สำหรับ Notebook ปี 2020 สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 Series รุ่นใหม่ ได้สถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร สุดล้ำหน้ากว่าที่เคยมีมาในตลาดโน๊ตบุ๊ค ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนานกว่า ได้ความสดใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย ด้วยฟีเจอร์ที่ล้ำหน้าไม่ว่าจะเป็นแรมมาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz และ SmartShift รวมถึง Wi-Fi 6 AX ที่ยอดยอดประสบการณ์ใช้งานมากยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งกับความร้อนที่เกิดขึ้นก็น้อยกว่า และแบตเตอรี่เมื่อใช้งานโหมดประหยัดพลังงานก็ยาวนานกว่าเดิมด้วย
ทั้งในส่วนของ AMD Ryzen 4000 U ที่เน้นติดตั้งในโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาประหยัดพลังงานสำหรับโน๊ตบุ๊คทำงานในราคาคุ้มค่าอย่าง AMD Ryzen 5 4500U /AMD Ryzen 7 4700U รวมไปถึง AMD Ryzen 4000 H ที่เน้นติดตั้งในโน๊ตบุ๊คเล่นเกมหรือประสิทธิภาพสูง อาทิ AMD Ryzen 5 4600H / AMD Ryzen 7 4800H โดยมีรายละเอียดดังนี้
- Ryzen 7 4800H (2.90GHz – 4.20 GHz ,8 core/16 thread ,TDP 45W )
- Ryzen 5 4600H (3.00GHz – 4.0 GHz ,6 core/12 thread ,TDP 45W)
- Ryzen 7 4700U ( 2.00GHz – 4.1 GHz ,8 core/8 thread ,TDP 15W)
- Ryzen 5 4500U (2.30GHz – 4.0 GHz ,6 core/6 thread ,TDP 15W)
การมาของ AMD Notebook ปี 2020 ในตอนนี้นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ จากการร่วมมือของแต่ละแบรนด์ Notebook อย่าง Lenovo / Acer / ASUS / MSI ด้วยราคาที่ไม่แพงแต่ได้ประสิทธิภาพดีเยี่ยม ได้ความแรงที่เหนือชั้นกว่าเดิมมากด้วยเมื่อเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นเดิมๆ ที่เป็น U Series / H Series รุ่นก่อนๆ โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำ AMD Notebook ปี 2020 สเปก Ryzen 4000 ใช้ทำงาน – เล่นเกม ราคาเริ่ม 15,000 – 40,000 บาท จะมีรุ่นไหน ไปชมกันต่อเลย
Lenovo IdeaPad Slim 3 15 ราคา 15,490 บาท
Lenovo IdeaPad Slim 3 15 เป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ในทุกๆ วัน รองรับทุกๆ การใช้งานพื้นฐาน กับราคาเพียง 11,900 บาท ด้วยดีไซน์ที่เบาและมีสไตล์ เหมาะสำหรับการใช้งานไปนู้นมานี่ เน้นตอบโจทย์คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบาหน่อย รูปลักษณ์ดูแพงเกินกว่าค่าตัว เน้นใช้งานนอกสถานที่ ในราคาที่ไม่แพง แน่นอนว่าประสิทธิภาพการทำงานก็ไม่ได้สูงมากเช่นกัน โดยรองรับการทำงานพื้นฐานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทำงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลงดูซีรีส์สตรีมมิ่งต่างๆ เป็นต้น เหมาะสำหรับคนหาคอมพิวเตอร์เครื่องสำรองงบหมื่นบาทกลางๆ โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
สำหรับ Lenovo IdeaPad Slim 3 15 นับว่าเป็นการยกเครื่องชื่อซีรีย์ใหม่ด้วยการเน้นความบางเบาในชื่อรุ่น Slim เหมือนรหัส S ที่เคยใช้ พร้อมรหัสตัวเลข 3 ที่เป็นซีรีย์สำหรับผู้ใช้งานเริ่มต้นที่เน้นราคาคุ้มค่าสุดๆ สเปกภายในมาพร้อมชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U ที่ให้ประสิทธิภาพแรงขึ้นกว่าเดิม สำหรับการใช้งานที่เน้นทรัพยากรสูงขึ้น ได้หน่วยความจำแรมขนาด 8GB dDR4 Bus 3200MHz และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 256GB แน่นอนว่าติดตั้ง Windows 10 แท้ทำให้เราสามารถใช้งานได้ทันทีตั้งแต่เปิดเครื่องในครั้งแรก
หน้าจอได้ขนาดเป็น 15.6″ ความละเอียด Full HD (1920 x 1080) พาเนล TN ป้องกันแสงสะท้อน ปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 220 nits ยิ่งไปกว่านั้นยังมี Microsoft Office Home and Student 2019เวอร์ชั่นเต็ม ประกอบไปด้วย Microsoft Word, Excel, PowerPoint และ OneDrive ที่ติดตั้งมากับเครื่อง (มูลค่ากว่า 4,299 บาท) ใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ที่เพียงต่อต่การใช้งานพื้นฐานของทุกๆ คนแน่นอน ได้ตัวเครื่องบางที่ 19.99 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 1.85 กิโลกรัม แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง ส่วนอแดปเตอร์ก็มีขนาดเล็กกระทัดรัดพกพาสะดวกด้วย พร้อมการรับประกัน 2 ปีเต็ม
นอกจากนั้น Lenovo IdeaPad Slim 3 15 ยังมาพร้อมออปชั่นเด็ดไม่ว่าจะเป็นระบบเสียง Dolby Audio ที่ให้มิติการดูหนังฟังเพลงได้คมชัดมากยิ่งขึ้น เว็บแคมที่ทำให้การแชตแบบวิดีโอกับเพื่อและครอบครัวง่ายขึ้น แต่เมื่อไม่ได้ใช้งาน เพียงแค่เลื่อนปิดตัวปิดกล้องเว็บแคม และปิดตายช่องทางสำหรับแฮกเกอร์ที่จะมาคอยสอดส่อง พอร์ตเชื่อมต่อของ lenovo IdeaPad Slim 3 ครบครันไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 2 พอร์ต ,USB 2.0 1 พอร์ต ,HDMI ,SD card reader ,ช่องต่อหูฟัง และไมค์ครบครบครัน เรียกได้ว่า Lenovo IdeaPad Slim 3 15 เป็นโน้ตบุ๊ตสเปก AMD Ryzen 5 4500U ที่ทั้งแรงทั้งคุ้มและถูกที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้ทีเดียว
ASUS VivoBook S15 D533 ราคา 20,990 – 23,990 บาท
ASUS VivoBook S15 D533 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ 15.6″ ปี 2020 ที่ได้สเปก AMD Ryzen 4000U Series ได้สถาปัตยกรรม Renoir เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร อย่าง Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U ที่แรงลื่นและร้อนน้อยกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แบบพอตัว ที่แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่แล้ว ยังสวยงามไม่ซ้ำใคร วัสดุเป็นโลหะอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ให้ความพรีเมียมดูดีเกินราคา เจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงคนวัยทำงานที่ยังหนุ่มสาวเป็นหลัก สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงานและไลฟ์สไตล์
สำหรับ ASUS VivoBook S15 D533 มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ดูทันสมัยยิ่งขึ้น สเปคคุ้มๆที่จะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่และสีสันใหม่ โดดเด่นด้วย 4 สี 4 สไตล์ และปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง โดยมีสเปกเป็น AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U + RAM 8GB + SSD 512GB + จอ 15.6″ IPS Full HD มี Windows 10 แท้ ในราคาเริ่มต้นที่ 20,990 บาทเท่านั้น โดดเด่นด้วยการให้โปรแกรม MS Office Home and Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่ากว่า 4,299 บาท ไปใช้งานฟรีๆ การรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ ASUS ที่สามารถส่งเคลมผ่านทาง 7-11 ได้ รวมถึงถ้าลงทะเบียนในเว็บไซต์ ปีแรกจะมีประกันอุบัติเหตุมาให้ด้วย (Perfect Warranty)
โดดเด่นรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.8 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 16.1 มิลลิเมตรเท่านั้น ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอลูมิเนียมที่ให้ความพรีเมียมและแข็งแรงทนทาน ซึ่งพิเศษตรงที่ ASUS VivoBook S15 D533 จะมีฝาหลังและตัวเครื่องด้านในคนละสีกัน มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.2 Type-C, USB 3.2 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อน 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด รวมไปถึงร้อนน้อยแบตเตอรี่ก็ยาวนานกว่า 14 ชั่วโมงด้วยกัน
สำหรับการมาของ ASUS VivoBook S15 D533 ที่เลือกใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U นับว่าส่งผลให้มีความน่าใช้ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ที่แรงแซงหน้าสเปกก่อน ๆ ทั้ง AMD / Intel อย่างชัดเจน ทั้งเรื่อง สเปก ดีไซน์การออกแบบ พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ นั้นก็ยังทำได้ดีเยี่ยม โดยมีสีสันให้เลือกมากมาย 4 สี แบบไม่ซ้ำใคร (ถ้าสเปก Ryzen 7 4700U จะมีเพียงสีดำ) ยอมรับว่าทาง ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง แต่ได้สเปกแรงๆ ที่รองรับการทำงานทุกๆ อย่าง จนไปถึงตัดต่อวีดีโอ หรือจะเล่นเกมออนไลน์ก็ยังพอได้แม้ไม่มีการ์ดจอแยก
- Ryzen 5 4500U / Radeon 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS / MS Office ราคา 20,990 บาท
- Ryzen 7 4700U /Radeon 7 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS / MS Office ราคา 23,990 บาท
Acer Swift 3 (SF314-42) ราคา 22,900 – 25,900 บาท
Acer Swift 3 (SF314-42) เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาดีไซน์สวย ได้หน้าจอ 14″ สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series พร้อมจัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า พร้อมความทรงพลัง โดยในส่วนของ U Series ที่เน้นประหยัดพลังงานแต่ยังให้ความแรง ซึ่งเดิม AMD ก็ทำตลาดในกลุ่มนี้ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยราคาที่ถูก ประสิทธิภาพดี ได้ความแรงที่เหนือชั้นกว่าเดิมมากด้วยเมื่อเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นเดิมๆ ที่เป็น H Series โดย Acer Swift 3 ปี 2020 มีสีสัน Mauve Purple ที่ออกเป็นสีม่วงแบบมังคุดไทยๆ ให้ความโดดเด่นไม่เหมือนใคร และสีเงินสว่างๆ Pure Silver ที่เหมาะกับทั้งหนุ่มๆ ลุคเท่แบบคลูๆ หรือสาวๆ ที่ดูน่ารักสดใส ให้เลือกซื้อกัน
ซึ่ง Acer Swift 3 สเปก Ryzen 4000 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U ที่แรงและดีกว่าเดิมแน่นอน มาพร้อมกับการ์ดจอออนชิปเป็น Radeon RX VEGA 6 / 7 รุ่นใหม่ ตัวเครื่องรองรับการติดตั้งแรมขนาด 8GB DDR4 โดยติดตั้งที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB แสดงผลผ่านทางหน้าจอขนาด 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แบบจอด้านลดแสงสะท้อนได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญยังได้ในส่วนของโปรแกรมเอกสาร Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาท ทำให้เราใช้ Word / Excel / Power Point ได้ทันที
ประกันเป็น 2 ปี สเปก Ryzen 5 4500U / 3 ปี (ปีแรก On-site) สเปก Ryzen 7 4700U พร้อมส่งศูนย์ซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมงด้วย พร้อม Windows 10 แท้ ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยตรงจุดนี้ มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.1 Type-C ที่รองรับ DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด มีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วเพื่อเข้าใช้านอีกด้วย
เหมาะมากๆ สำหรับคนทำงานจริงจังพนักงานออฟฟิศ หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว เพียงพอที่จะเอาไปทำงานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอได้เลยล่ะ แต่ก็ยังรองรับพกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสุดถึง 13 ชั่วโมง ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัว อย่างไรก็ตามในเรื่องข้อสังเกตของ Acer Swift 3 สเปก Ryzen 7 4700U ก็คือพาเนล IPS ให้ขอบเขตสีระดับกลางๆ แต่รวมๆ แล้วก็ยังให้ประสบกาณ์ใช้งานก็ยังเยี่ยมยอดอยู่ และแม้ไม่มีฟีเจอร์ Thunderbolt 3 อย่างสเปก Intel Core i Gen 10U เท่านั้นเอง (ไม่จำเป็นสำหรับคนส่วนมากด้วย)
- Ryzen 5 4500U / VEGA 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / MS Office ราคา 22,900 บาท
- Ryzen 5 4500U / VEGA 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / MS Office ราคา 25,900 บาท
ASUS TUF Gaming A15 FA506 ราคา 26,900 – 39,900 บาท
ASUS TUF Gaming A15 FX506 ต่อยอดรุ่นก่อนหน้าได้อย่างดีเยี่ยมในหลายๆ ส่วน เริ่มจากกดีไซน์โดดเด่นด้วยฝาโลหะพ่นทรายให้พื้นผิวสีเทาที่สวยงาม โลโก้ TUF Gaming ที่เรียบหรูสลักด้วยเลเซอร์ทำให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมการออกแบบสไตล์รังฝังที่ยอมรับว่าสวยงามจริงๆ แน่นอนว่าด้วยความที่เป็น TUF Gaming ก็จะได้รับการรับรองตามมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810H โดยสามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือน, อุณหภูมิและความชื้นสูง ส่งผลให้มีความทนทานกว่า Gaming Notebook ทั่วไป รวมไปถึงมีไฟ RGB คีย์บอร์ด แบบ All Zone ปุ่ม WASD ทำไฮไลท์ไว้ สามารถรองรับการกดได้ 20 ล้านครั้ง Travel Key 1.8 mm การวางเลเอาท์จะเหมือนกับคีย์บอร์ดแยกจริงๆ อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก
ASUS TUF Gaming A15 FA506 มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4600H (3.00 GHz up to 4.00 GHz, 8 MB L3 Cache) ทำงานแบบ 6 Core/ 12 Thread หรือ AMD Ryzen 7 4800H (2.90 GHz up to 4.20 GHz, 8 MB L3 Cache) ทำงานแบบ 8 Core/ 16 Thread ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) รุ่นใหม่ที่แรงกว่าเดิม หรือ GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) / RTX 2060 (6GB GDDR6) โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพดี รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)
แรมได้มาขนาด 8GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ Single Channel (8GB x 1 แถว) มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่มีความลื่นไหล ส่วนรุ่นท็อปสุดจะได้เป็นแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ Dual Channel (8GB x 2 แถว) ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมหรือทำงานเข้าไป อีกทั้งมาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB ที่ไม่ใช่แค่ลื่นไหล แต่ใหญ่เพียงพอในการสำรองไฟล์ต่างๆ ด้วย รวมไปถึงมีลำโพงคุณภาพสูงระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 2 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่อย่าง Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 5.0
พร้อมติดตั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate มาให้ในตัว ส่วนการรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม จัดได้ว่าเป็นมาตรฐานการรับประกันของทาง ASUS ปกติ ดีไซน์ได้ขอบหน้าจอบาง slim bezel Nano-Edge นั่นก็ทำให้ตัวเครื่องมิติโดยรวมมีความเล็กกระทัดรัดลง ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก อีกทั้งแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7 ชั่วโมงโดยประมาณ และร้อนน้อยด้วยเมื่อใช้งานหนักๆ นอกเหนือจากนี้ ASUS TUF Gaming A15 FA506 ยังมี Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 26,900 บาท
- Ryzen 7 4800H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 29,900 บาท
- Ryzen 7 4800H / GTX 1660 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 32,900 บาท
- Ryzen 7 4800H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 39,900 บาท
MSI Bravo 15 ราคา 29,900 – 31,900 บาท
MSI Bravo 15 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2020 จอ 15.6″ น้ำหนักเบาสุดๆ ที่ 1.96 กิโลกรัม สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H อีกหนึ่งรุ่นในตลาด จากทาง MSI ที่น่าสนใจจริงๆ ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4600H /Ryzen 7 4800H ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ล้ำด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม Zen 2 (Renoir) จับคู่มากับการ์ดจอ AMD Radeon RX5500M ซึ่งได้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม RDNA แน่นอนว่าสเปกนี้ทำให้เราเล่นเกมได้แรงลื่น กว่าสเปกก่อนๆ อย่าง Ryzen 3000H + Radeon RX5500M ใน MSI Apha 15 รุ่นพี่ที่ออกมาก่อน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 29,990 บาทกับรุ่น Ryzen 5 4600H และ 32,990 บาทกับรุ่น Ryzen 7 4800H ซึ่งมีราคาต่างกันที 3,000 บาท
ในส่วนของสเปกอื่นๆ MSI Bravo 15 เป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ขอบจอบางเฉียบ พาเนลเลือกใช้เป็น IPS ที่รองรับ Refresh Rate 120Hz ที่ให้ทั้งสีสันที่สวยงามและความลื่นไหลไปพร้อมๆ กัน พร้อมด้วยเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium ทำให้ภาพลื่นไหลมีอาการฉีกขาด แถมขอบจอบาง Thin Bezel เพียง 4.9 มิลลิเมตร ทำให้ภาพที่ได้เต็มตาสุดๆ พร้อมติดตั้ง Webcam และไมโครโฟนได้ที่ขอบจอด้านบนปกติ โดยติดตั้งหน่วยความแรมเป็นขนาด 8GB มาตรฐาน DDR4 Bus 3200Hz (แนะนำให้อัพเกรดเป็น 16GB) และใส่ที่เก็บข้อมูลมาเป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ซึ่งได้ทั้งความลื่นไหลและความจุสูงไปในตัวเดียว ได้ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันที
ด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง MSI Bravo 15 ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว แม้ว่าตัวเครื่องจะมีมิติเล็กและบางเบาก็ตามที่ได้ทั้ง USB 3.2 Type-A Gen 1 จำนวน 2 พอร์ต และโดดเด่นด้วย USB 3.2 Type-C Gen 1 จำนวน 2 พอร์ต ที่นับว่าให้มามากกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน 2 ช่อง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร, LAN, Kensington ส่วนอีกฝั่งจากมีพอร์ต HDMI ช่องต่อไฟอแดปเตอร์ตามมาตรฐาน พร้อมยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX ที่เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ดีกว่ารุ่นก่อนถึง 3 เท่า ลำโพงก็อยู่ที่ด้านล่าง 2 ตัวทำให้ตัวเครื่องสามารถกระจายเสียงได้ดี ได้แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องยาวนานราวๆ 7 ชั่วโมง
การออกแบบเอง MSI Bravo 15 ต้องบอกว่ามีลักษณะรูปทรงใกล้เคียงกับ MSI GF63 / GF65 ทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน แตกต่างชัดเจนคือส่วนของโลโก้ฝาหลังด้วยนกธันเดอร์เบิร์ดสยายปีกสีเงินมันวาว สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน เบาเพียง 1.96 กิโลกรัม อีกทั้งตัวเครื่องก็มีความบางสุดที่ 21.7 มิลลิเมตรด้วย วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมใช้ลวดลายเป็นลักษณะเงาบรัชปัดเสี้ยนเป็นเส้นๆ ทั้งภายนอกและภายใน แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่ายตามสไตล์ของ Gaming Notebook แบรนด์ MSI หลายๆ รุ่น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีระบบระบายความร้อนแบบพิเศษ Cooler Boost 5 ที่มาพร้อม 2 พัดลมขนาดใหญ่ ฮีทไปป์ 6 เส้น เย็นเฉียบหายห่วงไปเลย พร้อมกับทำการเซาะร่องระบายอากาศหลายตำแหน่งด้วยกัน