ล่าสุดทาง MSI ประเทศไทยได้เปิดรายละเอียดบางส่วนของ Notebook รุ่นใหม่ๆ แล้ว สำหรับ MSI GE66, MSI GS66 ที่เป็น Gaming Notebook ตัวท็อปสเปกจัดเต็มด้วย Intel Core i Gen 10 + NVIDIA GeForce และสายสร้างสรรค์งานอย่าง MSI Creator 17 จอเทพ Mini LED ทั้งหมดนี้ขนมาจากงาน CES 2020 ที่แอดมินโป้งได้ไปมากับ MSI รวมไปถึงยังมีรุ่นใหม่ไม่เคยเห็นอย่าง MSI Bravo 17 ที่เป็นรุ่นพี่ MSI Bravo 15 ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด
สำหรับชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 Series รหัส H เน้นประสิทธิภาพจากทาง AMD ที่แรงขึ้นเป็นเท่าตัวพร้อมประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิม จากเทคโนโลยีการผลิตชิป CPU ที่ 7 นาโนเมตร จับคู่มากับการ์ดจอ AMD Radeon RX5500M ซึ่งได้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตรรุ่นแรกของโลก แน่นอนว่าสเปกนี้ทำให้เราเล่นเกมได้แรงลื่น โดยรุ่นที่เราได้จับตัวจริงยังได้ส่วนของแรมเป็นขนาด 16GB และที่เก็บข้อมูลเป็นแบบ SSD M.2 NVMe พร้อมรองรับการใส่ HDD 2.5″ SATA 3 อีกหนึ่งตัวด้วยกัน สนนราคาคาดว่าอยู่ที่ 2x,xxx บาท ตามแต่สเปกขายจริงอีกที
MSI Bravo Sereis ถือว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นถัดมาจาก MSI Alpha Series ที่เป็น AMD Notebook ที่ใช้ทั้งชิปประมวลผล Ryzen 7 3750H และการ์ดจอเป็น AMD Radeon RX5500M โดยในความพรีเมียม แตกต่างจาก MSI Bravo 15 จะให้ความคุ้มค่าที่มากกว่า เพราะถูกจัดว่าให้เป็นรุ่นที่รองกว่า MSI Alpha Series นั่นเอง (แต่ได้สเปกใหม่กว่า จากการที่ MSI Alpha 15 เป็น Notebook ปี 2019) โดย MSI Bravo 17 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 17.3″ Full HD พาเนล IPS มี Refesh Rate ที่ 144Hz แน่นอนว่ารองรับ FreeSync ให้ภาพไม่ฉีกขาด โดดเด่นด้วยน้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัม ขอบจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด
รายละเอียดของชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H เป็น CPU ที่ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธรด มีความเร็วอยู่ที่ 2.9 – 4.2GHz โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร เช่นเดียวกับการ์ดจอ Radeon RX5500M ส่งผลให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่ง พร้อมด้วยความร้อนที่น้อยลงไปอีก และประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิมด้วย เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับการมาของ AMD Ryzen รุ่นใหม่ตระกูล 4000 H Series ซึ่งได้เห็นตัวจริงๆ ครั้งแรกบน MSI Bravo 15 ที่งาน CES 2020 นั่นเอง แต่ในส่วนของ MSI Bravo 17 เห็นครั้งแรกที่ประเทศไทยเลย
มีที่เก็บข้อมูลเป็นมาตรฐาน SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB – 1TB ที่ทั้งแรงและลื่นไหล ในส่วนของแรมมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB (ใส่ Ram ได้ 2 แถว) นับได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง สวยงาม ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมก็สามารถใช้ได้ดีชัดเจน ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง 1 x HDMI, 3 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 3.1 Type C, Kensington lock slot, Lan RJ-45 , รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX + Bluetooth 5.0 พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ ซึ่งดูจากราคาที่คาดการณ์ที่ไม่เกิน 30,000 บาทแล้วถือว่าคุ้มค่าทีเดียว ส่วนการรับประกันก็น่าจะเป็นแบบ 1 ปี เหมือน MSI Alpha 15 รุ่นก่อนหน้านั่นเอง
หน้าตาการออกแบบเอง MSI Bravo 17 ต้องบอกว่ามีลักษณะรูปทรงใกล้เคียงกับ MSI GF65 ทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้แตกต่างชัดเจนคือส่วนของโลโก้ฝาหลังด้วยนกธันเดอร์เบิร์ดสยายปีกสีเงินมันวาว สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน โดย MSI Bravo 15 ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงเช่นเดิม ซึ่งต้องยอมรับว่าโดยรวมนั้นดีอยู่แล้ว มีน้ำหนักที่คาว่าใกล้เคียงกับ MSI GF75 ด้วยน้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัม (เบากว่ารุ่นหน้าจอ 15.6″ เสียอีก) มีความบางที่ 22~23.1 มิลลิเมตร ทำให้พกพาได้สะดวกกว่า Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ ทั่วไป
แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 17.3″ แต่มีมิติตัวเครื่องเทียบเท่าพวกหน้าจอ 15.6″ ซึ่งขอบจอบางใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อน พร้อม Ergonomics View Design ที่ช่วยยกตัวให้สูงขึ้นจากพื้น ส่งผลให้พัดลมสามารถดูดลมเย็นเข้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการเอียงของตัวเครื่องเล็กน้อยนั้น ก็ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานมี Numpad ไว้ใชงานแป้นตัวเลขตามปกติ วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง เงาบรัชเป็นเส้นๆ แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่าย ในส่วนของช่องระบายความร้อน มีด้วยกัน 4 ช่องคือด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง โดยใช้พัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 6 – 7 เส้น ตามมาตรฐานของ Cooler Boots
ในเรื่องของการดีไซน์ MSI Bravo 17 เน้นการพกพากว่า Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ ในตลาดช่วงราคาเดียวกัน โดยยังคงรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลัง ด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ วัสดุอลูมิเนียมขัดเงาบรัชเป็นเส้นๆ แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่าย พร้อม ด้วยโลโก้นกธันเดอร์เบิร์ดสยายปีกสีเงินมันวาวมินิมอลสุดๆ ในส่วนของขอบด้านหน้าเป็นพลาสติกมีการเว้นพื้นที่เว้าเอาไว้ให้เปิดฝาหน้าจอได้ง่าย
คีย์บอร์ดของ MSI Bravo 17 ตัวเดโมนี้เป็น Gaming Notebook โดดเด่นมากๆ จากการที่ใช้ Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมบน Gaming Notebook จาก MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน ที่สำคัญได้ไฟ LED ที่เป็น Per Key RGB พร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง Silver Lining Print ขอบโปร่งแสงสวยงาม ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าเครื่องขายจริงอาจจะเป็นแบบสีแดง Single Red ก็ได้
ส่วนของทัชแพดก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ขนาดเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน ผิวสัมผัสไม่ลื่นจนเกินไป ตัวปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ทั้งการคลิกซ้ายคลิกขวาไม่มีอาการยวบยาบให้เห็น ปุ่มเปิดปิดของตัวเครื่องได้ติดตั้งอยู่มุมซ้ายของคีย์บอร์ดดีไซน์ได้เรียบเนียนไปกับตัวเครื่องเป็นอย่างดี
แม้ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่าตลาดของ Gaming Notebook นั้นเต็มไปด้วยการ์ดจอจากทาง NVIDIA จากการที่ได้ทั้งความแรงประสิทธิภาพ แต่ที่สำคัญที่สุดคือทาง AMD ไม่มีการ์ดจอ Gaming Notebook รุ่นใหม่ออกมาสู่ตลาดเลย ส่งผลให้ผู้ผลิต Gaming Notebook จำเป็นต้องใช้ของ NVIDIA เพียงอย่างเดียว โดยจับคู่มากับชิปประมวลผลทั้ง Intel Core i และ AMD Ryzen ตระกูล H ที่เน้นความแรงเป็นหลัก ตามแต่ช่วงราคาที่มีให้เราเลือกหลากหลาย
ก่อนหน้านี้ในปี 2019 ตลาด Gaming Notebookก็สนุกสนานไปอีกขั้นแล้ว จากการมาของ MSI Alpha 15 ก่อนหน้านี้ ที่ได้การ์ดจอเป็น AMD Radeon RX 5500M รุ่นแรกของโลก ที่มีความแรงท้าชนการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1660 Ti เลยล่ะ ซึ่งจุดเด่นของ AMD นอกจากความแรงและความร้อนที่น้อยกว่าเพราะใช้สถาปัตยกรรม RDNA ที่ 7 nm แล้วก็คือ ราคา Gaming Notebook ที่ออกมานั้นถูกกว่าแต่ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน ซึ่ง MSI Bravo 15 / MSI Bravo 17 ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า เพราะได้ชิปประมวลผลใหม่เป็น 7 nm แล้วเช่นกัน ในราคาที่คาดว่าถูกกว่าด้วย
ไว้รอติดตามรีวิวตัวเต็มของ MSI Bravo 15 / MSI Bravo 17 ทั้งสเปกและราคาขายจริง รวมไปถึงประสิทธิภาพการใช้งานจริงและการเล่นเกม คาดคงได้เห็นตัวจริงในอีกไม่กี่วันนี้แน่นอน แฟนๆ ของ MSI และ AMD รอติดตามชมไว้กันได้เลย บอกเลยว่าทาง MSI เตรียมมาอย่างดี พร้อมขายเร็วๆ นี้แน่นอน ไม่หวั่นไวรัส COVID-19 เพราะจะมีของพร้อมขายแน่นอนเหมือนมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ