ตลอดเวลาที่ผ่านมาคงต้องยอมรับว่า Notebook นั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากประสิทธิภาพการใช้งานถือว่ารองรับการใช้งานทั่วๆ ไปได้แทบไม่แตกต่างจากคอมพิวเตอร์พีซีแบบตั้งโต๊ะเลย อีกทั้งยังมีจุดเด่นในเรื่องของสามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกสบายและตลอดเวลา ฉะนั้นถ้าใครคิดว่าจำเป็นต้องพกพาคอมพิวเตอร์ไปใช้งานที่อื่นๆ นอกเหนือจากที่บ้านด้วย แน่นอนโน๊ตบุ๊คคือคำตอบที่ชัดเจน
การทำงานจริงๆ จังๆ นั้น ในส่วนของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต คงไม่สามารถมาใช้งานแทนที่คอมพิวเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์ จึงทำให้ใครก็ตามที่ยังต้องใช้งานที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตเป็นประจำ หรือคนที่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมสำนักงานอย่าง Microsoft Office รวมไปถึงคนที่ต้องการประสบการณ์ความบันเทิงในการดูหนังฟังเพลงเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานออฟฟิศ คนทั่วไป หรือบรรดานักเรียนนักศึกษา ก็คงต้องพึ่งพา Notebook เหมือนเดิมอยู่ดี
ซึ่งในปี 2020 ถ้าใครติดตามราคาและสเปคของโน๊ตบุ๊คในตลาดตอนนี้ก็จะพบว่า ราคาเริ่มต้นของ Notebook นั้นไม่ได้แพงเลย เรียกได้ว่าใครๆ ก็สามารถซื้อมาใช้งานจับต้องกันได้ โดยถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนบางตัวบางรุ่น ก็ยังถือว่าถูกกว่าด้วยซ้ำ เพราะมีราคาเริ่มต้นไม่ถึงหมื่นบาทหรือหมื่นบาทต้นๆ เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามถ้าว่ากันตามเป็นจริง ใช่ว่าด้วยราคาที่แสนถูกของ Notebook จะทำให้มีความน่าซื้อมาใช้งานเสมอไป กับรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน
เนื่องด้วยความจริงแล้วแต่คนนั้นใช้งานคอมพิวเตอร์ไม่เหมือนกัน บทความนี้เราเลยมานำเสนอถึง 5 เหตุผลที่ไม่ควรซื้อ Notebook ราคาถูก (เกินไป) จนใช้งานไม่ได้ ตามลักษณะงานที่อาจจะต้องการมากกว่าการใช้งานพื้นฐานทั่วไป เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้ซื้อ Notebook ที่ตรงความต้องการ โดยที่ไม่เน้นรุ่นถูกหรือราคาไม่แพงเป็นหลัก โดยไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นราคาสูงๆ ก็ได้ ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็นดังนี้
1. ประสิทธิภาพไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
ก็ด้วยราคา Notebook ไม่เกิน 10,000 บาทนั้น ไม่ได้รองรับการทำงานที่หลากหลายมากมายอย่างที่หลายๆ คนคิดเอาไว้ แม้ว่าในเรื่องของประสิทธิภาพความแรงของชิปประมวลผลหรือการ์ดจอจะไปไกลแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับโน๊ตบุ๊คราคาถูกๆ แต่อย่างใด เพราะด้วยสเปคชิปประมวลผลที่เป็นเพียง Intel Celeron / Pentium หรือ AMD A Series / Athlon เท่านั้น
และแรมก็ติดเครื่องมาเพียง 4GB เรียกได้ว่าเล่นอินเตอร์เน็ตพิมพ์งานพอไหว แต่ถ้าเปิดหลายๆ หน้าต่างหลายๆ โปรแกรมก็จะมีอาการค้างเหมือนกัน ซึ่งถ้าใครเล็งๆ ไว้ว่าจะซื้อมาเล่นเกมหรือทำงานจริงๆ จังๆ แล้วล่ะก็ แนะนำให้เพิ่มงบไปดูช่วงราคาหมื่นบาทกลางๆ ขึ้นไปจะดีกว่า
2. มีในเลือกหน้าจอ 14″ และพาเนล TN เท่านั้น
ด้วยความที่ว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ นั้นเป็นขนาดมาตรฐานทั่วไปที่ผู้คนใช้กันโดยมาก จากการที่ว่าหน้าจอไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป และน้ำหนักไม่มากจนขนาดที่จะแบกไปไหนไม่ไหว ทำให้ในส่วนของโน๊ตบุ๊คราคาถูกเกือบ 100% จะมีแต่โน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ ให้เลือกซื้อเท่านั้น ส่งผลให้ใครอยากได้ขนาดจอที่เล็กหรือใหญ่กว่านี้ อีกทั้งพาเนลก็เป็นเพียง TN ที่สีสดใสและมุมมองไม่ดีเท่ากับ IPS
ส่งผลให้จำเป็นต้องเพิ่มงบในการซื้อไปเลือกรุ่นที่แพงกว่าอยู่ดี ซึ่งอาจจะทำให้ได้โน๊ตบุ๊คการ์ดจอแยกที่รองรับการเล่นเกม ไม่ก็ Ultrabook ที่บางเบาไปเลย หรือถ้าใครจะซื้อโน๊ตบุ๊คช่วงราคาไม่แพงนี้มาใช้งาน ก็ต้องทนกับขนาดที่ไม่ตรงกับความต้องการของเรา ไปจนตลอดอายุขัยของมัน
3. ไม่ OS มาให้ ต้องซื้อ Windows เองต่างหาก
ราคาค่าตัวแค่นี้ บางรุ่นอาจจะไม่ได้ติดตั้ง Windows แท้จากโรงงานมาให้หรอก ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องปกติที่คนจะซื้อโน๊ตบุ๊คงบช่วงหนึ่งหมื่นบาทต้องยอมรับกันให้ได้อยู่แล้ว เพราะหลังจากที่ซื้อโน๊ตบุ๊คไปก็ต้องเตรียมจ่ายเงินกับการซื้อ Windows แท้อยู่ดี คิดเป็นเงินก็ตกประมาณ 3,000 – 4,000 บาท (หรือถ้าใครจะไปติดตั้ง Windows เถื่อนอันนี้ก็แล้วแต่ ซึ่งมันไม่ถูกต้องเท่านั้นเอง)
ทำให้วิเคราะห์ได้ว่าถ้าจะให้ดีที่สุดกับคนที่ต้องการ Windows แท้ที่พร้อมใช้งานทันทีหลังจากที่ซื้อมาก็ควรซื้อโน๊ตบุ๊คที่ราคาสูงขึ้นมาซักหน่อยก็จะได้ Windows แท้แล้ว ส่วนตรงนี้ก็แล้วแต่สะดวกของแต่ละคน แต่จะว่าไปแล้วก็น้อยรุ่นมากๆ แล้ว สำหรับ Notebook ที่มี OS มาให้จากโรงงาน (ก็ยังพอมีอยู่บ้างเล็กน้อย)
4. ไม่มีฟีเจอร์โดดเด่นอะไรเลย
สำหรับใครก็ตามที่หาโน๊ตบุ๊คที่มีความโดดเด่นหรือเหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป ในช่วงราคาหนึ่งหมื่นบาท ก็ต้องบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะตัวโน๊ตบุ๊คในราคาระดับนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานที่หลากหลายหรือเฉพาะทางได้ดีนัก หลักๆ แล้วก็เป็นเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่ติดตั้งหน้าจอ คีย์บอร์ด และฮาร์ดแวร์ส่วนอื่นๆ มาประกอบกันเท่านั้น
แน่นอนว่าใครจะหาหรือคาดหวังความเป็น Gaming Notebook ที่แรงด้วยการ์ดจอและซีพียูหรือระบบภาพสวยงามระบบลำโพงไพเราะ รวมไปถึง Ultrabook บางเบาแค่ 1 กิโลกรัมและใช้งานได้ 7 ชั่วโมง ในราคาหมื่นบาทคงจะไม่มี เรียกได้ว่าแค่เปิดเครื่องเข้าอินเตอร์เน็ตได้ใช้งานพื้นฐานได่ก็สมราคามันแล้ว
5. ตัวเครื่องวัสดุเป็นเพียงพลาสติกธรรมดา หน้าตาพื้นๆ
คงจะคาดหวังมากไปจริงๆ สำหรับหลายคน กับงานประกอบของโน๊ตบุ๊คราคาถูกระดับหมื่นบาทที่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วจะใช้เป็นเพียงวัสดุพลาสติกเกรดธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าคงให้ประสบการณ์ใช้งานได้ไม่เทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คราคาแพงหรือระดับสูงที่เลือกใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมหรือแม็กนีเซียมอัลลลอยด์ ซึ่งนอกจากหรูหราแล้วยังดูทนทานด้วย
ประกอบกับดีไซน์ของโน๊ตบุ๊คราคาถูกนั้นก็จะมีรูปลักษณ์หน้าต่างที่พื้นฐานทั่วไป เรียกได้ว่ามีความสวยงามแบบเรียบง่ายไม่ได้โดดเด่นอะไร ส่งผลให้หลายๆ คนอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมจริงๆ (ส่วนมากก็คงเฉยๆ ไม่ถึงขั้นไม่ชอบ) อย่างไรก็ตามถ้าขยับงบขึ้นมาอีกเล็กน้อย บางรุ่นก็อาจจะได้เป็นโลหะ หรือพลาสติกที่คล้ายโลหะก็เป็นไปได้
สรุปคือ 5 เหตุผลที่ไม่ควรซื้อ Notebook ราคาถูก (เกินไป) จนใช้งานไม่ได้ นั้นก็เป็นเพราะว่า โน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นๆ อาจจะไม่ต้อบโจทย์การใช้งานหรือไลฟ์สไตล์ของเราก็เป็นไปได้ เกรงว่าซื้อมาใช้งานแล้วจะเสียอารมณ์เปล่าๆ ที่ถึงแม้ว่าในการซื้อโน๊ตบุ๊คระดับสูงหรือราคาแพงๆ นั้น ยังดูมีแนวโน้มที่คุ้มค่ากว่า ด้วยความที่มันสามารถตอบสนองความต้องการของเราได้อย่างสมบูรณ์
ตัวอย่างเช่น โน๊ตบุ๊คราคา 40,000 บาท ยังไงก็ประมวลหรือเล่นเกมได้ดีกว่า โน๊ตบุ๊คราคาหมื่นบาท 4 เครื่องรวมกัน รวมไปถึง Ultrabook ที่บางเบาพกพาง่ายราคา 30,000 บาท ยังไงก็คงมีน้ำหนักที่เบาและประสิทธิภาพดีกว่าโน๊ตบุ๊ค 30,000 บาทอย่างแน่นอน ฉะนั้นอยากให้ซื้อโน๊ตบุ๊คที่การใช้งานหรือความต้องการเป็นหลัก ไม่ใช่ซื้อเพราะว่าเน้นถูกๆ เพียงอย่างเดียวนะครับ ไม่งั้นได้เสียอารมณ์เป็นแน่