อัพเดทกันหน่อย ในส่วนของ Notebook ช่วงหลังกลางปี 2020 สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U รุ่นใหม่ กับราคาเริ่มต้นที่ 13,900 บาท ผลิตบนพื้นฐานสถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร สุดล้ำหน้ากว่าที่เคยมีมาในตลาดโน๊ตบุ๊ค ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนานกว่า ได้ความสดใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย เรียกได้ว่าประสิทธิภาพงานประมวลผลแรงเทียบเท่าฝั่ง Gaming Notebook เลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ด้วยฟีเจอร์ที่ล้ำหน้าไม่ว่าจะเป็นแรมมาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz และ SmartShift รวมถึง Wi-Fi 6 AX ที่ยอดยอดประสบการณ์ใช้งานมากยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งกับความร้อนที่เกิดขึ้นก็น้อยกว่า และแบตเตอรี่เมื่อใช้งานโหมดประหยัดพลังงานก็ยาวนานกว่าเดิมด้วย โดย AMD Ryzen 4000U เน้นติดตั้งในโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาประหยัดพลังงานสำหรับโน๊ตบุ๊คทำงานในราคาคุ้มค่าอย่าง AMD Ryzen 5 4500U /AMD Ryzen 7 4700U นั่นเอง
ด้วยราคาคุ้มค่าแต่ได้ประสิทธิภาพดีเยี่ยม ได้ความแรงที่เหนือชั้นกว่าเดิมมากด้วยเมื่อเทียบกับชิปประมวลผล โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำ AMD Notebook รุ่นใหม่น่าซื้อ ช่วงหลังกลางปี 2020 ที่หลากหลายแรงลื่น จอ 13.3″ / 14″ / 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนล TN/IPS แรมได้ 8GB – 16GB และ SSD 256GB – 512GB ในงบ 13,900 – 32,900 บาท คุ้มสุด เบาสุด แรงสุด บางรุ่นจะได้การ์ดจอแยกรุ่นใหม่อย่าง Radeon RX640 หรือบางรุ่นเป็น 2-in-1 Notebook มีปากกาในตัว รวมถึงบางรุ่นจะได้โปรแกรม Office แท้มูลค่า 4,290 บาทด้วย จะมีรุ่นไหน ไปชมกันต่อเลย
Lenovo ThinkPad V14 ราคา 13,900 บาท
Lenovo ThinkPad V14 เป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ในทุกๆ วัน รองรับทุกๆ การใช้งานพื้นฐาน กับราคาเพียง 13,900 บาท ด้วยดีไซน์ที่เบาและมีสไตล์ เหมาะสำหรับการใช้งานไปนู้นมานี่ เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้า 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล TN ได้สเปกที่แรงลื่นอย่างชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U ที่ได้ประสิทธิภาพการทำงานดีเยี่ยม แต่ราคาค่าตัวนั้นถูกที่สุด นอกจากนี้ยังได้แรม 8GB Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe ความจุเริ่มต้น 256GB มาทันที ประกันเป็นแบบ 1 ปี ส่งซ่อมศูนย์ Lenovo ปกติ
การมาของ Lenovo ThinkPad V14 เน้นตอบโจทย์คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาถูกที่สุด เพราะไม่มีการติดตั้ง Windows 10 มาให้ (เป็น DOS) พร้อมรูปลักษณ์ดูธรรมดาทั่วไป ประเภท SME/SMB โดยเน้นใช้งานพื้นฐานเป็นหลัก ในราคาที่ไม่แพง แน่นอนว่าประสิทธิภาพการทำงานก็ไม่ได้สูงมากเช่นกัน โดยรองรับการทำงานพื้นฐานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทำงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลงดูซีรีส์สตรีมมิ่งต่างๆ เป็นต้น เหมาะสำหรับคนหาคอมพิวเตอร์เครื่องสำรองงบหมื่นบาทต้นๆ โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
Lenovo ThinkPad V14 มีลำโพงคุณภาพดีทำงานร่วมกับระบบเสียง Dolby Audio ส่วนพอร์ตที่ให้มาก็ครบครัน ได้แก่ 2 x USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI และ SD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 5 (802.11ac) และ Bluetooth 5.0 ด้วย รองรับการทำงานทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเบาๆ แน่นอนว่าตอบโจทย์การใช้งานนอกสถานที่ได้ดีขึ้น เหมาะกับใช้งานตามบริษัทที่มี Windows License อยู่แล้ว หรือใครก็ตามกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คสเปกดีๆ ในราคาถูกที่สุด โดยที่จะสามารถติดตั้ง Windows เองได้ภายหลัง
Lenovo ThinkPad V14 เป็นโน๊ตบุ๊คดีไซน์บางเบา Thin & Light วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดีพื้นผิวเรียบง่าย ขอบจอบาง Narrow Bezel ทั้ง 2 ด้านซ้ายขวา ทำให้มีสัดส่วนจอแสดงผลเยอะกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ แบบก่อน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง แต่ได้ความสวยงามคุ้มค่า ซึ่งขอบจอด้านในเป็นสีดำเทาๆ ตลอดทั้งตัวเครื่อง ดูแล้วมีความสวยงามลงตัวตามราคา เน้นการบางเบาเน้นพกพา ด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น รวมไปถึงมิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ ในยุคก่อนๆ
Lenovo IdeaPad Slim 3 15 ราคา 15,490 บาท
Lenovo IdeaPad Slim 3 15 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ประจำปี 2020 ที่ราคาถูกและครบเครื่องสุด ด้วยดีไซน์บางเบา Thin & Light วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี ได้ขอบจอบาง Narrow Bezel ทั้ง 3 ด้านซ้ายขวาและขอบบน ทำให้มีสัดส่วนจอแสดงผลเยอะกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ ๆ แบบก่อน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง แต่ได้ความสวยงามคุ้มค่า ซึ่งขอบจอด้านในเป็นสีดำตัดกับสีตัวเครื่องโดยรวมอย่าง Platinum Grey ดูแล้วมีความสวยงามลงตัว เครื่องบางเพียง 19.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักที่ 1.85 กิโลกรัมเท่านั้น รวมไปถึงมิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ด้วย
ได้สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U Series พร้อมขายในไทย มีราคาที่ถูกสุดๆ ที่ 15,490 บาท สำหรับรุ่นหน้าจอ 15.6″ ด้วย AMD Ryzen 5 4500U (2.30 GHz up to 4.00 GHz, 8 MB L3 Cache) ทำงานแบบ 6 คอร์ 6 เธร์ด การ์ดจอออนชิป Radeon 6 ประสิทธิภาพดีขึ้น รองรับการเล่นเกมออนไลน์พอได้ แรมให้มาขนาด 8GB DDR4 สำหรับฮาร์ดดิสก์ให้มาทั้ง SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ความจุ 256GB เรียกได้ว่าได้ประสิทธิภาพการทำงานได้ดีเยี่ยมแน่นอน
ส่วนหน้าจอเป็นขนาด 15.6″ ที่ได้ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพดี พร้อมมีลำโพงคุณภาพดีทำงานร่วมกับระบบเสียง Dolby Audio ส่วนพอร์ตที่ให้มาก็ครบครัน ได้แก่ 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 3.1 Type-A, HDMI, และ SD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 5 (802.11ac) และ Bluetooth 4.2 ด้วย รองรับการทำงานทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเบาๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานได้ทันที และโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ด้วย การรับประกัน 2 ปี
Acer Aspire 5 A515-44G ราคา 16,990 – 22,990 บาท
Acer Aspire 5 A515-44G มีสเปกให้เลือกอยู่ 3 รุ่นหลักๆ ติดตั้งชิปประมวลผลตัวประหยัดพลังงานรุ่นล่าสุดเป็น AMD Ryzen 4000U ที่เป็น อย่าง Ryzen 5 45000U / Ryzen 7 4700U พร้อมมีรุ่นการ์ดจอแยกอย่าง AMD Radeon RX640 (4GB GDDR5) ส่งผลให้รองรับงาน 3 มิติ หรือเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหล ได้แรมมาตรฐานขนาด 8GB DDR4 Bus 3200 MHz พร้อมด้วยที่เก็บข้อมูลมาตรฐาน SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 256GB / 512GB ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ทั้งงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง หรือแม้กระทั่งทำงานหนักหน่อย อย่างตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ มาพร้อมกับ Windows 10 แท้ในทุกรุ่น
สำหรับ Acer Aspire 5 A515-44G ในเรื่องของการดีไซน์มีปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมสีสันให้เลือกคือสีเงินและสีดำ ตามยุคสมัยของโน๊ตบุ๊คปี 2020 ที่เน้นมิติตัวเครื่องที่เล็กกระชับ ด้วยขอบหน้าจอที่บางลง พร้อมตัวเครื่องมีความบางที่ 17.95 มิลลิเมตร ที่ความเบาเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น โดยใช้วัสดุประกอบหลักเป็นพลาสติกและโลหะซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง และบางดูเผินๆ ก็แอบคล้าย Acer Swift 3 / Swift 5 เหมือนกัน ต่างกันแค่ลดความเป็น Ultrabook ลงให้ดูเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานมากกว่า ซึ่งส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วเรียบง่าย ไม่หวือวา ไม่สะดุดตานัก
Acer Aspire 5 A515-44G จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คมัลติมีเดีย ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.2 Type-A, 1 x USB 3.2 Type-C, 1 x USB 2.0, HDMI, Lan RJ45 และรูหูฟังกับไมค์แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่กว่ารุ่นก่อน 3 เท่า และเทคโนโลยี MU-MIMO 2×2 ตำแหน่งการวางช่องเสาอากาศอย่างมีระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการพกพาและการทำงานแบบไร้สาย
Acer Aspire 5 A515-44G ติดตั้งหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพมาตรฐาน รับชมหรือทำงานเป็นเวลานานได้ด้วย Acer BlueLightShield สามารถให้สีสันที่สวยงามในระดับหนึ่ง โดยวัสดุส่วนหน้าจะเป็นพลาสติกสีดำธรรมดา มีโลโก้ Acer อยู่ตรงกลางล่าง ส่วนขอบบนหน้าจอจะมีกล้อง Webcam ความคมชัดระดับ HD 720p ติดตั้งมาให้ด้วย พร้อมกับไมค์สองตัวแบบตัดเสียงเพื่อใช้งาน Video Call ซึ่งกล้องหน้านี้ก็สามารถตอบสนองได้ดีทีเดียว
- Ryzen 5 45000U / Radeon 6 / RAM 8GB / SSD 256GB / จอ 15.6″ TN ราคา 16,990 บาท
- Ryzen 5 45000U / Radeon RX640 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ TN ราคา 19,990 บาท
- Ryzen 7 47000U / Radeon RX640 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ TN ราคา 22,990 บาท
ASUS VivoBook 14 D413 ราคา 19,900 – 22,900 บาท
ASUS VivoBook 14 D413 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่ความผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดีไซน์และประสิทธิภาพการใช้งาน และคงความเป็นเอกลักษณ์ของ VivoBookที่เน้นสีสันและความสนุกสนาน ช่วยการทำงานมัลติทาสกิ้ง และการใช้งานเพื่อความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยม ตัว Wi–Fi 6 AX ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อที่ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ที่สำคัญยังเปิดตัวสีใหม่รับปี 2020 มาพร้อมสีสัน 4 เฉดสี อย่างสี Resolute Red, Gaia Green, Dreamy White และ Indie Black ที่แตกต่างจากคู่แข่ง พร้อมความพิเศษเพิ่มลูกเล่นบนแป้น ‘Enter’ ด้วยขอบตัดสีเหลืองสะดุดตาแบบสุดๆ พร้อมกันนั้นยังมีสติ๊กเกอร์ให้เราสามารถแปะแต่งเพิ่มเติมอีกด้วย
สเปกภายในของตัว ASUS VivoBook 14 D413 มาพร้อมสเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series อย่าง Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U ได้การ์ดจอออนชิปเป็น Radeon 6/7 รุ่นใหม่ ที่รองรับทุกๆ การใช้งาน มาพร้อมขอบหน้าจอบางพิเศษ NanoEdge ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ในส่วนของสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจด้วยแรม 8GB DDR4 Bus 3200MHz พร้อม SSD 512GB แน่นอนว่าได้ Windows 10 ใช้งานทันที พร้อมลำโพงเสียงคุณภาพสูงจากแบรนด์ลำโพงระดับโลก Harman/Kardon ราคาขายไทยอยู่ที่ 19,990 / 22,900 บาท ได้ประกัน 2 ปีตามมาตรฐาน ASUS และประกันอุบัติเหตุในปีแรกด้วย
โดดเด่นด้วยสีสันทูโทนรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ตัวเครื่องภายนอกและด้านในได้วัสดุคุณภาพสูงที่แข็งแรงทนทาน โดยเฉพาะส่วนของส่วนของฝาหน้าจอที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ดูสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามีโลโก้ ASUS VivoBook อย่างโดดเด่น ส่วนตัวด้านล่างก็จะเป็นพลาสติกที่แข็งแรง ทำให้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบา มีการนำเสนอพื้นผิวแบบเรียบเนียนสัมผัสดี ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.4 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 15.9 มิลลิเมตร และขอบจอบางเพียง 5.7 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ปี 2020 ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ติดเครื่องมาพร้อม Windows 10 ไปใช้งานฟรีๆ ด้วย
- Ryzen 5 4500U / Radeon 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS 60 Hz ราคา 19,900 บาท
- Ryzen 7 4700U / Radeon 7 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS 60 Hz ราคา 22,900 บาท
HP ENVY x360 13 ราคา 32,900 บาท
HP ENVY x360 13 นั้นถือเป็น 2-in-1 Notebook ที่ได้ความบางเบาหรูหรา รองรับการใช้งานพื้นฐานได้ลื่นไหลสุดๆ ในราคาคุ้มค่า อีกทั้งยังบันเดิลปากกา Stylus ใช้วาดรูปมาให้ในกล่องอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่น่าซื้อสุดๆ จากดีไซน์ที่สวยงามหรูหรา พกพาสะดวก พร้อมสเปกและฟีเจอร์ที่เกินราคากว่า 2-in-1 Notebook ทั่วไป ในราคา 32,900 บาท สำหรับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4700U (2.00 GHz up to 4.10 GHz, 8 MB L3 Cache) + Radeon 10 + RAM 8GB Bus 3200MHz + SSD 512GB พร้อมกับ Windows 10 แท้ในตัว
ส่วนอีกสเปคจะเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4700U ที่เป็นสถาปัตยกรรมเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร มาพร้อมความเร็ว 2.00 – 4.10 GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 8 เธร์ด โดยมีค่าการกินไฟ TDP ที่ 15 Watt เท่านั้น การ์ดจอออนบอร์ดเป็น Radeon 10 ประสิทธิภาพใช้ได้ดี ควบคู่กับแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 32,900 บาท ประกัน 2 ปี On-Site ตามมาตรฐาน HP พร้อมบริการหลังการขายอื่นๆ
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 2 x USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, Micro SD Card Reader และ Headset 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ในตัว โดดเด่นด้วยหน้าจอเป็นแบบจอกระจกสัมผัส 13.3 นิ้ว รองรับสัมผัสมัลติทัชและปากกา Stylus รองรับแรงกดได้หลายระดับ พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล
โดยวัสดุ HP ENVY x360 13 ใช้บอดี้จะเป็น Aluminum ทั้งหมด สี Nightfall Black ดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวขัดลายเพิ่มความหรูหราอย่างมีระดับ พร้อมกับโลโก้ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอกระจกขอบบางเฉียบที่เป็น Corning Gorilla Glass ทั้งบาน ซึ่งเล่นสีกับขอบจอด้านในเป็นสีดำดูเข้ากันดี ตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบ พกพาได้สะดวก พร้อมพับปรับได้ 360 องศา เพื่อใช้งานมัลติโหมด และขาดไม่ได้เลยสำหรับสแกนลายนิ้วมือผ่านทาง Windows Hello