Notebook น่าซื้อหน้าจอ 15.6″ รุ่นใหม่ ช่วงกลางปี 2020 มีราคาที่ถูกคุ้มค่ามากมาย แน่นอนว่ามาพร้อมประสิทธิภาพที่เหลือเฟือในการทำงานพื้นฐาน ซึ่งส่วนมากในตลาดจะมีช่วงหลายช่วงราคา เหมาะกับคนที่ต้องการ Notebook ใช้งานพื้นฐาน อาทิ ใช้เรียนออนไลน์ หรือพิมพ์งานเอกสาร Word, Excel, Power Point เล่นอินเตอร์เน็ตออนไลน์ อีกทั้งมีรุ่นที่เน้นในเรื่องของความแรงทั้งในการทำงานหรือเล่นเกม 3 มิติพอได้ด้วย
รวมไปถึงนำไปดูหนังฟังเพลง ชมวีดีโอสตรีมมิ่งต่างๆ อาทิ Youtube หรือ Netflix ดูซีรีส์ต่างช่องทางต่างๆ ซึ่งเอาจริงๆ Notebook ในงบเริ่มหมื่นบาทนิดๆ แม้ประสบการณ์อาจจะไม่ยอดเยี่ยมเท่ากับตัวแพงๆ ที่มีราคาหลายหมื่นบาท แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ที่สำคัญบางรุ่นให้โปรแกรม Microsoft Office แท้ มูลค่า 4,299 บาท อันนี้จัดว่าคุ้มค่าสุดๆ
ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Notebook ทำงานน่าซื้อ จอ 15.6″ รุ่นใหม่ เน้นพกพาเบาสุด 1.6 โล ใช้ทำงานราคาไม่แพง สเปกแรงลื่น เน้นรองรับการทำงานพื้นฐาน หรือบางรุ่นทำงานหนักๆ ได้ด้วย พร้อมรองรับการทำงานหรือความบันเทิงขั้นพื้นฐานได้ด้วย บนขนาดหน้าจอ 15.6″ ความละเอียด Full HD ซึ่งมีเลือกทั้งสเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10U / AMD Ryzen 3000U, 4000U กับช่วงราคาหมื่นบาทต้นๆ จนไปถึงไม่เกิน 30,000 บาท
ได้หน่วยความจำแรมขนาด 4GB – 8GB – 16GB พร้อมด้วยที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความ 512GB – 1TB ที่รวดเร็วลื่นไหล แน่นอนว่ามีระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ และการเชื่อมต่อที่ครบครันทั้งไร้สายและมีสาย น้ำหนักตัวเครื่องเบาสุดที่ 1.6 กิโลกรัม ประกันเป็นแบบ 2 ปี และดีที่สุดจะเป็น On-site ซ่อมฟรีถึงบ้าน หรือปีแรกมีประกันอุบัติเหตุด้วย ซึ่งจะมีรุ่นอะไรบ้าง ไปชมกันต่อเลย
MSI Modern 15 ราคา 25,900 – 28,900 บาท
MSI Modern 15 จัดว่าเป็น Notebook สายทำงานบางเบาหน้าจอ 15.6″ ราคาไม่แพงในปี 2020 รุ่นล่าสุดทาง MSI ซึ่งนับว่าเป็นรุ่นพี่ของ MSI Modern 14 ตอบสนองการใช้งานได้เต็มที่ด้วยหน้าจอใหญ่ แต่มาในน้ำหนักตัวเครื่องที่เบามากๆ เพียง 1.6 กิโลกรัม เน้นพกพาใช้งานสะดวกพร้อมประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ตัวแรงอย่าง i5-10210U / i7-10510U และมีการ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeFroce MX 330 ได้แรมขนาด 16GB พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ใช้งานพื้นฐานได้ลื่นสบายๆ หรือถ้าเอาไปทำงานหนัก รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ออนไลน์ก็ยังเอาอยู่ โดดเด่นแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 13 ชั่วโมง
MSI Modern 15 ตั้งใจตอบโจทย์สายคนทำงาน Content Creator โดยเฉพาะ ที่นอกจากสเปกที่ดีแล้ว งานดีไซน์และงานประกอบก็ลงตัว แลดูทันสมัยและแตกต่างจาก MSI แบบเดิมๆ พร้อมกางหน้าจอได้ 180 องศา และมีฟีเจอร์พิเศษ Flip-n-Share ช่วยกลับหน้าจอไปฝั่งตรงข้ามได้ ช่วยในกรณีที่นำเสนองาน ขอบหน้าจอก็มีความบางมากๆ แทบจะไร้ขอบทีเดียว อีกทั้งด้วยที่เป็นพาเนล IPS คุณภาพดี ช่วยให้มุมมองในการมองเห็นเพิ่มมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าทั้งสเปก ฟีเจอร์ วัสดุ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาหลายๆ ค่ายในราคาเริ่มเพียง 25,900 บาท อีกทั้งยังได้มาตรฐานทนทานอย่าง Military Grade ด้วย
MSI Modern 15 เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คสำหรับมืออาชีพประจำปี 2020 ได้หน้าจอขนาด 15.6″ สุดบางเฉียบ ดีไซน์สวยงามทนทาน ที่มีจุดเด่นเรื่องความบางเบา และมีประสิทธิภาพเยี่ยมด้วย Core i Gen 10 ทำให้กลายมาเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดกระทัดรัด มาพร้อมกับไฟคีย์บอร์ดสีขาว ทัชแพดก็มีขนาดที่ใหญ่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยที่วัสดุตัวเครื่องจะทำมาจากอลูมิเนียม และมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม เบามากๆ แบตเตอรี่ก็ยาวนาน เหมาะกับการพกพาสุดๆ รองรับกับทุกๆ การทำงาน อย่างงานเอกสารทั่วไป และ Digital Content Creator ต่างๆ เติมเต็มประสบการณ์ในด้านการสร้างสรรค์ผลงานได้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงความบันเทิงอย่างดูหนังฟังเพลง และวีดีโอสตรีมมิ่งอย่าง Youtube / Netflix ด้วย
ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็ครบครันด้วย Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 5.0 ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็มีทุกรูปแบบเป็นมาตรฐานที่รองรับกับทุกอุปกรณ์อีกด้วย ที่สำคัญมีซอฟต์แวร์ Creator Center ช่วยปรับแต่งการทำงาน พร้อมการรับประกัน 1 ปี ตามมาตรฐานของ MSI รวมถึงในชุดจัดจำหน่ายยังมี Softcase ซองหนังไว้ให้เราใช้งานร่วมกันเวลาพกพากับกระเป๋าอื่นๆ ที่ไม่มีช่องใส่โน๊ตบุ๊คอีกด้วย ฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการเลือกใช้ให้มีความเข้ากันอย่างที่สุด กับพื้นผิวส่วนของฝาหลังและตัวเครื่องเป็นลักษณะแบบด้าน พร้อมกับใช้สีเงิน Space Grey พื้นผิวแบบบปัดเสี้ยน ให้สัมผัสโลหะสุดๆ
- Core i5-10210U / MX 330 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS ราคา 25,900 บาท
- Core i7-10510U / MX 330 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS ราคา 28,900 บาท
ASUS VivoBook S15 D533 ราคา 20,990 – 23,990 บาท
สำหรับ ASUS VivoBook S15 D533 ก็จะมีรายละเอียดของตัวเครื่องไม่ต่างกันมาก รวมไปถึงสีสันตัวเลือกเหมือนกัน ASUS VivoBook 14 D413 แต่หลักๆ แล้วคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ที่มีหน้าจอที่ใหญ่กว่า ซึ่งได้ขอบหน้าจอบางเฉียบเหมือนกัน รวมไปถึงสเปกที่เป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series อย่าง Ryzen 4500U / Ryzen 7 4700U ได้การ์ดจอออนชิปเป็น Radeon RX VEGA 6 / 7 รุ่นใหม่แรงลื่นใกล้เคียงการ์ดจอแบบแยก อีกทั้งได้แรม 8GB DDR4 Bus 3200MHz พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรด HDD 2.5″ SATA 3) แต่ก็จะมีขนาดและมิติที่ใหญ่กว่า โดยหนักที่ 1.8 กิโลกรัม และบางที่ 16.1 ซึ่งก็ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่บางเบาพกพาสะดวกอยู่
ที่สำคัญ ASUS VivoBook S15 D533 ยังติดตั้งมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ด้วย ASUS VivoBook S15 D533ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type-A จำนวนหนึ่งพอร์ตไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีกสองพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้อีกหนึ่งพอร์ต ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แน่นอนว่าได้ Windows 10 ใช้งานทันที และโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ด้วย
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง Harman Kardon ให้เสียงที่ดีกว่าลำโพงทั่วไป มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนักบางๆ ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี คาดว่าในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
- Ryzen 5 4500U / VEGA 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 60 Hz ราคา 20,990 บาท
- Ryzen 7 4700U / VEGA 7 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 60 Hz ราคา 23,990 บาท
Lenovo IdeaPad Slim 3 15 ราคา 15,490 บาท
Lenovo IdeaPad Slim 3 15 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ประจำปี 2020 ดีไซน์บางเบา Thin & Light วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี มองไปคล้ายกับโลหะใีพื้นผิวเรียบเนียนจับแล้วติดมือ ได้ขอบจอบาง Narrow Bezel ทั้ง 3 ด้านซ้ายขวาและขอบบน ทำให้มีสัดส่วนจอแสดงผลเยอะกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ ๆ แบบก่อน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง แต่ได้ความสวยงามคุ้มค่า ซึ่งขอบจอด้านในเป็นสีดำตัดกับสีตัวเครื่องโดยรวมอย่าง Platinum Grey ดูแล้วมีความสวยงามลงตัว เครื่องบางเพียง 19.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักที่ 1.85 กิโลกรัมเท่านั้น รวมไปถึงมิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ด้วย
ได้สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series พร้อมขายในไทย มีราคาที่ถูกสุดๆ ที่ 15,490 บาท ด้วย AMD Ryzen 5 4500U (2.30 GHz up to 4.00 GHz, 8 MB L3 Cache) ทำงานแบบ 6 คอร์ 6 เธร์ด การ์ดจอออนชิป Radeon RX Vega 6 ประสิทธิภาพดีขึ้น รองรับการเล่นเกมออนไลน์พอได้ แรมให้มาขนาด 8GB DDR4 สำหรับฮาร์ดดิสก์ให้มาทั้ง SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ความจุ 256GB เรียกได้ว่าได้ประสิทธิภาพการทำงานได้ดีเยี่ยมแน่นอน
ส่วนหน้าจอเป็นขนาด 15.6″ ที่ได้ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพดี พร้อมมีลำโพงคุณภาพดีทำงานร่วมกับระบบเสียง Dolby Audio ส่วนพอร์ตที่ให้มาก็ครบครัน ได้แก่ 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 3.1 Type-A, HDMI, และ SD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 5 (802.11ac) และ Bluetooth 4.2 ด้วย รองรับการทำงานทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเบาๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานได้ทันที และโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ด้วย การรับประกัน 2 ปี
ASUS M509DA ราคา 12,900 บาท
ASUS M509DA ได้ดีไซน์บางเบา Thin & Light ขอบจอบางเฉียบ NanoEdge ทั้ง 4 ด้าน สัดส่วนจอแสดงผล 82.5% เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง แต่ได้ความสวยงามคุ้มค่า ที่จะมาพร้อมกับโมเดลที่มีการปรับเปลียนดีไซน์ใหม่ทั้งหมดจาก M Series รุ่นก่อนๆ มาพร้อมสีสันสวยงาม ซึ่งขอบจอด้านในจะตัดเป็นสีดำดูแล้วมีความสวยงามลงตัว ตามสไตล์ของ ASUS ที่มีความเป็นลักษณะเฉพาะตัว จัดได้ว่า ASUS M509DA เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่ทำมาได้สวยดูดีเกินราคา มีความเรียบง่ายเน้นพกพา ด้วยน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัม รวมไปถึงมิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ เท่านั้น รองรับการทำงานทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเบาๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานได้ทันที
สเปกภายในใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด AMD Ryzen 3 3250U ทำงานแบบ 2 คอร์ 4 เธร์ด การ์ดจอออนบอร์ด VEGA 3 ประสิทธิภาพดี แรมให้มาขนาด 4GB DDR4 แบบฝังบอร์ด โดยติดตั้งได้สูงสุดที่ 12GB (แนะนำให้ใส่เพิ่มอีก 4GB รวมเป็น 8GB) สำหรับที่เก็บข้อมูลให้มาเป็นมาตรฐาน SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ความจุ 512GB ส่วนหน้าจอเป็นขนาด 15.6″ ที่ได้ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพดี มีลำโพงคุณภาพทำงานร่วมกับระบบเสียง ASUS SonicMaster ส่วนพอร์ตที่ให้มาก็ครบครัน ได้แก่ USB 3.1 Type-C, USB 3.1 Type-A , USB 2.0 Type-A, HDMI, และ microSD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 4.2 ด้วย สนนราคาล่าสุดเพียง 12,900 บาทเท่านั้น ได้ประกันเป็นแบบมาตรฐาน 2 ปี ปีแรกได้ประกันอุบัติเหตุด้วย
ASUS M509DA เน้นตอบโจทย์คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ เรียนออนไลน์ ที่มีบางเบาหน่อย เน้นใช้งานนอกสถานที่ในราคาที่ไม่สูงมาก แต่ได้ประสิทธิภาพแรงเกินคุ้มค่า รองรับการทำงานพื้นฐานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทำงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลงดูซีรีส์สตรีมมิ่งต่างๆ เหมาะสำหรับคนหาโน๊ตบุ๊คคุ้มๆ ไม่แพง งบแค่หมื่นบาทต้นๆ มาพร้อมสีสัน 2 เฉดสี ไม่ว่าจะเป็น สีเงิน (Transparent Silver) และสีเทา (Slate Grey) ซึ่งขอบจอด้านในจะตัดเป็นสีดำดูแล้วมีความสวยงามลงตัว ตามสไตล์ของ ASUS ที่มีความเป็นลักษณะเฉพาะตัว วัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดีน่าประทับใจพร้อมกางจอได้สูงสุดที่ 145 องศา ขอบจอตัวเครื่องก็บางมากๆ ดูแล้วลดขนาดตัวเครื่องลงไปได้เยอะเลยทีเดียว ยิ่งใส่กระเป๋าเดินทางไปไหนมาไหนสบายๆ
Lenovo IdeaPad Slim 3 15 ราคา 13,190 บาท
Lenovo IdeaPad 3 15 เป็นโน๊ตบุ๊คเน้นทำงานเป็นหลัก ได้สเปก Intel Core i Gen 10 (Comet Lake) ที่คุ้มค่าใช้งานได้ลื่นไหล ออกแบบมาให้ใช้งานได้ในทุกๆ วัน รวมไปถึงเรียนออนไลน์ ในราคาถูกที่สุดที่ 13,190 บาท ได้ Windows 10 และ Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปฟรีๆ มีเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ที่เบาและมีสไตล์ Lenovo เหมาะสำหรับการใช้งานไปนู้นมานี่เน้นตอบโจทย์คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบาหน่อย รูปลักษณ์ดูดีเกินกว่าค่าตัว เน้นใช้งานนอกสถานที่ ในราคาที่ไม่แพง โดยรองรับการทำงานพื้นฐานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทำงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลงดูซีรีส์สตรีมมิ่งต่างๆ เป็นต้น
สำหรับ Lenovo IdeaPad Slim 3 15 เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้า 15.6″ ความละเอียด Full HD ได้สเปกใหม่ล่าสุดอย่างชิปประมวลผล Intel Core i3-1005G1 ที่ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Core i Gen 8 U รุ่นก่อนๆ แรมขนาด 4GB (แนะนำว่าถ้าอัพเกรดเป็น 8GB จะดีมากๆ) และ SSD M.2 NVMe 512GB โดยมีความเบาเพียง 1.7 กิโลกรัม เรียกได้ว่าสำหรับคนที่ต้องการโน้ตบุ๊ตหน้าจอใหญ่งบหมื่นกว่าบาท เน้นนำมาใช้งานลื่นไหล แรงลื่นทุกๆ การใช้งาน ก็มีความน่าสนใจทีเดียว โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
ที่แม้ขอบจอจะบางเฉียบแต่ก็ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมไว้ด้านบนเหมือนเดิม ที่สำคัญยังมาพร้อมฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น พร้อมมีลำโพงคุณภาพดีทำงานร่วมกับระบบเสียง Dolby Audio ส่วนพอร์ตที่ให้มาก็ครบครัน ได้แก่ 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 3.1 Type-A, HDMI, และ SD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 5 (802.11ac) และ Bluetooth 4.2 ด้วย รองรับการทำงานทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเบาๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานได้ทันที พร้อมการรับประกัน 2 ปี
Lenovo IdeaPad Slim 3 15 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ดีไซน์บางเบา Thin & Light วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี มองไปคล้ายกับโลหะใีพื้นผิวเรียบเนียนจับแล้วติดมือ ได้ขอบจอบาง Narrow Bezel ทั้ง 3 ด้านซ้ายขวาและขอบบน ทำให้มีสัดส่วนจอแสดงผลเยอะกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ ๆ แบบก่อน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง แต่ได้ความสวยงามคุ้มค่า ซึ่งขอบจอด้านในเป็นสีดำตัดกับสีตัวเครื่องโดยรวมอย่าง Platinum Grey ดูแล้วมีความสวยงามลงตัว เครื่องบางเพียง 19.99 มิลลิเมตร รวมไปถึงมิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ด้วย
HP 15s ราคา 13,900 บาท
HP 15s เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มาพร้อมความคุ้มค่า แต่ก็ยังได้ดีไซน์ที่สวยงามเกินราคา เลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10U (Ice Lake) ที่ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ 10 นาโนเมตร ที่เล็กลงและดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ตัวเครื่องบางเบาออกแบบมาใหม่ ดูสวยงามไม่แพ้รุ่นพี่ตัว Pavilion และเน้นในเรื่องของความคุ้มค่า ราคาไม่แพงเป็นหลัก มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบามากเพียง 1.69 กิโลกรัม และบางเพียง 17.9 มิลลิเมตรเท่านั้น เหมาะกับสายการทำงานหรือบันเทิงที่เน้นการพกพาไปนอกสถานที่ อาจจะใช้งานตามออฟฟิศหรือร้านกาแฟแบบชิคๆ คูลๆ ได้ความหรูหราโดดเด่นไม่น้อยหน้าใครในราคาเบาๆ ด้วย
ซึ่งในตลาดตอนนี้มีให้เลือกทั้ง Intel Core i3-1005G1 พร้อมการ์ดจอออนชิปตัวใหม่ ที่สำคัญยังมีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีด้วย แรม 4GB (แนะนำว่าถ้าอัพเกรดเป็น 8GB จะดีมากๆ) และได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 256GB + Optane 16GB อีกด้วยได้หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้าน พาเนล TN คุณภาพดี ความคมชัดสูง มีกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลในตัว สนนราคาเพียง 13,900 บาท ได้ Windows 10 พร้อมประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ทางด้านพอร์ตที่ติดตั้งมีมาให้จะใช้ถือว่าครบครันเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C จำนวน 1 ช่อง, SD Card Reader, HDMI สำหรับต่อหน้าจอเสริม และรูหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ ซึ่งแน่นอนว่ารองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac (1×1) กับ Bluetooth 4.2 ทำงานต่อเนื่องยาวนานเกือบ 10 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต)
ดีไซน์การออกแบบของ HP 15s รุ่นปี 2020 วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด (มองไปคล้ายโลหะมากๆ) เน้นไปที่ความเรียบง่าย จัดว่าพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นก่อนๆ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น HP อยู่อย่างชัดเจน สีสันเป็นสีเงิน Natural Silver ตลอดทั้งตัวเครื่อง จะเป็นพลาสติกทั้งหมดแต่งานประกอบแน่นหนา ฝาหลังเป็นแบบเรียบๆมีโลโก้ HP สีเงินมันวาวดูหรูหรา พื้นผิ้วติดมือทำให้เวลาจับไม่ลื่น แกนฝาพับก็เป็นแบบแกนเดียวขนาดใหญ่ ส่วนตัวบอดี้บริเวณคีย์บอร์ดจะเรียบๆ เช่นกัน ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่มุมบนซ้ายด้านบนของคีย์บอดร์ด
ASUS VivoBook S15 S531 ราคา 24,900 – 29,900 บาท
ASUS VivoBook S15 S531 รุ่นปี 2020 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานหรือความบันเทิงรูปแบบ Thin & Light อย่างแท้จริง ที่จะเน้นเรื่องของความบางเบาและสวยงามเป็นหลัก พร้อมความหรูหราที่ดูดียิ่งกว่ารุ่นราคาใกล้เคียงกัน โดยเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ให้ความไลฟ์สไตล์เหมาะทั้งนักเรียนนักศึกษาและคนทำงาน สเปคคุ้มๆ ที่จะมาพร้อมกับสีสันทั้ง 5 สีสัน โดยมีราคาที่ 24,990 – 29,990 บาท สำหรับรุ่นสเปก Core i5-10210U และ Core i7-10510U มาพร้อมสีสัน 5 เฉดสีที่แตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นสีเงิน (Transparent Silver) ที่นำมารีวิว, สีชมพู (Punk Pink), สีดำ (Gun Metal), สีเขียว (Moss Green) และ สีน้ำเงิน (Cobalt Blue) ซึ่งขอบจอด้านในจะตัดเป็นสีดำดูแล้วมีความสวยงามลงตัว
สเปกภายในของตัว ASUS VivoBook S15 S531 แน่นอนว่าเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 U โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6″ ขอบหน้าจอบางพิเศษ NanoEdge ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX250 2GB GDDR5 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ ใกล้เคียง GTX 950M สเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจด้วยแรม 8GB พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB
มาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.85 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call และมี 3D IR Camera ไว้ใช้งาน Login ผ่านทาง Windows Hello บนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ที่มีมาให้อยู่แล้ว พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ ASUS ที่สามารถส่งเคลมผ่านทาง 7-11 ได้ รวมถึงถ้าลงทะเบียนในเว็บไซต์ ปีแรกจะมีประกันอุบัติเหตุมาให้ด้วย
ดีไซน์โดดเด่นด้วยสีสันสดใสโดดเด่นรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอะลูมิเนียมตามสีของตัวเครื่อง ซึ่งพิเศษตรงที่ ASUS VivoBook S15 S531 จะได้ขอบหน้าจอด้านข้างที่มีการซ้อนสีกันอย่างลงตัวประกอบกับชิ้นส่วนใต้ตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ฝาหลังจอที่เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยที่ดูแข็งแรงและสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามีโลโก้ ASUS VivoBook อย่างโดดเด่น ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.8 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 1.85 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ปี 2020