Predator นับได้ว่าเป็นแบรนด์ Gaming ของทาง Acer ที่ตอกย้ำเรื่องของประสิทธิภาพความแรงลื่นขั้นสูงสุด ทั้งจากสเปกภายในและฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ ระบบระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม และปุ่มเร่งความแรงได้ง่ายๆ เพียงปุ่มเดียว และอื่นๆ ตอบสนองการเล่นเกมของบรรดาเกมเมอร์ระดับมืออาชีพได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเหนือชั้นกว่า Gaming PC / Gaming Notebook ทั่วไปแบบชัดเจน รวมไปถึงล่าสุดก็ได้มีอุปกรณ์ Gaming Gear ต่างๆ ไว้ใช้งานร่วมกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วด้วย เรียกได้ว่าครกำลังมองหาคอมพิวเตอร์ Gaming ตัวจริงในตลาด ประจำปี 2020 ทาง Acer ก็พร้อมจำหน่ายรุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว
โดยเราจะมาบอกถึงฟีเจอร์หลักๆ ที่เป็น DNA ของ Predator ที่เป็น Gaming Notebook ก็คือ เทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยพัดลมแบบพิเศษ AeroBlade 3D Gen 4 ใช้พัดลม 2 ตัว ออกแบบพิเศษได้รับแรงบันดาลใจจากกลไกการบินที่เงียบสนิทและทรงพลังของนกฮูก ปลายใบพัดลมของเราจึงมีรอยหยักเพื่อให้อากาศผ่านได้มากขึ้น ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง ฟินเป็นสีฟ้าสวยงาม
อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีที่ใช้งานง่ายๆ โดยมีปุ่มกดที่เร่งประสิทธิภาพอย่างปุ่ม Turbo เพียงการกดครั้งเดียว ตัวเครื่องจะเร่งรอบพัดลมอัตโนมัติให้แรงที่สุดทั้ง 2 ตัว เพื่อให้ชิปประมวลผลทำได้เต็มที่ 100% ส่วนการ์ดจอก็จะมีการเร่งความแรงไปอีกให้เกิน 100% ด้วยการ Overclock การใช้งาน Turbo เราก็สามารถกดปุ่มได้เลย โดยเมื่อกดแล้วเราจะเห็นว่ามีไฟสีฟ้าสว่างขึ้นที่ปุ่ม พร้อมกับรอบพัดลมที่ดังขึ้น และตัวซอฟต์แวร์เองก็จะแสดงสถานะการทำงานของการ Overclock การ์ดจอด้วย
รวมถึงมีซอฟแวร์ยูทิลิตี้ PredatorSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าไฟคีย์บอร์ด RGB, ไฟพัดลม, เร่งรอบพัดลมได้เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงเรายังสามารถ Overclock การ์ดจอ เพื่อเร่งประสิทธิภาพให้แรงยิ่งขึ้นไปอีกได้ รวมไปถึงรองรับการเชื่อมต่อกับมือถืออีกด้วย และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจ Predator Sense เพื่อให้เราใช้งานได้จริงๆ
ด้านลำโพงเป็นแบบสเตอริโอแบบ 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ DTS:X Ultra ระบบเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน พร้อมจำลองเสียง 3 มิติ สนับสนุน VR เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม
นอกจากนี้การเชื่อมต่างๆ ก็ครบถ้วน พร้อมด้วยช่องสาย Lan RJ45 พร้อม Ethernet Controller และการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบ Wireless-AX 1650 และ Killer Control Center 2.0 ที่ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ให้มีเสถียรภาพและสมูทขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าประกันได้เป็น 3 ปี แบบ On-site Service ทุกรุ่น หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมง (ถ้าเคลมนานกว่านั้นมีเครื่องสำรองให้ใช้) เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่เก่งครบจบรอบด้านจริงๆ
สำหรับในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Acer Predator ในส่วนของ Gaming Notebook ซึ่งในตอนนี้ที่พร้อมจำหน่ายในไทยแล้ว จะแบ่งออกเป็น Predator Triton 300 / Predator Triton 500 / Predator Helios 300 / Predator Helios 700 โดยแต่ละรุ่นก็จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงช่วงราคาก็มีความหลากหลายตั้งแต่ 43,900 – 129,900 บาท มีสเปกฮาร์ดแวร์เป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H ได้การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX / RTX พร้อม RAM / SSD จัดเต็ม ที่แต่ละรุ่นจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ไปชมกันต่อเลย
Predator Triton 300 ราคา 43,990 – 59,990 บาท
Acer Predator Triton 300 มีตัวเลือกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H อย่าง Core i5-10300H ทำงานที่ความเร็ว 2.50 – 4.50 GHz แบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด และ Core i7-10750H ทำงานที่ความเร็ว 2.60 – 5.0 GHz แบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ทำงานร่วมกับการ์ดจอระดับสูงที่ได้ทั้งความแรงและร้อนน้อยกว่าอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) / RTX 2070 Max-Q (8GB GDDR6) สนนราคาเริ่มต้นถูกสุด ที่ 43,990 บาทในฝั่งของ Gaming Notebook แบรนด์ Predator
แรมมาตรฐานเป็น DDR4 Bus 2933MHz ขนาด 16GB / 32GB พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB / 1TB มีหน้าจอความละเอียดสูงระดับ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz / 3ms ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ใครจะเอาไปทำงานหรือเล่นเกมอันนี้ไม่ว่ากัน ได้ Windows 10 ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมด้วยกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลแบบคู่ในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน
Acer Predator Triton 300 (2020) ในส่วนของดีไซน์ภายนอกก็ดูเรียบหรู วัสดุเป็นอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่องสีดำแซมด้วยสีฟ้า Predator ที่โดดเด่น เป็น DNA ของ Gaming Notebook จากทาง Acer Predator ปี 2020 นี้ก็ว่าได้ มีความบางสุด 19.9 มิลลิเมตร และเบาที่ 2.3 กิโลกรัม และถือว่าเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่ขอบบาง แต่ไม่ได้มีการตัดชุด Numpad ด้านขวาออกไปแต่อย่างใด เชื่อว่าหลายคนน่าจะถูกใจสิ่งนี้ โดยมีปุ่มที่ใหญ่และช่องว่างที่พอดี ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน
สำหรับดีไซน์ตัวปุ่มเองก็มีความพิเศษที่เป็นขอบสีขาวกึ่งโปร่งแสงให้ความสวยงามเวลาใช้งานจริง รวมถึงบริเวณด้านขวายังมีการทำปุ่ม Hotkey พิเศษ เรียกซอฟต์แวร์ PredatorSense ขึ้นมาได้ รวมไปถึงมีปุ่มปรับระดับเสียง ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยปุ่ม WASD, PredatorSense และปุ่มทิศทางที่จะมีขอบที่โปร่งแสงแบบพิเศษที่สำคัญไฟ LED ก็เป็นแบบ 4 โซน เราสามารถตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ ให้วิ่งไปมาตามโปรไฟล์ต่างๆ ผ่านทางซอฟต์แวร์ PredatorSense หรือจะปรับเป็นสีเดียวนิ่งๆ ก็ทำได้ เช่นตั้งไว้เป็นสีขาวหรือสีฟ้าสีเดียว
- Core i5-10300H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 43,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 54,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2070 Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 59,990 บาท
Predator Helios 300 ราคา 49,990 – 59,990 บาท
Acer Predator Helios 300 ปี 2020 ที่จะจำหน่ายในประเทศไทย มาพร้อมกับหลากหลายสเปกและราคา หลักๆ แล้วเป็นชิปประมวลผลเป็น Core i7-10750H (2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz) ส่วนการ์ดจอเริ่มต้นเป็น NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) / RTX 2070 Max-Q (8GB GDDR6) พร้อม แรมขนาด 16GB / 32GB DDR4 Bus 2933 MHz ที่เก็บข้อมูลเป็นแบบ SSD M.2 แบบ NVMe PCIe ที่ความจุ 512GB – 1TB รวมถึงยังใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ได้อยู่ จัดว่าให้สเปกมาเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไปมากๆ แต่เหมาะสำหรับการเล่นเกมแบบสุดๆ
มีตัวเลือกหน้าจอขนาด 15.6″ หรือ 17.3″ แบบด้าน ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพ IPS ตอบสนองที่ 144Hz 3ms แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนล บนซอฟแวร์เสียง DTS:X Ultra ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-C จำนวน 1 ช่อง, USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, ช่องเสียบหูฟังไมค์ขนาด 3.5 มิลลิเมตร พร้อมด้วยช่องสาย Lan RJ45 พร้อม E2600 Ethernet Controller
Acer Predator Helios 300 (2020) จะมีหน้าจอขนาดใหญ่ที่ 15.6″ และ 17.3″ แต่กลับมีความเล็กลงจากมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดจากการที่ขอบจอบาง จากการที่ขอบจอบางที่ 7.9 มิลลิเมตร มีพื้นที่การแสดงผลที่ 79% โดยได้ความแรงไม่แพ้ Gaming Notebook เครื่องหนักๆ หนาๆ แบบแต่ก่อน โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่พกพาได้สะดวก รักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้พกพาพอได้ หรือหยิบใส่กระเป๋าแบบสบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง กับน้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม และ 2.9 กิโลกรัม ตามลำดับ
คีย์บอร์ดถือว่าเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ / 17.3″ โดยบริเวณด้านขวาของชุดคีย์บอร์ดยังมีการทำปุ่ม Hotkey พิเศษ เรียกซอฟต์แวร์ PredatorSense ขึ้นมาได้ ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีกเวลาที่จะปรับแต่งการใช้งานโหมดต่างๆ รวมไปถึงการปรับรอบพัดลมหรือปรับสีไฟคีย์บอร์ดด้วย อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยปุ่ม WASD, PredatorSense และปุ่มทิศทางที่จะมีขอบที่โปร่งแสงแบบพิเศษที่เป็นโทนฟ้าต่างจากปุ่มคีย์บอร์ดอื่นๆ ที่สำคัญไฟคีย์บอร์ด LED ก็เป็นแบบ RGB แบ่ง 4 โซน เราสามารถตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ ผ่านทางซอฟต์แวร์ PredatorSense หรือจะปรับเป็นสีเดียวนิ่งๆ ก็ทำได้
- Core i7-10750H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 49,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2070 Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 57,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2070 Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 17.3″ IPS 144Hz ราคา 59,990 บาท
Predator Triton 500 ราคา 79,990 – 89,990 บาท
Acer Predator Triton 500 ใช้ชิประมวลผลรุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i Gen 10H ในรุ่น Core i7-10875H ทำงานที่ความเร็ว 2.3 – 5.1 GHz แบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด ซึ่งให้ความแรงและ Core การทำงานที่มากกว่า i7-10750H ทำงานร่วมกับการ์ดจอระดับสูงรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q (8GB GDDR6) / RTX 2080 Super Max-Q (8GB GDDR6) เป็นตัวแรงที่สุดในฝั่งของ Gaming Notebook
แรมมาตรฐานเป็น DDR4 Bus 2933MHz ขนาด 32GB พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB มีหน้าจอความละเอียดสูงระดับ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน 300Hz / 3ms / G-Sync ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ใครจะเอาไปทำงานหรือเล่นเกมอันนี้ไม่ว่ากัน ได้ Windows 10 สนนราคา 79,990 / 89,990 บาท
ซึ่งจากสเปกนี้ทำให้รองรับการเล่นเกมในปัจจุบันลื่นๆ ได้ทุกเกมแน่นอน ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมด้วยกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลแบบคู่ในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง Thunderbolt 3, USB 3.1 Type-A และ LAN RJ45 Killer Ethernet E3100, Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth V5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน Killer Wi-Fi 6 AX1650G
สำหรับ Acer Predator Triton 500 ถือว่าเป็น Gaming Notebook มาตรฐานใหม่ที่มีความเบาบาง ขอบจอบางที่ได้ความแรงไม่แพง Gaming Notebook เครื่องหนักๆ หนาๆ แบบแต่ก่อน โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่พกพาได้สะดวก ด้วยน้ำหนักเพียง 2.1 กิโลกรัม บางที่ 17.9 มิลลิเมตร (จัดว่าเป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ ที่บางเบาที่สุดในโลกรุ่นนึง) ทำให้ถือมือเดียวได้ หรือหยิบใส่กระเป๋าแบบสบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
คีย์บอร์ดของ Acer Predator Triton 500 มีการตัดชุด Numpad ด้านขวาออกไป แม้ว่าหลายคนอาจจะไม่ถูกใจนัก ซึ่งก็ต้องทำความเข้าใจว่าถ้ามีมันจะแน่นเกินไป ดูใช้งานไม่ได้จริงแถมยังไม่สวยงาม ทำให้ทาง Acer ตัดสินใจเลือกที่จะเน้นใช้งานแป้นคีย์บอร์ดหลักด้วยการไว้ตรงกึ่งกลางตัวเครื่องแทน โดยมีปุ่มที่ใหญ่และช่องว่างที่พอดี ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน นอกจากนี้บริเวณด้านขวายังมีการทำปุ่ม Hotkey พิเศษ เรียกซอฟต์แวร์ PredatorSense ขึ้นมาได้ รวมไปถึงมีปุ่มปรับระดับเสียง ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก
อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยปุ่ม WASD, PredatorSense และปุ่มทิศทางที่จะมีขอบที่โปร่งแสงแบบพิเศษ ที่สำคัญไฟ LED ก็เป็นแบบ Per-Key RGB แบบเต็มรูปแบบ เราสามารถตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ ผ่านทางซอฟต์แวร์ PredatorSense หรือจะปรับเป็นสีเดียวนิ่งๆ ก็ทำได้ ส่วนในการใช้งาน Turbo เราก็สามารถกดปุ่มได้เลย
- Core i7-10875H / RTX 2070 Super Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ IPS 300Hz + G-Sync ราคา 79,990 บาท
- Core i7-10875H / RTX 2080 Super Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ IPS 300Hz + G-Sync ราคา 89,990 บาท
Predator Helios 700 ราคา 129,990 บาท
Acer Predator Helios 700 เป็น Gaming Notebook รุ่นท็อปสุด มาพร้อมกับสเปกที่ดีที่สุดชิปประมวลผลเป็น Intel Core i9-10980HK ความเร็ว 2.40 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 5.30 GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด การ์ดจอแรงที่สุดในตระกูล RTX อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2080 Super (8GB GDDR6) โดยแรงกว่า RTX 2080 ไปอีกขั้น พร้อมแรมขนาดใหญ่ที่ 64GB DDR4 ที่ฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ SSD m.2 แบบ NVMe PCIe ที่ความจุ 1TB จัดว่าให้สเปกมาเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไปมากๆ แต่เหมาะสำหรับการเล่นเกมแบบสุดๆ ให้เฟรมเรทขับเคลื่อนได้สูงมากๆ
หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว แบบด้าน ความละเอียด Full HD (1920 × 1080 พิกเซล) พาเนลคุณภาพ IPS คุณภาพสูง พร้อมตอบสนองที่ 144 Hz ทำงานร่วมกันกับชิป NVIDIA G-Sync ส่งผลให้ภาพทีความลื่นไหลไม่ฉีกขาด ในเฟรมเรทที่สูงอยู่ ตัวเครื่องยังมีลำโพงคุณภาพสูงทำงานบนซอฟแวร์เสียง DTS:X Ultra แบบ 5.1 channel ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์การใช้งานงานทั้งภาพและเสียงที่สมบูรณ์แบบ
ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 จำนวน 1 ช่อง, USB 3.1 Type-A จำนวน 3 ช่อง หนึ่งช่อง, HDMI 2.0, DisplayPort 1.4, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 พร้อม E3100 Ethernet Controller, Wi-Fi 6 AX ทำงานแบบ Kller Doubleshot Pro พร้อม Killer Control Center 2.0 ที่ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ให้มีเสถียรภาพและสมูทขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 เป็นมาตรฐาน
สำหรับ Acer Predator Helios 700 ถือว่าเป็น Gaming Notebook มาตรฐานใหม่ที่มี HyperDrift keyboard ซึ่งเราสามารถใช้ปกติเหมือน Notebook ทั่วไป แต่เมื่อจะใช้งานหนักๆ รวมไปถึงเล่นเกม ก็สามารถใช้ฟีเจอร์ HyperDrift keyboard สไลด์เลื่อนออกมาได้ทั้งชุดคีย์บอร์ดและทัชแพดก็จะทำมุมพับเอียงไปพร้อมๆ กัน เพิ่มความแรงด้วยการ Overclock และการระบายความร้อนที่มากยิ่งขึ้น
มีน้ำหนักที่ 4.5 กิโลกรัม และความหนาที่ 41.7 มิลลิเมตร จัดว่าเป็น Gaming Notebook จอ 17.3″ ที่ไม่เน้นความบางเบา แต่เน้นความแรง ระบบระบายความร้อน และฟีเจอร์มัลติโหมดเป็นหลัก ไม่สนความบางเบาอย่าง Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน ทำให้การพกพานั้นอาจจะไม่สะดวกนัก แต่ก็พอที่เคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนบ้าง บนพื้นฐานการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุพลาสติกเกรดดีตลอดทั้งตัวเครื่อง