เริ่มกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 16GB DDR4 ใน Gaming Notebook รุ่นใหม่ปี 2020 ที่มาพร้อมกับสเปกล่าสุด ทั้งในส่วนของชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H และ AMD Ryzen 4000H ที่แน่นอนว่าได้ความแรงลื่นที่มากกว่าเดิม ส่วนการ์ดจอ Gaming ก็มีรุ่นใหม่ที่น่าสนใจออกมา สำหรับรุ่นราคาที่เน้นความคุ้มค่าของแบรนด์ NVIDIA อย่างในรุ่น GeForce GTX 1650 Ti ซึ่งจริงๆ แล้วในตลาด จะมรตัวเลือกตั้งแต่ GTX 1650 / GTX 1660 Ti / GTX 1660 Ti Max-Q / RTX 2060 เป็นตัวเลือกด้วยในงบประมาณไม่เกิน 40,000 บาท โดยเริ่มต้นที่ 29,990 บาทเท่านั้น สเปกเพียงพอต่อทุกๆ การใช้งานพื้นฐานหรือเล่นเกมหนักๆ ก็ทำได้ดีเยี่ยม
ในบทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำ Gaming Notebook รุ่นใหม่หน้าจอ 15.6″ ใช้แรมขนาด 16GB DDR4 เพื่อการที่ซื้อมาใช้งานทั้งที ก็ต้องการซื้อทีเดียวดีๆ ใช้งานได้ยาวๆ ไปเลย เพราะมีความจำเป็นในการเปิดโปรแกรมเยอะ ๆ หรือหลาย ๆ หน้าต่าง ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งดี ซึ่งในปัจจุบันแรมขนาด 8GB นั้นเป็นมาตรฐานไปแล้ว แต่ถ้าซื้อให้จบๆ ไปเลย ไม่ต้องเสียเวลามาอัพเกรดภายหลัง เป็น 16GB ก็จะดีไปเลย ในส่วนของชิปประมวผลก็มีทั้ง Core i5-10300H / Core i7-10750H และ Ryzen 7 4800H / Ryzen 7 4800HS เป็นตัวเลือก ติดตั้ง Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที มีประกันดีที่สุดเป็นแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านยาวนาน 3 ปี ราคาเริ่มต้นถูกที่สุดที่ 26,900 บาทเท่านั้น ซึ่งจะมีรุ่นอะไรบ้างนั้น ไปชมกันต่อเลย
Acer Nitro 5 ราคา 29,900 – 39,900 บาท
Acer Nitro 5 (2020) หรือ Acer Nitro 5 AN515 สเปกใหม่ล่าสุด ได้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H พร้อมการ์ดจอ GeForce รุ่นล่าสุด จากที่รุ่นก่อนๆ เป็นหนึ่งใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ราคาคุ้มค่า ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ทั้งจากสเปกที่แรงลื่นหลากหลาย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่จัดเต็ม และประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วน 3 ชั่วโมง ได้รับการพัฒนาหลายๆ ส่วนแล้ว อาทิ ดีไซน์ภายนอก คีย์บอร์ดไฟ RGB และอื่นๆ เป็นการต่อยอดพร้อมแข่งกันกับ Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ ในราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท (ราคากลาง)
สเปกภายในของ Acer Nitro 5 (2020) เลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i 10H อย่าง Core i5-10300H (2.50 GHz, 8 MB L3 Cache up to 4.50 Ghz) /Core i7-10750H (2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz) กับคู่มากับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) / GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) / GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) / RTX 2060 (6GB GDDR6) ส่วนแรมได้มาตรฐานเป็นขนาด 16GB แบบ DDR4 Bus 2933MHz มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA3 ภายหลัง) พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
หน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง Refresh Rate ที่ 144Hz แบบ 3ms ให้การแสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra
มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย
- Core i5-10300H / GTX 1650 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 29,900 บาท
- Core i5-10300H / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 31,900 บาท
- Core i5-10300H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 35,900 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 39,900 บาท
MSI GF63 Thin ราคา 31,900 บาท
ยังคงเป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ ปี 2020 ที่แรงลื่นและเบาที่สุดในตลาด กับการมาของ MSI GF63 Thin 10SCSR-220TH โดดเด่นความความบางของตัวเครื่อง และมีน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น เน้นพกพาสะดวก ขอบจอบางมาพร้อมประสิทธิภาพสูง คุณภาพเยี่ยม แต่ยังได้สเปก Gaming เล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่แพ้โน๊ตบุ๊คตัวหนักๆ หนาๆ เลย อัพเดทเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti Max-Q ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดทั้งคู่ ตอกย้ำความเป็น MSI Gaming ที่ ได้รับการตอบรับดีที่มากๆ
ในส่วนของช่องระบายความร้อนของ MSI GF63 Thin มีด้วยกัน 2 ช่องคือด้านหลังฝั่งซ้ายมือตัวเครื่อง และด้านข้างซ้าย โดยใช้พัดลม 1 ตัว ฮีทไปป์ 3 เส้น เพียงพอต่อการใช้งาน วัสดุบอดี้ตรงคีย์บอร์ดจะเป็นอลูมิเนียมสีดำทำการบรัชลายเส้นเหมือนฝาหลัง สวยงาม แข็งแรง ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านมุมบนขวามือแยกจากคีย์บอร์ด นอกจากนี้คีย์บอร์ดยังมีไฟสีแดง สามารถเปิดปิดได้ 3 ระดับ มาพร้อมกับซอฟท์แวร์ MSI Dragon Center รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถปรับการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการเล่นเกมของคุณให้มากยิ่งขึ้น พร้อมการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น
MSI GF63 Thin ปี 2020 สเปก Core i Gen 10H ในตอนนี้มีรุ่นเดียว ราคา 31,900 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-10750H (2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพแรงเหลือๆ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti Max-Q (4GB GDDR6) ที่มาพร้อมประสิทธิภาพที่เทียบเคียง GTX 1650 Ti รุ่นปกติ แต่ปลดปล่อยความร้อนน้อยกว่ามีที่เก็บข้อมูลเป็นมาตรฐาน SSD แบบ M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ที่ทั้งแรงและลื่นไหล ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ 8GB DDR4 Bus 26666 MHz จำนวน 2 แถว อัปเกรดได้สูงสุด 32GB นับได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง สวยงาม ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมก็สามารถใช้ได้ดีชัดเจน ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 3 x USB 3.2 Type-A Gen 1, USB 3.2 Type-C Gen 1, Kensington lock slot, LAN RJ-45, HDMI, รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX + Bluetooth 5.1 น้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม พร้อม Windows 10 แท้
ASUS TUF Gaming A15 FA506 ราคา 39,990 บาท
ASUS TUF Gaming A15 FA506 มีความน่าสนใจยิ่งกว่าซึ่งนอกเหนือสเปกภายในแล้ว อย่างในเรื่องของขอบหน้าจอบาง slim bezel Nano-Edge นั่นก็ทำให้ตัวเครื่องมิติโดยรวมมีความเล็กกระทัดรัดลง แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แต่ก็มีความใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ แบบสมัยก่อนๆ มาก ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก มีความทนทานระดับ Military Grade (MIL-STD-810H) ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้
ASUS TUF Gaming A15 FA506 มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H สถาปัตยกรรม Zen 2 มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 7 nm โค้ดเนม Renoir (เรอนัวร์) ทำงานที่ความเร็ว 2.90 – 4.20 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ผสานกับ APU การ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 7 ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) แรมได้มาขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ Dual Chaanel Channel (8GB x 2 แถว) มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ที่มีความลื่นไหล
โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพดี รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)รวมไปถึงมีลำโพงคุณภาพสูงระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 2 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่อย่าง Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 5.0
พร้อมติดตั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate มาให้ในตัว ส่วนการรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม จัดได้ว่าเป็นมาตรฐานการรับประกันของทาง ASUS ปกติ สนนราคาของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 รุ่นท็อปสุดของซีรีส์อยู่ 39,990 บาท จัดว่าคุ้มค่าไม่แพงเลยถ้าเทียบกับสเปกที่ได้ สำหรับในชุดจัดจำหน่ายให้ส่วนของสติ๊กเกอร์สุดเก๋มาแปะตัวเครื่องอีกด้วย
MSI GF65 Thin ราคา 38,900 บาท
อีกหนึ่ง Gaming Notebook จากบางเบาที่ดีที่สุด แรงสุด และคุ้มสุดๆ อย่าง MSI GF63 Thin ได้รับการตอบรับดีที่มากๆ ตลอดที่ผ่านมาทาง MSI ให้ความสำคัญพัฒนาต่อยอดโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมให้มากยิ่งขึ้น โดยการแบ่งซีรีส์ออกอย่างชัดเจน และการนำเสนอซีรีส์ MSI GF65 Thin ที่เป็น Gaming Notebook ขอบจอบางมาพร้อมประสิทธิภาพสูงกว่า คุณภาพเยี่ยมกว่า แต่ยังโดดเด่นความความบางของตัวเครื่อง และมีน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น เน้นพกพาสะดวก แต่ยังได้สเปก Gaming ที่สำคัญได้หน้าจอเป็นขนาด 15.6″ Full HD พาเนล IPS ที่ 120Hz เล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่แพ้โน๊ตบุ๊คตัวหนักๆ หนาๆ เลย ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo ยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง Nahimic 3 ทำให้มีเสียงดังฟังชัดเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดี
ดีไซน์ตัวเครื่อง MSI GF65 Thin วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยสีดำพร้อมแซมด้วยสีแดง ส่วนคีย์บอร์ดมีปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเองที่สำคัญเหนือกว่า Gaming Notebook ทั่วไปด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 5 – 7 ชั่วโมง ในการทดสอบ เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไว้ใช้ทำงานหรือเล่นเกม ที่เน้นพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องความบางเบานั้นสำคัญไม่แพ้กับประสิทธิภาพการใช้งานที่ลื่นไหล นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ Windows 10 แท้รองรับการใช้งานทันทีอีกด้วย แน่นอว่าการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI
MSI GF65 Thin ปี 2020 มาพร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Core i Gen 10H เป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ที่มีความแรงในทุกๆ การใช้งานหนักๆ ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกม 3 มิติ หรือทำงานโปรเซสไฟล์ที่ซับซ้อน ส่วนการ์ดจอก็เป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti ที่แรงสุดแล้วในตระกูล GTX จัดเต็มด้วยแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 2666MHz และ SSD ความจุที่ 512GB ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว ออกแบบโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ให้มีความสวย ทันสมัยให้ความแข็งแรง ทนทาน เพิ่มความโดดเด่น ใช้งานง่ายและสะดวก ทำให้ MSI GF63 Thin เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่ได้ทั้งความแรงและความเบาน่าซื้อที่สุดรุ่นนึงทีเดียว กับราคาเพียง 38,900 บาท
ในส่วนของช่องระบายความร้อนของ MSI GF65 Thin จะเหนือกว่า MSI GF63 Thin จากการที่มี 2 ช่องคือด้านหลังฝั่งซ้ายมือตัวเครื่อง และด้านข้างซ้าย พร้อมใช้พัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 6 เส้น เพียงพอต่อการใช้งาน วัสดุบอดี้ตรงคีย์บอร์ดจะเป็นอะลูมิเนียมสีดำทำการบรัชลายเส้นเหมือนฝาหลัง สวยงาม แข็งแรง ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านมุมบนขวามือแยกจากคีย์บอร์ด นอกจากนี้คีย์บอร์ดยังมีไฟสีแดง สามารถเปิดปิดได้ 3 ระดับ เรียกได้ว่า MSI GF65 Thin ได้ให้สัมผัสถึงความเป็น Gaming Notebook บางเบาสายพันธุ์แท้เหมือนรุ่น GS แต่ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูดีแบบเรียบง่าย ที่ไม่ใช่แค่เครื่องแรงอย่างเดียวแต่ในประสบการณ์ใช้งานก็ดีเยี่ยมด้วย
ASUS ROG Zephyrus G15 GA502
ASUS ROG Zephyrus G15 GA502 เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H อย่าง Ryzen 7 4800HS ตัวแรงประสิทธิภาพสูงแต่ร้อนน้อยกว่ารุ่น Ryzen 7 4800H เน้นใช้ใน Gaming Notebook บางเบา ส่วนการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q จัดเต็มเรื่องของการทำงานและการเล่นเกมเช่นเดิม จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คระดับบนของ ASUS สาย Gaming ตระกูล ROG Zephyrus Series ที่เน้นความพรีเมียม การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ แบตยาวนานสูงสุดกว่า 10 ชั่วโมง ทำงานก็ดีเยี่ยมเล่นเกมก็ได้ดีกว่าเดิมมากๆ โดยมีความบางสุดที่ 19.9 มิลลิเมตร มาพร้อมน้ำหนักเบาที่ 2.1 กิโลกรัมเท่านั้น
สำหรับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS สถาปัตยกรรม Zen 2 มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 7 nm ความเร็ว 2.90 – 4.20 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ผสานกับ APU การ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 7 ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ใช้สถาปัตยกรรมกับ RTX ที่เย็นกว่า GTX 10 Series พร้อมตัดพวกฟีเจอร์อื่นๆ ออกไปเน้นความแรงเป็นหลัก โดยเน้นให้มีความร้อนที่น้อยกว่าและประหยัดพลังงานเข้ากับตัวเครื่องที่บางเบา อย่างไรก็ตามเรื่องประสิทธิภาพก็หายห่วงเพราะทาง ASUS ได้ Overclock เพิ่มความแรงเข้ามาด้วย
ในส่วนของแรมได้มาขนาด 16GB Bus 3200 MHz แบบ Dual Channel (8GB x 2 โดยออนบอร์ดมาแล้ว 1 แถว) มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ Intel SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่มีความลื่นไหล อีกทั้งยังรองรับการติดตั้งอัพเกรดเพิ่ม SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพดี รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)
นอกจากนี้รายละเอียดอื่นๆ ของ ASUS ROG Zephyrus G15 GA502 ก็จะมีระบบเสียง Hi-Res audio แบบ 7.1 Virtual surround พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 และชาร์จไฟผ่านทาง USB PD ได้ ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่อย่าง Intel Wi-Fi 6 AX (2×2) และ Bluetooth 5.0 พร้อมติดจั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate มาให้ในตัว โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือไม่ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมมา ถ้าใครจะใช้ต้องหามาติดตั้งเอง การรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย