จากสเปคของ PlayStation 5 ที่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในช่วงกลางคืนวันพุธที่ผ่านมานั้น นอกเหนือไปจากส่วนของชิปกราฟิกที่น่าสนใจแล้วฮาร์ดแวร์อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคงหนีไม่พ้นแหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD ที่แค่ขนาดความจุนั้นก็แปลกกว่าทั่วไปคืออยู่ที่ 825 GB ทว่าตามสเปคที่ทาง Sony ได้เผยออกมานั้นจะเห็นได้ว่าเจ้าแหล่งเก็บข้อมูล SSD ดังกล่าวนี้นั้นถือว่าเร็วแบบสุดๆ ด้วยความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลแบบปกติที่ 5.5 GB/s และสูงมากถึง 9 GB/s แบบ compressed throughput เรามาดูกันว่า Sony เขาทำอย่างไรถึงได้สามารถที่จะแร่งความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลได้ถึงขนาดนี้
ที่มาของความแรงขนาดนี้นั้นก็เนื่องมากจากการที่ทาง Sony ได้ใช้ NAND Flash ที่ไ้ดรับการปรับแต่งออกมาให้มีความเร็วมากเป็นพิเศษ นอกไปจากนั้นแล้วมันยังถูกเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ในส่วนอื่นๆ ด้วย 12-channel interface ตามมาด้วยส่วนของคอนโทรลเลอร์สำหรับแหล่งเก็บข้อมูลนั้นก็ติดต่อกับหน่วยประมวลผลผ่านช่องทาง PCIe Gen4 ที่ขนาด 4 lane(ซึ่งหากมองดูแล้วนั้นคอมพิวเตอร์ของเราๆ ท่านๆ จะยังไม่สามารถใช้งานมาตรฐานดังกล่าวนี้ได้เนื่องจากว่า ณ ปัจจุบันนี้ยังคงไม่มีแหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบ PCIe Gen4 ออกมา) ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เองนั้นเลยทำให้การโอนถ่ายข้อมูลจากแหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD ไปยังหน่วยความจำหลักของเครื่องที่มีอยู่ 16 GB นั้นเร็วเป็นอย่างมาก(สามารถที่จะโอนถ่ายข้อมูลจาก SSD ไปที่หน่วยความจำจนเต็มในระยะเวลาเพียง 2 วินาทีเท่านั้น)
แน่นอนว่าเมื่อข้อมูลของตัวเกมต่างๆ ที่ถูกเก็บไว้บนแหล่งเก็บข้อมูล SSD สามารถที่จะโอนถ่ายเข้าไปยังหน่วยความจำหลักของตัวเครื่องได้เร็วมากนั้นทำให้ปัญหาเรื่องขอขวดที่เกิดขึ้นจากการรอข้อมูลเพื่อจะส่งไปให้หน่วยประมวลผลและชิปกราฟิกทำการประมวลผลนั้นลดน้อยลงไปเป็นอย่างมาก ยังไม่หมดแค่เพียงเท่านั้น DMA controller ของ PlayStation 5 ยังคงมาพร้อมกับความสามารถในการประมวลผลได้เสมือนกับการใช้งานหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Zen 2 บนตัวเครื่อง 1 – 2 แกนเลยทีเดียว คอนโทรลเลอร์พิเศษที่ทาง Sony พัฒนาขึ้นมากนั้นยังสามารถที่จะจัดการ I/O mapping และ coherency engines ได้อย่างรวดเร็วอีกต่างหาก ดังนั้นแล้วจึงไม่น่าแปลกใจว่ากับการที่ทาง Sony จะโฆษณาเอาไว้ว่า PS5 นั้นจะไม่มีการรอโหลดฉากต่างๆ อีกต่อไป
ถึงแม้ว่าสเปคและความสามารถต่างๆ นั้นจะดีมากจนทำให้ PlayStation 5 น่าสนใจเป็นอย่างมาก ทว่ามันก็ยังคงมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งซึ่งนั่นก็คือตัวแหล่งเก็บข้อมูลหลักแบบ SSD ที่มาพร้อมกับความจุ 825 GB นั้นจะไม่สามารถทำการเก็บข้อมูลของตัวเกมที่เป็นของเครื่อง PlayStation 4 ได้ โดยทาง Sony ได้บอกเอาไว้ว่าสำหรับผู้ที่อยากเล่นเกม PlayStation 4 บน PlayStation 5 นั้นจะต้องใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลของเกมในส่วนของแหล่งเก็บข้อมูลที่ต้องเพิ่มเข้าไปแทน(ทั้งในส่วนของ external M.2 และ USB) ดังนั้นแล้วในการเล่นเกม PlayStation 4 บนเครื่อง PlayStation 5 นั้นผู้เล่นก็ยังคงจะต้องรอเวลาในการโหลดฉากต่างๆ เหมือนเดิม(ทว่าก็จะเร็วขึ้นกว่าเดิมพอสมควรหากใช้งานแหล่งเก็บข้อมูลผ่านทาง external M.2)
ที่มา : notebookcheck