กลับมาอีกครั้งกับโปรโมชั่นแรงๆ จากทาง AMD เพียงเราซื้อ Gaming Notebook หรือ PC Desktop Branded ที่ใช้ชิปประมวลผล AMD ที่ร่วมรายการ*** ทาง AMD แถมเกม Assassin’s Creed Valhalla ให้ไปเล่นกันแบบคูลล์ๆ มูลค่า 1,600 บาท ที่ต้องยอมรับน่าสนใจมากๆ สำหรับการมาของ Gaming Notebook รุ่นใหม่ๆ ปี 2020 ในราคาไม่แพง แต่แรงมากๆ จากการเลือกใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H Series รุ่นล่าสุด
ไม่ว่าจะเป็น Ryzen 5 / Ryzen 7 / Ryzen 9 ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากการที่ได้เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรมโค้ดเนม Renoir (เรอนัวร์) สุดล้ำหน้า ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนานกว่า นับได้ว่าเป็นขุมพลังสมองคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ ที่ได้ความสดใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย อย่างไรก็ตามในส่วนของโปรโมชั่นนี้จะเป็นเฉพาะสเปกที่ใช้ Ryzen 7 4800H / Ryzen 7 4800HS / Ryzen 9 4900H / Ryzen 9 4900HS
ในบทความนี้เราเลยจะมาแนะนำ Gaming Notebook สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H Series ที่ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอตัวแรงรุ่นต่างๆ อย่าง GeForce GTX 1650 / 1650 Ti / 1660 Ti / RTX 2060 หรือ Radeon RX 5500M พร้อมได้หน่วยความจำแรมที่ขนาด 8GB – 16GB DDR4 3200MHz โดยติตตั้ง SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB – 1TB ที่ใช้งานได้อย่างลื่นไหล
ซึ่งมีรุ่นหน้าจอขนาด 14″ / 15.6″ พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 120Hz – 144Hz ให้เลือกตามการใช้งาน แน่นอนว่ามี Windows 10 แท้ทุกรุ่น ส่วนประกันดีที่สุดจะเป็นแบบ On-site นาน 2 ปี และมีประกันอุบัติเหตุด้วย จะมีแบรนด์อะไรและรุ่นอะไรบ้างนั้น ไปชมกันต่อเลย พร้อมกันขั้นตอนการลงทะเบียนรับเกม Assassin’s Creed Valhalla ฟรีด้วย
หมายเหตุ
- ใช้เวลาตรวจสอบเอกสาร 3-7 วันทำการ
- 1 ใบเสร็จ, 1 บัตรประชาชน แลกรับได้ 1 สิทธิ์เท่านั้น!!
- PROMOTION GAME BUNDLE มีจำนวนจำกัด
ขอสงวนสิทธ์จบโปรโมชั่น หากเกมหมดก่อนระยะเวลาที่ได้แจ้งไว้ - สงวนสิทธ์รับแลก เฉพาะผู้ที่ซื้อสินค้าตามเงื่อนไขเท่านั้น
- หากพบการปลอมแปลงหลักฐาน หรือการกระทำที่ผิดเงื่อนไขโปรโมชั่น ทีมงานขอสงวนสิทธ์เรียกคืนค่าปรับตามมูลค่าของเกมที่ได้รับ
- PROMOTION GAME BUNDLE เป็นโปรโมชั่นส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้า AMD ตามเงื่อนไขเท่านั้น หากมีการนำไปจำหน่ายแก่ผู้อื่น หรือ ทำผิดเงื่อนไขของโปรโมชั่น และ ทำให้ไม่สามารถรับเกมได้ ทางเอเอ็มดีไทยแลนด์ขอสงวนสิทธ์ไม่รับผิดชอบทุกกรณี
วิธีการลงทะเบียน
- Add Line@ ที่ @AMDThailand
- ส่งเอกสาร (ถ่ายรูปใบกำกับภาษี + สำเนาบัตรประชาชน + รูป Serial No. ของเครื่อง) มาที่ Line @AMDThailand (ใบกำกับภาษีต้องไม่เกิน 14 วัน เพื่อทำการแลกรับเกม)
3.ทีมงานตรวจสอบเอกสาร และ ส่งข้อมูล Coupon Code กลับให้ลูกค้าทาง Line@ ของ @AMDThailand
- ช่วงเวลาโปรโมชั่น : ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม – 3 ตุลาคม 2563
- แลกเกมได้ : ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม – 7 พฤศจิกายน 2563
*เงื่อนไขตามที่บริษัทกำหนด
และเมื่อคุณซื้อ Gaming Laptop หรือ Desktop Branded ที่ใช้ GPU AMD Radeon* ที่ร่วมรายการ #AMD แจกเกม Godfall™ และ World of Warcraft: Shadowlands ให้ไปเล่นกันสูงสุดถึง 2 เกม
- ช่วงเวลาโปรโมชั่น : ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม – 3 ตุลาคม 2563
- แลกเกมได้ : ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม – 7 พฤศจิกายน 2563
วิธีการลงทะเบียน
- Add Line@ ที่ @AMDThailand
- ส่งเอกสาร (ถ่ายรูปใบกำกับภาษี + สำเนาบัตรประชาชน + รูป Serial No. ของเครื่อง) มาที่ Line @AMDThailand (ใบกำกับภาษีต้องไม่เกิน 14 วัน เพื่อทำการแลกรับเกม)
3.ทีมงานตรวจสอบเอกสาร และ ส่งข้อมูล Coupon Code กลับให้ลูกค้าทาง Line@ ของ @AMDThailand
Gaming Notebook สเปก AMD Ryzen 7 / Ryzen 9 ที่ร่วมโปรโมชั่น
HP Pavilion Gaming 15 ราคา 29,900 บาท
HP Pavilion Gaming 15 รุ่นใหม่ปี 2020 สเปก AMD + NVIDIA ถือว่าเป็น Gaming Notebook ชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H สถาปัตยกรรม Zen 2 เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร ผสานกับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างราบรื่น มีแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 3200MHz และได้ SSD M.2 NVMe ที่ความจุ 512GB พร้อมติดตั้ง Windows 10 แท้ ในดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างไปจาก Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ ออกแบบโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ให้มีความสวย ทันสมัยให้ความแข็งแรงทนทาน เพิ่มความโดดเด่น ใช้งานง่ายและสะดวก
รายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจของ HP Pavilion Gaming 15 สเปก AMD เรียกได้มีความสดใหม่ โดยมาพร้อม 2 สีสันหลักก็คือ สีเขียวและสีม่วงโดยตัวเครื่องมีความบางเพียง 23.6 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น ได้ขอบหน้าจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กลง พร้อมทั้งมีให้เลือกหน้าจอ IPS คุณภาพสูง มาตรฐาน sRGB ที่ 96% และ AdobeRGB ที่ 71% ซึ่งมี Refresh Rate ที่ 144Hz ช่วยลดอาการภาพเบลอและฉีกขาด และยังแสดงสีได้อย่างแม่นยำสำหรับการทำงานเฉพาะทางอีกด้วย แน่นอนว่ามีดีไซน์หน้าจอขอบจอบางเฉียบทั้งขอบด้านข้างและด้านบน จึงจัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นหนึ่งที่ถูกที่สุดในตลาด แต่ได้หน้าจอที่ดีมากๆ
นอกจากนี้ยังมีกล้องเว็บความละเอียด HD และมีไมค์ดิจิตอลในตัว การเชื่อมต่อไร้สายเป็น Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX แบบ MU-MIMO มิติของตัวเครื่อง HP Pavilion Gaming 15 เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คจอขนาด 15.6 นิ้ว ก็มีขนาดเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัดแถมมีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 2.3 กิโลกรัม พกพาง่าย อีกทั้งมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย ประกันก็เป็นแบบ 2 ปี On-site Service ที่ใช้งานได้อย่างสบายใจ เรื่องคุณภาพเสียงและแบตเตอรี่ก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนความร้อนก็จัดการได้เป็นอย่างดี ทำงานได้อย่างไร้กังวลเลย
อย่างไรก็ตามหน้าตาการออกแบบเอง HP Pavilion Gaming 15 รุ่นนี้ ต้องบอกว่ายังคงรูปแบบเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อเทียบกับ Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ แต่ก็ยังได้ความโดดเด่นที่สวยดุดันตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน แต่แตกต่างที่ความเรียบง่ายใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีเขียว โดยฝาหลังของตัวเครื่องมีโลโก้ HP เป็นเอกลักษณ์สีเขียวสะดุดตา ด้านบนประกอบกับพื้นผิวสีดำด้านให้ความรู้สึกเป็น Gaming ที่ดี วัสดุทั้งหมดของตัวเครื่องพลาสติกเกรดดีมองแล้วคล้ายกับโลหะ
Lenovo Legion 5 ราคา 29,990 – 32,990 บาท
เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ สำหรับ Gaming Notebook จากแบรนด์ Lenovo ที่ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen กับรุ่นล่าสุดคือ Ryzen 4000H ที่เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร บนพื้นฐานสถาปัตยกรรม Zen 2 ที่ทั้งร้อนน้อยแต่ทรงพลัง ในราคาค่าตัวที่คุ้มค่าด้วย ที่นอกจากสเปกจะใดใหม่แล้ว ดีไซน์หลักๆ ได้เป็นการต่อยอดรูปแบบตั้งแต่ Legion Y530 จนมาถึง Y540 และใน Legion 5 แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นดีไซน์ที่ลงตัวที่สุดแบบหนึ่ง เพราะทำให้ตัวเครื่องมีช่องระบายความร้อนได้ทั้ง 3 ทิศทาง พอร์ตเชื่อมต่อที่มากกว่าและสามารถใช้ประโยชน์เครื่องจากด้านหลังได้เต็มที่ รวมไปถึงจอภาพที่สามารถกางได้ 180 องศา
อย่างที่บอกไปแล้วว่า Lenovo Legion 5 มาพร้อมกับชิปประมวลผลสุดล้ำอย่าง AMD Ryzen 4000H แบ่งเป็น Ryzen 5 4600H และ Ryzen 7 4800H รุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถตอบสนองการเล่นเกม และการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในราคาที่คุ้มค่ากว่า ในส่วนของการ์ดจอมีให้เลือกทั้ง NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti ที่สามารถตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล พร้อมแรม 8GB DDR4 Bus 3200MHz ได้ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB รองรับการอัพเกรดฮาร์ดดิสค์แบบ 2.5 นิ้ว ภายหลัง
และที่สำคัญคือจอ 15.6 นิ้ว Full HD (1920 x 1080) พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 120Hz / 144Hz รองรับเทคโนโลยี VESA DisplayHDR 400 100% sRGB (สำหรับ 144Hz) และคมชัด สมจริงด้วย Dolby Vision จอจัดเต็มจริงๆ โดยได้คีย์บอร์ดก็ได้อัพเกรทขึ้นกว่าเดิมด้วย Legion TrueStrike keyboard ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้สัมผัสเที่ยงตรง แม่นยำ ทนทาน และรองรับ anti-ghosting ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมไฟ RGB 4 โซน
อัพเกรดระบบควบคุมอุณหภูมิและระบายความร้อน Lenovo Legion Coldfront 2.0 ให้ระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น ผ่านใบพัดโพลีเมอร์คริสตัลเหลว 67 ใบและท่อนำความร้อนแบบทองแดง ทำให้ระบายความร้อนได้รวดเร็วมากขึ้น อีกทั้งยังให้คุณเลือกปรับโหมดได้เองระหว่างโหมดการรักษาอุณหภูมิ Quiet, Balance และ Performance นอกจากนี้ยังสามารถเร่งความแรงได้ด้วยการเปิด Dual Burn เพื่อดัน CPU และ GPU ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดไปพร้อมๆ กัน
สี Phantom Black ดุดัน เบาเพียง 2.3 กิโลกรัม เหมาะแก่การพกพาไปในทุกที่ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง ยืดแบตเตอรี่ให้สามารถเล่นเกมได้นานต่อเนื่องขึ้นด้วยเทคโนโลยี Hybrid Mode, NVIDIA Advanced Optimus นอกจากนี้ยังมีระบบชาร์จเร็ว Rapid Charge Pro และ OverDrive Support รองรับ Intel WiFi 6 และ ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้มิติของเสียงสมจริงมากยิ่งขึ้น การรับประกันเป็นแบบ 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน และมีประกันอุบัติเหตุ 2 ปีอีกด้วย
- Ryzen 7 4800H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 29,990 บาท
- Ryzen 7 4800H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 30,990 บาท
- Ryzen 7 4800H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 32,990 บาท
ASUS TUF Gaming A15 FA506 ราคา 29,900 – 39,990 บาท
ASUS TUF Gaming A15 FA506 มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H / 9 4900H เรียกได้ว่าจัดเต็มมาครบ ผสานกับ APU การ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon 7 / 8 ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 / 1650 Ti / 1660 Ti / RTX 2060 ที่ครบเครื่องสุดๆ แรมได้มาขนาด 8GB – 16GB DDR4 Bus 3200 MHz มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB – 1TB ที่มีความลื่นไหล และความจุใหญ่สะใจไปเลย
โดดเด่นด้วยหน้าจอบางเฉียบขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพดี รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)รวมไปถึงมีลำโพงคุณภาพสูงระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 2 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่อย่าง Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 5.0 พร้อมติดตั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate มาให้ในตัว
น้ำหนักก็อยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก มีความทนทานระดับ Military Grade (MIL-STD-810H) ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้ ส่วนการรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม จัดได้ว่าเป็นมาตรฐานการรับประกันของทาง ASUS ปกติ
- Ryzen 7 4800H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 29,900 บาท
- Ryzen 7 4800H / GTX 1660 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 32,900 บาท
- Ryzen 7 4800H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 32,900 บาท
MSI Bravo 15 ราคา 32,900 บาท
MSI Bravo Sereis ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่เป็น AMD Notebook ที่ใช้ชิปประมวลผล Ryzen 7 4800H และการ์ดจอเป็น AMD Radeon RX5500M มีความแรงท้าชนการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti เลยล่ะ ซึ่งจุดเด่นของ AMD นอกจากความแรงและความร้อนที่น้อยกว่าเพราะใช้สถาปัตยกรรม RDNA ที่ 7 nm เช่นเดียวชิปประมวลผล โดย MSI Bravo 15 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี Refesh Rate ที่ 120 Hz แน่นอนว่ารองรับ FreeSync ให้ภาพไม่ฉีกขาด โดดเด่นด้วยน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัม ขอบจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด
มีที่เก็บข้อมูลเป็นมาตรฐาน SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ทั้งแรงและลื่นไหล ในส่วนของแรมมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB (ใส่แรม ได้ 2 แถว) นับได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ในส่วนของช่องระบายความร้อน มีด้วยกัน 4 ช่องคือด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง โดยใช้พัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 6 – 7 เส้น ตามมาตรฐานของ Cooler Boots ที่สำคัญได้ไฟ LED ที่เป็นแบบสีแดง Single Red
ในเรื่องของการดีไซน์ MSI Bravo 15 เน้นการพกพากว่า Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ในตลาดช่วงราคาเดียวกัน โดยยังคงรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลัง ด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ วัสดุอลูมิเนียมขัดเงาบรัชเป็นเส้นๆ แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่าย พร้อม ด้วยโลโก้นกธันเดอร์เบิร์ดสยายปีกสีเงินมันวาวมินิมอลสุดๆ แตกต่างจาก Gaming Notebook ของ MSI รุ่นอื่นๆ จากโลโก้ฝาหลังด้วยนกธันเดอร์เบิร์ดสยายปีกสีเงินมันวาว สวยดุดันตามสไตล์ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน
ASUS ROG Zephyrus G14 GA401 ราคา 39,900 – 42,900 บาท
ASUS ROG Zephyrus G14 สเปกการ์ดจอ GTX 1650 Ti ซึ่งเป็นสเปกเริ่มต้น มีทั้งรุ่นที่เป็น AniMe Matrix และไม่เป็น ซึ่งจัดว่าเป็นGaming Notebook ปี 2020 หน้าจอ 14″ สุดล้ำ วัสดุฝาหลังเป็นโลหะผ่านกระบวนการขึ้นรูปเจาะ CNC ที่เรียบเนียนสวยงาม พร้อมมีไฟ LED ปรับแต่งได้ ใช้สเปก AMD Ryzen 5 4600HS / Ryzen 7 4800HS ซึ่งเป็นชิปประมวลผลรุ่นใหม่สุดแรงสุด เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร พร้อมการ์ดจอประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti จัดเต็มเลยการเล่นเกมหรือทำงาน เน้นความพรีเมียม บางเบา แบตยาวนาน ทำงานก็ดีเล่นเกมก็ได้ โดยมีน้ำหนักเบาแค่ 1.6 กิโลกรัม เน้นพกพาสะดวกตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดกว่า 15.6″ พอตัว
ส่วนสเปกอื่นๆ ของASUS ROG Zephyrus G14 ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยสามารถติดตั้งแรมมาขนาด 8GB – 16GB Bus 3200 MHz อีกทั้งได้ที่เก็บข้อมูลมาเป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB สำหรับหน้าจอเป็นขนาด 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS เกรดสูง sRGB เกือบ 100% แสดงผล Refresh Rate ที่ 120Hz ลื่นไหล แน่นอนว่ามาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้ได้ทันที อีกทั้งมีปุ่ม Power ทำหน้าที่ Fingerprint ด้วย ได้ประกันก็เป็น 2 ปีตามาตรฐาน ASUS ที่สามารถเคลมผ่านทางร้าน 7-11 ได้ และประกันอุบัติเหตุในปีแรกด้วย
นอกจากนี้รายละเอียดอื่นๆ ของ ASUS ROG Zephyrus G14 ก็จะมีระบบเสียง Dolby Atmos ลำโพงเป็น 2.2 Channel พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 2 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 2 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 และชาร์จไฟผ่านทาง USB PD ได้ ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่อย่าง Intel Wi-Fi 6 with Gig+ (802.11ax) และ Bluetooth 5.0 พร้อมติดจั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate มาให้ในตัว โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือไม่ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมมา ถ้าใครจะใช้ต้องหามาติดตั้งเอง และจากกการทดสอบใช้งานแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดกว่า 10 ชั่วโมงโดยประมาณ
ASUS ROG Zephyrus G14 อยู่บนพื้นฐานการออกแบบของตระกูล ROG ที่เน้นสายเกมเมอร์สายพกพาบางเบาที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ รวมไปถึงพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งจากฟีเจอร์ ดีไซน์และสเปกแรงล้ำกว่าที่เคยมีมาทั้งหมด รวมไปถึงหน้าจอมีขนาด 14″ แบบขอบจอบาง แต่ตัวเครื่องเทียบเท่า 13.3″ เท่านั้น ทำให้ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น ส่วนช่องระบายความร้อนมีทั้งหมด 4 ช่อง เป่าออกใต้หน้าจอ 2 ช่อง และด้านขวาซ้ายอีกอย่างละ 1 ช่อง พัดลม 2 ตัว แบบ 81 ใบ ที่ทรงพลังนำพาความร้อนออกได้เป็นอย่างดี ร้อนที่สุดจากการทดสอบไม่เกิน 90 องศาเซลเซียสเท่านั้นสำหรับ CPU
สำหรับฟีเจอร์ AniMe Matrix ที่ติดตั้งไว้ที่ฝาเครื่องด้านนอกเป็นเครื่องแรกของโลก เป็นฟีเจอร์ที่ล้ำไม่ซ้ำใครจริงๆ ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของ G14 สามารถปรับแต่งได้ในแบบของคุณเอง จอ LED ที่ทันสมัยนี้ประกอบด้วย ไฟ LED มากมายเพื่อใช้แสดงภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในคุณภาพที่เรากำหนดได้เองผ่านทาง Armory Crate เพื่อเป็นการแสดงความคิดสร้างสรรค์ของภาพและเสียงที่ตรงใจผู้ใช้งาน และในอนาคตจะมีการอัพเดทที่น่าตื่นเต้น ซึ่งจะแสดงข้อความแจ้งเตือนต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นแสดงสถานะแบตเตอรี วันที่ เวลา อีเมล และอื่นๆ ได้อีกด้วย
- Ryzen 7 4800HS / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS 120Hz ราคา 39,900 บาท
- Ryzen 7 4800HS / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS 120Hz / AniMe Matrix ราคา 42,900 บาท
- Ryzen 9 4900HS / RTX 2060 / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 14″ IPS QHD / AniMe Matrix ราคา 64,900 บาท
สำคัญ ! โปรดอ่านโดยละเอียด
– RYZEN GAME BUNDLE มีจำนวนจำกัด
ขอสงวนสิทธ์จบโปรโมชั่น หากเกมหมดก่อนระยะเวลาที่ได้แจ้งไว้
– สงวนสิทธ์รับแลก เฉพาะผู้ที่ซื้อสินค้าตามเงื่อนไขเท่านั้น
– หากพบการปลอมแปลงหลักฐาน หรือการกระทำที่ผิดเงื่อนไขโปรโมชั่น ทีมงานขอสงวนสิทธ์เรียกคืนค่าปรับตามมูลค่าของเกมที่ได้รับ
– RYZEN GAME BUNDLE เป็นโปรโมชั่นส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้า AMD ตามเงื่อนไขเท่านั้น หากมีการนำไปจำหน่ายแก่ผู้อื่น หรือ ทำผิดเงื่อนไขของโปรโมชั่น และ ทำให้ไม่สามารถรับเกมได้ ทางเอเอ็มดีไทยแลนด์ขอสงวนสิทธ์ไม่รับผิดชอบทุกกรณี