หากจะมองไปที่เกมมิ่งคีย์บอร์ดในท้องตลาด ถือว่า Razer เป็นอีกค่ายหนึ่งที่มีไลน์ผลิตภัณฑ์สำหรับคอเกมมากมายหลายรุ่น และ Blackwidow ก็เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ได้รับความนิยม เพราะมีซีรีส์ตั้งแต่เกมเมอร์มือใหม่ ไปจนถึงคีย์บอร์ดระดับมือโปร อย่างที่เราคุ้นกันดี ไม่ว่าจะเป็น Blackwidow Elite, Chroma หรือ Ultimate ก็ตาม และล่าสุดได้ปล่อยเกมมิ่งคีย์บอร์ดที่ใช้คีย์สวิทช์ของ Razer เองมาลงตลาด ซึ่งมีให้เลือกหลากอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็น Yellow, Green และ Orange ที่ให้ความรู้สึกในการกดแตกต่างกันไป แต่ยังคงความเป็น Mechanical keyboard เช่นเดิม ในรุ่น Razer Blackwidow
Razer Blackwidow Yellow switch สำหรับใครที่เป็นแฟนคีย์บอร์ดของทาง Razer เชื่อว่า Blackwidow น่าจะเป็นหนึ่งในใจใครหลายคน ซึ่งที่ผ่านมาหลายเวอร์ชั่น ก็น่าจะโดนกันไปแล้วสักรุ่นสองรุ่น แอดเองก็ได้สัมผัส Chroma มาก่อนหน้านี้ ยังประทับใจฟีลลิ่งการกดและฟังก์ชั่นที่มีการเติมสีสันเรื่องของไฟ RGB และปุ่ม Programable มาให้ ซึ่งใช้ Mechanical switch เช่นกัน ไซส์ใกล้เคียง พร้อมที่รองข้อมือหรือ Wrist rest มาด้วย แต่สำหรับ Blackwidow ที่ได้รับมาทดสอบนี้ เป็นรุ่นใหม่ในเลย์เอาท์ที่คุ้นตากันดี แต่ไม่มีปุ่ม Program เพิ่มเติมมาให้ ส่วนไฟ RGB ยังมีมาให้ครบ และยังปรับแต่งด้วย Razer Synapse ได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมเข้ามาคือ Key switch แบบสีเหลือง (Yellow switch) ซึ่งเอาใจเกมเมอร์ที่ต้องการคีย์บอร์ดในแบบ Mechanical ที่กดสนุก แต่เสียงเบา สำหรับการใช้งานในบ้านแบบไม่รบกวนใคร ในแบบ Linear กดง่าย ตอบสนองเร็ว และที่สำคัญไม่รำคาญใจคนอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังให้การปรับใช้ในส่วนของมาโครและฟีเจอร์อย่าง HyperShift มาอีกด้วย เรียกว่าจัดมาเต็มแบบนี้ เวลาที่เล่นจริงจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันครับ
Specification
- Razer™ Yellow Mechanical Switches designed for gaming
- 80 million keystroke lifespan
- Razer Chroma™ customizable backlighting with 16.8 million color options
- Hybrid On-Board Memory and Cloud Storage – up to 5 profiles
- Razer Synapse 3 enabled
- Cable routingoptions
- N-key roll-over with built-in anti-ghosting
- Fully programmable keys with on-the-fly macro recording
- Gaming mode option
- 1000 Hz Ultrapolling
- Instant Trigger Technology
รูปลักษณ์และการออกแบบ
สัมผัสแรก บอกเลยว่ากล่องหนักพอสมควร ถ้าเทียบกับ Mechanical keyboard ในหลายๆ รุ่น และหน้ากล่องก็ยังคงเน้นสีสันในโทนเขียวและดำ อันเป็นเอกลักษณ์ของทาง Razer อย่างเหนียวแน่น
กล่องหน้าและหลังจัดมาเต็ม ด้านหน้าบอกฟีเจอร์หลักและภาพกราฟิกสีสันบนคีย์บอร์ด และมีโลโก้ Razer Chroma RGB ที่ให้ปรับแสงสีได้แน่นอน ด้านหลังฟีเจอร์จัดเต็มและมีภาพ Yellow key switch มาด้วย
ด้านข้างกล่องยังบอกข้อมูลที่เป็นคุณสมบัติหลักของ Blackwidow รุ่นนี้ สังเกตได้ว่ามี Hybrid On-Board Memory มาด้วย สำหรับการบันทึกการตั้งค่าและการใช้งานร่วมกับระบบ Cloud ผ่านทาง Razer Synapse
และใครที่กำลังคิดว่าอยากได้ Mechanical keyboard แต่กลัวไม่มีภาษาไทย บอกเลยว่า Razer จัดมาให้ในรุ่นนี้ ส่วนหนึ่งคิดว่า ด้วยเสียงจากคีย์ที่ไม่ดัง จึงน่าจะตอบโจทย์คนที่อยากได้ไว้ใช้งานทั่วไปได้อีกด้วย
แกะกล่องกันเลย ภายในกล่องเมื่อเปิดฝาออกมา ก็จะพบคู่มือการใช้งานและเอกสารประกอบ ซึ่งใครที่เคยใช้คีย์บอร์ด Razer เป็นครั้งแรก น่าจะเป็นตัวช่วยให้การใช้งานคล่องตัวขึ้น เพราะมีปุ่มสำหรับปรับแต่งการใช้งานโหมดต่างๆ บอกเอาไว้ด้วย
หน้าตาของคีย์บอร์ด Razer Blackwidow Yellow switch ออกมาดูดีทีเดียว โครงสร้างและเลย์เอาท์ จัดว่าทรงเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจาก Blackwidow รุ่นก่อน น่าจะถูกใจคนที่ไม่ชอบปุ่มที่เพิ่มเติมเข้ามา จนทำให้บอดี้ใหญ่เกินไป รุ่นนี้ถูกใจคุณแน่ๆ
Razer ยังคงใช้โทนสีดำกับบอดี้รุ่นนี้ ซึ่งทำให้สีของไฟ RGB จาก Chroma ดูโดดเด่นมากขึ้น โลโก้ Razer ด้านล่าง ก็ยังสว่างขึ้นด้วยแสงไฟเช่นกัน
อย่างที่บอกไว้ในตอนต้นว่า น้ำหนักตอนที่จับครั้งแรก รู้สึกได้ว่าค่อนข้างพอสมควร ซึ่งเมื่อดูจากบอดี้และการดีไซน์ ที่เน้นความหนักแน่น ไม่เป็นแบบไร้ขอบ มีจุดที่วางมือได้เล็กน้อย ก็ต้องบอกว่าโดนใจคนที่ชอบคีย์บอร์ดแน่นๆ วางติดพื้น ไม่เลื่อนไปมาได้ง่าย
Razer จัดฟีเจอร์ที่เรียกว่า HyperShift มาให้ เพื่อใช้ในการกำหนดค่าปุ่มหรือตั้งมาโคร สำหรับตั้งค่าใดๆ เป็นพิเศษ โดยใช้การกดปุ่ม Shift ค้างไว้ เพื่อใช้ปุ่มที่อยู่ใกล้มือ เช่น ตัวเลขแถวบน สำหรับการใช้งานหรือกดคำสั่งในเกมได้เร็วยิ่งขึ้น คล้ายกับการตั้งค่ามาโคร เพียงแต่ไม่ได้มีปุ่มแยกออกมาเป็นพิเศษ แต่ใช้วิธีกด Shift ค้าง เพื่อสลับใช้งานปกติหรือเข้าสู่โหมดเกม
สายสัญญาณที่มีมาให้เป็นแบบสายถักนิ่ม ม้วนเก็บได้ ทนต่อแรงดึงได้ดีในระดับหนึ่ง ความยาวประมาณ 2 เมตร เพียงต่อต่อการติดตั้งด้านหลังเคส ในระยะที่วางเคสใต้โต๊ะ แล้วต้องอ้อมสายไปด้านหลังสบายๆ
หัวต่อเป็นแบบ USB ด้านในเป็นสีเขียว เป็นสไตล์ของทาง Razer บนเกมมิ่งเกียร์หลายรุ่น
มาดูที่ Key switch ที่เป็นแบบ Yellow switch ของ Razer ในคีย์บอร์ดรุ่นนี้กันบ้าง สำหรับ Blackwidow จะมีให้เลือก 3 แบบด้วยกันคือ
- Green Switch: ให้อารมณ์การคลิ๊กแบบ Tactile และ Clicky มีเสียง 2 จังหวะ คล้ายกับ Cherry Blue แรงต้าน 50G และระยะตอบสนองที่ 1.9mm
- Yellow Switch: จะเป็นแบบ Linear and Silent คือเสียงเบา กดตรงๆ ไม่มีจังหวะ ระยะตอบสนองไว 1.2mm การกดสั้นกว่า Green จะคล้ายกับ Cherry Red
- Orange Switch: ได้ยินมาว่า ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดบ้านเรา การกดจะอยู่ตรงกลาง คือเป็น Tactile แต่ Silent คือมีจังหวะการกด แต่เสียงเบา ระยะการตอบสนองจะเป็นแบบ Green แต่แรงต้านน้อยกว่า
ด้านใต้คีย์บอร์ดมีขาตั้งปรับได้ 3 ระดับทั้ง 2 ด้าน รวมถึงแผ่นกันลื่น มีให้ 5 จุด ช่วยให้ไม่ลื่นไปมาบนโต๊ะได้ดีทีเดียว
ขาตั้งปรับได้ 3 ระดับ ให้ยกสูงขึ้นมาเพื่อรับกับการวางมืองของแต่ละคนได้
มาดูเรื่องสัมผัสกันบ้าง ความรู้สึกในการกด ค่อนข้างนุ่มนวลดีทีเดียว ระยะการกดตอบสนองได้ไว แม้จะไม่ได้เป็นแบบ Clicky ให้มีเสียงคลิ๊กๆ อาจจะลดทอนความสะใจไปบ้างเล็กน้อย แต่ความสนุกยังคงเดิม ที่สำคัญลดเสียงบ่นจากคนรอบข้างไปได้เยอะ
ในการใช้งาน ผู้ใช้สามารถใช้ปุ่ม Fn key สำหรับการปรับระดับเสียงได้ที่ F1, F2 และ F3 ส่วนปุ่ม F5, F6 และ F7 จะใช้สำหรับ FW, Play/Pause และ RW สำหรับ F11, F12 จะเป็นการเพิ่ม-ลดแสงคีย์บอร์ด
การเปิดใช้ Game Mode ให้กด Fn+F10 ไฟจะปรากฏบริเวณด้านบนของปุ่มลูกศร ตรงกลางคีย์บอร์ด
นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกค่ามาโคร ด้วยการกดปุ่ม Fn+F9 ได้อีกด้วย เพื่อการใช้งานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
แสงสว่างและความคมชัดของตัวอักษร เด่นทั้งฟอนต์ไทยและอังกฤษ สามารถปรับเพิ่มลดความสว่างได้ แน่นอนว่าถ้าจะลุยเล่นกันยามดึก แบบไม่ต้องเกรงใจใคร ก็จัดไปให้สว่างสุดๆ ได้เลย ส่วนถ้าคุณไม่ชอบอะไรที่แยงตา ก็สามารถปิดหรือลดระดับความสว่างลงมาได้เลย
Razer Synapse 3
จุดที่สำคัญและคนที่ใช้เกมมิ่งเกียร์จาก Razer ไม่ควรพลาดเลยก็คือ การใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ Razer Synapse ซึ่งจะช่วยให้คุณดึงศักยภาพด้วยการปรับแต่งเกมมิ่งเกียร์ได้ดีทีเดียว และสำหรับ Blackwidow Yellow switch นี้ ต้องดาวน์โหลด Synapse 3 มาติดตั้งเท่านั้น เพราะถ้าเป็นเวอร์ชั่น จะ Detect ไม่พบ ซึ่งหากติดตั้งและระบบตรวจพบแล้ว ก็จะเห็นเป็นรูปคีย์บอร์ดขึ้นมาให้ใช้งานได้เลย จะมีการตั้งค่าโพรไฟล์ได้ 4 รูปแบบ โดยจะมีไฟแสดงสถานะ เป็นสีต่างๆ บนคีย์บอร์ด ได้แก่ Red, Green, Blue และ Cyan
ในหน้าของ Lighting จะมีให้ปรับแสงไฟ RGB ได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมกับการตั้งความสว่างของแสง และสร้างโพรไฟล์ เพื่อการใช้งานได้ง่ายขึ้น เพราะบันทึกลงหน่วยความจำของคีย์บอร์ดได้โดยตรง
ในส่วนของ Effect แสงไฟ เลือกได้ 10 รูปแบบที่เป็นพื้นฐาน หรือจะ Customize เองก็ได้ผ่านทาง Advanced Effect ในการเลือกแสงสีให้ลึกลงไปในรายละเอียดได้ตามต้องการอีกด้วย
ความสวยงามของแสงไฟ เมื่ออยู่ในห้องที่มีแสงน้อย จัดว่าสวยงามไม่น้อยทีเดียว เพราะแสงที่สว่างขึ้นมาในแต่ละคีย์ มีความคมชัดของตัวอักษร และสว่างได้ทั่ว การตอบสนองก็รวดเร็วทีเดียว
Conclusion
ในภาพรวมของคีย์บอร์ด Razer Blackwidow รุ่นนี้ ต้องบอกว่าเอาใจคอเกมที่เน้นอัตราการตอบสนองที่ไว และไม่ได้ซีเรียสเรื่องคีย์สวิทช์ที่เป็นแบบ Clicky ที่ต้องมีเสียงเลื่อนลั่นสั่นสะเทือนตลอดการเล่น เพราะด้วย Yellow switch ที่ออกจะนุ่มมือ กับแรงต้านที่ไม่เยอะ จุดตอบสนองที่ไวกว่าแบบ Green หรือที่เป็น Blue switch ที่หลายคนคุ้น เรียกว่าอาจทำให้กดไวหรืออาการมือลั่นได้เช่นกัน อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกันสักระยะ แต่ถ้ามองในแง่ของการเล่น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนอาวุธ โหลดกระสุน หรือการใช้ท่าต่อเนื่อง ในหลายๆ เกม การใช้คีย์บอร์ดที่ค่อนข้างไว ก็ให้ความได้เปรียบได้ ในการทดสอบบน PUBG, COD: Warzone และ BFV จังหวะการเคลื่อนไหวในช่วงแรกๆ บางคนอาจจะยังไม่คุ้น แอดเองส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ Blue switch พอมาเจอกับ Yellow ซึ่งถ้าเทียบกัน ก็จะเป็น Razer Green จึงต้องปรับตัวสักพักใหญ่ๆ แต่ความสนุกก็ยังคงเดิม เรียกว่าให้สัมผัสที่นุ่มนวล
ส่วนลูกเล่นของการปรับค่ามาโครอะไรต่างๆ ก็แทบจะไม่ต่างไปจาก Blackwidow ในหลายๆ รุ่นที่ผ่านมา การใช้งานก็ค่อนข้างง่าย ปรับผ่าน Razer Synapse อีกทั้งเลือกปรับจากปุ่มบนคีย์บอร์ดได้ทันที เพราะฉะนั้นจึงง่ายสำหรับคนที่ใช้คีย์บอร์ดเพียงคนเดียว ไม่ต้องแชร์กับใคร และสิ่งที่คีย์บอร์ดรุ่นนี้จัดมาให้กับคอเกมอย่าง Razer Chroma ก็ปรับใช้ได้อย่างเพลิดเพลินบน Synapse เลือกเอฟเฟกต์แสงไฟพื้นฐานได้ 10 แบบ และยังเลือก Custom เองได้อีกด้วย ย้ำว่าต้อง Synapse 3 เท่านั้นนะครับ เวอร์ชั่นที่คุณใช้ก่อนหน้า ให้กดอัพเดตเสียก่อน ไม่อย่างนั้นจะไม่พบตัวคีย์บอร์ดบนซอฟต์แวร์ เรื่องสนนราคาก็นานาจิตตัง แต่สำหรับแอดคิดว่า 2,990 บาท จัดว่าคุ้มค่าทีเดียว หากมองถึงการลงทุน เพราะตัวสวิทช์ก็เคลมไว้ว่า รองรับการกด 80 ล้านครั้ง และเมื่อรวมกับฟีเจอร์ ความสวยงาม ลูกเล่นที่น่าใช้ รวมถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการปรับแต่ง ก็น่าใช้เป็นสิ่งที่ทำให้คุณนำไปพิจารณาได้ไม่ยากแล้ว
จุดเด่น
- Yellow switch กดนุ่มนวล ตอบสนองไว เหมาะทั้งเกม Action และ RTS
- มาพร้อมไฟ RGB เชื่อมต่อและปรับแต่งด้วย Razer Synapse 3
- บันทึกการปรับแต่งได้บนเมมโมรีของคีย์บอร์ด
- ฟีเจอร์ HyperShift ให้การตั้งค่ามาโครสะดวกขึ้น
ข้อสังเกต
- น้ำหนักค่อนข้างเยอะ เพื่อลดการเคลื่อนไหว
- ไม่ได้มีเสียง Clicky เพราะเป็นแบบ Linear แต่ยังกดสนุก
ราคา: 2,990 บาท
ติดต่อ: ตัวแทนจำหน่าย Razer ทั่วประเทศ
ข้อมูลเพิ่มเติม: Razer Blackwidow