปรแกรมเอกสาร Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาทด้วย
ตัวเครื่องสีสัน Mauve Purple ที่ออกเป็นสีม่วงแบบมังคุดไทยๆ ให้ความโดดเด่นไม่เหมือนใคร หรือมีอีกสีคือสีเงินสว่างๆ Pure Silver ที่เหมาะกับทั้งหนุ่มๆ ลุคเท่แบบคลูๆ หรือสาวๆ ที่ดูน่ารักสดใส เหมาะมากๆ สำหรับคนทำงานจริงจังพนักงานออฟฟิศ หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว เพียงพอที่จะเอาไปทำงานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอได้เลยล่ะ แต่ก็ยังรองรับพกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสุดถึง 13 ชั่วโมง ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัว
ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก โดยมาพร้อมกับบางเพียง 15.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น (รุ่นก่อน 1.35 กิโลกรัม) ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่ตัวเครื่องเทียบเท่ากับหน้าจอ 13.3″ อย่างรุ่นก่อนๆ ที่บางเบาที่สุดรุ่นหนึ่ง พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นแบบรู้สึกได้ จนรุ่นเก่าต้องอิจฉาเลยทีเดียว กับแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมยังสามารถชาร์จได้รวดเร็วด้วยการชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง
- Ryzen 5 4500U / Radeon 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 22,990 บาท
- Ryzen 7 4700U / Radeon 7 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 25,990 บาท
Acer Swift 5 (Core i) ราคา 30,990 – 36,990 บาท
Acer Swift 5 รุ่นใหม่ปี 2020 สเปกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 อย่าง Core i5-1035G1 / Core i7-1065G7 ใช้การ์ดจอออนชิปอย่าง Iris Graphics G7 หรือมีรุ่นการ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce MX350 มาพร้อมหน้าจอ 14″ Full HD พาเนล IPS เกรดสูง sRGB 97% โดยมีน้ำหนักเพียง 990 กรัมเท่านั้น ส่วนสเปกอื่นๆ ก็ครบครันทั้งแรมขนาด 16GB LPDDR4X แบบออนบอร์ด และที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB รองรับการทำงานที่เต็มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ความบันเทิง หรืองานประมวลผลหนักๆ ก็พอได้เลย เหมาะกับคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เบาที่สุด แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง +
ได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ทันที ทำงานพื้นฐานได้แบบสบายๆ สนับสนุนการทำงานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ ส่วนความบันเทิงดูหนังฟังเพลง ชม Netflix ก็สบายๆ ไปอีก และพอที่จะใช้งานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็พอได้บ้าง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติก็ลื่นไหล จากการที่มีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX350 (2GB GDDR5) ที่แรงพอๆ กับ GTX 960M เลยทีเดียว
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ เช่น Thunderbolt 3 (เป็น USB 3.1 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด ได้ประกันจะเป็นแบบ 3 ปี โดยปีแรกเป็นแบบ On-site Serive ซ่อมฟรีถึงบ้าน และกรณีส่งซ่อมตามศูนย์ก็จะซ่อมอย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมงอีกด้วย ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) มาใช้งานทันที นับว่าคุ้มค่าจริงๆ ที่เหนือกว่าหลายๆ แบรนด์
เรียกได้ว่าถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ ที่เบาที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดก็ว่าได้ ส่วนความบางอาจจะไม่มาก โดยอยู่ที่ 14.95 มิลลิเมตร แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คพกพามาตรฐานระดับสูงอยู่ดี อีกทั้งในรุ่นใหม่นี้ได้ดีไซน์พิเศษโดยมียางรองขอบเครื่องด้านหลังช่วยยกตัวเครื่องให้เอียงสูงขึ้นเมือเรากางหน้าจอ ส่งผลให้พิมพ์ง่ายขึ้นและมุมมองดีขึ้นด้วย วัสดุจากอลูมิเมียนผสมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษแต่ก็ยังแข็งแรงและทนทาน กับสีสัน Charcoal Blue พร้อมแซมด้วยสีทองตามจุดต่างๆ เหมาะทั้งหนุ่มๆ หรือสาวๆ ยุคใหม่ที่ดูทันสมัยสวยงามลงตัว ส่วนสี Moonstone White นับว่าเป็นอีกสีที่ดูหรูหราไม่แพ้กัน เน้นขาวๆ สะอาดๆ
- Core i5-1035G1 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 30,900 บาท
- Core i7-1065G7 / MX350 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 36,900 บาท
Acer Spin 5 ราคา 29,990 – 39,990 บาท
Acer Spin 5 จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ได้หน้าจอเป็น 13.5″ ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด มีความละเอียดระดับ 2K คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้าง โดยมีน้ำหนักของตัวเครื่องเพียง 1.2 กิโลกรัม มาพร้อมกับ Windows Hello ติดตั้งเป็นแบบ Fingerprint แน่นอนว่าสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Ice Lake อย่าง Core i5-1035G4 และ Core i7-1065G7 ส่วนของแรมเป็นขนาดสูงสุดที่ 8GB / 16GB LPDDR4X และ SSD M.2 NVMe ได้ความจะเป็น 512GB / 1TB รองรับการชาร์จไฟแบบรวดเร็ว พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 15 ชั่วโมงด้วย
รายละเอียดสเปกอื่นๆ ของ Acer Spin 5รุ่น ปี 2020 เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออย่าง Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 3 ที่ส่งข้อมูลได้เร็วแรงและปลอดภัยที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถูกมาใช้เป็นมาตรฐานใน Swift 3 / Swift 5 แล้ว ส่วนของระบบเสียงเป็น Acer TrueHarmony และ DTS พร้อมมีคีย์บอร์ดไฟส่องสว่าง มีปากกาที่เขียนได้เหมือนจริงที่สุดอย่าง Acer Active Wacom AES Stylus รองรับแรงกด 4,096 ระดับ แตกต่างจาก 2-in-1 Notebook ในตลาดยิ่งกว่าจากการที่เป็นขนาด 13.5″ สัดส่วน 3:2 ที่ความละเอียด 2K (2256 x 1504 พิกเซล) ที่ให้พื้นที่ด้านยาวมากว่า รองรับการทัชสกรีนด้วยนิ้ว 10 จุดพร้อมๆ กัน
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Acer Spin 5 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.5″ ในแบบยุคก่อนๆ เนื่องด้วยตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก ทำให้มีความโดดเด่นมากๆ ที่สำคัญขอบจอยังบางเฉียบ ทำให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ที่สำคัญ 2-in-1 Notebook มีการดีไซน์ที่เก็บปากกาล้ำๆ ของ Acer Active Wacom AES Stylus โดยติดตั้งอยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านล่าง มีความบาง 15.24 มิลลิเมตร และเบาเพียง 1.22 กิโลกรัม ที่สำคัญอีกเรื่องก็คือบานพับก็เป็นอะลูมิเนียมที่แข็งแรงทนทานไม่ต่างจากตัวเครื่อง คอยทำหน้าที่หมุนหน้าจอได้ถึง 360 องศา ไว้ใช้ Multi Mode ทำให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
ส่วนของตัวเครื่องหลักๆ สีสันออกแนวดำๆ เทาๆ เหมาะกับทั้งสาวๆ หรือหนุ่มๆ วัยทำงานยุคนี้ แล้วจะใช้เป็นอะลูมิเนียมคุณภาพสูงตลอดทั้งตัวเครื่องเป็นส่วนประกอบ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียม ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป ส่วนด้านในก็เป็นอลูมิเนียมเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเวลาใช้งานวางมือลงไปนั้นเราได้ทั้งความทนทานและความพรีเมียมไปพร้อมๆ กัน สำหรับปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ขอบตัวเครื่องด้านขวาทำให้กดปุ่มได้สะดวกในทุกๆ โหมด