เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ สำหรับการมาของโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกม หรือ Gaming Notebook รุ่นใหม่ๆ ปี 2020 ในราคาไม่แพง แต่แรงมากๆ จากการเลือกใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H Series รุ่นล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H / Ryzen 7 4800HS / Ryzen 9 4900H ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากการที่ได้เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรมโค้ดเนม Renoir (เรอนัวร์) สุดล้ำหน้า ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนานกว่า นับได้ว่าเป็นขุมพลังสมองคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ ที่ได้ความสดใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย (อ่านเพิ่ม)
ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Gaming Notebook สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H Series ที่ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอตัวแรงรุ่นต่างๆ อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 / 1650 Ti / 1660 Ti / RTX 2060 พร้อมได้หน่วยความจำแรมที่ขนาด 8GB – 16GB DDR4 3200MHz โดยติตตั้ง SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB – 1TB ที่ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ซึ่งมีรุ่นหน้าจอขนาด 14″ / 15,6″ / 17.3″ พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144Hz ให้เลือกตามการใช้งาน แน่นอนว่ามี Windows 10 แท้ทุกรุ่น ส่วนประกันดีที่สุดจะเป็นแบบ On-site นาน 3 ปี จะมีแบรนด์อะไรและรุ่นอะไรบ้างนั้น ไปชมกันต่อเลย (บางรุ่นพร้อมจำหน่ายเร็วๆ นี้)
ASUS TUF Gaming A15 FA506 / A17 FA706 ราคาเริ่ม 26,900 บาท
ASUS TUF Gaming A15 FA506 / A17 FA706 มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4600H / 7 4800H / 9 4900H เรียกได้ว่าจัดเต็มมาครบ ผสานกับ APU การ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 6 / 7 / 8 ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 / 1650 Ti / 1660 Ti / RTX 2060 ที่ครบเครื่องสุดๆ แรมได้มาขนาด 8GB – 16GB DDR4 Bus 3200 MHz มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB – 1TB ที่มีความลื่นไหล และความจุใหญ่สะใจไปเลย
โดดเด่นด้วยหน้าจอบางเฉียบขนาด 15.6″ 17.3″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพดี รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)รวมไปถึงมีลำโพงคุณภาพสูงระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 2 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่อย่าง Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 5.0 พร้อมติดตั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate มาให้ในตัว
น้ำหนักก็อยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก มีความทนทานระดับ Military Grade (MIL-STD-810H) ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้ ส่วนการรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม จัดได้ว่าเป็นมาตรฐานการรับประกันของทาง ASUS ปกติ
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 26,990 บาท
- Ryzen 7 4800H / GTX 1660 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 32,990 บาท
สเปกอื่นๆ รอประกาศอย่างเป็นทางการอีกทีจากทาง ASUS ในไม่กี่วันเร็วๆ นี้ รอติดตามกันได้
ASUS ROG Zephyrus G14 GA401 / G15 GA502 ราคาเริ่ม 49,900 บาท
ASUS ROG Zephyrus G14 (GA401II) เป็น Gaming Notebook ปี 2020 หน้าจอ 14″ ที่แรงที่สุดในโลกที่พร้อมขายแล้ว ได้สเปก AMD Ryzen 7 4800HS ซึ่งเป็นชิปประมวลผลรุ่นใหม่สุดแรงสุด ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธรด เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร พร้อมการ์ดจอประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti จัดเต็มเลยการเล่นเกมหรือทำงาน มารวมตัวกันใน ASUS ROG Zephyrus G14 ที่เป็น Gaming Notebook ที่อยู่ในซีรีส์พรีเมียมของ ASUS ที่เน้นความพรีเมียม บางเบา แบตยาวนาน ทำงานก็ดีเล่นเกมก็ได้ โดยมีน้ำหนักเบาแค่ 1.6 กิโลกรัม เน้นพกพาสะดวกตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดกว่า 15.6″ พอตัว อีกทั้งมีปุ่ม Power ทำหน้าที่ Fingerprint ด้วย
โดย ASUS ROG Zephyrus G14 (GA401II) รุ่นที่พร้อมขายตอนนี้มีรุ่นเดียว สนนราคาที่ 39,990 บาท ใช้วัสดุฝาหลังเป็นโลหะผ่านกระบวนการขึ้นรูปเจาะ CNC ที่เรียบเนียนสวยงาม ส่วนสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยสามารถติดตั้งแรมมาขนาด 16GB Bus 3200 MHz อีกทั้งได้ที่เก็บข้อมูลมาเป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB สำหรับหน้าจอเป็นขนาด 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS เกรดสูง sRGB เกือบ 100% แสดงผล Refresh Rate ที่ 120Hz ลื่นไหล
ส่วน ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ สเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 H Series ที่พร้อมขายแล้ว ได้สเปกเป็น Ryzen 7 4800HS ตัวแรงประสิทธิภาพสูงแต่ร้อนน้อยกว่ารุ่น Ryzen 7 4800H เน้นใช้ใน Gaming Notebook บางเบา ส่วนการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q จัดเต็มเรื่องของการทำงานและการเล่นเกมเช่นเดิม จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คระดับบนของ ASUS สาย Gaming ตระกูล ROG Zephyrus Series ที่เน้นความพรีเมียม การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ แบตยาวนานสูงสุดกว่า 10 ชั่วโมง ทำงานก็ดีเยี่ยมเล่นเกมก็ได้ดีกว่าเดิมมากๆ
สำหรับ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ตอนนี้มีเพียงรุ่นเดียว มีราคาอยู่ที่ 39,990 บาท (ขณะนี้มีรุ่นเดียวสเปกเดียว) ส่วนสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz ที่ดีเยี่ยมกว่ารุ่นก่อน จากกมาตรฐานใหม่ที่มาพร้อม Ryzen 4000 อีกทั้งได้ที่เก็บข้อมูลมาเป็นแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ได้หน้าจอคุณภาพดีเยี่ยม พาเนล IPS ได้ Refresh Rate ที่ 144Hz
แน่นอนว่าทั้ง ASUS ROG Zephyrus G14 GA401 / G15 GA502 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้ได้ทันที และได้ประกันก็เป็น 2 ปี (ทั่วโลก) ตามาตรฐาน ASUS ที่สามารถเคลมผ่านทางร้าน 7-11 ได้ และประกันอุบัติเหตุในปีแรกด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของสเปกอื่นๆ ของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA401 / G15 GA502 คงตามมาอีกทีทั้งอย่าง Ryzen 9 4900H + RTX 2060 ราคาคาดว่าจะอยู่ที่ 4x,xxx บาท
MSI Bravo 15 / 17 ราคาเริ่ม 2x,xxx บาท
MSI Bravo Sereis ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่เป็น AMD Notebook ที่ใช้ทั้งชิปประมวลผล Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H และการ์ดจอเป็น AMD Radeon RX5500M มีความแรงท้าชนการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1660 Ti เลยล่ะ ซึ่งจุดเด่นของ AMD นอกจากความแรงและความร้อนที่น้อยกว่าเพราะใช้สถาปัตยกรรม RDNA ที่ 7 nm เช่นเดียวชิปประมวลผล โดย MSI Bravo 15 / 17 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ / 17.3″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี Refesh Rate ที่ 144Hz แน่นอนว่ารองรับ FreeSync ให้ภาพไม่ฉีกขาด โดดเด่นด้วยน้ำหนักเพียง 1.86 / 2.2 กิโลกรัม ขอบจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด
มีที่เก็บข้อมูลเป็นมาตรฐาน SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB – 1TB ที่ทั้งแรงและลื่นไหล ในส่วนของแรมมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB (ใส่แรม ได้ 2 แถว) นับได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ในส่วนของช่องระบายความร้อน มีด้วยกัน 4 ช่องคือด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง โดยใช้พัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 6 – 7 เส้น ตามมาตรฐานของ Cooler Boots ที่สำคัญได้ไฟ LED ที่เป็น Per Key RGB พร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง Silver Lining Print ขอบโปร่งแสงสวยงาม ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าเครื่องขายจริงอาจจะเป็นแบบสีแดง Single Red ก็ได้
ในเรื่องของการดีไซน์ MSI Bravo 15 / 17 เน้นการพกพากว่า Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ / 17.3″ ในตลาดช่วงราคาเดียวกัน โดยยังคงรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลัง ด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ วัสดุอลูมิเนียมขัดเงาบรัชเป็นเส้นๆ แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่าย พร้อม ด้วยโลโก้นกธันเดอร์เบิร์ดสยายปีกสีเงินมันวาวมินิมอลสุดๆ แตกต่างจาก Gaming Notebook ของ MSI รุ่นอื่นๆ จากโลโก้ฝาหลังด้วยนกธันเดอร์เบิร์ดสยายปีกสีเงินมันวาว สวยดุดันตามสไตล์ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน คาดว่าจะเปิดขายในไทยเร็วๆ นี้ ด้วยช่วงราคา 2x,xxx บาท ประกันจะเป็นแบบ 1 ปี
Lenovo Legion 5 ราคาเริ่ม 2x,xxx บาท
Lenovo Legion 5 เป็น Gaming Notebook รุ่นใหม่ปี 2020 ให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่สมบูรณ์แบบด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4600H / Ryzen 7 4800H และใช้งานการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2060 / GTX 1650 Ti ตัวแรงลื่นคุ้มค่า แน่นอนว่าในส่วนของแรมให้มาเป็นขนาด 8GB – 16GB ได้ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ที่ให้ความรวดเร็วโดยรวม หน้าจอ 15.6 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD ให้การ Refresh Rate ที่ระดับ 144 Hz และเทคโนโลยี VESA DisplayHDR400 ความแม่นยำสี ระดับ 100% sRGB ช่วยให้การแต่งรูปหรือตัดต่อวีดีโอทำได้อย่างคมชัด
ตัวเครื่องเรียบหรูสวยงาม ด้วยสีสัน Phantom Black พร้อมโดดเด่นด้วย Lenovo Legion Coldfront 2.0 ระบบระบายความร้อนล่าสุด เพิ่มเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน และระบายความร้อนด้วยพัดลมDual Liquid Crystal Polymerliquid crystal polymer พร้อมช่องระบายอากาศ4ทิศทาง เพิ่มระบบที่ช่วยจัดการการทำงานของ CPU และ GPU ให้เหมาะสมเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในอุณหภูมิเครื่องที่เหมาะสมและไร้เสียงรบกวน คีย์บอร์ด Lenovo Legion TrueStrike แม่นยำ นุ่มนวล หนักแน่น พร้อม 4-zone RGB รองรับ anti-ghosting 100% และตอบสนองได้รวดเร็วใน 1ms ทนทานมากขึ้นด้วยการเคลือบสารให้คุณสมบัติต้านทานการเสียดสีและการสึกกร่อน
มาพร้อมระบบปฏิบัติการณ์ Windows 10 อีกทั้งยังเต็มไปด้วยตัวเลือกองค์ประกอบที่หลากหลายให้แก่ผู้เล่น ทุกรุ่นรองรับ Wi-Fi 6และ Dolby Atmos ให้เสียงรอบทิศทางเพิ่มอรรถรส มีเทคโนโลยี Rapid Charge Pro เทคโนโลยี Lenovo Legion Coldfront 2.0 ที่ช่วยควบคุมความอุณหภูมิ คีย์บอร์ด Lenovo Legion TrueStrike และแบตเตอรี่ที่ปรับใหม่ให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น (ใช้ได้นานถึง 8 ชั่วโมง)ด้วยเทคโนโลยี Advanced Optimus และ Hybrid Mode สำหรับราคาและการวางจำหน่ายในประเทศไทย Lenovo จะแจ้งให้ทราบภายหลัง ติดตามกันได้เร็วๆ นี้ ราคาคาดการณ์อยู่ที่ 2x,xxx บาท ประกันเป็นแบบ 3 ปี On-site Service
Acer Nitro 5 ราคาเริ่ม 2x,xxx บาท
Acer Nitro 5 ปี 2020 รุ่นใหม่ จะมีการปรับดีไซน์ให้โฉบเฉียวมากยิ่งขึ้น พร้อมแซมสีแดงให้ดูโดดเด่น และมีไฟคีย์บอร์ด RGB แบบ 4 โซนแล้ว เรื่องของสเปกก็มีความน่าสนใจสุดๆ เพราะจากการมาของชิปประมวลผลที่ทรงพลังกว่าเดิมอย่าง AMD Ryzen 4000 H ก็จะเป็น Ryzen 5 4600H และ Ryzen 7 4800H ที่สนับสนุนการเล่นเกมหรือทำงานที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าที่เคยมีมา และในส่วนของการ์ดจอ ก็ได้มีการปรับเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 / 1650 Ti / 1660 Ti ซึ่งมีไปถึง RTX 2060 ให้เลือกทีเดียว
มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 3200MHz ขึ้นไป ได้ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB หน้าจอขนาด 15.6″ (หรือ 17.3″) แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง ซึ่งรุ่นที่เป็น Refresh Rate ที่ 144Hz แบบ 3ms เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งเรื่องของสีสันและความลื่นไหล
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X ให้เสียงจะชัดเจนและสามารถส่งเสียงได้ในระบบเสียงรอบทิศทาง 3 มิติ มีน้ำหนัก โดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Waves MaxxAudio ที่ผสานกับ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดี
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย และประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม สนนราคาคาดการณ์เริ่มต้นที่ 2x,xxx บาท ไปจนถึง 3x,xxx บาท ยังไงรอติดตามอัพเดทกับทาง Acer ประเทศไทยกันอีกทีเร็วๆ นี้
นับได้ว่าการมาของชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 Series เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโมเมตร ที่ดีกว่า ให้ทั้งเรื่องประสิทธิภาพการทำงานและเล่นเกมที่ดีขึ้น ซึ่งมีตัวเลือกที่หลากหลาย ในทุกช่วงรุ่นราคโน๊ตบุ๊ค โดยมีฟีเจอร์ที่ล้ำหน้าไม่ว่าจะเป็นแรมมาตรฐาน DDR4 3200MHz และ SmartShift รวมถึง Wi-Fi 6 AX ที่ยอดยอดประสบการณ์ใช้งานมากยิ่งขึ้นไปอีก ปิดท้ายกับความร้อนที่เกิดนขึ้นน้อยกว่า และแบตเตอรี่เมื่อใช้งานโหมดประหยัดพลังงานก็ยาวนานกว่าด้วย
ไว้ยังไงถ้ามีข้อมูลอัพเดทล่าสุดในส่วนของ Gaming Notebook แต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์จะมาแจ้งกันอีกทีนะครับ ในตอนนี้เวลานี้ที่พร้อมขายแล้วจริงๆ จะมีเพียง ASUS แบรนด์เดียวเท่านั้น คาดว่าภายในเดือนนี้ (พ.ค.) คงมีความเคลื่อนไหวจากหลายๆ แบรนด์ รวมไปถึง HP / Dell ที่ยังเงียบๆ อยู่ในตอนนี้ด้วย ไว้รอติดตามกันอีกทีสำหรับคนที่ไม่รีบรอดูให้มาครบๆ ก่อน