MSI Gaming Notebook มีให้เลือกหลากหลายรุ่นมากมาย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 2x,xxx บาท จนไปถึงหลายหมื่นบาท ซึ่งแบ่งออกเป็นซีรีส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น GT / GE / GS / GP / GL / GF ที่ไล่จากรุ่นที่เป็นระดับบนสุด จัดเต็มเรื่องของสเปกแบบสุดทาง ตอบสนองประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนฟีเจอร์และดีไซน์ก็ล้ำหน้าไม่แพ้กัน รวมไปถึงมีลูกเล่นที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่งเสริมให้เรามีประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมสมกับเป็น Notebook เพื่อการเล่นเกม สมกับที่เป็น MSI ที่ตั้งใจนำเสนอ Gaming Notebook แบบเต็มรูปแบบ
สำหรับบทความนี้เราจะมาจัดอันดับ MSI Gaming Notebook ที่มีความน่าสนใจโดยได้มีการจำหน่ายกันไปตั้งแต่ปี 2019 แล้ว ซึ่งราคาก็ได้มีการปรับลดกันพอสมควรเลย ซึ่งมีส่วนลดสูงสุดถึง 20,000 บาททีเดียว ได้สเปกเป็น AMD Ryzen 7 3750H + Radeon RX5500M และ Intel Core i5-9300H / i7-9750H + GeForce GTX 1650 / 1660 Ti / RTX 2070 / RTX 2070 ในส่วนของแรมและ SSD ก็ใส่เต็มพร้อมใช้งานทันที (แต่บางรุ่นใส่มา 8GB แนะนำให้อัปเกรดเป็น 16GB) ในราคาที่ถูกสุดแค่ 25,900 บาทเท่านั้น !!! เชื่อว่าต้องถูกใจกันซักรุ่นอย่างแน่นอน มีอะไรบ้างไปชมกันต่อเลย
MSI Alpha 15 A3DD-014TH ราคา 25,900 บาท แถมแรมอีก 8GB
MSI Alpha 15 A3DD-014TH เป็น Gaming Notebook ตระกูลใหม่จากทาง MSI โดยเป็นการแยกตัวมาจาก G Series แบบเดิมๆ จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นแรกของโลก ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H ตัวแรง จับคู่มากับการ์ดจอ AMD Radeon RX 5500M (4GB GDDR6) สถาปัตยกรรม RDNA เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ที่ให้ประสิทธิภาพความแรงใกล้เคียงกับ NVIDIA GeForceGTX 1660 Ti แน่นอนว่าทางฝั่งของ AMD ต้องมาพร้อมกับราคาที่คุ้มค่ากว่า ด้วยราคาล่าสุดเพียง 25,900 บาท (27,900 บาท) โดยแถมแรมขนาด 8GB เพิ่มด้วย จัดว่าคุ้มค่าสุดๆ ในช่วงราคานี้
วัสดุบอดี้ตัวเครื่องฝาหลังจะเป็นอลูมิเนียมสีดำด้าน สัมผัสผิวเรียบหรูสวยงาม ผสานกับโลโก้นกธันเดอร์เบิร์ดสยายปีกสีเขียว โดยสื่อถึงความหมายในด้านความแข็งแกร่งในเชิงของนวัตกรรมและความทะเยอทะยานในการค้นหาสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ภายใต้ชื่อ “Alpha” นั่นเอง ดูโดยรวมแล้วเรียบง่ายในดุดันสไตล์ Gaming Notebook พรีเมียมจากทาง MSI มีความบางของตัวเครื่องเพียง 27.5 มิลลิเมตร ทำให้พกพาได้สะดวกอยู่ รอบๆ ตัวเครื่องยังถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานต่าง ๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ดีไซน์โดยรวมยังคงกลิ่นอายของ MSI G Series ซึ่งมีความใกล้เคียงกับ GL65 มาพร้อมโลโก้ใหม่เป็นรูปนก Phoenix สีเขียว ที่เดิมๆ เป็นมังกร ย้ำให้เห็นถึงความแตกต่างตามสไตล์เอเชีย จากการใช้สเปกเป็น AMD แท้ๆ ทั้งชิปประมวลผลและการ์ดจอที่เชื่อได้ว่าสเปกอื่นๆ ก็คงจัดเต็มไม่แพ้กันอย่างแรมขนาด 8GB จำนวน 1 แถว และ SSD M.2 NVMe ที่ความจุ 512GB ในส่วนของหน้าจอจะเป็นขนาด 15.6″ แบบขอบจอบาง ความละเอียดที่ Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz พร้อมใช้สนับสนุน AMD FreeSync ทำให้ภาพลื่นไหลภาพไม่ฉีกขาด
ตัวเครื่องยังมีลำโพง 2 ชาแนลแบบ Giant Speaker บนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, USB 3.2 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, SD(XC/HC) card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 แบบ Killer Gaming LAN การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 5 AC น้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม ได้ประกันระยะเวลา 1 ปี (รุ่นอื่นๆ ของ MSI เป็น 2 ปี) มี Windows 10 แท้
MSI GF65 Thin 9SD-071TH ราคา 27,490 บาท
สำหรับ Gaming Notebook อย่าง MSI GF65 Thin 9SD-071TH เป็น Gaming Notebook รุ่นพี่ GF63 โดยมาพร้อมประสิทธิภาพสูง คุณภาพเยี่ยม โดดเด่นความความบางของตัวเครื่อง และมีน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น เน้นพกพาสะดวก แต่ยังได้สเปก Gaming เล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่แพ้โน๊ตบุ๊คตัวหนักๆ หนาๆ เลย ซึ่งด้วยหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แต่ตัวเครื่องเทียบเท่ากับ 14 นิ้ว จากการที่ขอบจอบางมากเพียง 4.9 มม เท่านั้นใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อน ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานคือไม่มี Numpad แต่ปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือขึ้น สนนราคาล่าสุดที่ 27,490 บาท (ปกติ 29,990 บาท)
สเปกแรงลื่นด้วยชิปประมวลผล Intel Core i5-9300H ตัวแรงลื่น ส่วนการ์ดจอก็เป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) จัดเต็มด้วยแรมขนาด 8GB และ SSD ที่ 512GB ในทุกๆ รุ่น ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว ออกแบบโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ให้มีความสวย ทันสมัยให้ความแข็งแรง ทนทาน เพิ่มความโดดเด่น ใช้งานง่ายและสะดวก ทำให้ MSI GF65 Thin เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมน่าซื้อที่สุดรุ่นนึงทีเดียว
MSI GF65 Thin มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง สวยงาม ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมก็สามารถใช้ได้ดีชัดเจน ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 3 x USB 3.1, USB 3.1 Type C, Kensington lock slot, 2-in-1 SD, Lan RJ-45 , รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth v5 น้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม พร้อม Windows 10 แท้ ซึ่งดูจากราคาที่จำหน่ายแล้วถือว่าคุ้มค่าทีเดียว
ในส่วนของช่องระบายความร้อนของ MSI GF65 Thin มีด้วยกัน 2 ช่องคือด้านหลังฝั่งซ้ายมือตัวเครื่อง และด้านข้างซ้าย โดยใช้พัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 6 เส้น เพียงพอต่อการใช้งาน วัสดุบอดี้ตรงคีย์บอร์ดจะเป็นอะลูมิเนียมสีดำทำการบรัชลายเส้นเหมือนฝาหลัง สวยงาม แข็งแรง ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านมุมบนขวามือแยกจากคีย์บอร์ด นอกจากนี้คีย์บอร์ดยังมีไฟสีแดง สามารถเปิดปิดได้ 3 ระดับ เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแรงลื่นแบบนี้แน่นอน
MSI GF75 Thin 9SC-076TH ราคา 32,900 บาท
Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ อย่าง MSI GF75 Thin 9SC เป็นรุ่นที่น่าสนใจมากๆ เพราะด้วยตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น โดยเป็นรุ่นหน้าจอ 17.3″ ก็จริง แต่น้ำหนักเบาเท่ากับรุ่นหน้าจอ 15.6″ แบบก่อนๆ เลย โดดเด่นด้วยสเปคสุดแรง Intel Core i7-9750H และ NVIDIA GeForce GTX 1650 พร้อมแรมขนาด 8GB DDR4 และ SSD 512GB บอกเลยให้ประสิทธิภาพการทำงานที่เยี่ยมยอด ได้ทั้งความบางเบา ประสิทธิภาพ และความสวยงามในเครื่องเดียว ในราคาล่าสุดที่ 32,900 บาทเท่านั้น (ราคาปกติ 42,900 บาท)
โดยมีความบางที่ 22~23.1 มิลลิเมตร ยังคงรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลัง ด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ วัสดุอลูมิเนียมขัดเงาบรัชเป็นล่นเส้นๆ แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่าย พร้อม ด้วยโลโก้มังกรแดง Dragon Army มินิมอลสุดๆ ในส่วนของขอบด้านหน้าเป็นพลาสติกมีการเว้นพื้นที่เว้าเอาไว้ให้เปิดฝาหน้าจอได้ง่าย
MSI GF75 Thin 9SC มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มีการ์ดจอออนบอร์ดเป็น Intel UHD Graphics 630 มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอรุ่นใหม่ตระกูล GTX 16 Series อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ซึ่งถ้าใครอยากเพิ่มความจุของที่เก็บข้อมูลก็สามารถอัพเกรดใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5″ ได้อีกตัวด้วย
MSI GL65 9SEK-071TH ราคา 46,900 บาท
MSI GL65 9SEK-071TH ใหม่ล่าสุดด้วยสเปกเป็นชิปประมวลผลตัวแรงตระกูล H ของทาง Intel อย่าง Core i7-9750H (2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 4.50 GHz) ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงและยอดนิยมที่สุดใน Gaming Notebook ทุกๆ รุ่น ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด รองรับหลากหลายการใช้งานแบบเหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) เรียกได้ว่าตอบสนองการเล่นเกมได้เต็มที่เต็มอารมณ์กว่าสเปกเดิมๆ ที่เป็น Core i Gen 8 และ GTX 10 Series รุ่นก่อนๆ แน่นอน
หน้าจอขนาด 15.6″ แบบด้าน ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz ได้หน่วยความจำแรมมาขนาด 8GB DDR4 Bus 2666 MHz ที่เพียงพอในการใช้งาน ซึ่งสามารถอัปเกรดเพิ่มได้อีก 1 แถวทันที โดยรองรับสูงสุดที่ 64GB และในส่วนของที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ที่เร็วแรงลื่นความจุ 512GB และรองรับการอัปเกรดเพิ่ม HDD 2.5″ SATA 3 อีก 1 ตัวได้เลย
ตัวเครื่องยังมีลำโพง 2 ชาแนลแบบ Giant Speaker บนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, USB 3.2 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, SD(XC/HC) card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 5 AC ได้ประกัน 2 ปี มี Windows 10 แท้ โดยสนนราคาล่าสุดอยู่ที่ 40,900 บาท (จากปกติ 46,900 บาท) ถือว่าเป็น Gaming Notebook ในช่วงราคานี้ที่น่าสนใจมากๆ เพราะได้ทั้งสเปกและฟีเจอร์ที่จัดเต็มเหมือนตระกูล GE ในราคาถูกลงกว่าเดิมเยอะ
นอกจากนี้ MSI GL65 9SEK ยังมีฟีเจอร์มากมาย อาทิ ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ Per-key RGB แบบปรับแต่งแยกได้รายปุ่ม พอร์ตการเชื่อมต่อเป็น USB-C 3.2 Gen 2 โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น ประกอบกับการใช้หน้าจอที่ขอบบาง ทำให้ตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด สะดวกต่อการพกพามากยิ่งขึ้น พกไปเล่นเกมนอกสถานที่ได้สบายๆ
MSI GE75 Raider 9SF -1047TH ราคา 54,900 บาท
MSI GE75 Raider 9SF -1047TH ถือว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นพี่ใหญ่ประจำแบรนด์ MSI ซึ่งรูปโฉมการออกแบบดีไซน์จะดูโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ มาพร้อมกับการดีไซน์ที่เน้นเรื่องจอใหญ่บางเบาพร้อมกับพกพาได้สะดวกได้ง่ายกว่ารุ่นหน้าจอ 17.3″ เดิมๆ สีสันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สีโทนดำแดงเริ่มจากวัสดุบอดี้ตัวเครื่องฝาหลังจะเป็นอลูมิเนียมสีดำ ผิวเรียบหรูสวยงาม พร้อมขีดเส้นซ้ายขวาสีแดงสะท้อนแสง ผสานกับโลโก้มังกร MSI สีแดงมีไฟสว่างเมื่อเปิดเครื่อง ดูโดยรวมแล้วเรียบง่ายกว่ดุดันสไตล์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Hi-End
ทางด้านช่องระบายความร้อนของ MSI GE75 Raider 9SF -1047TH จะมีมาให้ด้วยกันถึง 4 ช่อง ด้านหลังสอง และด้านข้างซ้ายอย่างละหนึ่ง โดยใช้พัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 7 เส้นดีกว่าเดิมแบบ Cooler Boost 5 ดีไซน์ด้านในตัวเครื่องบอดี้เป็นอลูมิเนียมสีดำบลัชลายปัดเสี้ยน พร้อมคีย์บอร์ด SteelSeries Full Size ไฟ RGB Pre-Key หน้าจอเลือกใช้ขนาด 17.3 นิ้วขอบบางเพียง 5.7 มม. เท่านั้น ทำใหดีไซน์บอดี้โดยรวมเท่ากับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วธรรมดา ระบบเน็ตเวิร์ค Killer ลื่นๆ เวลาเล่นเกมออนไลน์
MSI GE75 Raider 8SF ใช้ชิปประมวลผลเป็น Core i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพพร้อมการ์ดจอตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 (8GB GDDR6) มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD m.2 PCIe 512 GB หนึ่งแถว (ใส่ SSD m.2 ได้ 2 แถว)ในส่วนของแรมมีมาให้ 16 GB แบบ DDR4 Bus 2666 (ใส่มา 8 GB Dual Channel) อัปเกรดได้สูงสุด 64GB (ใส่ Ram ได้ 2 แถว)
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 17.3 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง สวยงาม ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมก็สามารถใช้ได้ดีชัดเจน รองรับการแสดงผล Refresh Rate ที่ 144 Hz ลำโพงก็เลือกใช้ซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียง ลำโพง Giant Speaker 4 ตัว ใหญ่กว่ารุ่นเดิม 5 เท่า (2 Speakers + 2 Woofers) ทำให้ขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคมความละเอียด HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, mini Display Port, 1x USB3.1 Gen2 Type-C , 2x USB 3.1 Gen1 Type-A , 1x USB 3.1 Gen2 Type-A , Kensington lock slot, 2-in-1 SD, Lan RJ-45, รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 5 AC Killer + Bluetooth v5 ตัวเครื่องน้ำหนัก 2.66 กิโลกรัม พร้อม Windows 10 แท้ สนนราคาล่าสุดอยู่ที่ 54,900 บาท (ปกติ 74,900 บาท) ประกัน 2 ปีเต็มตามมาตรฐานของ MSI