ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา หลายคนน่าจะเจอข่าวที่เป็นพูดถึงกันมาก เรีบกว่าบ่นกันทั้งโซเชียลกับปัญหา ค่าไฟแพง ค่าไฟพุ่ง แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนในบ้าน ต้องร่วมกันรับผิดชอบ ช่วยกันประหยัดไฟ แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ อยู่กับการเล่นเกมใช้คอมเกือบทั้งวัน ยังไงก็คงต้องถูกจับตามอง ว่ามีส่วนที่ทำให้ค่าไฟเพิ่มอย่างมหาศาลได้เช่นเดียวกัน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้คอมต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็ส่งผลให้มีการใช้พลังงานมากขึ้น รวมถึงสิ่งอื่นๆ ที่ตามมา เช่น ใช้เครื่องปรับอากาศนานขึ้น รวมถึงแสงสว่างและอื่นๆ ก็ทำให้ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน
เพื่อไม่ให้ดูว่าเป็นภาระของที่บ้านหรือเราเองก็ช่วยจัดการ ลดการใช้พลังงานและค่าไฟลงได้ ก็มีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟที่บ้านได้หลายร้อยบาท ในช่วงที่ ค่าไฟแพง เช่นนี้ ไม่ต้องมีปัญหาเมื่อเวลาที่เปิดคอมเล่นเกม ไม่โดนบ่นกันอีกต่อไปกับ 5 วิธีง่ายๆ ต่อไปนี้
1.ปรับลดความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม: ยิ่งปรับความสว่างของหน้าจอ ก็มีส่วนทำให้ใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น การปรับค่าความสว่างหรือ Brightness ให้ลดลง เหมาะสมกับสายตา ดูแล้วไม่ต้องเพ่งมาก ก็ช่วยประหยัดไฟได้ หรือถ้าการปรับค่าต่างๆ ดูยุ่งยาก ลองปรับในโหมด Eco ที่มีให้เลือกบนเมนู OSD ก็ช่วยได้เช่นกัน แม้ว่าในบางครั้งอาจจะไม่ได้ตามที่คุณต้องการก็ตาม อย่างไรแล้วอย่าปรับจนมืดเกินไป หรือมองแทบไม่เห็นรายละเอียด เพราะถึงจะประหยัดไฟ แต่ก็อาจทำให้เสียสายตา และดวงตาเมื่อยล้ามากขึ้น เดี๋ยวกลายเป็นว่าค่าพบหมอจะแพงกว่าค่าไฟ
2.วางเคสคอมให้ดี มีทางลมระบายอากาศ: ถ้าคุณอยากจะให้คอมคุณเย็นลง ในขณะที่คุณยังคงลุยไปในเกมอย่างต่อเนื่อง แต่สามารถประหยัดค่าไฟได้ อาจเริ่มจากการจัดวางคอมไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เช่น วางบนโต๊ะ เพื่อให้ลมเย็นๆ จากเครื่องปรับอากาศเข้าไปภายใน และระบายลมร้อนข้างในเคส ออกมาข้างนอก โดยที่พัดลมไม่ต้องทำงานหนักมาก บางครั้งการจัดการพื้นที่ภายใน เช่น การจัดเก็บสาย ก็ช่วยให้คุณไม่ต้องติดตั้งพัดลมเกินความจำเป็น ถ้าพื้นที่ภายในโล่งดี มีลมไหลเวียนสะดวก บางทีพัดลมด้านหน้าและด้านหลังอย่างละตัว ก็เพียงพอแล้ว ยิ่งเพิ่มจำนวนพัดลมมาก ก็ยิ่งทำให้การใช้ไฟมากขึ้น แม้จะไม่ได้เยอะมากมาย แต่เมื่อรวมๆ กันหลายชั่วโมง ก็เป็นตัวเลขไม่น้อย
3.ปิดการทำงานลูกเล่นแสงไฟ และ Gadget ที่ไม่จำเป็น: หลายคนชื่นชอบ ลูกเล่นที่เป็นอุปกรณ์แสงไฟ ที่ดูอลังการสวยงาม แม้จะใช้ไฟเล็กๆ น้อยๆ จากหลอด LED แต่ถ้ามีหลายๆ ชิ้น ก็มีส่วนทำให้มีการใช้ไฟเยอะขึ้น อีกอย่างความสว่างเวอร์วัง อาจเป็นจุดที่ทำให้บางคนมองว่า เปลืองไฟมากขึ้น หรือบางราย ชอบของเล่น Gadget จัดเต็ม ของแต่งต้องมา รวมถึงบรรดาอุปกรณ์ต่อพ่วง ในช่วงที่เล่นเกม อันไหนไม่ได้ใช้งาน ก็ปิดหรือถอดปลั๊กไปก่อน เช่น พรินเตอร์ เป็นต้น
4.เปิดแอร์ 25-26 องศา พึ่งพาพัดลม: บางคนช่วงที่ทำงานเปิดแอร์ร้อนบ้าง เย็นบ้าง ก็ไม่เป็นไร แต่พอสวมหน้ากากเป็นเกมเมอร์เมื่อใด แอร์ต้องเย็นเจี๊ยบ เข้าใจว่าบางครั้งเล่นก็มีหัวร้อนบ้าง ถ้าอากาศร้อนๆ จะพาลเอาระเบิดลงได้ง่ายๆ แน่นอนว่าแบบนี้ถ้าปรับให้เย็นสุดขั้ว น่ากลัวว่าบิลค่าไฟมา จะโดนด่าชุดใหญ่ มีวิธีแก้ง่ายๆ คือ การปรับอุณหภูมิประมาณ 25-26 องศาเซลเซียส แต่ใช้พัดลมช่วยให้อากาศเย็นๆ เหล่านั้นพัดมาโดนตัว ก็จะช่วยประหยัดค่าไฟได้ไม่น้อยทีเดียว คราวนี้เย็นทั้งคน เย็นทั้งคอม
5.แก้วเก็บความเย็น ไม่ต้องเปิดตู้เย็นบ่อย: คอเกมที่เล่น Battle Royale เช่น PUBG เป็นปาร์ตี้หรือ Warzone ที่ถล่มกันเป็นทีม ก็มีพูด บ่น สั่ง ด่ากันปากเปียกปากแฉะ ก็เล่นเอาคอแห้งไปเหมือนกัน จนต้องเดินไปเปิดตู้เย็นทานน้ำบ่อย ซึ่งการเปิดตู้เย็นแต่ละครั้ง ก็จะทำให้สูญเสียความเย็น และต้องคอยปรับอุณหภูมิให้ลดลงบ่อยๆ ก็ทำให้ใช้ไฟมากขึ้น ค่าไฟแพง เช่นเดียวกับการเปิดเข้า-ออกห้องบ่อยก็เช่นกัน เครื่องปรับอากาศก็ต้องทำงานหนัก ดังนั้นลองหาแก้วเก็บอุณหภูมิสักใบ ใส่น้ำแข็งและน้ำเย็น วางที่โต๊ะดื่มกันได้ยาวๆ ก็จะช่วยลดค่าไฟไปได้พอสมควร
สุดท้ายก็น่าจะเป็นเรื่องของการแบ่งเวลา จัดสรรให้ดี ไม่อยากไปจำกัดว่าจะต้องเล่นแค่กี่ชั่วโมง เท่านั้นเท่านี้ เพราะแต่ละคนเล่นเกมคนละแบบ ก็ใช้เวลาไม่เท่ากัน แต่การที่เราห่างจากเกมไปบ้าง แล้วใช้กิจกรรมยามว่างกับครอบครัว ก็ช่วยกระชับความสัมพันธ์อันดี ช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของผู้ปกครอง เท่านี้เราก็สามารถเล่นเกมได้อย่างอุ่นใจแล่ว