สำหรับ Gaming Notebook ปี 2020 ที่ได้ประสิทธิภาพทรงพลังพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม ทั้งหมดจะติดตั้งมาพร้อมกับการ์ดจอแยก (GPU) NVDIA GeForce RTX / RTX Super จากเทคโนโลยีการผลิตสถาปัตยกรรม Turing ที่ดีเยี่ยม รองรับการเล่นเกมทุกๆ เกมบนโลกแบบลื่นไหลสุดๆ อีกทั้งให้ความสำคัญเรื่องความสวยงามด้วย โดยมีรุ่น RTX 2070 / RTX 2080 / RTX 2070 Super / RTX 2080 Super เน้นไปที่ Gaming Notebook ที่ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมระดับสูงโดยเฉพาะ แน่นอนว่าเหนือกว่าพวก GTX 1650 / GTX 1650 Ti / GTX 1660 Ti / RTX 2060
ซึ่งจับคู่มากับชิปประมวลผลที่ทรงพลังอย่าง Intel Core i Gen 10H (Comet Lake H) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น อาทิ Core i7-10750H / Core i7-10875 ที่แรงลื่นกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงมีรุ่นแรงสุดทางด้วย Core i9-10980HK ที่จัดว่าเป็นชิปประมวลผลของ Notebook ที่แรงที่สุดในโลก ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ พร้อมแรม 16GB – 32GB และ SSD 512GB – 1TB ฉะนั้นแล้วใครจะซื้อ Gaming Notebook ระดับสูง ชิปประมวลผลของ Intel ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างแน่นอนที่สุด
สำหรับ Gaming Notebook ที่เน้นความบางเบาแต่ทรงประสิทธิภาพอยู่ ก็จะมีการ์ดจอรุ่นที่เป็นเวอร์ชั่น Max-Q (ใช้พลังงานต่ำและปลดปล่อยความร้อนน้อยกว่าปกติ) เช่น NVIDIA GeForce RTX 2080 Super Max-Q พร้อมจับมือผู้ผลิตทุกค่ายไม่ว่าจะเป็น Acer / ASUS / MSI / Lenovo / และอื่นๆ ในการนำเสนอ Gaming Notebook ระดับสูง ที่จับคู่มากับชิปประมวลผลและการ์ดจอแยกระดับไฮเอนด์ ได้หน้าจอเกรดสูงทั้งหมด สนนราคาตั้งแต่ 5x,xxx – 9x,xxx บาท จะมีรุ่นอะไรบ้าง ไปชมกันต่อเลย
ASUS ROG Strix G17 GL742 ราคา 54,900 บาท
ASUS ROG Strix G17 GL742 เป็น Gaming Notebook ที่มีสเปกอัพเดทเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H เน้นความคุ้มค่าและฟีเจอร์ที่มากกว่า โดดเด่นด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB พร้อม Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง ที่เราสามารถปรับแต่ได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสดใหม่ด้วยระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling ที่ทำงานร่วมกับสารโลหะเหลว (liquid metal) จากทาง Thermal Grizzly เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับชิปประมวลผล แทนการใช้ซิลิโคนนำความร้อนแบบปกติ
สำหรับ ASUS ROG Strix G17 GL742 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมจอ 17.3″ สเปกระดับบนในราคาคุ้มค่า ได้ชิปประมวลผลตัวแรง Intel Core i7-10750H ที่ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด พร้อมด้วยการ์ดจอประสิทธิภาพสูงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 (8GB GDDR6) ได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 2933MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB อีกทั้งได้หน้าจอเป็น 17.3″ Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz แบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, HDMI, 3 x USB 3.0, Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45, Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX (2×2) แน่นอนว่าได้ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันทีตั้งแต่เปิดเครื่องในครั้งแรก กับราคาเพียง 54,900 บาท ที่บอกได้เลยไม่แพงเลย ถ้าดูจากสเปกและฟีเจอรที่ติดตั้งมาให้แล้ว โดยได้ประกัน 2 ปี ที่สามารถเคลมผ่าน 7-11 ได้ ปีแรกมีประกันอุบัติเหตุด้วย
ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ROG Strix G17 GL542 เป็น Gaming Notebook ขอบจอบางตัวเครื่องมิติเล็กกระชับทั้ง 3 ด้าน คือ บน ซ้ายและขวา พร้อมตัดกล้องเว็บแคมออกไป มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.85 กิโลกรัม มีความบางสุดที่ 21~25.8 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าโดยรวมมาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบ ได้รับ DNA เต็มๆ มาจาก ASUS ROG Strix รุ่นก่อน ซึ่งมีความพิเศษสุดๆ คือได้ทาง BMW Designworks Group มาร่วมออกแบบด้วย เห็นได้ชัดจากชุดระบายความร้อนด้านหลังที่เป็นครีบคล้ายกับเสื้อสูมมอเตอร์ไซต์จาก BMW เรียกได้ว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้น
Acer Predator Triton 500 ราคา 79,990 – 89,990 บาท
Acer Predator Triton 500 (2020) นี้เป็นการต่อยอดมาจาก Gaming Notebook รูปแบบ Thin & Light รุ่นพี่อย่าง Acer Predator Triton 700 เสริมด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง GeForce RTX 2070 Super / RTX 2080 Super ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพกับความสมจริงกว่าที่เคยมีมา โดยทำงานประสานกับชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ที่แรงพอตัว ทำให้สิทธิภาพตัวเครื่องเทียบกับ Deskto PC สบายๆ ภายใต้ตัวเครื่องที่เบา 2.1 กิโลกรัม และบางเฉียบเพียง 17.9 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าแรงเกินตัวไปเยอะจริงๆ
Acer Predator Triton 500 (2020) จะมีหน้าจอขนาดใหญ่ 15.6″ แต่กลับมีความเล็กลงจากมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดจากการที่ขอบจอบาง (ใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″) ผนวกกับหน้าจอ IPS และอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 144Hz จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการมอบประสบการณ์ใหม่ๆในการเล่นเกมแบบเต็มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้งานได้อย่างแน่นอน ในส่วนของดีไซน์ภายนอกก็ดูเรียบหรู วัสดุเป็นอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่องแซมด้วยสีฟ้า Predator ที่โดดเด่น สนนราคาที่ 59,990 บาท
ตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนล บนซอฟแวร์เสียง Waves Maxx Audio ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 จำนวน 1 ช่อง, USB 3.1 Type-A จำนวน 3 ช่อง หนึ่งช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 พร้อม E3000 Ethernet Controller, Wi-Fi 6 AX 1650 และ Killer Control Center 2.0 ของ Killer ที่ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ให้มีเสถียรภาพและสมูทขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 เป็นมาตรฐาน
ดีไซน์การของ Acer Predator Triton 500 (2020) มาพร้อมความสดใหม่ ตัวเครื่องนั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว มาพร้อมกับวัสดุผสมระหว่างอลูมิเนียมและแมกนีเซียม มาในโทนสีดำอย่าง Obsidian black สลับกับสีฟ้าบางส่วนอย่างโลโก้และฟินระบายความร้อน พร้อมกันนั้นพื้นผิวเรียบจากการใช้วิธีพ่นทราย ซึ่งจะทำได้ละเอียดกว่าการขัดปกติ ผิวชิ้นงานเนียน และช่วยให้สีติดที่เนื้อวัสดุได้อย่างดีที่สุด แถมยังมีความทนทานด้วย โดยการใช้งานจริงนับว่าให้สัมผัสที่เยี่ยมยอด แตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปแบบรู้สึกได้ในครั้งแรก
- Core i7-10750H / RTX 2070 Super / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 300Hz ราคา 79,9990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2080 Super / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 300Hz ราคา 89,9990 บาท
MSI GE66 Raider ราคา 65,900 บาท
ที่สุดของ Gaming Notebook ขนาด 15.6″ รุ่นล่าสุด อย่าง MSI GE66 Raider ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2020 ซึ่งบทความนี้เราได้รับเครื่องจริงสเปกจริงมารีวิวแล้ว จัดว่าเป็น Gaming Notebook สุดล้ำ ออกแบบมาสำหรับยุคอนาคต โดยเป็นการผสมผสานการออกแบบระหว่างคอนเซปต์ Sci-Fi รูปทรงภายนอกนั้นมีการนำความเป็นยานอวกาศในโลกอนาคตมาปรากฏอยู่บนรูปทรงของตัวเครื่อง สื่อถึงเรื่องของประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการใช้งานที่เหนือกว่าใคร สเปกภายในเป็น Intel Core i Gen 10H ผสานการทำงานกับ NVIDIA GeForce RTX สเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มทั้งแรมและ SSD M.2 เกรดสูง
วัสดุหลักรวมถึงส่วนของฝาพับทำมาจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง สีสันโทนไทเทเนียมเงินแบบด้านที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รูปทรงโดยรวมมีความคล้ายกับ MSI GT76 Titan รุ่นพี่ และในส่วนหลักของแสงที่ส่องสว่างออกมาจากบริเวณด้านหน้าของที่วางมือ ก็คือ Mystic Light แสดงแสงไฟแบบ Panoramic Aurora วัสดุเป็นอะคริลิคที่รมดำเข้ากับตัวเครื่อง ประกอบกับไฟ Per-Key RGB Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries หน้าจอเป็น IPS ระดับ 240Hz พร้อมลำโพง Duo Wave Speaker ระบบเสียง Dynaudio ทั้งหมดนี้ช่วยให้เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
MSI GE66 Raider ใช้ชิปประมวลผลตัวท็อปสุดเป็น Intel Core i7- 10750H หรือ Core i9-10980HK ที่สุดแสนจะทรงพลังในการทพำงาน พร้อมการ์ดจอรุ่นใหม่ที่แรงลื่นและร้อนน้อยสุดๆ อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 / RTX 2070 Super ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Gaming Desktop ตัวไฮเอนด์ มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ความจุ 1TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz ขนาด 16GB / 32GB พร้อมรองรับ Dual Channel จัดเต็มไม่เป็นรองใคร
สำหรับ MSI GE66 Raider จัดว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งมีทั้ง 3 x USB 3.2 Type-A, 2 x USB 3.2 Type-C, HDMI, Mini DisplayPort, LAN, SD Card Reader, รูหูฟังและไมค์โครโฟน 3.5 mm และช่องเสียบอแดปเตอร์เหมือน MSI GT76 Titan การเชื่อมต่อแบบไร้สายแบบ Killer ac Wi-Fi 6 (AX)+ Bluetooth 5.0 ซึ่งตัวเครื่องมาพร้อมฟีเจอร์ Killer Doubleshot Pro จัดลำดับความสำคัญให้กับการเชื่อมต่อของเกมมาเป็นอันดับแรก ทำให้มีความเสถียรของอินเตอร์เน็ตมากกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นพอสมควร
- Core i7-10750H / RTX 2070 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 240Hz ราคา 65,900 บาท
- Core i9-10980HK / RTX 2070 Super / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS 240Hz ราคา 82,900 บาท
Gigabyte AORUS 15G ราคา 89,900 บาท
Gigabyte AORUS 15G ที่สุดของ Gaming Notebook ประสิทธิภาพสูง จากทาง Gigabyte รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2020 สเปกสุดแรงดีไซน์สุดล้ำ หน้าจอขนาด 15.6″ พาเนล IPS ที่ 240Hz กับสเปกที่จัดเต็มด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-10875H ซึ่งเป็น Core i Gen 10H ตัวแรงกว่ารุ่น Core i7-10750H ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q โดยมีน้ำหนักแค่ 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น ได้ระบบระบายความร้อน WINDFORCE infinity พัดลม 12V 2 ตัว 5 Heatpipes ,4 ช่องระบายความร้อน เทคโนโลยีจากทาง Gigabyte ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์ Gaming ในฝั่งของ PC Desktop อยู่แล้ว
สเปกและฟีเจอร์อื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB Bus 2933MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB และ OMRON Mechanical Switch ให้ความรู้สึกเหมือนคีย์บอร์ดแยก รองรับการกดได้ถึง 15 ล้านครั้ง โดยเป็นคีย์บอร์ด RGB Fusion 2.0 ตั้งค่าสีไฟแยกอิสระทุกปุ่ม พร้อมได้ระบบเสียง Nahimic 3 3D Audio for Gamers รวมถึง AORUS GAMING CENTER ที่ปรับแต่งได้หลากหลาย ส่วนการเชื่อมต่อก็จัดเต็มด้วย Killer Ethernet E2600 + Killer Wi-Fi 6 AX1650 โดดเด่นด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro สนนราคาขายอยู่ที่ 89,990 บาท
ดีไซน์การออกแบบจะเห็นว่า Gigabyte AORUS 15G มีสไตล์แบบไม่ซ้ำใคร AORUS คือซับแบรนด์ของทาง Gigabyte ที่จะเป็นกลุ่มสินค้าระดับ Hi End ที่ตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์ หรือผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ ออปชั่นอื่นๆที่มากกว่าพื้นฐาน เช่นระบบระบายความร้อนที่ดีกว่า ไฟ RGB ที่สวยงามกว่า รวมถึงการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวโดดเด่นมากกว่า ซึ่งเราคุ้นเคยกันดีในการ์ดจอ เมนบอร์ด และวันนี้ก็ได้มาเป็นซับแบรนด์ให้ตลาดโน๊ตบุ๊คอีกด้วย และแน่นอนว่าทุกรุ่นยังคงผลิตในไต้หวัน จึงมั่นใจในคุณภาพของสินค้าได้ เชื่อว่าโดนใจใครหลายๆ คนแน่นอน ในเรื่องของความพรีเมียมแตกต่างจาก Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ แบบชัดเจน
ตัวเครื่องโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดต่างๆ ที่สวยงามตามสไตล์ AORUS ที่สำคัญด้วยเทคโนโลยี ระบบระบายความร้อน WINDFORCE พัดลม 12V 2 ตัว 5 Heatpipes ,4 ช่องระบายความร้อน ดูดอากาศเย็นจากใต้ตัวเครื่องพร้อมเปล่าออกผ่านทางฮีทไปป์และฟินขนาดใหญ่ไปทางด้านหลังและด้านข้างออกตัวเครื่อง เชื่อได้เลยว่า Gigabyte AORUS 15G ตัวนี้ต้องจัดการอุณหภูมิได้ดีอย่างแน่นอน มาพร้อมกับไฟ RGB 16.8 ล้านสี ด้วย OMRON Mechanical Switch ให้ความรู้สึกเหมือนคีย์บอร์ดแยก รองรับการกดได้ถึง 15 ล้านครั้ง คีย์บอร์ด RGB Fusion 2.0 ตั้งค่าสีไฟแยกอิสระทุกปุ่ม ที่เราสามารถปรับแต่งได้ดั่งใจ ทั้งส่วนของคีย์บอร์ดที่ดูแล้วสวยงาม
- Core i7-10875H / RTX 2070 Super Max-Q / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 240Hz ราคา 89,900 บาท
Lenovo Legion 7i ราคา 99,900 บาท
Lenovo Legion 7i ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการที่เกมเมอร์มองหาใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ตัวเครื่องภายนอกผลิตด้วยโลหะเฉดสี Slate Grey ตัดด้วยเส้นแสงไฟ RGB สุดล้ำ ให้น้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม แต่ภายในนั้นอัดแน่นไปด้วยพลังชิปประมวลผลสูงสุดอย่าง i9-10980HK พร้อมด้วยการ์ดจอที่ดีที่สุดอย่าง NVDIA GeForce RTX 2080 Super Max-Q (8GB GDDR6) อัดแรมได้มากสุดๆ ที่ 32GB DDR4 แบบ Dual Channel โดยติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB ที่ทำงานร่วมกัน Intel Optane 32GB อีกด้วย
จุดเด่นคือได้หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ความสว่าง 500 nitts ความแม่นยำสี Adobe sRGB สูง 100% และ VESA DisplayHDR 400 เพื่อการแสดงรายละเอียดของภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น ลดเวลาการตอบสนองให้เหลือน้อยกว่า 1ms ผ่าน OverDrivesupport อีกทั้งด้วยฟีเจอร์ G-SYNC ที่ทำงานร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA ให้ภาพลื่นไหลไม่ฉีกขาด พร้อมเทคโนโลยี Dolby Vision และ Dolby Atmos Speaker System เพื่อประสบการณ์ความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ
โดดเด่นด้วยระบบระบายความร้อนเต็มไปด้วยนวัตกรรมขั้นสูง Lenovo Legion Coldfront 2.0ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการอุณหภูมิ มาพร้อม Vapor Chamber และเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน 6 ตัว และพัดลมแบบ liquid crystal polymer ช่วยเพิ่มการไหลเวียนอากาศและถ่ายเทความร้อนสี่จุดรอบตัวเครื่อง อีกทั้งระบบ Dual Burn ที่จัดการ การทำงานของ CPU และGPU ให้ทำงานร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
อัพเกรดให้ทุกสัมผัสบนแป้นพิมพ์ตอบโจทย์การเล่นได้ดียิ่งกว่าเดิม ด้วย Lenovo Legion TrueStrikeKeyboardรองรับ anti-ghosting ตอบสนองรวดเร็วในระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาที ให้สัมผัสของการลงปุ่มกดที่นุ่มนวลแต่หนักแน่นเสมือนใช้ปุ่มกดจากแป้นคีย์บอร์ดสำหรับเกมมิ่ง ดีไซน์ขอบโค้งรับกับนิ้วมือ ปรับแต่งเฉดสีได้มากถึง 16 ล้านเฉดด้วยระบบ CorsairiCUEคีย์บอร์ดของ Lenovo Legion ทุกรุ่นแข็งแรงทนทานผ่านการเคลือบเพื่อต้านทานการเสียดสีและการสึกกร่อนอีกด้วย
Lenovo Legion 7i มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 80WHr สามารถให้พลังงานได้นานถึง 8 ชั่วโมง อะแดปเตอร์ขนาดเล็กลง เพิ่มความยืดหยุ่นในการพกพา และระบบ Rapid Charge Pro ช่วยชาร์จแบตเตอรี่ถึง 50% ได้ภายใน 30 นาที สำหรับราคาของ Lenovo Legion 7i ราคาและรุ่นสเปกต่างๆ รวมไปถึงการวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จะแจ้งให้ทราบภายหลังอีกที