บทความนี้เราจะมาแนะนำ Notebook น่าซื้อ 2020 สเปก AMD Ryzen 4000U เน้นทำงาน จอ 14″ – 15.6″ เริ่มราคาถูกสุดๆ ที่ 15,490 บาท ได้สถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir (เรนัวร์) เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร สุดล้ำหน้ากว่าที่เคยมีมาในตลาดโน๊ตบุ๊ค ที่ได้ความแรงลื่นกว่า Notebook สเปก AMD Ryzen 3000U หรือ Ryzen 3000H เลยทีเดียว นับได้ว่าเป็นชิปประมวลของ Notebook ยุคใหม่ โดยบางรุ่นจะมาพร้อมโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ด้วย ส่วนประกันมีทั้งแบบ 2 ปี และ 3 ปี ซึ่งปีแรกมีประกันอุบัติเหตุ หรือ On-site Service
ที่ได้ความสดใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย ด้วยฟีเจอร์ที่ล้ำหน้าไม่ว่าจะเป็นแรมมาตรฐาน DDR4 3200MHz และ SmartShift รวมถึง Wi-Fi 6 AX ที่ยอดยอดประสบการณ์ใช้งานมากยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งกับความร้อนที่เกิดขึ้นก็น้อยกว่า และแบตเตอรี่เมื่อใช้งานโหมดประหยัดพลังงานก็ยาวนานกว่าเดิมด้วย ทั้งในส่วนของ AMD Ryzen 4000 U ที่เน้นติดตั้งในโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาประหยัดพลังงานสำหรับโน๊ตบุ๊คทำงานหรือคุ้มค่าอย่าง AMD Ryzen 5 4500U /AMD Ryzen 7 4700U ได้แรม 8GB และ SSD M.2 ความจุ 256GB – 512GB จะมีรุ่นไหน ไปชมกันต่อเลย
Lenovo IdeaPad 3 15 ราคา 15,490 บาท
Lenovo IdeaPad 3 15 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ประจำปี 2020 ดีไซน์บางเบา Thin & Light วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี มองไปคล้ายกับโลหะใีพื้นผิวเรียบเนียนจับแล้วติดมือ ได้ขอบจอบาง Narrow Bezel ทั้ง 3 ด้านซ้ายขวาและขอบบน ทำให้มีสัดส่วนจอแสดงผลเยอะกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ ๆ แบบก่อน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง แต่ได้ความสวยงามคุ้มค่า ซึ่งขอบจอด้านในเป็นสีดำตัดกับสีตัวเครื่องโดยรวมอย่าง Platinum Grey ดูแล้วมีความสวยงามลงตัว เครื่องบางเพียง 19.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักที่ 1.85 กิโลกรัมเท่านั้น รวมไปถึงมิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ด้วย
ได้สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series พร้อมขายในไทย มีราคาที่ถูกสุดๆ ที่ 15,490 บาท ด้วย AMD Ryzen 5 4500U (2.30 GHz up to 4.00 GHz, 8 MB L3 Cache) ทำงานแบบ 6 คอร์ 6 เธร์ด การ์ดจอออนชิป Radeon RX Vega 6 ประสิทธิภาพดีขึ้น รองรับการเล่นเกมออนไลน์พอได้ แรมให้มาขนาด 8GB DDR4 สำหรับฮาร์ดดิสก์ให้มาทั้ง SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ความจุ 256GB เรียกได้ว่าได้ประสิทธิภาพการทำงานได้ดีเยี่ยมแน่นอน
ส่วนหน้าจอเป็นขนาด 15.6″ ที่ได้ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพดี พร้อมมีลำโพงคุณภาพดีทำงานร่วมกับระบบเสียง Dolby Audio ส่วนพอร์ตที่ให้มาก็ครบครัน ได้แก่ 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 3.1 Type-A, HDMI, และ SD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 5 (802.11ac) และ Bluetooth 4.2 ด้วย รองรับการทำงานทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเบาๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานได้ทันที พร้อมการรับประกัน 2 ปี
Acer Swift 3 SF314 ราคา 22,990 – 25,990 บาท
Acer Swift 3 SF314-42 แบ่งออกเป็น 2 สีหลักๆ คือ สีเงิน Silver ที่ดูสว่างเรียบๆ เนี๊ยบๆ และสีม่วง Purple ที่ดูสดใสน่ารักเหมาะกับสาวๆ ซึ่งทั้งตัวเครื่องให้ความบางเบาแต่แข็งแรง เรียกได้ว่าได้รับการพัฒนาต่อยอดจากโน๊ตบุ๊คบางเบาของทาง Acer ได้เป็นอย่างดีที่มาพร้อมราคาที่คุ้มค่ากว่ารุ่นเดิม ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก โดยมาพร้อมกับบางเพียง 15.95 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่ตัวเครื่องเทียบเท่ากับหน้าจอ 13.3″ อย่างรุ่นก่อนๆ ที่บางเบาที่สุดรุ่นหนึ่ง
Acer Swift 3 SF314-42 ใช้ชิปประมวลผลตัวแรงสุดๆ คุ้มค่าสุดๆ ด้วย AMD Ryzen 5 4500U (2.30 GHz up to 4.00 GHz, 8 MB L3 Cache) และ Ryzen 7 4700U (2.00 GHz up to 4.10 GHz, 8 MB L3 Cache) ที่เป็นชิปประมวลผลสถาปัตยกรรม Zen 2 โค้ดเนม Renoir (เรอนัวร์) มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ที่แรงขึ้นมากๆ และร้อนน้อยกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ได้แรม 8GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB หน้าจอขนาด 14 นิ้ว เป็นพาเนล IPS ความละเอียด Full HD แบบจอด้านลดแสงสะท้อน พร้อมได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากๆ
ประกันเป็น 2 ปี พร้อมส่งศูนย์ซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมงด้วย พร้อม Windows 10 แท้ ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยตรงจุดนี้ มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.1 Type-C ที่รองรับ DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด
- Ryzen 5 4500U / VEGA 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS 60 Hz ราคา 22,990 บาท
- Ryzen 7 4700U / VEGA 7 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS 60 Hz ราคา 25,990 บาท
ASUS VivoBook 14 D413 ราคา 19,990 – 22,990 บาท
ASUS VivoBook 14 D413 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่ความผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดีไซน์และประสิทธิภาพการใช้งาน และคงความเป็นเอกลักษณ์ของ VivoBook ที่เน้นสีสันและความสนุกสนาน ช่วยการทำงานมัลติทาสกิ้ง และการใช้งานเพื่อความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยม ตัว Wi–Fi 6 AX ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อที่ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ที่สำคัญยังเปิดตัวสีใหม่รับปี 2020 มาพร้อมสีสัน 4 เฉดสี อย่างสี Resolute Red, Gaia Green, Dreamy White และ Indie Black ที่แตกต่างจากคู่แข่ง พร้อมความพิเศษเพิ่มลูกเล่นบนแป้น ‘Enter’ ด้วยขอบตัดสีเหลืองสะดุดตาแบบสุดๆ พร้อมกันนั้นยังมีสติ๊กเกอร์ให้เราสามารถแปะแต่งเพิ่มเติมอีกด้วย
สเปกภายในของตัว ASUS VivoBook 14 D413 มาพร้อมสเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series อย่าง Ryzen 4500U / Ryzen 7 4700U ได้การ์ดจอออนชิปเป็น Radeon RX VEGA 6 / 7 รุ่นใหม่ ที่รองรับทุกๆ การใช้งาน มาพร้อมขอบหน้าจอบางพิเศษ NanoEdge ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ในส่วนของสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจด้วยแรม 8GB DDR4 Bus 3200MHz พร้อม SSD 512GB แน่นอนว่าได้ Windows 10 ใช้งานทันที พร้อมลำโพงเสียงคุณภาพสูงจากแบรนด์ลำโพงระดับโลก Harman/Kardon ราคาขายไทยอยู่ที่ 19,990 – 22,990 บาท ได้ประกัน 2 ปีตามมาตรฐาน ASUS และประกันอุบัติเหตุในปีแรกด้วย
โดดเด่นด้วยสีสันทูโทนรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ตัวเครื่องภายนอกและด้านในได้วัสดุคุณภาพสูงที่แข็งแรงทนทาน โดยเฉพาะส่วนของส่วนของฝาหน้าจอที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ดูสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามีโลโก้ ASUS VivoBook อย่างโดดเด่น ส่วนตัวด้านล่างก็จะเป็นพลาสติกที่แข็งแรง ทำให้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบา มีการนำเสนอพื้นผิวแบบเรียบเนียนสัมผัสดี ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.4 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 15.9 มิลลิเมตร และขอบจอบางเพียง 5.7 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ปี 2020 ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ติดเครื่องมาพร้อม Windows 10 ไปใช้งานฟรีๆ ด้วย
- Ryzen 5 4500U / VEGA 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS 60 Hz ราคา 19,990 บาท
- Ryzen 7 4700U / VEGA 7 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS 60 Hz ราคา 22,990 บาท
ASUS VivoBook S15 D533 ราคา 20,990 – 23,990 บาท
สำหรับ ASUS VivoBook S15 D533 ก็จะมีรายละเอียดของตัวเครื่องไม่ต่างกันมาก รวมไปถึงสีสันตัวเลือกเหมือนกัน ASUS VivoBook 14 D413 แต่หลักๆ แล้วคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ที่มีหน้าจอที่ใหญ่กว่า ซึ่งได้ขอบหน้าจอบางเฉียบเหมือนกัน รวมไปถึงสเปกที่เป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series อย่าง Ryzen 4500U / Ryzen 7 4700U ได้การ์ดจอออนชิปเป็น Radeon RX VEGA 6 / 7 รุ่นใหม่แรงลื่นใกล้เคียงการ์ดจอแบบแยก อีกทั้งได้แรม 8GB DDR4 Bus 3200MHz พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรด HDD 2.5″ SATA 3) แต่ก็จะมีขนาดและมิติที่ใหญ่กว่า โดยหนักที่ 1.8 กิโลกรัม และบางที่ 16.1 ซึ่งก็ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่บางเบาพกพาสะดวกอยู่
ที่สำคัญ ASUS VivoBook S15 D533 ยังติดตั้งมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ด้วย ASUS VivoBook S15 D533ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type-A จำนวนหนึ่งพอร์ตไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีกสองพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้อีกหนึ่งพอร์ต ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แน่นอนว่าได้ Windows 10 ใช้งานทันที และโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ด้วย
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง Harman Kardon ให้เสียงที่ดีกว่าลำโพงทั่วไป มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนักบางๆ ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี คาดว่าในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก