และแล้วในที่สุดทาง Sony เองก็ได้ทำการเปิดตัวส่วนของสเปค PlayStation 5 คอนโซลรุ่นถัดไปออกมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งตามสเปคที่มีการเปิดตัวออกมานั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากเท่าไรจากที่มีการคาดเดากันเอาไว้ก่อนหน้านี้กับสเปคหลักๆ อย่างหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Zen 2 รุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับแกนการประมวลผลที่ 8 แกน ความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงสุดอยู่ที่ 3.5 GHz และชิปกราฟิกสถาปัตกรรม RDNA2 ที่มาพร้อมกับ 36 CU ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 2.23 GHz มีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงถึง 10.28 TFLOP ซึ่งหากเทียบกับ Xbox Series X ของทางฝั่ง Microsoft แล้วนั้นก็อาจจะแตกต่างกันไปในคนละด้านทว่าทาง Sony เองก็ได้ให้เหตุผลเอาไว้น่าสนใจเช่นกัน
ก่อนที่จะไปดูส่วนของสเปคอื่นๆ ต่อนั้นคงต้องขอกล่าวถึงสเปคของชิปกราฟิกก่อนโดยจะเห็นได้ว่าชิปกราฟิกของ PS5 นั้นจะมีจำนวน CU น้อยกว่า Xbox Series X ที่มีอยู่ที่ 52 CU ทว่าในส่วนของความเร็วของสัญญาณนาฬิกาของชิปกราฟิกบน PS5 นั้นจะสูงกว่า Xbox Series X ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เองนั้นเลยทำให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลของ PS5 นั้นเมื่อเทียบตามตัวเลขแล้วก็จะน้อยกว่า Xbox Series X อยู่ที่ราวๆ 2 TFLOP ซึ่งในจุดนี้นั้นทาง Sony โดยคุณ Mark Cerny ได้ให้ความเห็นเอาไว้ว่าที่ทาง Sony เลือกที่จะให้ชิปกราฟิกออกมาเป็นแบบนี้นั้นก็เพื่อที่จะให้ตัวชิปกราฟิกสามารถที่จะเร่งความเร็วสัญญาณนาฬิกาเพิ่มได้มากขึ้นกว่าปกติทำให้สามารถที่จะทำงานในการประมวลผลต่อรอบได้รวดเร็วกว่าจนสามารถที่จะประมวลผลในส่วนต่างๆ เพิ่มมากกว่าส่วนของกราฟิกเพียงอย่างเดียวได้
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้ผู้ใช้เป็นกังวลว่าการที่ชิปกราฟิกของ PS5 นั้นมาพร้อมกับความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงมากๆ อย่าง 2.23 GHz แล้วจะทำให้ตัวชิปร้อนและใช้พลังงานมากกว่าปกติหรือไม่ งานนี้นั้นก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะ PS5 นั้นทั้งในส่วนของหน่วยประมวลผลและชิปกราฟิกจะรองรับความสามารถในการปรับความเร็วสัญญาณนาฬิกาได้เมื่อมีการคำนวณต่างๆ ที่แตกต่างกันไป(เหมือนกับของคอมพิวเตอร์นั่นเอง) งานนี้ก็สบายใจไปได้ อย่างไรก็ตามมีส่วนหนึ่งที่นักพัฒนาให้ความเห็นเอาไว้ก็คือการที่ตัวชิปกราฟิกของ PS5 มีเพียงแค่ 36 CU เท่านั้นทำให้นักพัฒนาต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมเพื่อที่จะทำการขับประสิทธิภาพของกราฟิกออกให้ได้ดีมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้(เนื่องจากว่าในการคำนวณนั้นจะมีหน่วยประมวลผลด้านกราฟิกเพียง 36 หน่วย เมื่อเทียบกับ Xbox Series X ที่มี 56 CU แล้วนั้นทางนักพัฒนาดูจะมีอะไรให้เล่นได้มากกว่า ทว่าการจะเปรียบเทียบกันว่ามันต่างกันมากขนาดไหนนั้นก็ต้องรอดูกันอีกที)
สำหรับสเปคในส่วนอื่นๆ ของ PS5 นั้นจะมีดังต่อไปนี้
ในส่วนของสเปคอื่นๆ นั้นคงต้องบอกว่าไม่ค่อยจะมีความแตกต่างอะไรไปจากคอมพิวเตอร์ดีๆ สักเครื่องหนึ่งที่เราๆ ท่านๆ ใช้กันในปัจจุบันมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการที่ตัวเครื่องนั้นจะมาพร้อมกับหน่วยความจำที่ 16 GB แบบ GDDR6 ที่บัส 256-bit(แบบแชร์ร่วมกันระหว่างหน่วยประมวลผลและชิปกราฟิก) หรือจะเป็นแหล่งเก็บข้อมูลความจุ 825 GB NVMe SSD ที่มีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลสูงมากถึง 5.5 GB/s แถมผู้ใช้ยังสามารถที่จะเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลเข้าไปบนตัวเครื่องได้อีกด้วยการให้ NVMe SSD Slot และการรองรับแหล่งเก็บข้อมูลแบบเชื่อมต่อผ่านทาง USB สำหรับจุดสุดท้ายที่นักเล่นเกมคอมพิวเตอร์คงต้องมองกันแบบค้อนๆ หน่อยก็คือ Optical Drive ที่รองรับมาตรฐาน 4K UHD Blu-ray Drive ที่ทางฝั่งนักเล่นเกมคอมพิวเตอร์นั้นได้ลืมไปกันเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าสงครามครั้งใหม่นี้นั้นใครจะเป็นผู้กุมชัยชนะไปได้ระหว่าง Microsoft กับ Sony เพราะแน่นอนว่าผู้พัฒนาเกมนั้นส่วนใหญ่แล้วก็จะพัฒนาเกมลงในหลายๆ แพลตฟอร์มพร้อมๆ กันอยู่แล้ว ดังนั้นการที่จะจูงใจนักเล่นเกมได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทไหนจะมีเกมพิเศษสำหรับเครื่องตัวเองที่สามารถครองใจนักเล่นเกมได้มากกว่ากัน ที่สำคัญที่สุดที่เราจะลืมไปไม่ได้เลยก็คือในสงครามครั้งนี้นั้นยังมีปู่นินหรือ Nintendo ที่คอยดูดจำนวนผู้เล่นเกมจาก Microsoft และ Sony ไปทีละนิดๆ เพราะคงต้องยอมรับว่าการที่ปู่นินเลือกที่จะให้เครื่องเกมของตัวเองเป็นเครื่องแบบ 2-in-1 นั้นก็สามารถที่จะรองรับความต้องการของทั้งนักเล่นเกมที่อยากเล่นเกมบนหน้าจอใหญ่ๆ กับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมแบบพกพาสะดวกไปในเวลาเดียวกัน แถมตามข่าวลือนั้นทางปู่นินเองก็เตรียมที่จะปล่อยไม้เด็ดออกมาสู่ตลาดอีกทีในช่วงปี 2021 ที่จะถึงนี้
ที่มา : notebookcheck, theverge