TOUGHBOOK 55 โน๊ตบุ๊คสายพันธ์อึดคมชัดด้วยหน้าจอ 14 นิ้วและออพชันภายในให้คุณปรับแต่งสเปกได้ตามความต้องการ พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั่วประเทศ
ประเทศไทย–พานาโซนิคตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คสายพันธ์อึดด้วยการเปิดตัวTOUGHBOOK 55 นวัตกรรมโน๊ตบุ๊คมากความสามารถที่พร้อมให้ผู้ใช้ปรับแต่งสเปกได้ตามความต้องการตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ล้ำกว่าด้วยอีกขั้นของมาตรฐานความปลอดภัยในคอมพิวเตอร์พกพาจากความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาของพานาโซนิคและไมโครซอฟท์เพื่อเสริมศักยภาพการทำงานและคืนความคุ้มค่าสูงสุดให้ทุกธุรกิจ
ด้วย TOUGHBOOK 55 ผู้ใช้สามารถเลือกปรับแต่งสเปกให้เข้ากับสภาพงานได้อย่างง่ายดายด้วย Universal Bayไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มการประมวลผลกราฟฟิก (GPU), เพิ่มSmartcard reader, เพิ่ม 2nd SSD, เพิ่มDVD-Drive หรือเพิ่มBlue-Ray Driveไม่เพียงเท่านี้ ช่อง Slot ด้านหน้ายังสามารถใช้เพื่อเชื่อมต่อเป็น Fingerprint reader, RFID, Smart card readerหรือเพิ่มขีดสุดด้านพลังงานด้วยการเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ก้อนที่สอง
คุณ Mina Baek, GM และ Head of BusinessToughbook Solution Group บริษัท Panasonic System Solutions Asia Pacific เผยว่า “เมื่อธุรกิจเป็นตัวขับดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า พานาโซนิคจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ผ่านการพัฒนาคอมพิวเตอร์พกพาเพื่อตอบสนองผู้ใช้งานอย่างทั่วถึง ด้วยเจตนารมณ์นี้เองทำให้ TOUGHBOOK 55 ไม่เพียงแต่เป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งาน แต่ยังมีความสามารถในการซ่อมหรือเสริมชิ้นส่วนต่างๆ ให้พร้อมรับกับทุกความเปลี่ยนแปลง เพื่อคืนความคุ้มค่าสูงสุดให้ทุกธุรกิจ”
TOUGHBOOK 55พร้อมวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้ โดยมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 14 นิ้วแบ่งเป็นสามรุ่นได้แก่ HD, Full-HD และ Full-HD Touch Screen โดยมีราคาเริ่มต้นที่89,900 บาท ลูกค้าสามารถปรับแต่งPort เพื่อเพิ่มสามออพชันเสริมบน Slot เพิ่มเติม อาทิVGA, True Serial, เพิ่มพอร์ต USB ที่สี่, เพิ่มพอร์ต GLAN ที่สอง หรือพอร์ต Rugged USB 2.0 ได้ทันที ณ จุดจำหน่าย
ทนทานต่อการใช้งานในหลากสภาพแวดล้อม
ความสามารถในการทำงานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาแบตเตอรี่หมดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติงานภาคสนามต่อเนื่องเป็นเวลานาน และด้วยแบตเตอรี่ที่อึดถึง 20 ชั่วโมง[1] หรือถึง 40 ชั่วโมงเมื่อเพิ่มแบตเตอรี่ก้อนที่สองทำให้ TOUGHBOOK 55 โดดเด่นท้าทายกาลเวลาด้วยตัวเครื่องที่บางเพียง 32.8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 2.08 กิโลกรัม สะดวกต่อการพกพายิ่งขึ้นด้วยหูหิ้วดีไซน์พรีเมี่ยมที่ Built-in มาในตัว
ด้วยการออกแบบให้แกร่งขึ้นในทุกมิติ TOUGHBOOK 55 จึงมาพร้อมมาตรฐานIP53 ปกป้องโน๊ตบุ๊คของคุณจากฝุ่นละออง น้ำ และการตกกระแทกจากความสูงถึง 91 เซนติเมตร (MIL-STD810H*) ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้แม้ในสภาพอากาศหฤโหดตั้งแต่อุณหภูมิ -20°C จนถึงกว่า +60°C*.
สร้างมาให้แกร่งในทุกเวลา ทุกสถานการณ์
TOUGHBOOK 55 ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวกแม้ขณะติดตั้งบนยานพาหนะ รองรับการสั่งงานด้วยเสียง มาพร้อมลำโพงและไมค์ถึงสี่ตัวทำให้มีอัตรารับคำสั่งเสียงแม่นยำถึง 98%**และด้วยพลังลำโพงสเตอริโอที่ถูกพัฒนาขึ้น (92 dBA)ตลอดจนกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยพอร์ตIR และ Privacy shutter เพื่อการประชุม Video conference ทำให้ทุกการสื่อสารเป็นเรื่องง่ายแม้อยู่ในยานพาหนะหรือสภาพการทำงานที่มีเสียงรบกวน
คีย์บอร์ดของ TOUGHBOOK 55 ได้รับการพัฒนาและสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับหลายประเภทงาน ไฟคีย์บอร์ดเรืองแสงสามารถตั้งค่าให้ปรับเปลี่ยนสีได้ตามที่ผู้ใช้งานต้องการ มาพร้อมแป้นพิมพ์แยกที่ใช้งานได้สะดวก ตัวอักษรพิมพ์ด้วยเรซินให้ความคมชัดทั้งในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างและที่มืด
หน้าจอที่ได้รับการพัฒนาขึ้นทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมหน้าจอโดยรองรับการสัมผัสสูงสุดถึง 10 นิ้วแม้ขณะสวมถุงมือ หรือใช้ปากกา Stylus ปลายเรียว 2 มิลลิเมตรเพื่อการเขียนที่ถูกต้องแม่นยำ2สามารถใช้งานได้ในหลายสภาพแสง ไม่ว่าจะเป็นสภาพแสงจ้าหรือในที่มืด ความสว่างของหน้าจอสามารถตั้งค่าได้ตั้งแต่ 2 cd/m2 และสูงสุดถึง 1000 cd/m2
ทนทานปกป้องทุกการคุกคาม
ด้วยการออกแบบที่ปกป้อง TOUGHBOOK 55 จากความเสียหายภายนอก ตลอดจนความสามารถในการปรับแต่งทำให้การถอดเปลี่ยนหน่วยความจำทำได้ง่ายเพื่อช่วยป้องกันข้อมูลสำคัญของคุณยิ่งไปกว่านั้น TOUGHBOOK 55 ยังได้รับการออกแบบให้ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และยังเป็นหนึ่งในโน้ตบุ๊ตรุ่นแรกๆ ที่มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ทำให้TOUGHBOOK 55 เป็นอุปกรณ์ที่รองรับ Windows 10 Pro ซึ่งออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดทั้งในเชิง Hardware, Software และการป้องกันข้อมูลเชิงอัตลักษณ์ (Identity protection) ตั้งแต่แรกซื้อ
การผสมผสานกันที่ลงตัวระหว่าง 8th genIntel Core i5 vPro processor และ Panasonic advanced components ตลอดจนฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยบน Windows 10 Pro ช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ การโจมตีเฟิร์มแวร์ การรักษาความปลอดภัย BIOS phase ทั้งหมดนี้จึงช่วยป้องกันการลักลอบเข้าถึงข้อมูล พร้อมให้ความปลอดภัยสูงสุดแม้อยู่ในโหมด Stand-by
ไม่เพียงเท่านั้น TOUGHBOOK 55 ยังมาพร้อมฟีเจอร์การป้องกันข้อมูลด้วยอัตลักษณ์ผ่านFingerprint reader, Smart card reader, Contactless smart card reader และระบบตรวจจับใบหน้า Windows Hello facialrecognitionด้วยกล้องหน้า พร้อมปกป้องคุณตั้งแต่แรกเปิดจนปิดเครื่อง
ข้อมูลจำเพาะ
TOUGHBOOK 55 มาพร้อม 8th generation Intel Core i5 vPro Quad Core CPU, 8GB ถึง 64GB RAM และ256GB / 512GB / 1TB SSDหรือ 256GB / 512GB / 1TB OPAL,พอร์ตการเชื่อมต่อประกอบด้วย USB3.1สองพอร์ต,USB 3.1 type C PDหนึ่งพอร์ต,HDMIหนึ่งพอร์ต, LANหนึ่งพอร์ต, micro SDXC slot และoptional Dual Path Through.
ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Bluetooth 5.0 รองรับ WLAN with Intel Dual Band Wireless AC-9560 รองรับ Global Positioning ด้วยระบบ Galileo, GPS ในยุโรป, GLONASS ในรัสเซีย และBeidouในจีนผ่าน ublox-NEO-M8N
สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์และการขายเพิ่มเติม โปรดติดต่อคุณหลิน (niphapat.charoenkitroj@sg.panasonic.com) หรือคุณแอน (nichanana.chantakhet@sg.panasonic.com) LINE ID: @toughbook
* ออกแบบมาเพื่อ MIL-STD810H. ทดสอบโดย Lab อิสระ MIL-STD810H จะทดสอบสมบูรณ์ในครึ่งหลังของปี 2019
** ทดสอบโดยโรงงาน Panasonic
1 Mobile Mark 2014, 150 cd/m. HD Model
2 Full-HD Touch Screen Model เท่านั้น
3 Full-HD and Full-HD Touch Screen Model เท่านั้น
# # #
เกี่ยวกับ Panasonic
Panasonic Corporation เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ให้บริการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีแก่ผู้บริโภคกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องจักรกล และกลุ่มธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) Panasonic Corporation มีสาขาในกว่า 582 แห่งและ
บริษัทในเครืออีกกว่า 87 แห่งทั่วโลก บริษัทฉลองความสำเร็จในการประกอบธุรกิจครบ 100 ปีในปี 2018 ด้วยยอดขายถึง 8.003 ล้านล้านเยนในรอบบัญชีสิ้นสุด ณ 31 มีนาคม 2019 บริษัทมีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนานวัตกรรมในทุกสายผลิตภัณฑ์ ตลอดจนผสานเอาเทคโนโลยีเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตและโลกของเราดีขึ้น ข้อมูลบริษัทเพิ่มเติม http://www.panasonic.com/global.