Connect with us

Hi, what are you looking for?

AMD

Review – ASUS VivoBook S15 D533 สเปก Ryzen 5 4500U แรงลื่น แบต 14 ชั่วโมง ฟรี Office แท้ ราคา 20,990 บาท

ASUS VivoBook S15 D533 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ 15.6″ ปี 2020 ที่ได้สเปก AMD Ryzen 4000U ได้สถาปัตยกรรมเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร (Renoir) อย่าง Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U ที่แรงลื่นและร้อนน้อยกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แบบพอตัว ที่แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่แล้ว

ASUS VivoBook S15 D533 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ 15.6″ ปี 2020 ที่ได้สเปก AMD Ryzen 4000U Series ได้สถาปัตยกรรม Renoir เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร อย่าง Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U ที่แรงลื่นและร้อนน้อยกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แบบพอตัว ที่แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่แล้ว ยังสวยงามไม่ซ้ำใคร วัสดุเป็นโลหะอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ให้ความพรีเมียมดูดีเกินราคา เจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงคนวัยทำงานที่ยังหนุ่มสาวเป็นหลัก สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงานและไลฟ์สไตล์

สำหรับ ASUS VivoBook S15 D533 มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ดูทันสมัยยิ่งขึ้น สเปคคุ้มๆที่จะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่และสีสันใหม่ โดดเด่นด้วย 4 สี 4 สไตล์ และปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง โดยสเปกที่ได้รับมารีวิวในครั้งนี้เป็น Ryzen 5 4500U + RAM 8GB + SSD 512GB + จอ 15.6″ IPS Full HD มี Windows 10 แท้ ประกัน 2 ปี + ประกันอุบัติเหตุ 1 ปีตามมาตรฐานของ ASUS ในราคาเริ่มต้นที่ 20,990 บาทเท่านั้น โดดเด่นด้วยการให้โปรแกรม MS Office Home and Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่ากว่า 4,299 บาท ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปเลย

Advertisement

VDO Review

NBS Verdict

ASUS VivoBook S15 D533 Review 20

สรุปแล้ว ASUS VivoBook S15 D533  ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงเหมาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเครื่องเดียวจบครบ โดยสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก หรือถ้าจะเล่นเกมเบาๆ บ้างก็สามารถทำได้ดีลื่นไหล ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง คุ้มค่าราคาสุดๆ ที่ 20,990 บาท สำหรับรุ่น Ryzen 5 4500U และ 23,990 บาท กับรุ่น Ryzen 7 4700U เหมาะกับคนที่งบถึงเงินถึงและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่ารุ่นเริ่มต้น สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าไม่แพงแต่ได้สเปกที่ดีของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นในปี 2020 ที่น่าซื้อไปใช้งานจริงๆ ส่วนจะซื้อสเปกไหนดี จริงๆ ต้องบอกว่ารุ่น Ryzen 5 4500U น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

ASUS VivoBook S15 D533 Review 8

สำหรับการมาของ ASUS VivoBook S15 D533 ที่เลือกใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U นับว่าส่งผลให้มีความน่าใช้ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ที่แรงแซงหน้าสเปกก่อน ๆ ทั้ง AMD / Intel อย่างชัดเจน ทั้งเรื่อง สเปก ดีไซน์การออกแบบ พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ นั้นก็ยังทำได้ดีเยี่ยม โดยมีสีสันให้เลือกมากมาย 4 สี แบบไม่ซ้ำใคร (ถ้าสเปก Ryzen 7 4700U จะมีเพียงสีดำ) ยอมรับว่าทาง ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง แต่ได้สเปกแรงๆ ที่รองรับการทำงานทุกๆ อย่าง จนไปถึงตัดต่อวีดีโอ หรือจะเล่นเกมออนไลน์ก็ยังพอได้แม้ไม่มีการ์ดจอแยก (ตามดูผลทดสอบกันได้) รวมไปถึงร้อนน้อยแบตเตอรี่ก็ยาวนานกว่า 14 ชั่วโมงด้วยกัน

เหมาะมากๆ สำหรับคนทำงานจริงจังพนักงานออฟฟิศ หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัวเหมือนอย่างที่ Ultrabook ราคาแพงหลายหมื่นบาทสมัยก่อนทำได้เลยล่ะ ข้อสังเกตุก็มีเพียงเล็กน้อยอย่างหน้าจอ IPS ที่ได้ขอบเขตสีระดับกลางๆ และไม่สามารถอัพเกรดแรมเพิ่มเติมได้เท่านั้น ส่วนอื่นๆ ถือว่าน่าใช้งานทั้งหมด ที่สำคัญพลาดไม่ได้กับโปรแกรมเอกสาร Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาท ที่ถ้านำมาหักลบกับค่าตัว ก็นับว่าคุ้มค่ามากๆ ทีเดียว

จุดเด่น

  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว
  • น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง วัสดุดี มีให้เลือก 4 สีสัน ตามสไตล์การใช้งาน
  • หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD พาเนล IPS ให้สีสันดีกว่า TN
  • ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี Nano Edge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
  • ใช้งานจริงลื่นไหลแบบสุดๆ ด้วยสเปก Ryzen 5 4500U + RAM 8GB + SSD 512GB
  • รองรับการอัพเกรด SSD M.2 อีก 1 ตัว
  • การ์ดจอออนชิปประสิทธิภาพดีเล่นเกมพอได้ ผลการทดสอบน่าประทับใจ
  • ลำโพง Harman Kardon เสียงคุณภาพดีกว่าทั่วไปแบบรู้สึกได้
  • มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งานทันที
  • ได้ Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาท ฟรี
  • ตัวเครื่องร้อนน้อยมาก แม้ทำงานหนักๆ ต่อเนื่อง
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดกว่า 14 ชั่วโมง
  • ประกัน 2 ปีเคลมผ่าน 7-11 ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก

ข้อสังเกต

  • หน้าจอพาเนล IPS อยู่ในระดับกลางๆ
  • ไม่สามารถอัพเกรดแรมเพิ่มเติมได้อีก
  • สเปก Ryzen 7 4700U มีตัวเครื่องสีดำสีเดียว

Specification

Asus VivoBook S15 D533IA BQ013TS

ASUS VivoBook S15 D533 มีอยู่ 2 สเปกในตอนนี้ คือ AMD Ryzen 5 4500U ราคา 20,990 บาท และ AMD Ryzen 7 4700Uราคา 23,990 บาท ที่เป็นชิปประมวลผลสถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ที่แรงขึ้นมากๆ และร้อนน้อยกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน การ์ดจอเป็นออนชิป Radeon 6 / 7  ได้แรม 8GB DDR4 Bus 3200MHz แบบฝังบอร์ด และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรดอีก 1 ตัว) หน้าจอขนาด 15.6″ เป็นพาเนล IPS ความละเอียด Full HD แบบจอด้านลดแสงสะท้อน พร้อมได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส

ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้  ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยตรงจุดนี้ มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.2 Type-C, USB 3.2 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อน 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด การรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ ASUS ที่สามารถส่งเคลมผ่านทาง 7-11 ได้ รวมถึงถ้าลงทะเบียนในเว็บไซต์ ปีแรกจะมีประกันอุบัติเหตุมาให้ด้วย (Perfect Warranty) หน้าสเปกเต็มๆ ของ ASUS VivoBook S15 D533 สเปก AMD Ryzen 5 4500U / AMD Ryzen 7 4700U ได้ตามนี้เลย

Hardware / Design

ASUS VivoBook S15 D533 Review 36

ASUS VivoBook S15 D533 ปี 2020 โดดเด่นด้วยสีสันสดใสโดดเด่นรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.8 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 16.1 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ปี 2020 ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปใช้งานนอกสถานที่ก็ทำได้คล่องตัว ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอลูมิเนียมที่ให้ความพรีเมียมและแข็งแรงทนทาน ซึ่งพิเศษตรงที่ ASUS VivoBook S15 D533 จะมีฝาหลังและตัวเครื่องด้านในคนละสีกัน

โดยชิ้นส่วนใต้ตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ได้ดีไซน์ใหม่และสีสันใหม่ โดดเด่นด้วย 4 สี 4 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สีดำ Indie Black, สีแดง Resolute Red, สีเขียว Gaia Green, สีขาว Dreamy White (ถ้าเป็นสเปก Ryzen 7 4700U จะมีสีสันเป็น Indie Black เท่านั้น) ที่ตัวเครื่องยังมีขอบหน้าจอบางเฉียบ NanoEdge วัสดุเป็นพลาสติกสีดำที่ดูแล้วลงตัวกับงานประกอบอื่นๆ ส่งผลให้ ASUS VivoBook S15 D533 มีขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดกว่า ด้วยน้ำหนักเบาตัวเครื่องที่บาง สามารถใส่ในกระเป๋า หรือกระเป๋าเป้สะพายหลังได้ง่าย

ASUS VivoBook S15 D533 Review 2

นอกจากนั้นแล้วยังโดดเด่นด้วยปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะกดปุ่ม Enter เพื่อบอกโลกถึงความเป็นตัวตนของเรา เรียกได้ว่าเป็นแนวคิดที่แตกต่างจาก Notebook รุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน เป็นการให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่สุดๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่มากมาย นับได้ว่าเป็นดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใครมาก่อน ซึ่งให้ความพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทุกๆ รุ่น เรียกได้ว่าเน้นตั้งใจตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ อย่างนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน โดยเฉพาะ

อีกทั้งยังการันตีความแรงด้วยสติ๊กเกอร์ AMD Ryzen 4000 Series ตัวเครื่อง ASUS VivoBook S15 D533 อย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นอลูมิเนียมและพลาสติกเกรดดีผสมผสานกัน โดยเฉพาะส่วนของส่วนของฝาหน้าจอที่เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยที่ดูแข็งแรงและสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามีโลโก้ ASUS VivoBook อย่างโดดเด่น ซึ่งชิ้นส่วนด้านล่างก็จะเป็นอลูนิเมียม ทำให้แม้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบากว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแต่ก็แข็งแรงทนทานเช่นกัน ส่วนตัวเครื่องด้านในก็เป็นอลูมิเนียมเช่นเดียวกันแต่สีสันต่างออกไป มีการนำเสนอพื้นผิวแบบเรียบเนียนสัมผัสดี

ASUS VivoBook S15 D533 Review 15

สำหรับช่องระบายความร้อนถูกซ่อนอยู่ใต้หน้าจอบริเวณบานพับ โดยเป็นการใช้งานพัดลมระบาย 1 ตัว ช่วยนำพาความร้อนชิปประมวลผลและการ์ดจอ ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าเอาอยู่ ที่มีช่องดูดลมเย็นด้านล่างตัวเครื่องทำหน้าที่ร่วมกันเป็นอย่างดี ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ทำให้ไม่รบกวนการทำงานของเราขณะใช้งาน และออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็แทบไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย นับได้ว่า ASUS VivoBook S15 D533 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่มีสเปกที่ดี แรง คุ้ม ราคาไม่แพง แต่ ASUS ใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียดจริงๆ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่จริงๆ

Keyboard / Touchpad

ASUS VivoBook S15 D533 Review 13

ในส่วนของคีย์บอร์ด ASUS VivoBook S15 D533 ติดตั้งคีย์บอร์ดเป็นปุ่มพลาสติกสีเดียวกับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีเทา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือตัดขอบมน ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น พร้อมไฟส่องสว่างสีขาวทำให้เราใช้งานในที่แสงน้อยหรือมืดๆ ได้ดีกว่าไม่มี ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ส่วนปุ่ม Fn ที่เป็นทางลัดต่างๆ ติดตั้งอยู่ชุดคีย์บอร์ดแถวบนเป็นมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก พร้อมแป้นตัวเลข Numpad ก็มีให้ใช้งานปกติ

ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ซึ่งขอบรอบๆ มีการเล่นสีสันเป็นสีมันวาวสะดุดตา พร้อมตัวทชแพดเองจะมีสีเข้มกว่าตัวเครื่องด้วย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชร่วมกับ Windows 10 ได้ลื่นไหลพอสมควร

Screen / Speaker

ASUS VivoBook S15 D533 Review 51

ASUS VivoBook S15 D533 ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 15.6″ มีขอบที่บางมากเพียง 5.2 มม. ตามสไตล์ NanoEdge โดยให้พื้นที่หน้าจอถึง 86% ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS คุณภาพดีมุมมองกว้าง สีสันสดใส ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว แต่ถ้ามองมุมขึ้นลงหรือซ้ายขวาก็จะเห็นถึงความต่าง ให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 15.6″ ที่ให้สีจอที่ดีทีเดียว แน่นอนว่าแม้จะขอบจอบางแต่ก็ยังติดตั้ง Webcam พร้อมไมโครโฟนไว้ตำแหน่งด้านบนอยู่

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS VivoBook S15 D533 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 61% และ AdobeRGB ที่ 46% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับมาตรฐานในช่วงราคานี้ อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพ หรือทำ Art Work ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่จริงจังมากก็พอได้อยู่ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ s3

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอมุมขวาบนที่ลดลงไปที่ระดับ 19% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 3.5 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีตามมาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงานกราฟิกก็พอได้เลย

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้แบรนด์ Harman Kardon ให้เสียงที่ดีกว่าลำโพงทั่วไป มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนักบางๆ ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

ASUS VivoBook S15 D533 Review 27

ASUS VivoBook S15 D533 ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.2 Type-A จำนวนหนึ่งพอร์ต (น่าจะให้มาสักสอง) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีกสองพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ต USB 3.2 Type-C มาให้อีกหนึ่งพอร์ต ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน microSD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง แต่หากใครที่ต้องการใช้พอร์ท Lan คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง USB to Lan เอาเอง

ขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.8 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ 2 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 15.6″ แค่ตัวเครื่องก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไปแน่นอน  ซึ่ง ASUS VivoBook S15 D533 ออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาใส่กระเป๋าไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ เช่นเอาไปใช้ตามร้านกาแฟ หรือออฟฟิศชิลๆ เลยล่ะ

Inside / Upgrade

ASUS VivoBook S15 D533 Review 57

ถ้าใครต้องการจะแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ ASUS VivoBook S15 D533 เพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมด หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ  ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี ระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 1 ตัว ฮีตไปป์ 1 เส้น พร้อมช่องระบายความร้อน 1 ช่อง ซึ่งดูแล้วอาจจะธรรมดา แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตรที่ล้ำหน้าร้อนน้อยอยู่แล้ว

เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นการติดตั้งแรมฝังบอร์ดมาแล้วขนาด 8GB แบบฝั่งบอร์ด มาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz ที่ไม่รองรับการอัพเกรดเพิ่มแต่อย่างใด รวมไปถึงเราเห็น SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่นอกจากนั้นยังมีอีก 1 สล็อตเพื่อรองรับการอัพเกรดเพิ่มด้วย กรณีที่ต้องการความจุเพิ่มเพื่อเก็บข้อมูลในอนาคต สเปกทั้งหมดนี้ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 4200mAh แน่นอนว่าเป็นส่วนให้ ASUS VivoBook S15 D533 ใช้แบตเตอรี่ได้ต่อเนื่องยาวนานด้วย

Performance / Software

c1c2

ASUS VivoBook S15 D533 ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U ที่แรงกว่า AMD Ryzen 3000 U และ H รุ่นก่อนหน้าแบบก้าวกระโดด ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 2.30 – 4.00 GHz แบบ 8 Core/ 8 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 8MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 25W ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ สำหรับ AMD Ryzen 5 4500U แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 8GB แบบฝังบอร์ด เป็นมาตรฐาน Bus 3200 MHz พร้อมให้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

g2

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon 6 มีความเร็วในการทำงานที่ 1500MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ

cine15   cine20

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 3000 U / Intel Core i Gen 10 U ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ssd

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2225 MB/s และเขียนที่ 1189 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe ระดับกลางค่อนบน

pc

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,524 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ  จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U ที่แม้ไม่มีการ์ดจอแยก แต่ด้วยชิปประมวลผลเทคโนโลยี 7 นาโนเมตรเองก็ยังแรงมากๆ ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกใกล้เคียงกันกับ Gaming Notebook หลายๆ รุ่นเลยทีเดียว

game test

ทดสอบเกมสำหรับ ASUS VivoBook S15 D533 คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 เกมออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U ที่ทำงานร่วมกับการ์ดจอ APU ออนชิปอย่าง AMD Radeon 6 ได้ดีเยี่ยม ประกอบกับใช้แรม 8GB DDR4 Bus 3200MHz รวมไปถึง SSD ก็ส่งผลช่วยด้วย

สำหรับเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่เฉลี่ยที่ 51 แต่ฉากตะลุมบอนกันก็เฟรมเรทลดลงไปที่ 36 (อยากลื่นกว่านี้ก็ปรับกลางๆ ได้) และในส่วนของเกม Overwatch ที่ปรับ Low ทดสอบแล้วจะมีเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 56 ซึ่งต่ำสุดอยู่ที่ 40 รวมไปถึงเกมกินสเปกอย่าง PUBG เฟรมเรทก็ทำออกมาได้ลื่นไหลกว่าที่คาดไว้พอตัว ถือว่าลื่นไหลใกล้เคียงกับ ASUS VivoBook S15 สเปก Intel Core i Gen 10 U ที่มีการ์ดจอแยก GeForce MX250 ที่เคยทดสอบเสียอีก

asus

นอกจากนี้ทาง ASUS VivoBook S15 D533 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง MyASUS (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญยังเลือกปรับโหมดพัดลม การชาร์จ หน้าจอ และ Hotkey ได้อีกด้วย

Battery / Heat / Noise

batt 4200

แบตเตอรี่ของ ASUS VivoBook S15 D533 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 4200 mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 14 ชั่วโมงต่อเนื่อง ในการปรับเป็น Power Saver Mode ใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ซึ่งจากผลการทดสอบนับได่ว่าทำได้ดีมากๆ เพราะไม่ใช่แค่แรง แต่ประหยัดพลังงานด้วย อย่างไรก็ตามปัจจัยในการใช้งานจริงอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ กรณี อย่างเช่นสภาพแวดล้อมหรือลักษณะการใช้งานด้วย

แต่การทดสอบของเราเป็นการทดสอบในห้องปรับอากาศที่อุณหภูมิ 25 – 27 องศา การทดสอบความร้อนที่เกิดขึ้นของตัวเครื่อง ASUS VivoBook S15 D533 ในตอนนี้ซอฟต์แวร์อย่าง Hardware Monitor ยังไม่รองรับ ทำให้ไม่สามรถตรวจสอบได้ในส่วนของอุณหภูมิชิปประมวลผลและการ์ดจอได้ แต่ด้วยโปรแกรม After Burner สามารถตรวจสอบอุณหภูมิ ในส่วนของการ์ดจอออนชิปทดลองใช้งานร้อนที่สุดได้ อยู่ที่ 70 องศาเซลเซียส เวลาเล่นเกมต่อเนื่องนานๆ นับว่าความร้อนของ ASUS VivoBook S15 D533 เครื่องนี้ไม่ร้อนเลย ซึ่งเอาเข้าจริงก็คือไม่ได้กระทบกับการใช้งาน หรือทำให้เครื่องค้างหรือหน่วงแต่อย่างใด เทียบกับรุ่นก่อนๆ ถือว่าเย็นลงด้วยซ้ำ

IMG 9285

โดยการใช้งานปกติทั่วไปสามารถจัดการระบบระบายความร้อนออกมาอย่างน่าประทับใจ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก ASUS ที่ดี และชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U รุ่นล่าสุด สถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร ซึ่งดีที่สุดในตอนนี้ ทำให้การใช้งานจริงๆ ยาวนานต่อเนื่องอย่าง เล่นเน็ต พิมพ์งาน ดูหนังฟังเพลง แทบไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนเลย แม้ตัวเครื่องจะให้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูงก็ตาม อย่างไรก็ตามไว้มีโอกาสจะมาทดสอบอุณหภูมิกันอีกครั้งหากมีซอฟต์แวร์รองรับการทดสอบเรื่องของความร้อนที่เกิดขึ้นแล้ว

Conclusion / Award

ASUS VivoBook S15 D533 Review 55

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ เน้นพกพาบางเบาอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS VivoBook S15 D533 (รุ่นจอ 14″ จะเป็น S14 D433) สเปก Ryzen 4000U Series ทั้ง Ryzen 5 4500U หรือ Ryzen 7 4700U ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล VivoBook S โมเดลก่อน ที่ใช้ Core i Gen 10 + MX250 ได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่สำคัญ ASUS VivoBook S15 D533 มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน พร้อมปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ซึ่งมีความสวยงามลงตัว แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ชัดเจน

ASUS VivoBook S15 D533 Review 9

ทางด้านราคา ASUS VivoBook S15 D533 เทียบกับสเปกที่ได้แล้วถือว่าไม่แพง ทำให้จับต้องจับจองได้ง่ายๆ สนนราคาเริ่มต้นที่ 20,990 บาท ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานที่แรงกว่า ร้อนน้อยกว่า แบตเตอรี่ยาวนานกว่า และด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กขอบจอบางเทียบและมีหน้าจอขนาด 14″ แต่มีขนาดมิติตัวเครื่อง น้ำหนัก มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ทั่วไป ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมและบางเพียง 16.1 มิลลิเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้โปรแกรม MS Office Home and Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่ากว่า 4,299 บาท ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปเลย ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมดีเยี่ยมนั่นเอง

ASUS VivoBook S15 D533 Review 54

ส่วนการรับประกันก็ตามมาตรฐานของ ASUS ที่แม้ว่าจะไม่ออนไลน์อย่างหลายๆ แบรนด์ แต่ก็สามารถเคลมผ่านทาง 7-11 ได้สะดวกไม่แพ้กัน รวมไปถึงในปีแรกแค่เราลงทะเบียนก็จะได้ประกันอุบัติเหตุในปีแรก อย่าง Perfect Warranty แล้ว ถือว่าได้อยู่เพราะก็มีจุดเด่นต่างกันออกไป ให้เราได้ตัดสินใจเลือกอีกที ปิดท้ายข้อสังเกตก็มีเล็กน้อยคือเรื่องการอัพเกรดแรมนั้นไม่สามารถเพิ่มเติมได้ คือมีแค่ 8GB ก็ใช้งานได้ 8GB เท่านั้น ซึ่งสำหรับการใช้งานทั่วไปก็เพียงพอแน่นอน หรือแม้จะทำงานหนักๆ บ้างในบางโอกาสก็พอได้ รวมไปถึงพาเนลหน้าจอ IPS อยู่ในระดับขอบเขตสีกลางๆ กรณีไม่ติดอะไรก็จัดได้เลย

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS VivoBook S15 D533 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Value

ASUS VivoBook S15 D533 แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานราคาประมาณสองหมื่นบาทต้นๆ ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 20,990 – 23,990 บาท ที่มาพร้อมสเปกใหม่อย่าง AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U โดยมีหน้าจอ 14″ IPS Full HD ได้แรม 8GB DDR4  Bus 3200MHz และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อมมีสแกนลายนิ้วมือ พร้อมดีไซน์แบบฉบับโน๊ตบุ๊คบางเบา เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นพกพาแบบสุดๆ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 2 ปี แบบในปีแรกมีประกันอุบัติเหตุ ที่สำคัญคือได้โปรแกรมเอกสาร Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาทด้วย tGhIF2rA

Best Mobility

ส่วนของความสามารถในการพกพาของ ASUS VivoBook S15 D533 อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบที่ 16.1 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมเท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ และโดดเด่นสุดๆ ด้วยการที่แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 14 ชั่วโมงด้วยกัน

NBS award 4 Mobility

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ VivoBook S มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS VivoBook S15 D533 ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโดดเด่น ให้มิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการสีสันให้เลือกถึง 4 สี ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนส่วนมากต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน อีกทั้งได้วามแตกต่างจากปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะกดปุ่ม Enter เพื่อบอกโลกถึงความเป็นตัวตนของเรา

NBS award 7 Design

VDO Review

NBS Verdict

ASUS VivoBook S15 D533 Review 20

สรุปแล้ว ASUS VivoBook S15 D533  ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงเหมาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเครื่องเดียวจบครบ โดยสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก หรือถ้าจะเล่นเกมเบาๆ บ้างก็สามารถทำได้ดีลื่นไหล ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง คุ้มค่าราคาสุดๆ ที่ 20,990 บาท สำหรับรุ่น Ryzen 5 4500U และ 23,990 บาท กับรุ่น Ryzen 7 4700U เหมาะกับคนที่งบถึงเงินถึงและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่ารุ่นเริ่มต้น สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าไม่แพงแต่ได้สเปกที่ดีของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นในปี 2020 ที่น่าซื้อไปใช้งานจริงๆ ส่วนจะซื้อสเปกไหนดี จริงๆ ต้องบอกว่ารุ่น Ryzen 5 4500U น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

ASUS VivoBook S15 D533 Review 8

สำหรับการมาของ ASUS VivoBook S15 D533 ที่เลือกใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U นับว่าส่งผลให้มีความน่าใช้ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ที่แรงแซงหน้าสเปกก่อน ๆ ทั้ง AMD / Intel อย่างชัดเจน ทั้งเรื่อง สเปก ดีไซน์การออกแบบ พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ นั้นก็ยังทำได้ดีเยี่ยม โดยมีสีสันให้เลือกมากมาย 4 สี แบบไม่ซ้ำใคร (ถ้าสเปก Ryzen 7 4700U จะมีเพียงสีดำ) ยอมรับว่าทาง ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง แต่ได้สเปกแรงๆ ที่รองรับการทำงานทุกๆ อย่าง จนไปถึงตัดต่อวีดีโอ หรือจะเล่นเกมออนไลน์ก็ยังพอได้แม้ไม่มีการ์ดจอแยก (ตามดูผลทดสอบกันได้) รวมไปถึงร้อนน้อยแบตเตอรี่ก็ยาวนานกว่า 14 ชั่วโมงด้วยกัน

เหมาะมากๆ สำหรับคนทำงานจริงจังพนักงานออฟฟิศ หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัวเหมือนอย่างที่ Ultrabook ราคาแพงหลายหมื่นบาทสมัยก่อนทำได้เลยล่ะ ข้อสังเกตุก็มีเพียงเล็กน้อยอย่างหน้าจอ IPS ที่ได้ขอบเขตสีระดับกลางๆ และไม่สามารถอัพเกรดแรมเพิ่มเติมได้เท่านั้น ส่วนอื่นๆ ถือว่าน่าใช้งานทั้งหมด ที่สำคัญพลาดไม่ได้กับโปรแกรมเอกสาร Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาท ที่ถ้านำมาหักลบกับค่าตัว ก็นับว่าคุ้มค่ามากๆ ทีเดียว

จุดเด่น

  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว
  • น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง วัสดุดี มีให้เลือก 4 สีสัน ตามสไตล์การใช้งาน
  • หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD พาเนล IPS ให้สีสันดีกว่า TN
  • ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี Nano Edge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
  • ใช้งานจริงลื่นไหลแบบสุดๆ ด้วยสเปก Ryzen 5 4500U + RAM 8GB + SSD 512GB
  • รองรับการอัพเกรด SSD M.2 อีก 1 ตัว
  • การ์ดจอออนชิปประสิทธิภาพดีเล่นเกมพอได้ ผลการทดสอบน่าประทับใจ
  • ลำโพง Harman Kardon เสียงคุณภาพดีกว่าทั่วไปแบบรู้สึกได้
  • มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งานทันที
  • ได้ Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาท ฟรี
  • ตัวเครื่องร้อนน้อยมาก แม้ทำงานหนักๆ ต่อเนื่อง
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดกว่า 14 ชั่วโมง
  • ประกัน 2 ปีเคลมผ่าน 7-11 ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก

ข้อสังเกต

  • หน้าจอพาเนล IPS อยู่ในระดับกลางๆ
  • ไม่สามารถอัพเกรดแรมเพิ่มเติมได้อีก
  • สเปก Ryzen 7 4700U มีตัวเครื่องสีดำสีเดียว

Specification

Asus VivoBook S15 D533IA BQ013TS

ASUS VivoBook S15 D533 มีอยู่ 2 สเปกในตอนนี้ คือ AMD Ryzen 5 4500U ราคา 20,990 บาท และ AMD Ryzen 7 4700Uราคา 23,990 บาท ที่เป็นชิปประมวลผลสถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ที่แรงขึ้นมากๆ และร้อนน้อยกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน การ์ดจอเป็นออนชิป Radeon 6 / 7  ได้แรม 8GB DDR4 Bus 3200MHz แบบฝังบอร์ด และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรดอีก 1 ตัว) หน้าจอขนาด 15.6″ เป็นพาเนล IPS ความละเอียด Full HD แบบจอด้านลดแสงสะท้อน พร้อมได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส

ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้  ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยตรงจุดนี้ มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.2 Type-C, USB 3.2 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อน 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด การรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ ASUS ที่สามารถส่งเคลมผ่านทาง 7-11 ได้ รวมถึงถ้าลงทะเบียนในเว็บไซต์ ปีแรกจะมีประกันอุบัติเหตุมาให้ด้วย (Perfect Warranty) หน้าสเปกเต็มๆ ของ ASUS VivoBook S15 D533 สเปก AMD Ryzen 5 4500U / AMD Ryzen 7 4700U ได้ตามนี้เลย

Hardware / Design

ASUS VivoBook S15 D533 Review 36

ASUS VivoBook S15 D533 ปี 2020 โดดเด่นด้วยสีสันสดใสโดดเด่นรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.8 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 16.1 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ปี 2020 ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปใช้งานนอกสถานที่ก็ทำได้คล่องตัว ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอลูมิเนียมที่ให้ความพรีเมียมและแข็งแรงทนทาน ซึ่งพิเศษตรงที่ ASUS VivoBook S15 D533 จะมีฝาหลังและตัวเครื่องด้านในคนละสีกัน

โดยชิ้นส่วนใต้ตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ได้ดีไซน์ใหม่และสีสันใหม่ โดดเด่นด้วย 4 สี 4 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สีดำ Indie Black, สีแดง Resolute Red, สีเขียว Gaia Green, สีขาว Dreamy White (ถ้าเป็นสเปก Ryzen 7 4700U จะมีสีสันเป็น Indie Black เท่านั้น) ที่ตัวเครื่องยังมีขอบหน้าจอบางเฉียบ NanoEdge วัสดุเป็นพลาสติกสีดำที่ดูแล้วลงตัวกับงานประกอบอื่นๆ ส่งผลให้ ASUS VivoBook S15 D533 มีขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดกว่า ด้วยน้ำหนักเบาตัวเครื่องที่บาง สามารถใส่ในกระเป๋า หรือกระเป๋าเป้สะพายหลังได้ง่าย

ASUS VivoBook S15 D533 Review 2

นอกจากนั้นแล้วยังโดดเด่นด้วยปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะกดปุ่ม Enter เพื่อบอกโลกถึงความเป็นตัวตนของเรา เรียกได้ว่าเป็นแนวคิดที่แตกต่างจาก Notebook รุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน เป็นการให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่สุดๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่มากมาย นับได้ว่าเป็นดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใครมาก่อน ซึ่งให้ความพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทุกๆ รุ่น เรียกได้ว่าเน้นตั้งใจตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ อย่างนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน โดยเฉพาะ

อีกทั้งยังการันตีความแรงด้วยสติ๊กเกอร์ AMD Ryzen 4000 Series ตัวเครื่อง ASUS VivoBook S15 D533 อย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นอลูมิเนียมและพลาสติกเกรดดีผสมผสานกัน โดยเฉพาะส่วนของส่วนของฝาหน้าจอที่เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยที่ดูแข็งแรงและสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามีโลโก้ ASUS VivoBook อย่างโดดเด่น ซึ่งชิ้นส่วนด้านล่างก็จะเป็นอลูนิเมียม ทำให้แม้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบากว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแต่ก็แข็งแรงทนทานเช่นกัน ส่วนตัวเครื่องด้านในก็เป็นอลูมิเนียมเช่นเดียวกันแต่สีสันต่างออกไป มีการนำเสนอพื้นผิวแบบเรียบเนียนสัมผัสดี

ASUS VivoBook S15 D533 Review 15

สำหรับช่องระบายความร้อนถูกซ่อนอยู่ใต้หน้าจอบริเวณบานพับ โดยเป็นการใช้งานพัดลมระบาย 1 ตัว ช่วยนำพาความร้อนชิปประมวลผลและการ์ดจอ ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าเอาอยู่ ที่มีช่องดูดลมเย็นด้านล่างตัวเครื่องทำหน้าที่ร่วมกันเป็นอย่างดี ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ทำให้ไม่รบกวนการทำงานของเราขณะใช้งาน และออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็แทบไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย นับได้ว่า ASUS VivoBook S15 D533 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่มีสเปกที่ดี แรง คุ้ม ราคาไม่แพง แต่ ASUS ใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียดจริงๆ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่จริงๆ

Keyboard / Touchpad

ASUS VivoBook S15 D533 Review 13

ในส่วนของคีย์บอร์ด ASUS VivoBook S15 D533 ติดตั้งคีย์บอร์ดเป็นปุ่มพลาสติกสีเดียวกับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีเทา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือตัดขอบมน ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น พร้อมไฟส่องสว่างสีขาวทำให้เราใช้งานในที่แสงน้อยหรือมืดๆ ได้ดีกว่าไม่มี ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ส่วนปุ่ม Fn ที่เป็นทางลัดต่างๆ ติดตั้งอยู่ชุดคีย์บอร์ดแถวบนเป็นมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก พร้อมแป้นตัวเลข Numpad ก็มีให้ใช้งานปกติ

ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ซึ่งขอบรอบๆ มีการเล่นสีสันเป็นสีมันวาวสะดุดตา พร้อมตัวทชแพดเองจะมีสีเข้มกว่าตัวเครื่องด้วย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชร่วมกับ Windows 10 ได้ลื่นไหลพอสมควร

Screen / Speaker

ASUS VivoBook S15 D533 Review 51

ASUS VivoBook S15 D533 ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 15.6″ มีขอบที่บางมากเพียง 5.2 มม. ตามสไตล์ NanoEdge โดยให้พื้นที่หน้าจอถึง 86% ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS คุณภาพดีมุมมองกว้าง สีสันสดใส ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว แต่ถ้ามองมุมขึ้นลงหรือซ้ายขวาก็จะเห็นถึงความต่าง ให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 15.6″ ที่ให้สีจอที่ดีทีเดียว แน่นอนว่าแม้จะขอบจอบางแต่ก็ยังติดตั้ง Webcam พร้อมไมโครโฟนไว้ตำแหน่งด้านบนอยู่

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS VivoBook S15 D533 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 61% และ AdobeRGB ที่ 46% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับมาตรฐานในช่วงราคานี้ อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพ หรือทำ Art Work ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่จริงจังมากก็พอได้อยู่ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ s3

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอมุมขวาบนที่ลดลงไปที่ระดับ 19% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 3.5 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีตามมาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงานกราฟิกก็พอได้เลย

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้แบรนด์ Harman Kardon ให้เสียงที่ดีกว่าลำโพงทั่วไป มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนักบางๆ ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

ASUS VivoBook S15 D533 Review 27

ASUS VivoBook S15 D533 ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.2 Type-A จำนวนหนึ่งพอร์ต (น่าจะให้มาสักสอง) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีกสองพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ต USB 3.2 Type-C มาให้อีกหนึ่งพอร์ต ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน microSD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง แต่หากใครที่ต้องการใช้พอร์ท Lan คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง USB to Lan เอาเอง

ขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.8 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ 2 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 15.6″ แค่ตัวเครื่องก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไปแน่นอน  ซึ่ง ASUS VivoBook S15 D533 ออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาใส่กระเป๋าไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ เช่นเอาไปใช้ตามร้านกาแฟ หรือออฟฟิศชิลๆ เลยล่ะ

Inside / Upgrade

ASUS VivoBook S15 D533 Review 57

ถ้าใครต้องการจะแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ ASUS VivoBook S15 D533 เพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมด หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ  ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี ระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 1 ตัว ฮีตไปป์ 1 เส้น พร้อมช่องระบายความร้อน 1 ช่อง ซึ่งดูแล้วอาจจะธรรมดา แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตรที่ล้ำหน้าร้อนน้อยอยู่แล้ว

เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นการติดตั้งแรมฝังบอร์ดมาแล้วขนาด 8GB แบบฝั่งบอร์ด มาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz ที่ไม่รองรับการอัพเกรดเพิ่มแต่อย่างใด รวมไปถึงเราเห็น SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่นอกจากนั้นยังมีอีก 1 สล็อตเพื่อรองรับการอัพเกรดเพิ่มด้วย กรณีที่ต้องการความจุเพิ่มเพื่อเก็บข้อมูลในอนาคต สเปกทั้งหมดนี้ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 4200mAh แน่นอนว่าเป็นส่วนให้ ASUS VivoBook S15 D533 ใช้แบตเตอรี่ได้ต่อเนื่องยาวนานด้วย

Performance / Software

c1c2

ASUS VivoBook S15 D533 ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U ที่แรงกว่า AMD Ryzen 3000 U และ H รุ่นก่อนหน้าแบบก้าวกระโดด ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 2.30 – 4.00 GHz แบบ 8 Core/ 8 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 8MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 25W ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ สำหรับ AMD Ryzen 5 4500U แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 8GB แบบฝังบอร์ด เป็นมาตรฐาน Bus 3200 MHz พร้อมให้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

g2

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon 6 มีความเร็วในการทำงานที่ 1500MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ

cine15   cine20

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 3000 U / Intel Core i Gen 10 U ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ssd

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2225 MB/s และเขียนที่ 1189 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe ระดับกลางค่อนบน

pc

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,524 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ  จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U ที่แม้ไม่มีการ์ดจอแยก แต่ด้วยชิปประมวลผลเทคโนโลยี 7 นาโนเมตรเองก็ยังแรงมากๆ ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกใกล้เคียงกันกับ Gaming Notebook หลายๆ รุ่นเลยทีเดียว

game test

ทดสอบเกมสำหรับ ASUS VivoBook S15 D533 คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 เกมออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U ที่ทำงานร่วมกับการ์ดจอ APU ออนชิปอย่าง AMD Radeon 6 ได้ดีเยี่ยม ประกอบกับใช้แรม 8GB DDR4 Bus 3200MHz รวมไปถึง SSD ก็ส่งผลช่วยด้วย

สำหรับเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่เฉลี่ยที่ 51 แต่ฉากตะลุมบอนกันก็เฟรมเรทลดลงไปที่ 36 (อยากลื่นกว่านี้ก็ปรับกลางๆ ได้) และในส่วนของเกม Overwatch ที่ปรับ Low ทดสอบแล้วจะมีเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 56 ซึ่งต่ำสุดอยู่ที่ 40 รวมไปถึงเกมกินสเปกอย่าง PUBG เฟรมเรทก็ทำออกมาได้ลื่นไหลกว่าที่คาดไว้พอตัว ถือว่าลื่นไหลใกล้เคียงกับ ASUS VivoBook S15 สเปก Intel Core i Gen 10 U ที่มีการ์ดจอแยก GeForce MX250 ที่เคยทดสอบเสียอีก

asus

นอกจากนี้ทาง ASUS VivoBook S15 D533 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง MyASUS (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญยังเลือกปรับโหมดพัดลม การชาร์จ หน้าจอ และ Hotkey ได้อีกด้วย

Battery / Heat / Noise

batt 4200

แบตเตอรี่ของ ASUS VivoBook S15 D533 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 4200 mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 14 ชั่วโมงต่อเนื่อง ในการปรับเป็น Power Saver Mode ใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ซึ่งจากผลการทดสอบนับได่ว่าทำได้ดีมากๆ เพราะไม่ใช่แค่แรง แต่ประหยัดพลังงานด้วย อย่างไรก็ตามปัจจัยในการใช้งานจริงอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ กรณี อย่างเช่นสภาพแวดล้อมหรือลักษณะการใช้งานด้วย

แต่การทดสอบของเราเป็นการทดสอบในห้องปรับอากาศที่อุณหภูมิ 25 – 27 องศา การทดสอบความร้อนที่เกิดขึ้นของตัวเครื่อง ASUS VivoBook S15 D533 ในตอนนี้ซอฟต์แวร์อย่าง Hardware Monitor ยังไม่รองรับ ทำให้ไม่สามรถตรวจสอบได้ในส่วนของอุณหภูมิชิปประมวลผลและการ์ดจอได้ แต่ด้วยโปรแกรม After Burner สามารถตรวจสอบอุณหภูมิ ในส่วนของการ์ดจอออนชิปทดลองใช้งานร้อนที่สุดได้ อยู่ที่ 70 องศาเซลเซียส เวลาเล่นเกมต่อเนื่องนานๆ นับว่าความร้อนของ ASUS VivoBook S15 D533 เครื่องนี้ไม่ร้อนเลย ซึ่งเอาเข้าจริงก็คือไม่ได้กระทบกับการใช้งาน หรือทำให้เครื่องค้างหรือหน่วงแต่อย่างใด เทียบกับรุ่นก่อนๆ ถือว่าเย็นลงด้วยซ้ำ

IMG 9285

โดยการใช้งานปกติทั่วไปสามารถจัดการระบบระบายความร้อนออกมาอย่างน่าประทับใจ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก ASUS ที่ดี และชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U รุ่นล่าสุด สถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร ซึ่งดีที่สุดในตอนนี้ ทำให้การใช้งานจริงๆ ยาวนานต่อเนื่องอย่าง เล่นเน็ต พิมพ์งาน ดูหนังฟังเพลง แทบไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนเลย แม้ตัวเครื่องจะให้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูงก็ตาม อย่างไรก็ตามไว้มีโอกาสจะมาทดสอบอุณหภูมิกันอีกครั้งหากมีซอฟต์แวร์รองรับการทดสอบเรื่องของความร้อนที่เกิดขึ้นแล้ว

Conclusion / Award

ASUS VivoBook S15 D533 Review 55

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ เน้นพกพาบางเบาอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS VivoBook S15 D533 (รุ่นจอ 14″ จะเป็น S14 D433) สเปก Ryzen 4000U Series ทั้ง Ryzen 5 4500U หรือ Ryzen 7 4700U ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล VivoBook S โมเดลก่อน ที่ใช้ Core i Gen 10 + MX250 ได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่สำคัญ ASUS VivoBook S15 D533 มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน พร้อมปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ซึ่งมีความสวยงามลงตัว แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ชัดเจน

ASUS VivoBook S15 D533 Review 9

ทางด้านราคา ASUS VivoBook S15 D533 เทียบกับสเปกที่ได้แล้วถือว่าไม่แพง ทำให้จับต้องจับจองได้ง่ายๆ สนนราคาเริ่มต้นที่ 20,990 บาท ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานที่แรงกว่า ร้อนน้อยกว่า แบตเตอรี่ยาวนานกว่า และด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กขอบจอบางเทียบและมีหน้าจอขนาด 14″ แต่มีขนาดมิติตัวเครื่อง น้ำหนัก มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ทั่วไป ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมและบางเพียง 16.1 มิลลิเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้โปรแกรม MS Office Home and Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่ากว่า 4,299 บาท ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปเลย ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมดีเยี่ยมนั่นเอง

ASUS VivoBook S15 D533 Review 54

ส่วนการรับประกันก็ตามมาตรฐานของ ASUS ที่แม้ว่าจะไม่ออนไลน์อย่างหลายๆ แบรนด์ แต่ก็สามารถเคลมผ่านทาง 7-11 ได้สะดวกไม่แพ้กัน รวมไปถึงในปีแรกแค่เราลงทะเบียนก็จะได้ประกันอุบัติเหตุในปีแรก อย่าง Perfect Warranty แล้ว ถือว่าได้อยู่เพราะก็มีจุดเด่นต่างกันออกไป ให้เราได้ตัดสินใจเลือกอีกที ปิดท้ายข้อสังเกตก็มีเล็กน้อยคือเรื่องการอัพเกรดแรมนั้นไม่สามารถเพิ่มเติมได้ คือมีแค่ 8GB ก็ใช้งานได้ 8GB เท่านั้น ซึ่งสำหรับการใช้งานทั่วไปก็เพียงพอแน่นอน หรือแม้จะทำงานหนักๆ บ้างในบางโอกาสก็พอได้ รวมไปถึงพาเนลหน้าจอ IPS อยู่ในระดับขอบเขตสีกลางๆ กรณีไม่ติดอะไรก็จัดได้เลย

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS VivoBook S15 D533 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Value

ASUS VivoBook S15 D533 แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานราคาประมาณสองหมื่นบาทต้นๆ ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 20,990 – 23,990 บาท ที่มาพร้อมสเปกใหม่อย่าง AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U โดยมีหน้าจอ 14″ IPS Full HD ได้แรม 8GB DDR4  Bus 3200MHz และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อมมีสแกนลายนิ้วมือ พร้อมดีไซน์แบบฉบับโน๊ตบุ๊คบางเบา เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นพกพาแบบสุดๆ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 2 ปี แบบในปีแรกมีประกันอุบัติเหตุ ที่สำคัญคือได้โปรแกรมเอกสาร Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาทด้วย tGhIF2rA

Best Mobility

ส่วนของความสามารถในการพกพาของ ASUS VivoBook S15 D533 อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบที่ 16.1 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมเท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ และโดดเด่นสุดๆ ด้วยการที่แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 14 ชั่วโมงด้วยกัน

NBS award 4 Mobility

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ VivoBook S มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS VivoBook S15 D533 ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโดดเด่น ให้มิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการสีสันให้เลือกถึง 4 สี ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนส่วนมากต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน อีกทั้งได้วามแตกต่างจากปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะกดปุ่ม Enter เพื่อบอกโลกถึงความเป็นตัวตนของเรา

NBS award 7 Design

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Special Story

ปีนี้นับเป็นปีที่ซีพียูโน้ตบุ๊กของ AMD มีการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัด และมีความน่าสนใจในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้นโดยที่ยังคุมการใช้พลังงานและความร้อนได้ดี ทำให้เราได้เห็นการนำซีพียู AMD ไปใช้ทั้งในโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป เกมมิ่งโน้ตบุ๊กตั้งแต่สเปคระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับท็อป รวมถึงในกลุ่มเครื่องเกมพีซีพกพาด้วย แต่ที่จะเด่นชัดสุดคงหนีไม่พ้นชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีโค้ดเนมว่า AMD Strix Point หรือในชื่อที่ใช้จริงนั่นคือ AMD Ryzen AI 300 series นั่นเอง

Special Story

สำหรับการเล่นเกม แน่นอนว่าพลังประมวลผลกราฟิกจาก GPU คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญ เพราะจะเป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงระดับประสิทธิภาพว่าจะสามารถเรนเดอร์ภาพออกมาได้สวย เฟรมเรตสูง ความหน่วงต่ำขนาดไหน ทำงานร่วมกับ CPU และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในเครื่อง ซึ่งถ้าทั้งระบบสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้นไปด้วย นอกจากนี้เหล่าผู้ผลิตเองก็มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพลังกราฟิก โดยที่ยังลดภาระของฮาร์ดแวร์ลงด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ AFMF 2 เทคโนโลยีล่าสุดจาก AMD นั่นเอง

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก