อ่านแล้วงงกันมั้ยครับ? ความจริงแค่อยากสื่อไปยังหลายๆ คนที่ใช้งานโน๊ตบุ๊คอยู่เป็นประจำ แต่ยังไม่รู้ว่า การใช้งานโน๊ตบุ๊คในแต่ละวันของตนเองนั้น เป็นการทำให้โน๊ตบุ๊คเสื่อมสภาพหรือเสี่ยงต่อความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้นได้แบบไม่รู้ตัว แต่การบอกตรงๆ ว่า สิ่งนั้นควรทำหรือไม่ควรทำ ก็ดูจะเป็นการบังคับกันเกินไป เลี่ยงๆ แบบนี้ดีกว่า แนะนำว่า ใครที่อยาก เปลี่ยนโน๊ตบุ๊ค บ่อยๆ ก็ไม่ต้องทำตาม ส่วนถ้าใครคิดว่า อยากใช้กันไปยาวๆ ก็เลือกทำกันตามสะดวกครับ
ย้ำอีกครั้ง ถ้าอยาก เปลี่ยนโน๊ตบุ๊ค อยู่แล้วก็มองข้ามข้อมูลเหล่านี้ไป แต่ถ้ายังรักเดียวใจเดียว แบบว่ากว่าจะ ซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่ เครื่องนี้มาได้ หรือกว่าจะผ่อนหมด ก็เหนื่อยแล้ว ใช้กันไปนานๆ ก็ลองพิจารณากันดูครับ
1.เลือกกระเป๋าดีมีคุณภาพ ลดแรงกระแทกและความร้อน มีโน๊ตบุ๊คดีๆ ราคาแพงๆ แต่ไม่ลงทุนซื้อกระเป๋าดีๆ ก็คงจะแปลก ยกเว้นว่าคุณ “แค่ใช้งาน” มันเท่านั้น การเลือกกระเป๋า ที่มีจุดซัพพอร์ตดี เช่น ฟองน้ำรองด้านใต้ช่องโน๊ตบุ๊ค มีพื้นที่ด้านในกว้าง และสายรัดที่ยึดโน๊ตบุ๊คได้แน่น รวมถึงช่องใส่ของ อุปกรณ์เสริม ได้เพียงพอ ราคาตามที่คุณพึงพอใจ เท่านี้ก็พอแล้ว แต่ถ้าไม่สนเรื่องนี้ หล่นกระแทกที ก็วัดใจกันไปเลยครับ บางท่านเห็นกระเป๋าเป็นโล่ห์ไนท์ ครูเซเดอร์ วางกระแทก ชนทุกสิ่ง กระเป๋าดีๆ สักใบ ก็น่าจะช่วยได้
2.ใช้งานโดยนึกถึงการระบายอากาศให้เหมาะสม บางท่านใช้งานโน๊ตบุ๊คแบบสายถึก คือ ไม่ได้สนใจความเหมาะสม พื้นที่ตั้ง หรือบริเวณรอบข้าง บางครั้งปิดช่องทางระบายอากาศ จนโน๊ตบุ๊คหายใจแทบไม่ออก ตามจริงเค้าก็เหมือนคนนี่ล่ะครับ ดูดลมเข้า แล้วเป่าลมออก ถ้าเป็นคนก็สูดลมที่จมูก แต่พ่นออกทางตูดก็แค่นั้น แต่โน๊ตบุ๊คเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เกิดความร้อนได้ ยิ่งเป็น เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ร้อนทวีคูณไปอี๊กกก ดังนั้นดูให้เหมาะก่อนจะวาง ขอแค่มีช่องให้ลมเข้าด้านใต้ และไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมออกก็พอแล้ว แต่ถ้าคุณอยาก เปลี่ยนโน๊ตบุ๊ค ใหม่อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องสนครับ อย่าเอาไปรองล้อรถก็พอ เดี๋ยวขายต่อลำบาก
3.ไม่จิ้ม กด ถูหน้าจอ โดยไม่จำเป็น ยกเว้นเป็นจอสัมผัส หลายคนชอบกันจริงๆ ยิ่งเจอเพื่อนบางคน บางออฟฟิศ เห็นหน้าจอเราเป็นตู้ ATM หรือยังไง กดแล้วเงินมันจะออกมาใช่มั้ย บอกกี่ครั้งก็ไม่ฟัง ว่าไม่ใช่รุ่นทัชสกรีน จิ้มเก่งงงงงง ไอ้ที่แตะเฉยๆ ไม่ว่าหรอก แต่บางคนเล่นเอาเล็บจิกมาเลย หรือบางทีมารูด มาสไลด์ นึกว่าเล่นฟรีฟรายกันหรือไง รอยเก่ายังไม่หาย รอยใหม่มาอีกแล้ว คราบมัน แล้วจอแบบนี้ ถ้าเราไปเช็ดหนักๆ ก็มีโอกาสเป็นรอยได้ หรือพาแนลเสียหายก็มีให้เห็น ถ้ามีโอกาสเป็นแบบนี้เรื่อยๆ ก็ซื้อจอมาต่อแยก ให้จิ้มกันให้สะใจไปนะ
4.ชาร์จไฟให้สม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้แบตหมด เป็นเรื่องที่หลายคนมักจะละเลย เพราะบางทีก็ใช้เพลิน หรือบางครั้งเดินทางก็กะเกณฑ์ลำบาก หาที่ชาร์จก็ยาก แต่ถ้าคุณอยู่กับบ้านหรืออฟฟิศ ชาร์จง่ายๆ ก็อย่าให้หมดบ่อย เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพการเก็บประจุ อาจทำให้ แบตไม่เก็บไฟ แบตเสื่อม จนถึงไม่เก็บประจุก็เป็นได้ แต่ปัจจุบันยังดี ที่แบตราคาไม่แพง 2-3 พันบาทเท่านั้น แต่ถ้าคุณมองว่า เปลี่ยนแบตมันดูไม่สมศักดิ์ศรี แบตเสื่อมเปลี่ยนเครื่องใหม่ ก็จัดไปคร้าบบบ
5.เช็ค สแกน error รวมถึงไวรัสบ่อยๆ ถามว่าโอกาสเสี่ยงมีเยอะมั้ย ไวรัสในปัจจุบัน ปกติแล้วถ้าไม่เข้าไปเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดไฟล์ที่มีความสุ่มเสี่ยง ก็แทบจะไม่เจอกันแล้ว แต่ที่น่ากลัวกว่าคือ โทรจัน มัลแวร์ และฟิชชิ่ง เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้มุ่งทำลาย แต่อยากได้ข้อมูลส่วนตัว เพื่อนำไปใช้ในการ Hack และโจรกรรมออนไลน์ในโอกาสถัดมา การสแกนไวรัสหรือติดตั้ง Internet Security ก็พอช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่ยังมีอยู่บ่อยๆ คือ การเรียกค่าไถ่ไฟล์งาน ด้วยการเข้ารหัสไฟล์ทั้งหมดในไดรฟ์หรือทั้งเครื่อง ทำให้คุณเปิดใช้งานไฟล์ไม่ได้ จากนั้นจะมีเมล์มาให้โอนค่าไถ่กลับไป เพื่อจะปลดล็อค บางคนมีสิ่งสำคัญ ก็มักจะยอมจ่าย แต่บางคนมองว่า จะล็อกก็ทำไป ไม่สนใจ ชั้นลงวินโดวส์ใหม่ จบมะ?
6.ไม่กินอาหารขณะใช้งานโน๊ตบุ๊ค เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทำได้ยากมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณอยู่บ้าน เรียกว่าแทบไม่ห่างจากโน๊ตบุ๊คกันเลย ดูหนัง ฟังเพลง ตอบแชท เปิดเฟสบุ๊ก เล่นเกม บลา บลา อย่างน้อยก็ต้องมีขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ไปจนถึงหมูกระทะ และชาบู หนักเลย คือเปิดเหล้า เคล้าเสียงเพลงกันไปข้างๆ จึงมีทั้งเศษอาหาร น้ำ และสิ่งอื่นๆ ลงไป นอกจากจะสกปรกแล้ว ยังอาจเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคอีกด้วย ลองดูก็ได้ เอากระดาษสีดำแผ่นใหญ่หน่อยมาวางไว้ แล้วคว่ำโน๊ตบุ๊คลง เคาะเบาๆ ดู จะรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในช่องคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คของคุณ ขนาดแอดรักษาความสะอาด ยังมีเศษขนม และผงโอวัลตินลงไป น่าจะมาจากหลานสุดที่รัก
7.ซื้อคีย์บอร์ดเกมมิ่ง ต่อแยกเมื่อเล่นเกม แต่ถ้าคุณไม่ได้คิดจะใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้นานหรือจะ เปลี่ยนโน๊ตบุ๊ค ก็ไม่ต้องซื้อมาให้เสียเงินเปล่า ยกเว้นว่าคีย์บอร์ดที่มีให้ไม่ตอบโจทย์การเล่นของคุณ มันไม่ดังแกร่กๆ เหมือนกับคีย์ Mechanical หรือตอบสนองไม่ไวพอ ก็ซื้อแยกไป การเล่นเกมเป็นเครื่องพิสูจน์ความอึดทนของคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คได้ดี เพราะสิ่งแรกที่คุณจะเจอคือ คีย์ที่ใช้บ่อยเริ่มลอก ถัดมาคือ เริ่มกดไม่ติด สุดท้ายคือ คีย์จม และเสียไปในที่สุด ค่าคีย์บอร์ดใหม่เปลี่ยนยกแผงราคาพอๆ กับค่าเปลี่ยนในรุ่นทั่วไป แต่ถ้ารุ่นหายาก มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรอด้วย นานเลยล่ะ บางคนอาจบอกรอช้า ก็ซื้อเครื่องใหม่ สิ้นเรื่อง เนอะ!