บทความนี้จะเป็นการจัดอันดับ Notebook สเปกแรงแบบเน้นๆ การประมวลผล (CPU) สเปกเป็น Intel Core i7-9750H ซึ่งเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูง โดยมีราคาเริ่มต้นที่ไม่แพง เพียง 25,990 บาทจนไม่ถึงไม่เกิน 50,000 บาท ได้ขนาดหน้าจอ 15.6″ เพราะขนาดและน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่พกพาได้ง่าย ได้ความละเอียด Full HD พาเนลเป็น IPS โดยมี Refresh Rate ตั้งแต่ 60 – 144 Hz ส่วนสเปกอื่นๆ ก็จะได้แรมขนาด 8 – 16GB พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB และสำหรับการ์ดจอก็มีให้เลือกตั้งแต่ NVIDIA GeForce GTX 1050 / GTX 1650 / GTX 1660 Ti / RTX 2060 กันเลย
ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 รหัส H อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงปี 2019 – 2020 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสงาน 3 มิติ เรนเดอร์งาน 3D ตัดต่อวีดีโอความละเอียดสูง หรือเล่นเกมที่ใช้ทรัพยากรเครื่องสูง มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz โดยสามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads ทำให้รองรับการทำงานที่หลากหลายโปรแกรมได้พร้อมๆ กันในเวลาเดียว ได้การ์ดจอออนชิปเป็น Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับหนึ่ง
ในการจัดอันดับ Notebook สเปกแรงลื่น ใช้ Intel Core i7-9750H สถาปัตยกรรม Coffee Lake Refresh H เน้นงานตัดต่อวีดีโอ หรือทำงานหนักๆ หลากหลายได้ดี เล่นเกมได้ลื่น ประกอบด้วยกัน 5 รุ่น สเปกชิปประมวลผล (CPU) เป็น Intel Core i7-9750H ส่วนการ์ดจอ GPU เป็น GTX 1050 ขึ้นไป ในราคาที่ถูกสุดแค่ 25,990 บาทเท่านั้น !!! เชื่อว่าต้องถูกใจกันซักรุ่นอย่างแน่นอน มีอะไรบ้างไปชมกันต่อเลย
Lenovo IdeaPad L340 Gaming-81LK0105TA ราคา 25,990 บาท
Lenovo IdeaPad L340 Gaming เป็น Gaming Notebook เน้นความคุ้มค่า เป็นโน๊ตบุ๊คสเปกแรงราคาคุ้มค่าที่สามารถเอาไปเล่นเกมได้สบายๆ โดดเด่นด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรงสุดยอดนิยมสุด พร้อมด้วยการ์ดจอระดับ Gaming อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (3GB DDR5) รุ่นใหม่ อีกทั้งได้ดีไซน์ขอบจอที่บางและน้ำหนักเครื่องที่ไม่หนักจนเกินไป รวมๆ มีความเรียบง่าย โดยมาพร้อมกับโทนสีฟ้าที่ดูแล้วสวยงามและแตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน วางตำแหน่งเป็นซีรีส์เริ่มต้นของทาง Lenovo เน้นความคุ้มค่าราคาไม่แพงที่ 25,990 บาท ที่สำคัญได้การรับประกัน On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน 3 ปีด้วย
สำหรับ Lenovo IdeaPad L340 Gaming นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่องเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมหรือทำงานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอ ขนาดหน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS ที่ครบครัน ด้วยแรมขนาด 8GB (แนะนำให้อัพเกรดเป็น 16GB ไปเลย) และได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB (ใส่ HDD 2.5″ เพิ่มได้) มี Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที สร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมหรือทำงานกับผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, HDMI, 3 x USB 3.1 Type-A, Kensington lock slot, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi 5 AC
Lenovo IdeaPad L340 Gaming เน้นราคาคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ ซึ่งได้สเปกภายในระดับ Gaming Notebook ราคาสูงๆ เหมาะกับนักเรียนนักศึกษารวมไปถึงวัยทำงาน ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสักเครื่องที่ดูล้ำสมัยที่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย เนื้องานและงานประกอบพูดได้เลยว่าแตกต่างจากกลุ่มโน๊ตบุ๊คที่ราคาใกล้เคียงกันอย่างเห็นได้ชัด ดูสมบูรณ์แบบลงดูลงตัวสุดๆ
ฝาหลังตัวเครื่องก็เป็นเทาเข้มเช่นเดียวกับภายใน พื้นผิวไม่เป็นรอยนิ้่วมือง่ายๆ มีโลโก้ Lenovo สีฟ้าอยู่ที่มุมบนซ้ายสวยงามโดดเด่น แกนบานพับจอเป็นแบบแกนยาวตรงกลางขนาดใหญ่ ดูมั่นคงแข็งแรงดี ซึ่งตัวเครื่องเองก็สามารถกางจอได้เกือบๆ 180 องศาได้อย่างไร้อาการโคลงเคลง ง่อนแง่น ไม่มีปัญหา เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ซีรีย์ Lenovo IdeaPad L340 Gaming รุ่นนี้เลยก็ว่าได้
แม้จะมีขนาดหน้าจอใหญ่ที่ 15.6″ แต่ก็มีน้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้พกพาไปไหนมาไหนสะดวกสบายมาก โดยรวมแล้วการดีไซน์ของ Lenovo IdeaPad L340 Gaming รุ่นใหม่นี้ถือทำได้ดีมาก ใครจะเอาไปทำงานก็ดูเรียบๆ หรือใครจะเอาไปเล่นเกมก็ตอบสนองได้ดีเป็นรองตระกูล Legion เลย เชื่อได้เลยว่าจะเป็น Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นที่ทำให้ตลาดคึกคักทีเดียว
ASUS ROG Strix G G531GT-AL003T ราคา 32,900 บาท
ASUS ROG Strix G531 ได้ชิปประมวลผลตัวแรงเป็น Intel Core i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) พร้อมฮาร์ดดิสก์แบบ SSD แบบ NVMe ความจุ 512GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 หนึ่งแถว (อัพได้สูงสุด 32GB) ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก
ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ROG Strix G531 เป็น Gaming Notebook ขอบจอบางตัวเครื่องมิติเล็กกระชับทั้ง 3 ด้าน คือ บน ซ้ายและขวา พร้อมตัดกล้องเว็บแคมออกไป มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.4 กิโลกรัม โดยได้ทาง BMW Designworks Group มาร่วมออกแบบด้วย เห็นได้ชัดจากชุดระบายความร้อนด้านหลังที่เป็นครีบคล้ายกับเสื้อสูมมอเตอร์ไซต์จาก BMW เรียกได้ว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้น ส่งผลให้มีความพิเศษที่ 3D Thermal Design ได้เรื่องความล้ำสมัยและคำนึงถึงอรรถประโยชน์ในการใช้งานเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดีไซน์ช่องระบายความร้อนแบบ 3D Flow Zone เพิ่มการไหลเวียนของอากาศ นำความร้อนออกจากภายในตัวเครื่องได้รวดเร็วที่สุด
ที่สำคัญจากรุ่นก่อนที่มี Light Bar ด้านหน้า รุ่นนี้จะได้ไฟ RGB ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่องเข้ามา อย่าง Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่องพร้อมเกมมิ่งคีย์บอร์ดแบบ RGB ให้สามารถปรับแต่งแสงไฟได้ตามสไตล์ของผู้ใช้อย่างอิสระมากถึง 16.7 ล้านสี ผ่านฟีเจอร์ Aura Sync รวมไปถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่รองรับ ที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือได้ NumberPad เข้ามาด้วย โดยทัชแพดเองสามารถเปลี่ยนเป็นแป้นตัวเลขได้ จากการที่ตัด Numpad ด้านขวาออกไป พร้อมขยายปุ่มคีย์บอร์ดให้มีความกว้างขึ้น
หน้าจอขนาด 15.6″ กับความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz แบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจทั้งเล่นเกมหรือทำงาน ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, mini DisplayPort, HDMI, 3 x USB 3.0, Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45 , Headset อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตเล็กน้อย ที่ขอบหน้าจอบางเลยตัดกล้องเว็บแคมออกไป
พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 5 AC พร้อมเทคโนโลยี RangeBoost ที่ใช้ตัวรับสัญญาน Wifi แบบ Multi-antenna บนมาตรฐาน Wave 2 (2×2 + 2×2) ให้ระยะการรับสัญญานที่ไกลขึ้นถึง 30% พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น สนนราคา ASUS ROG Strix G531 อยู่ที่ 32,900 บาท ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น เวลา 2 ปี พร้อมประกันอุบัติเหตุอีก 1 ปี จากทาง ASUS Thailand ที่เราสามารถส่งได้ตามศูนย์บริการ หรือใครจะสะดวกฝากส่งเคลมตามร้าน 7-11 ทั่วประเทศ
MSI GL65 9SDK-072TH ราคา 36,900 บาท
MSI GL65 เป็น Gaming Notebook ระดับกลางที่จัดเต็มไม่แพ้รุ่นท็อปที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) ได้แรมมาขนาด 8GB DDR4 หนึ่งแถว (อัปเกรดได้อีก 1 แถว) โดยได้แหล่งเก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB (อัปเกรด HDD 2.5″ ได้อีก) หน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS พร้อมรีเฟรชเรตสูงถึง 120Hz มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 และซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
นอกจากนี้ MSI GL65 ยังมีฟีเจอร์มากมาย อาทิ ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ Per-key RGB แบบปรับแต่งแยกได้รายปุ่ม พอร์ตการเชื่อมต่อเป็น USB-C 3.2 Gen 2 โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น ประกอบกับการใช้หน้าจอที่ขอบบาง ทำให้ตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด สะดวกต่อการพกพามากยิ่งขึ้น พกไปเล่นเกมนอกสถานที่ได้สบาย สนนราคาที่ 36,900 บาท ได้ประกัน 2 ปีตามมาตรฐาน MSI
ตัวเครื่องยังมีลำโพง 2 ชาแนลแบบ Giant Speaker บนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, USB 3.2 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, SD(XC/HC) card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 5 AC
MSI GL65 เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ จัดว่าเป็นซีรีส์รองมาจากตระกูล GE / GT โดยรุ่นล่าสุดนี้เน้นความคุ้มค่า โดยมาพร้อมกับการดีไซน์ที่เน้นเรื่องจอใหญ่บางเบาพร้อมกับพกพาได้สะดวกเป็นหลัก สีสันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สีโทนดำแดงเริ่มจากวัสดุบอดี้ตัวเครื่องฝาหลังจะเป็นอลูมิเนียมสีดำด้าน สัมผัสผิวเรียบหรูสวยงาม ผสานกับโลโก้มังกร MSI มีไฟสว่างสีขาวเมื่อเปิดเครื่อง ดูโดยรวมแล้วเรียบง่ายกว่าดุดันสไตล์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Hi-End
Acer Predator Helios 300-PH315-52-71F1 ราคา 38,390 บาท
Acer Predator Helios 300 นี้เป็นการต่อยอดมาจาก Gaming Notebook เน้นความพรีเมียมและประสบการณ์ใช้งานกว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมแนวทางการออกแบบคล้ายรุ่นพี่อย่าง Predator Helios 500 / Predator Triton 500 เสริมด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง GeForce GTX 1660 Ti ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพสูงกว่าที่เคยมีมา เพราะสามารถ Overclock เพิ่มได้ นับว่ามีความแรงเล่นเกมได้ลื่นไหลแน่นอน ที่สำคัญได้ระบบระบายความร้อนใหม่เอกสิทธิ์จากทาง Acer อย่าง AeroBlade 3D Gen 4 ส่งผลให้แม้สเปกจะแรงแค่ไหน แต่ก็จัดการความร้อนได้เยี่ยมไรักังวล
โดยทำงานประสานกับชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่แรงเข้ากันลงตัว ทำให้สิทธิภาพตัวเครื่องเทียบกับ Deskto PC สบายๆ มาพร้อมขนาดหน้าจอทั้ง 15.6″ที่ 144Hz ความละเอียด Full HD พาเนล IPS เกรดสูง โดยเน้นประสบการณ์ในการเล่นเกมเป็นหลัก การ์ดจอเริ่มต้นเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660Ti (6GB GDDR6) พร้อมแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 2666 MHz (8GB x 2) ที่เก็บข้อมูลเป็นแบบ SSD M.2NVMe ที่ความจุ 512GB รวมถึงยังใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ได้ภายหลัง จัดว่าให้สเปกมาเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไปมากๆ แต่เหมาะสำหรับการเล่นเกมแบบสุดๆ
แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนล บนซอฟแวร์เสียง Waves Maxx Audio ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-C จำนวน 1 ช่อง, USB 3.1 Type-A จำนวน 3 ช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, ช่องเสียบหูฟังไมค์ขนาด 3.5 มิลลิเมตร พร้อมด้วยช่องสาย Lan RJ45 พร้อม E2500 Ethernet Controller
และการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบ Wireless-AC 1550 และ Killer Control Center 2.0 ของ Killer ที่ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ให้มีเสถียรภาพและสมูทขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 เป็นมาตรฐาน แน่นอนว่า Acer Predator Helios 300 (2019) รุ่นที่ขายในไทยต้องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานทันที มีประกัน 3 ปี On-site Service หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมง ตามมาตรฐานของ Acer Predator ที่เป็น Gaming Notebook ระดับกลางค่อนสูง
ดีไซน์การของ Acer Predator Helios 300 เน้นความพรีเมียม พร้อมแนวทางการออกแบบ มาพร้อมความสดใหม่ ตัวเครื่องนั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว มาพร้อมกับวัสดุผสมระหว่างอลูมิเนียมและแมกนีเซียม มาในโทนสีดำอย่าง Obsidian black สลับกับสีฟ้าบางส่วนอย่างโลโก้และฟินระบายความร้อน พร้อมกันนั้นพื้นผิวเรียบเนียน ซึ่งจะทำได้ละเอียดกว่าการขัดปกติ และช่วยให้สีติดที่เนื้อวัสดุได้อย่างดีที่สุด แถมยังมีความทนทานด้วย โดยการใช้งานจริงนับว่าให้สัมผัสที่เยี่ยมยอด แตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปแบบรู้สึกได้
Lenovo Legion Y545-81Q6001ATA ราคา 43,900 บาท
Lenovo Legion Y545 จัดว่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด Legion Y Series ซึ่งเป็น Gaming Notebook จากทาง Lenovo มาพร้อมกับสเปกและฟีเจอร์ที่ครนครัน โดยเป็นรุ่นต่อยอดของ Lenovo Legion Y540 ซึ่งมีการอัพเกรดใหม่ด้วยดีไซน์ที่สดใหม่สวยล้ำกว่าที่เคยมีมา ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 ตระกูล H ตัวแรงอย่าง Core i7-9750H พร้อมการ์ดจอรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti ในส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็จัดเต็ม ด้วยเทคโนโลยี Legion Coldfront ระบบระบายความร้อนล่าสุด จากพัดลม 2 ตัว แต่ละตัวยังใช้ครีบถึง 70 ครีบเพื่อลดเสียงรบกวนอีกด้วย
สำหรับสเปกอื่นๆ ของ Lenovo Legion Y545 ก็ยังน่าสนใจด้วยการติดตั้งแรมมาขนาด 16GB DDR4 Bus 2666 MHz พร้อมด้วย SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่องเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมขนาดหน้าจอ 15.6″พาเนล IPS ที่ครบครันด้วย Refresh Rate ที่ 144Hz ที่จะสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมแบบใหม่ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ รองรับทั้งการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูง อย่างตัดต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์ 3 มิติ ก็เอาอยู่
พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, mini DisplayPort, HDMI, 3 x USB 3.1 Type-A, Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi มาตรฐาน AC (2×2) แบบ Killer Wireless สนนราคาที่ 43,900 บาท ได้ประกัน 3 ปี On-site ซ่อมฟรีถึงบ้าน และ Microsoft Office มูลค่า 4,290 บาท
Lenovo Legion Y545 เป็นรุ่นสดใหม่ มาพร้อมความแตกต่างจากดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นเกมและความบันเทิงอื่นๆ โดดเด่นด้วยวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดเป็นอลูมิเนียมที่ให้ทั้งความสวยงามแข็งแรงทนทานสัมผัสดี เหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ทั่วไป ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 2.35 กก. และความบางสุดเพียง 24.7 – 26.6 มม. เท่านั้น สีสันพรีเมียม Iron Grey ที่ดูเท่และดุดันไปพร้อมๆ กัน พื้นผิวที่เรียบเนียนมีความมันวาวเล็กน้อยพร้อมโลโก้ Y ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางฝาหลังที่มีความชัดเจนเป็นเอกลักษณ์ของ Legion Y Series รวมถึงมีไฟ LED สีขาว โดยบานพับเป็นแบบแกนเดียวที่มีความแข็งแรงทนทาน
