ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เป็น Gaming Notebook รุ่นแรกของไทยพร้อมขายก่อนใคร สเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 H Series อย่าง Ryzen 7 4800HS ตัวแรงประสิทธิภาพสูงแต่ร้อนน้อยกว่ารุ่น Ryzen 7 4800H เน้นใช้ใน Gaming Notebook บางเบา ส่วนการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q จัดเต็มเรื่องของการทำงานและการเล่นเกมเช่นเดิม จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คระดับบนของ ASUS สาย Gaming ตระกูล ROG Zephyrus Series ที่เน้นความพรีเมียม การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ แบตยาวนานสูงสุดกว่า 10 ชั่วโมง ทำงานก็ดีเยี่ยมเล่นเกมก็ได้ดีกว่าเดิมมากๆ
รุ่นนี้ที่เรานำมารีวิวจะเป็น ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) รุ่นราคาอยู่ที่ 39,990 บาท (ขณะนี้มีรุ่นเดียวสเปกเดียว) ส่วนสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz ที่ดีเยี่ยมกว่ารุ่นก่อน จากกมาตรฐานใหม่ที่มาพร้อม Ryzen 4000 อีกทั้งได้ที่เก็บข้อมูลมาเป็นแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ได้หน้าจอคุณภาพดีเยี่ยม พาเนล IPS ได้ Refresh Rate ที่ 144Hz พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้ได้ทันที ที่สำคัญประกันก็เป็น 2 ปีตามาตรฐาน ASUS ที่สามารถเคลมผ่านทางร้าน 7-11 ได้ และประกันอุบัติเหตุในปีแรกด้วย นับได้ว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2020 ที่น่าซื้อที่สุดรุ่นนึงทีเดียว
VDO Review
NBS Verdict
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) นับว่าเป็นมาตรฐาน Gaming Notebook ยุคใหม่อย่างแท้จริง โดยใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS ซึ่งได้เทคโนโลยีใหม่ๆ จัดเต็ม ทั้งการผลิตที่ 7 นาโนเมตร ส่งผลให้แรงขึ้นแต่ร้อนน้อย พร้อมทั้งทำงานด้วยความเร็ว 2.90 – 4.20GHz โดยเป็นแบบ 8 คอร์ 16 เธรด ที่สร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น AMD Ryzen 3000 H หรือ Intel Core i Gen 9 H เลยทีเดียว ที่สามารถดูได้จากผลการทดสอบเล่นเกมที่ลื่นไหลกว่า Gaming Notebook สเปกเดิมๆ มาก อีกทั้งยังได้แรมมาตรฐานใหม่เป็น Bus 3200MHz ขนาด 16GB ซึ่งก็เป็นส่วนช่วยเรื่องของประสิทธิภาพที่สำคัญทีเดียว
ที่นอกจากชิปประมวลผลตัวแรงแล้ว (จริงๆ ยังมีแรงกว่าคือ Ryzen 7 4800H / Ryzen 9 4900HS / Ryzen 9 4900H ด้วย) การ์ดจอก็ใช้เป็นรุ่นที่ประสิทธิภาพแรงพอตัวอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ซึ่งก็สามารถทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี พร้อมด้วย SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่แม้ว่าความเร็วอาจจะไม่สูงระดับบนแต่ก็เหลือเฟือในการใช้งานแล้ว อีกทั้งได้หน้าจอพาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144Hz พร้อม Adaptive Sync ก็ถือว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอด ร่วมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆ ด้วยตัวเครื่องบางเบาพกพาสะดวก แบตยาวนานใช้งานชาร์จด้วย USB PD ได้ ที่สำคัญคือจัดการอุณหภูมิได้ดีด้วย จากเทคโนโลยีการระบายความร้อนที่ดีและเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่ดียิ่งขึ้น
เรียกได้ว่าใครกำลังมอง Gaming Notebook ตัวแรงลื่นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่อยากได้ดีไซน์เรียบหรูดูดี ทำงานก็สะดวกเล่นเกมก็ลื่นไหล ก็ขอแนะนำให้ไปซื้อ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) กันได้เลย แม้ว่าดีไซน์การออกแบบตัวเครื่องจะเหมือนเดิมและพาเนล IPS ไม่ใช่เกรดระดับสูง แต่ด้วยราคา 39,990 บาทก็ถือว่าคุ้มค่าน่าซื้อกว่ารุ่นก่อนๆ เยอะทีเดียว
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU-AL014T) พร้อมวางจำหน่ายแล้วเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ และ ASUS Official Store: https://shopee.co.th/asus_officialstore
จุดเด่น
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจตามสไตล์ ROG Zephyrus งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ขอบหน้าจอบางพิเศษ มิติเทียบเท่ารุ่น 14″ ตัวเครื่องเบา 2.1 กิโลกรัม และบางที่ 19.9 มิลลิเมตร
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง AMD Ryzen 7 4800HS แรงลื่นกว่า ร้อนน้อยกว่า
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ร้อนน้อย พร้อม OC มาจาก ASUS เพิ่มความแรงไปอีก
- แรมขนาด 16GB Bus 3200 MHz แบบ Dual Channel มาตรฐานใหม่ที่มาพร้อม Ryzen 4000 H Series
- ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB รองรับการอัพเกรดอีก 1 สล็อต
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดี พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz
- อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าจัดการได้ดี ไม่ร้อนจนเกินไป มีระบบไล่ฝุ่นอัตโนมัติ
- พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ด้วย USB 3.2 Type-A / C รองรับ DisplayPort / USB PD
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 8 – 10 ชั่วโมง
- มีซอฟต์แวร์ Armory Crate มาช่วยปรับแต่งการใช้งาน
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที มีความสเถียร์ของไดร์เวอร์
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบัติเหตุ 1 ปี
ข้อสังเกต
- คุณภาพหน้าจอให้ขอบเขตสีในระดับกลางๆ sRGB 61%
- ไม่มี SD Card Reader
- ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง
- ดีไซน์ภายนอกทั้งหมดเหมือนกับ ASUS ROG Zephyrus G รุ่นก่อนหน้า
Specification
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS สถาปัตยกรรม Zen 2 มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 7 nm ความเร็ว 2.90 – 4.20 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ผสานกับ APU การ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 7 ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ใช้สถาปัตยกรรมกับ RTX ที่เย็นกว่า GTX 10 Series พร้อมตัดพวกฟีเจอร์อื่นๆ ออกไปเน้นความแรงเป็นหลัก โดยเน้นให้มีความร้อนที่น้อยกว่าและประหยัดพลังงานเข้ากับตัวเครื่องที่บางเบา
ในส่วนของแรมได้มาขนาด 16GB Bus 3200 MHz แบบ Dual Channel (8GB x 2 โดยออนบอร์ดมาแล้ว 1 แถว) มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ Intel SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่มีความลื่นไหล อีกทั้งยังรองรับการติดตั้งอัพเกรดเพิ่ม SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพดี รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)
นอกจากนี้รายละเอียดอื่นๆ ของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ก็จะมีระบบเสียง Hi-Res audio แบบ 7.1 Virtual surround พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 และชาร์จไฟผ่านทาง USB PD ได้ ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่อย่าง Intel Wi-Fi 6 AX (2×2) และ Bluetooth 5.0 พร้อมติดจั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate มาให้ในตัว โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือไม่ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมมา ถ้าใครจะใช้ต้องหามาติดตั้งเอง
การรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม จัดได้ว่าเป็นมาตรฐานการรับประกันของทาง ASUS ปกติ สนนราคาของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) อยู่ที่ 39,990 บาท จัดว่าคุ้มค่าไม่แพงเลย
Hardware / Design
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เป็นหนึ่งในซีรีส์ ROG ที่เน้นความบางเบามากกว่า Gaming Notebook ทั่วไป โดยมีความบางสุดที่ 19.9 มิลลิเมตร มาพร้อมน้ำหนักเบาที่ 2.1 กิโลกรัม รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไปกับขนาดหน้าจอขอบบางที่ 6.2 มิลลิเมตร ขนาด 15.6″ สัดส่วนเป็น 81% ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ดีไซน์โดยรวมเน้นความดุดัน แข็งแกร่งสไตล์ ROG ด้วยวัสดุเป็นโลหะพร้อมลวดลายแบบปัดเสี้ยนคล้ายกับ ROG ในหลายๆ รุ่น เรียกได้ว่าดูเป็น Gamer สายจริงจัง ที่นำไปพกพาทำงานก็ลงตัวสุดๆ
แน่นอนว่า ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เลือกใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะส่วนของชิ้นฝาหลัง ส่วนด้านในเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทานประมาณนึง โดยยังคงไว้ซึ่งการออกแบบที่สวยงามเน้นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่อง ด้วยเส้นสายที่ทันสมัยและการตกแต่งเสริมความพรีเมียม ระบบระบายความร้อนที่มีความล้ำหน้าทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของทุกชิ้นส่วน ด้วยการออกแบบและวิศวกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของตระกูล Zephyrus
ตัวเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) นั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง เรียกได้ว่าแทบไม่มีความโค้งเว้าใดๆ ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว ขอบของตัวเครื่องรวมไปถึงขอบด้านหลังนั้นถูกออกแบบมุมมาเป็นอย่างดีมีคำว่า ZEPHYRUS พร้อมรูปแบบขอบหน้าจอของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) จะเป็นแบบบานพับสองแกนดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณ 145 องศา พร้อมเว้นขอบเอาไว้โชว์ไฟแสดงไฟ LED การทำงานต่างๆ ส่วนด้านท้ายและขอบเครื่องทางขวาจะเห็นถึงช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 3 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่
จุดเด่นที่สุดของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ที่เป็น Gaming Notebook รุ่นแรกที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 H รุ่นแรก ได้ตัวบางเบาแต่แรง พร้อมติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q โดยทั้งคู่จะมีสติ๊กเกอร์ติดไว้ที่ตัวเครื่องบริเวณที่วางข้อทืออย่างชัดเจน การันตีเรื่องของประสิทธิภาพความแรงภายใน นอกจากนั้นยังมีเรื่องของสติ๊กเกอร์การรับประกันแบบ Prefect Warranty ระยะเวลา 1 ปีจากทาง ASUS ที่เป็นอุบัติเหตุตัวเครื่องอย่างที่ไม่มีใครเหมือนด้วย
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกที่แข็งแรงงานประกอบเรียบร้อย พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่ด้านล่างใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก ติดตั้งด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 3 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่ เทคโนโลยี ROG Intelligent Cooling พร้อมช่องไล่ฝุ่น Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต พัดลมคู่ n-Blade หมุนใบพัดมากถึง 83 ใบ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวจากนั้นค่อยๆ ดึงขึ้น รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของตระกูล ROG ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลักด้วยสเปกภายในที่ทรงประสิทธิภาพอย่าง AMD Ryzen 4000 H Series และ NVIDIA GeForce GTX แต่ก็รองรับสำหรับคนที่นำไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ ได้เต็มรูปแบบ รวมไปถึงพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งจากฟีเจอร์ และสเปกแรงล้ำกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงหน้าจอก็ใหญ่ที่ 15.6″ แต่ตัวเครื่องเทียบเท่า 14″ ทำให้ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น แม้ดีไซน์รวมๆ ทั้งหมดยังคงเหมือนเดิมอยู่เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่ก็จัดว่ายังคงสวยงามทันสมัยอยู่
สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ต้องบอกว่า ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก จากแต่ก่อนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ความแรงระดับนี้ จะอยู่บนตัวเครื่องที่บางและเบาแบบนี้ แต่ตอนนี้ทาง ASUS ทำออกมาได้แล้ว ในประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่ล้ำหน้ากว่า ในราคาที่จัดว่าคุ้มค่ามากๆ
Keyboard / Touchpad
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เป็นคีย์บอร์ดมีไฟ LED สีขาวสีเดียว ให้ความสะดวกด้วยปุ่ม Spacebar ด้านมุมล่างซ้ายก็ทำแหว่งออกมานิดหนึ่งเพื่อให้ใช้นิ้วโป้งซ้ายกดง่ายขึ้น แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง รวมถึงสามารถมีฟังก์ชั่นเพิ่มลดเสียง เปิดปิดไมค์ และ ซึ่งตัวปุ่มต่างๆ ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์
ทัชแพดเองขนาดใหญ่แบบซ้อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี ฟีเจอร์ Multi-touch หรือ Smart Gesture ที่สามารถใช้งานควบคู่กับ Windows 10 ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญมีในส่วนของปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดอย่าง F5 ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับเปลี่ยนโหมดการใช้งานระหว่าง Turbo mode สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงสุด, Silen Mode ให้พัดลมทำงานเงียบที่สุด
Screen / Speaker
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.2 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบนทำให้ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 144Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2020 ทั่วไปมากทีเดียว
ทดสอบหน้าจอของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ที่แม้จะเป็นพาเนล IPS แต่ก็มีหลายเกณฑ์ โดยการดูประสิทธิภาพต่างๆ นแต่ละด้าน ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสัน Gamut เทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 61% และ AdobeRGB 45% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับกลางๆ แน่นอนว่าเทียบกับ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) รุ่นก่อนหน้า (120Hz) ก็ถือว่าใกล้เคียงกัน ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพทั่วไป ทำงานถ้าไม่จริงจังเรื่องความแม่นยำของสีมากก็พอได้อยู่
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 250 cd/m2 แต่สำหรับช่องกลางล่างจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 11% ที่ถือว่ารับได้ ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว สรุปคือเล่นเกมได้ดีด้วย 144Hz ส่วนสีสันก็ถือกลางๆ ไม่ถึงกับดีมาก
ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง พร้อม Smart Amp รองรับระบบเสียง Hi-res เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะไม่มีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
ด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตจะอยู่ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง โดยมีทั้ง USB 3.2 Type-A (Gen 2) จำนวน 3 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย, USB 3.2 Gen2 Type-C (รองรับ DisplayPort 1.4 / USB PD) พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, LAN RJ45 และ HDMI ไว้เชื่อมต่อหน้าจอภานอก ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวาไว้ล็อคตัวเครื่องกับโต๊ะ
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Intel Wi-Fi 6 AX (2×2) ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 360 x 252 x 19.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2.1 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 180 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น พอแบกพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ไม่หนักมาก ถือมือเดียวก็สบายๆ หยิบจับไปไหนก็สะดวกทีเดียว
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้วใช้บัตรแข็งๆ ค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรงแกนฝาพับตัวเครื่องแล้วค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลังและแกะแผ่นออกมาทั้งหมด เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่เทคโนโลยี ROG Intelligent Cooling พร้อมระบายความร้อนที่มี Anti-Dust Tunnels ที่อยู่ในชุดฟินสีดำ หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อนจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 4 เส้น เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว
ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดยเดิมๆ ให้มาแล้ว 1 สล็อตอยู่แล้ว (รวมเป็น 2) ส่วนหน่วยความจำแรมขนาด 8GB แถวแรกเป็นแบบฝังบอร์ด และรองรับการใส่ 1 แถว ซึ่งใส่มาแล้ว 8GB อีกหนึ่งแถว รวมเป็น 16GB โดยใส่ได้รวมกันสูงสุด 32 GB โดดเด่นด้วยมาตรฐาน DDR4 Bus 3200 MHz จากที่เป็น Gaming Notebook บางเบานั่นเอง อีกทั้งไม่รองรับการใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5″ ตามรูปแบบของโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบา
Performance / Software
.
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS ที่แรงกว่า AMD Ryzen 7 3750H รุ่นก่อนหน้าแบบก้าวกระโดด ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 2 มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 2.90 – 4.2 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 12MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 35W ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น AMD Ryzen 3000 H หรือ Intel Core i Gen 9 H เลยทีเดียว ที่สามารถดูได้จากผลการทดสอบเล่นเกมที่ลื่นไหลกว่า Gaming Notebook สเปกเดิมๆ มาก
สำหรับ AMD Ryzen 7 4800HS แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 3000 H Series เป็นเท่าตัว ส่วนแรมได้ขนาด 8GB 1 แถวแบบฝั่ง และ 8GB แบบใส่เป็นช่องสล๊อตอีก 1 แถว รวมเป็น 16GB เป็นมาตรฐาน Bus 3200 MHz รองรับการอัพเกรดได้โดยการถอดแรม 8GB แถวเดิมออกไป พร้อมให้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ซึ่งมีช่องว่างใส่ SSD M.2 NVMe อีก 1 ตัวไว้อัพเกรดภายหลังได้ ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
.
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon 7 มีความเร็วในการทำงานที่ 1600MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ
อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX GTX 1660 Ti Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงใกล้เคียงกับ GeForce RTX 2060 (จากสถาปัตยกรรมเดียวกัน) แต่ก็ร้อนน้อยกว่า GTX 1660 Ti รุ่นปกติ เพราะเป็นรุ่น Max-Q เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา แต่ก็แรงไม่แพ้กัน เพราะทาง ASUS เค้า Overclock มาให้จากโรงงานแล้ว จากเทคโนโลยี ROG Boost ให้ GPU Clock ที่ 1240MHz Memory Clock ที่ 1530 MHz และ Boost Clock ที่ 1435 MHz แรงเหนือชั้นยิ่งกว่า เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H / Intel Core i7-9750H ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว โดยใชเป็นแบรนด์ Intel ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1748 MB/s และเขียนที่ 966 MB/s แม้อาจจะไม่ได้เร็วมาก (ใกล้เคียงกับรุ่นก่อน) แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,477 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุดจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming ยิ่าง GTX 1660 Ti Max-Q ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 3 Remake (Demo) / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง RE 3 / BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด !!! จากกราฟตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลสุดๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ โดยในส่วนของ RE 3 ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น MAX ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB ซึ่งเกินกว่าตัวการ์ดจอที่ 6GB แต่ก็ยังทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลน่าเหลือเชื่อจริงๆ
ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่ ทั้ง 7 เกมที่เราได้ทำการทดสอบไป ยิ่งถ้าเทียบกับ Gaming Notebook สเปกก่อนหน้าทั้งส่วนของ AMD Ryzen หรือ Intel Core i จะเห็นว่าแรงกว่าเดิมมากๆ
นอกเหนือจากนี้ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ยังมี Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆ ของระบบร อาทิ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลายโปรไฟล์
ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต ปิดท้ายด้วยซอฟต์แวร์ Utility อีกตัวอย่าง MyASUS ที่ไว้คอยตรวจระยะเวลากรับประกันและอัพเดทไดร์เวอร์ได้ครบๆ
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติขนาด 76Whrs ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 8 – 10 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้ อีกทั้งเราสามารถชาร์จไฟได้ผ่านทางพอร์ต USB 3.2 Type-C ด้วยเทคโนโลยี USB PD (USB Power Delivery) กับอแดปเตอร์หรือ Power Bank ที่รองรับด้วย
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมด Turbo
จากการทดสอบขณะนี้ยังไม่มีซอฟต์แวร์ตวรจสอบอุณหภูมิแบบเวลาจริงๆ ได้ของ CPU ชิปประมวลผล โดยจากที่ดูผ่านทางซอฟต์แวร์ Armory Crate อยู่ที่ไม่เกิน 75 – 80 องศาเซลเซียส ส่วน GPU การ์ดจอจะอยู่ที่ไม่เกิน 84 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึงแต่ไม่ถึงขั้นดังรบกวน จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Windows เพื่อใช้งานทั่วไปก็สามารถทำได้ค่อนข้างเงียบทีเดียว
Conclusion / Award
สิ้นสุดการรอคอยของการมาของชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 H Series รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนมากๆ ซึ่งแอดมินโป้ง NBS ได้มีโอกาสรีวิว ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) มาพร้อมสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม Zen 2 ผสานกาทำงานร่วมกับการ์ดจอตัวแรงแต่ร้อนน้อยอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q รวมไปถึงในส่วนของแรมยังได้เป็นมาตรฐานใหม่ด้วยขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แน่นอนว่าที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความเร็วสูงด้วย ซึ่งต้องบอกว่าประทับใจมากๆ กับความแรงและราคาคุ้มค่าสุดๆ ช่วงต้นปี 2020 นี้
จากการทดสอบใช้งานจริงเล่นเกมจริงๆ เห็นได้ชัดถึงความทรงพลังของชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมเหนือชั้นกว่า AMD Ryzen 3000 H Series เป็นเท่าตัว รวมไปถึงยังแรงกว่า Intel Core i Gen 9 H ด้วย โดยมาพร้อมชิปประมวลผลได้สบายในราคาที่ถูกกว่าคุ้มค่ากว่า ในส่วนของการ์ดจอก็ยังเลือกใช้ทาง NVIDIA อย่าง GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ให้ทั้งความแรงระดับ RTX แต่คุ้มค่ากว่า แรงกว่าจาก OC พร้อมให้การกินไฟที่น้อย ส่งผลให้ร้อนน้อยลงไปอีกด้วย เรียกได้ว่าทำให้แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 8 – 10 ชั่วโมงกว่านั่นเอง แถมยังมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6AX (2×2) และ USB PD ล้ำๆ ด้วย
สำหรับ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) รุ่นล่าสุด มีความคุ้มค่าเหนือชั้นกว่า ASUS ROG Zephyrus G GA502 รุ่นก่อนหน้าที่เป็นหน้าจอ IPS 120 – 240Hz พร้อมแรม 8 – 16GB ในส่วนของ Gaming Notebook ของ ASUS รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นแรกในไทยที่พร้อมขายจริงๆ แล้ว จากการรวมตัวของ AMD Ryzen 7 4800HS และ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ซึ่งถ้าใครต้องการ Gaming Notebook ตัวแรงตัวล้ำราคาไม่แพง ได้สเปกใหม่สุดๆ ก่อนใคร ในค่าตัวเพียง 39,990 บาทเท่านั้น ได้การรับประกัน 2 ปีแบบทั่วโลก ส่งศูนย์ได้หรือฝากส่งเคลมผ่านร้าน 7-11 ก็ได้ และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม
จุดเด่นของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) นอกจากพระเอกอย่างชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS แล้ว ก็คือ ได้ความเป็น ROG ที่พรีเมียม ตัวเครื่องบางเบา พกพาสะดวก ทำงานได้เล่นเกมดีครบจบในเครื่องเดียว ประสิทธิภาพลื่นไหล พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่างที่หาใน Gaming Notebook ราคาเน้นคุ้มค่าเป็นหลักอย่าง TUF Gaming ไม่ได้ ในส่วนของประสิทธิภาพการเล่นเกมก็ดีเยี่ยมถึงแม้จะไม่ใช่การ์ดจอ GTX 1660 Ti ตัวปกติ แต่ทาง ASUS ก็ทำการ Overclock มาให้แล้ว ทำให้ความแรงพอตัว ซึ่งถ้าให้กล่าวถึงข้อสังเกตก็จะเป็นเรื่องไม่มี SD Card Reader และพาเนล IPS ได้คุณภาพกลางๆ แต่ถ้าเทียบกับราคาและฟีเจอร์ล้ำๆ อื่นๆ แล้วถือว่ารับได้สบายมากๆ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ROG โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2.1 กิโลกรัมเท่านั้น วัสดุคุณภาพดีงานประกอบก็เยี่ยมทั้งอลูมิเนียมอัลลอยด์และพลาสติกเกรดดี เอาไปทำงานหรือเล่นเกมได้หมดรอบด้าน
Best Performance
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) สเปคเป็น AMD Ryzen 7 4800HS + NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q + จอ IPS 144Hz ขอบหน้าจอบาง + Ram 16GB Bus 3200MHz + SSD M.2 NVMe 512GB + มี Windows 10 แท้ ซึ่งทดสอบการใช้งานเล่นเกมจริงแล้วแรงกว่า Gaming Notebook รุ่นก่อนๆ ทั้ง AMD / Intel มากๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ หรือเล่นเกมก็ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ที่สำคัญได้ความเป็น ROG Zephyrus G ที่พรีเมียม บางเบา เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้
Best Mobility
ปัจจัยสำคัญของด้านการพกพาบางเบาก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า 8 – 10 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 6 AX (2×2) รวมถึง Bluetooth 5.0 หรือหากต้องการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม ตัวเครื่องก็ยังมีพอร์ตที่ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไปด้วยเช่นกัน ที่สำคัญจากการที่มีพอร์ต USB 3.2 Type-C เทคโนโลยี USB PD (USB Power Delivery) ทำให้ชาร์จไฟได้สะดวกด้วย
VDO Review
NBS Verdict
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) นับว่าเป็นมาตรฐาน Gaming Notebook ยุคใหม่อย่างแท้จริง โดยใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS ซึ่งได้เทคโนโลยีใหม่ๆ จัดเต็ม ทั้งการผลิตที่ 7 นาโนเมตร ส่งผลให้แรงขึ้นแต่ร้อนน้อย พร้อมทั้งทำงานด้วยความเร็ว 2.90 – 4.20GHz โดยเป็นแบบ 8 คอร์ 16 เธรด ที่สร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น AMD Ryzen 3000 H หรือ Intel Core i Gen 9 H เลยทีเดียว ที่สามารถดูได้จากผลการทดสอบเล่นเกมที่ลื่นไหลกว่า Gaming Notebook สเปกเดิมๆ มาก อีกทั้งยังได้แรมมาตรฐานใหม่เป็น Bus 3200MHz ขนาด 16GB ซึ่งก็เป็นส่วนช่วยเรื่องของประสิทธิภาพที่สำคัญทีเดียว
ที่นอกจากชิปประมวลผลตัวแรงแล้ว (จริงๆ ยังมีแรงกว่าคือ Ryzen 7 4800H / Ryzen 9 4900HS / Ryzen 9 4900H ด้วย) การ์ดจอก็ใช้เป็นรุ่นที่ประสิทธิภาพแรงพอตัวอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ซึ่งก็สามารถทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี พร้อมด้วย SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่แม้ว่าความเร็วอาจจะไม่สูงระดับบนแต่ก็เหลือเฟือในการใช้งานแล้ว อีกทั้งได้หน้าจอพาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144Hz พร้อม Adaptive Sync ก็ถือว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอด ร่วมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆ ด้วยตัวเครื่องบางเบาพกพาสะดวก แบตยาวนานใช้งานชาร์จด้วย USB PD ได้ ที่สำคัญคือจัดการอุณหภูมิได้ดีด้วย จากเทคโนโลยีการระบายความร้อนที่ดีและเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่ดียิ่งขึ้น
เรียกได้ว่าใครกำลังมอง Gaming Notebook ตัวแรงลื่นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่อยากได้ดีไซน์เรียบหรูดูดี ทำงานก็สะดวกเล่นเกมก็ลื่นไหล ก็ขอแนะนำให้ไปซื้อ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) กันได้เลย แม้ว่าดีไซน์การออกแบบตัวเครื่องจะเหมือนเดิมและพาเนล IPS ไม่ใช่เกรดระดับสูง แต่ด้วยราคา 39,990 บาทก็ถือว่าคุ้มค่าน่าซื้อกว่ารุ่นก่อนๆ เยอะทีเดียว
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU-AL014T) พร้อมวางจำหน่ายแล้วเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ และ ASUS Official Store: https://shopee.co.th/asus_officialstore
จุดเด่น
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจตามสไตล์ ROG Zephyrus งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ขอบหน้าจอบางพิเศษ มิติเทียบเท่ารุ่น 14″ ตัวเครื่องเบา 2.1 กิโลกรัม และบางที่ 19.9 มิลลิเมตร
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง AMD Ryzen 7 4800HS แรงลื่นกว่า ร้อนน้อยกว่า
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ร้อนน้อย พร้อม OC มาจาก ASUS เพิ่มความแรงไปอีก
- แรมขนาด 16GB Bus 3200 MHz แบบ Dual Channel มาตรฐานใหม่ที่มาพร้อม Ryzen 4000 H Series
- ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB รองรับการอัพเกรดอีก 1 สล็อต
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดี พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz
- อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าจัดการได้ดี ไม่ร้อนจนเกินไป มีระบบไล่ฝุ่นอัตโนมัติ
- พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ด้วย USB 3.2 Type-A / C รองรับ DisplayPort / USB PD
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 8 – 10 ชั่วโมง
- มีซอฟต์แวร์ Armory Crate มาช่วยปรับแต่งการใช้งาน
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที มีความสเถียร์ของไดร์เวอร์
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบัติเหตุ 1 ปี
ข้อสังเกต
- คุณภาพหน้าจอให้ขอบเขตสีในระดับกลางๆ sRGB 61%
- ไม่มี SD Card Reader
- ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง
- ดีไซน์ภายนอกทั้งหมดเหมือนกับ ASUS ROG Zephyrus G รุ่นก่อนหน้า
Specification
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS สถาปัตยกรรม Zen 2 มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 7 nm ความเร็ว 2.90 – 4.20 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ผสานกับ APU การ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 7 ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ใช้สถาปัตยกรรมกับ RTX ที่เย็นกว่า GTX 10 Series พร้อมตัดพวกฟีเจอร์อื่นๆ ออกไปเน้นความแรงเป็นหลัก โดยเน้นให้มีความร้อนที่น้อยกว่าและประหยัดพลังงานเข้ากับตัวเครื่องที่บางเบา
ในส่วนของแรมได้มาขนาด 16GB Bus 3200 MHz แบบ Dual Channel (8GB x 2 โดยออนบอร์ดมาแล้ว 1 แถว) มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ Intel SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่มีความลื่นไหล อีกทั้งยังรองรับการติดตั้งอัพเกรดเพิ่ม SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพดี รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)
นอกจากนี้รายละเอียดอื่นๆ ของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ก็จะมีระบบเสียง Hi-Res audio แบบ 7.1 Virtual surround พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 และชาร์จไฟผ่านทาง USB PD ได้ ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่อย่าง Intel Wi-Fi 6 AX (2×2) และ Bluetooth 5.0 พร้อมติดจั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate มาให้ในตัว โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือไม่ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมมา ถ้าใครจะใช้ต้องหามาติดตั้งเอง
การรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม จัดได้ว่าเป็นมาตรฐานการรับประกันของทาง ASUS ปกติ สนนราคาของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) อยู่ที่ 39,990 บาท จัดว่าคุ้มค่าไม่แพงเลย
Hardware / Design
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เป็นหนึ่งในซีรีส์ ROG ที่เน้นความบางเบามากกว่า Gaming Notebook ทั่วไป โดยมีความบางสุดที่ 19.9 มิลลิเมตร มาพร้อมน้ำหนักเบาที่ 2.1 กิโลกรัม รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไปกับขนาดหน้าจอขอบบางที่ 6.2 มิลลิเมตร ขนาด 15.6″ สัดส่วนเป็น 81% ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ดีไซน์โดยรวมเน้นความดุดัน แข็งแกร่งสไตล์ ROG ด้วยวัสดุเป็นโลหะพร้อมลวดลายแบบปัดเสี้ยนคล้ายกับ ROG ในหลายๆ รุ่น เรียกได้ว่าดูเป็น Gamer สายจริงจัง ที่นำไปพกพาทำงานก็ลงตัวสุดๆ
แน่นอนว่า ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เลือกใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะส่วนของชิ้นฝาหลัง ส่วนด้านในเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทานประมาณนึง โดยยังคงไว้ซึ่งการออกแบบที่สวยงามเน้นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่อง ด้วยเส้นสายที่ทันสมัยและการตกแต่งเสริมความพรีเมียม ระบบระบายความร้อนที่มีความล้ำหน้าทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของทุกชิ้นส่วน ด้วยการออกแบบและวิศวกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของตระกูล Zephyrus
ตัวเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) นั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง เรียกได้ว่าแทบไม่มีความโค้งเว้าใดๆ ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว ขอบของตัวเครื่องรวมไปถึงขอบด้านหลังนั้นถูกออกแบบมุมมาเป็นอย่างดีมีคำว่า ZEPHYRUS พร้อมรูปแบบขอบหน้าจอของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) จะเป็นแบบบานพับสองแกนดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณ 145 องศา พร้อมเว้นขอบเอาไว้โชว์ไฟแสดงไฟ LED การทำงานต่างๆ ส่วนด้านท้ายและขอบเครื่องทางขวาจะเห็นถึงช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 3 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่
จุดเด่นที่สุดของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ที่เป็น Gaming Notebook รุ่นแรกที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 H รุ่นแรก ได้ตัวบางเบาแต่แรง พร้อมติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q โดยทั้งคู่จะมีสติ๊กเกอร์ติดไว้ที่ตัวเครื่องบริเวณที่วางข้อทืออย่างชัดเจน การันตีเรื่องของประสิทธิภาพความแรงภายใน นอกจากนั้นยังมีเรื่องของสติ๊กเกอร์การรับประกันแบบ Prefect Warranty ระยะเวลา 1 ปีจากทาง ASUS ที่เป็นอุบัติเหตุตัวเครื่องอย่างที่ไม่มีใครเหมือนด้วย
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกที่แข็งแรงงานประกอบเรียบร้อย พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่ด้านล่างใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก ติดตั้งด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 3 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่ เทคโนโลยี ROG Intelligent Cooling พร้อมช่องไล่ฝุ่น Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต พัดลมคู่ n-Blade หมุนใบพัดมากถึง 83 ใบ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวจากนั้นค่อยๆ ดึงขึ้น รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของตระกูล ROG ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลักด้วยสเปกภายในที่ทรงประสิทธิภาพอย่าง AMD Ryzen 4000 H Series และ NVIDIA GeForce GTX แต่ก็รองรับสำหรับคนที่นำไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ ได้เต็มรูปแบบ รวมไปถึงพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งจากฟีเจอร์ และสเปกแรงล้ำกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงหน้าจอก็ใหญ่ที่ 15.6″ แต่ตัวเครื่องเทียบเท่า 14″ ทำให้ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น แม้ดีไซน์รวมๆ ทั้งหมดยังคงเหมือนเดิมอยู่เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่ก็จัดว่ายังคงสวยงามทันสมัยอยู่
สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ต้องบอกว่า ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก จากแต่ก่อนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ความแรงระดับนี้ จะอยู่บนตัวเครื่องที่บางและเบาแบบนี้ แต่ตอนนี้ทาง ASUS ทำออกมาได้แล้ว ในประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่ล้ำหน้ากว่า ในราคาที่จัดว่าคุ้มค่ามากๆ
Keyboard / Touchpad
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เป็นคีย์บอร์ดมีไฟ LED สีขาวสีเดียว ให้ความสะดวกด้วยปุ่ม Spacebar ด้านมุมล่างซ้ายก็ทำแหว่งออกมานิดหนึ่งเพื่อให้ใช้นิ้วโป้งซ้ายกดง่ายขึ้น แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง รวมถึงสามารถมีฟังก์ชั่นเพิ่มลดเสียง เปิดปิดไมค์ และ ซึ่งตัวปุ่มต่างๆ ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์
ทัชแพดเองขนาดใหญ่แบบซ้อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี ฟีเจอร์ Multi-touch หรือ Smart Gesture ที่สามารถใช้งานควบคู่กับ Windows 10 ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญมีในส่วนของปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดอย่าง F5 ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับเปลี่ยนโหมดการใช้งานระหว่าง Turbo mode สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงสุด, Silen Mode ให้พัดลมทำงานเงียบที่สุด
Screen / Speaker
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.2 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบนทำให้ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 144Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2020 ทั่วไปมากทีเดียว
ทดสอบหน้าจอของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ที่แม้จะเป็นพาเนล IPS แต่ก็มีหลายเกณฑ์ โดยการดูประสิทธิภาพต่างๆ นแต่ละด้าน ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสัน Gamut เทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 61% และ AdobeRGB 45% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับกลางๆ แน่นอนว่าเทียบกับ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) รุ่นก่อนหน้า (120Hz) ก็ถือว่าใกล้เคียงกัน ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพทั่วไป ทำงานถ้าไม่จริงจังเรื่องความแม่นยำของสีมากก็พอได้อยู่
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 250 cd/m2 แต่สำหรับช่องกลางล่างจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 11% ที่ถือว่ารับได้ ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว สรุปคือเล่นเกมได้ดีด้วย 144Hz ส่วนสีสันก็ถือกลางๆ ไม่ถึงกับดีมาก
ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง พร้อม Smart Amp รองรับระบบเสียง Hi-res เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะไม่มีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
ด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตจะอยู่ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง โดยมีทั้ง USB 3.2 Type-A (Gen 2) จำนวน 3 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย, USB 3.2 Gen2 Type-C (รองรับ DisplayPort 1.4 / USB PD) พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, LAN RJ45 และ HDMI ไว้เชื่อมต่อหน้าจอภานอก ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวาไว้ล็อคตัวเครื่องกับโต๊ะ
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Intel Wi-Fi 6 AX (2×2) ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 360 x 252 x 19.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2.1 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 180 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น พอแบกพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ไม่หนักมาก ถือมือเดียวก็สบายๆ หยิบจับไปไหนก็สะดวกทีเดียว
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้วใช้บัตรแข็งๆ ค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรงแกนฝาพับตัวเครื่องแล้วค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลังและแกะแผ่นออกมาทั้งหมด เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่เทคโนโลยี ROG Intelligent Cooling พร้อมระบายความร้อนที่มี Anti-Dust Tunnels ที่อยู่ในชุดฟินสีดำ หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อนจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 4 เส้น เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว
ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดยเดิมๆ ให้มาแล้ว 1 สล็อตอยู่แล้ว (รวมเป็น 2) ส่วนหน่วยความจำแรมขนาด 8GB แถวแรกเป็นแบบฝังบอร์ด และรองรับการใส่ 1 แถว ซึ่งใส่มาแล้ว 8GB อีกหนึ่งแถว รวมเป็น 16GB โดยใส่ได้รวมกันสูงสุด 32 GB โดดเด่นด้วยมาตรฐาน DDR4 Bus 3200 MHz จากที่เป็น Gaming Notebook บางเบานั่นเอง อีกทั้งไม่รองรับการใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5″ ตามรูปแบบของโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบา
Performance / Software
.
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS ที่แรงกว่า AMD Ryzen 7 3750H รุ่นก่อนหน้าแบบก้าวกระโดด ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 2 มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 2.90 – 4.2 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 12MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 35W ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น AMD Ryzen 3000 H หรือ Intel Core i Gen 9 H เลยทีเดียว ที่สามารถดูได้จากผลการทดสอบเล่นเกมที่ลื่นไหลกว่า Gaming Notebook สเปกเดิมๆ มาก
สำหรับ AMD Ryzen 7 4800HS แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 3000 H Series เป็นเท่าตัว ส่วนแรมได้ขนาด 8GB 1 แถวแบบฝั่ง และ 8GB แบบใส่เป็นช่องสล๊อตอีก 1 แถว รวมเป็น 16GB เป็นมาตรฐาน Bus 3200 MHz รองรับการอัพเกรดได้โดยการถอดแรม 8GB แถวเดิมออกไป พร้อมให้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ซึ่งมีช่องว่างใส่ SSD M.2 NVMe อีก 1 ตัวไว้อัพเกรดภายหลังได้ ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
.
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon 7 มีความเร็วในการทำงานที่ 1600MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ
อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX GTX 1660 Ti Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงใกล้เคียงกับ GeForce RTX 2060 (จากสถาปัตยกรรมเดียวกัน) แต่ก็ร้อนน้อยกว่า GTX 1660 Ti รุ่นปกติ เพราะเป็นรุ่น Max-Q เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา แต่ก็แรงไม่แพ้กัน เพราะทาง ASUS เค้า Overclock มาให้จากโรงงานแล้ว จากเทคโนโลยี ROG Boost ให้ GPU Clock ที่ 1240MHz Memory Clock ที่ 1530 MHz และ Boost Clock ที่ 1435 MHz แรงเหนือชั้นยิ่งกว่า เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H / Intel Core i7-9750H ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว โดยใชเป็นแบรนด์ Intel ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1748 MB/s และเขียนที่ 966 MB/s แม้อาจจะไม่ได้เร็วมาก (ใกล้เคียงกับรุ่นก่อน) แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,477 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุดจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming ยิ่าง GTX 1660 Ti Max-Q ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 3 Remake (Demo) / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง RE 3 / BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด !!! จากกราฟตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลสุดๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ โดยในส่วนของ RE 3 ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น MAX ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB ซึ่งเกินกว่าตัวการ์ดจอที่ 6GB แต่ก็ยังทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลน่าเหลือเชื่อจริงๆ
ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่ ทั้ง 7 เกมที่เราได้ทำการทดสอบไป ยิ่งถ้าเทียบกับ Gaming Notebook สเปกก่อนหน้าทั้งส่วนของ AMD Ryzen หรือ Intel Core i จะเห็นว่าแรงกว่าเดิมมากๆ
นอกเหนือจากนี้ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ยังมี Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆ ของระบบร อาทิ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลายโปรไฟล์
ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต ปิดท้ายด้วยซอฟต์แวร์ Utility อีกตัวอย่าง MyASUS ที่ไว้คอยตรวจระยะเวลากรับประกันและอัพเดทไดร์เวอร์ได้ครบๆ
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติขนาด 76Whrs ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 8 – 10 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้ อีกทั้งเราสามารถชาร์จไฟได้ผ่านทางพอร์ต USB 3.2 Type-C ด้วยเทคโนโลยี USB PD (USB Power Delivery) กับอแดปเตอร์หรือ Power Bank ที่รองรับด้วย
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมด Turbo
จากการทดสอบขณะนี้ยังไม่มีซอฟต์แวร์ตวรจสอบอุณหภูมิแบบเวลาจริงๆ ได้ของ CPU ชิปประมวลผล โดยจากที่ดูผ่านทางซอฟต์แวร์ Armory Crate อยู่ที่ไม่เกิน 75 – 80 องศาเซลเซียส ส่วน GPU การ์ดจอจะอยู่ที่ไม่เกิน 84 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึงแต่ไม่ถึงขั้นดังรบกวน จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Windows เพื่อใช้งานทั่วไปก็สามารถทำได้ค่อนข้างเงียบทีเดียว
Conclusion / Award
สิ้นสุดการรอคอยของการมาของชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 H Series รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนมากๆ ซึ่งแอดมินโป้ง NBS ได้มีโอกาสรีวิว ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) มาพร้อมสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม Zen 2 ผสานกาทำงานร่วมกับการ์ดจอตัวแรงแต่ร้อนน้อยอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q รวมไปถึงในส่วนของแรมยังได้เป็นมาตรฐานใหม่ด้วยขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แน่นอนว่าที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความเร็วสูงด้วย ซึ่งต้องบอกว่าประทับใจมากๆ กับความแรงและราคาคุ้มค่าสุดๆ ช่วงต้นปี 2020 นี้
จากการทดสอบใช้งานจริงเล่นเกมจริงๆ เห็นได้ชัดถึงความทรงพลังของชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมเหนือชั้นกว่า AMD Ryzen 3000 H Series เป็นเท่าตัว รวมไปถึงยังแรงกว่า Intel Core i Gen 9 H ด้วย โดยมาพร้อมชิปประมวลผลได้สบายในราคาที่ถูกกว่าคุ้มค่ากว่า ในส่วนของการ์ดจอก็ยังเลือกใช้ทาง NVIDIA อย่าง GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ให้ทั้งความแรงระดับ RTX แต่คุ้มค่ากว่า แรงกว่าจาก OC พร้อมให้การกินไฟที่น้อย ส่งผลให้ร้อนน้อยลงไปอีกด้วย เรียกได้ว่าทำให้แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 8 – 10 ชั่วโมงกว่านั่นเอง แถมยังมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6AX (2×2) และ USB PD ล้ำๆ ด้วย
สำหรับ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) รุ่นล่าสุด มีความคุ้มค่าเหนือชั้นกว่า ASUS ROG Zephyrus G GA502 รุ่นก่อนหน้าที่เป็นหน้าจอ IPS 120 – 240Hz พร้อมแรม 8 – 16GB ในส่วนของ Gaming Notebook ของ ASUS รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นแรกในไทยที่พร้อมขายจริงๆ แล้ว จากการรวมตัวของ AMD Ryzen 7 4800HS และ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ซึ่งถ้าใครต้องการ Gaming Notebook ตัวแรงตัวล้ำราคาไม่แพง ได้สเปกใหม่สุดๆ ก่อนใคร ในค่าตัวเพียง 39,990 บาทเท่านั้น ได้การรับประกัน 2 ปีแบบทั่วโลก ส่งศูนย์ได้หรือฝากส่งเคลมผ่านร้าน 7-11 ก็ได้ และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม
จุดเด่นของ ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) นอกจากพระเอกอย่างชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800HS แล้ว ก็คือ ได้ความเป็น ROG ที่พรีเมียม ตัวเครื่องบางเบา พกพาสะดวก ทำงานได้เล่นเกมดีครบจบในเครื่องเดียว ประสิทธิภาพลื่นไหล พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่างที่หาใน Gaming Notebook ราคาเน้นคุ้มค่าเป็นหลักอย่าง TUF Gaming ไม่ได้ ในส่วนของประสิทธิภาพการเล่นเกมก็ดีเยี่ยมถึงแม้จะไม่ใช่การ์ดจอ GTX 1660 Ti ตัวปกติ แต่ทาง ASUS ก็ทำการ Overclock มาให้แล้ว ทำให้ความแรงพอตัว ซึ่งถ้าให้กล่าวถึงข้อสังเกตก็จะเป็นเรื่องไม่มี SD Card Reader และพาเนล IPS ได้คุณภาพกลางๆ แต่ถ้าเทียบกับราคาและฟีเจอร์ล้ำๆ อื่นๆ แล้วถือว่ารับได้สบายมากๆ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ROG โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2.1 กิโลกรัมเท่านั้น วัสดุคุณภาพดีงานประกอบก็เยี่ยมทั้งอลูมิเนียมอัลลอยด์และพลาสติกเกรดดี เอาไปทำงานหรือเล่นเกมได้หมดรอบด้าน
Best Performance
ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) สเปคเป็น AMD Ryzen 7 4800HS + NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q + จอ IPS 144Hz ขอบหน้าจอบาง + Ram 16GB Bus 3200MHz + SSD M.2 NVMe 512GB + มี Windows 10 แท้ ซึ่งทดสอบการใช้งานเล่นเกมจริงแล้วแรงกว่า Gaming Notebook รุ่นก่อนๆ ทั้ง AMD / Intel มากๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ หรือเล่นเกมก็ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ที่สำคัญได้ความเป็น ROG Zephyrus G ที่พรีเมียม บางเบา เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้
Best Mobility
ปัจจัยสำคัญของด้านการพกพาบางเบาก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า 8 – 10 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 6 AX (2×2) รวมถึง Bluetooth 5.0 หรือหากต้องการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม ตัวเครื่องก็ยังมีพอร์ตที่ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไปด้วยเช่นกัน ที่สำคัญจากการที่มีพอร์ต USB 3.2 Type-C เทคโนโลยี USB PD (USB Power Delivery) ทำให้ชาร์จไฟได้สะดวกด้วย