Notebook บางเบาถือว่าเป็น Notebook ประเภทที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ซึ่งในปี 2020 นี้ก็มีคนสนใจมากมาย เพราะสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก เน้นนำไปทำงานได้ในที่ต่างๆ เบาสุดที่ ไม่ถึง 1 กิโลกรัม หรือไม่ถึง 1.5 กิโลหรัม โดยมาพร้อมกับสเปกที่แรงพอตัวด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด รวมไปถึงในส่วนของแรมก็ได้ขนาดที่เพียงพอต่อการใช้งาน และมาตรฐาน SSD ก็ได้ความจุที่ 256GB – 512GB ทีเดียวโดยมีหน้าจอขนาด 14″ ขอบบางเฉียบ ทำให้เทียบเท่ากับรุ่นหน้าจอ 13.3″ แบบเหมือนก่อนที่ขอบจอหนาๆ ส่งผลให้พกพาง่ายสุดๆ ที่สำคัญต้องเป็นพาเนล IPS ที่ให้สีสันสวยงามและมุมมองกว้างด้วย
สเปกชิปประมวลผลก็มีทั้ง AMD Ryzen 3000 Series และ Intel Core i Gen 10 รุ่นล่าสุด ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยม เพียงพอกับไลฟ์สไตล์แน่นอน มาพร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที เพื่อนๆ สามารถเลือกได้ตามการใช้งานเลย ซึ่งในบทความนี้แอดมินโป้งจะมาจัดอันดับ Notebook เบาที่สุดไม่ถึง 1 กิโลกรัม จนไปถึง 1 กิโลกรัมนิดๆ ที่อยู่บนพื้นฐานของหน้าจอ 14″ เน้นเป็นสายทำงานทั่วไป อย่างงานเอกสาร ใช้งานอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง หรือจะเอาไปทำงานอย่างตัดต่อวีดีโอเบาๆ ก็ยังพอได้ ราคาเริ่ม 10,590 บาท คุ้มที่สุดในตลาดช่วงต้นปี 2020 โดยมี 5 รุ่นดังต่อไปนี้ จะมีรุ่นอะไรบ้าง ไปชมกันต่อเลย
HP 14s ราคา 10,590 บาท
ถูกสุด ได้จอ IPS + RAM 8GB + SSD 256GB ประกัน 2 ปี On-site Service
HP 14s เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่หน้าจอ 14″ พาเนล IPS ที่ Full HD มาพร้อมกับความคุ้มค่าอย่างที่สุดด้วยราคาถูกสุดๆ เพียง 10,590 บาท ได้ Windows 10 แท้ และประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ในส่วนของสเปกได้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 3 3200U พร้อมแรมขนาด 8GB และ SSD ความจุ 256GB ดีไซน์บางเบาออกแบบมาใหม่ ดูสวยงามไม่แพ้รุ่นพี่ตัว Pavilion และเน้นในเรื่องของความคุ้มค่า ราคาไม่แพง เป็นหลัก ที่สำคัญมาพร้อมกับน้ำหนักที่เบามากเพียง 1.42 กิโลกรัม และบางเพียง 19.9 มิลลิเมตรเท่านั้น
เหมาะกับสายการทำงานหรือบันเทิงที่เน้นการพกพาไปนอกสถานที่ อาจจะใช้งานตามออฟฟิศหรือร้านกาแฟแบบชิคๆ คูลๆ ได้ความฟรูหราโดดเด่นไม่น้อยหน้าใครในราคาเบาๆ ด้วย ซึ่งด้วยสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 3 3200U ที่ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีใกล้เคียงกับ Core i3 แต่ร้อนน้อยกว่า เรียกได้ว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงเน้นคุ้มค่า รวมถึงมีบริการพิเศษ Smart Friend (Plus) 1 ปีอีกด้วย น่าจะตอบโจทย์เรื่องบริการหลังการขายทีเดียว
หน้าจอขนาด 14″ บนความละเอียดมาตรฐาน 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นแบบหน้าจอด้าน พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี แรมภายในเครื่องมีมาให้ขนาด 8GB แบบ DDR4 Bus 2400MHz ส่วนฮาร์ดดิสก์แบบ SSD NVMe M.2 มีความจุ 256GB ซึ่งรองรับการใช้งานได้อย่างสบายๆ ติดตั้ง Windows 10 ใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อครบครันด้วยพอร์ตต่างๆ
อาทิ USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, HDMI, SD Card Reader, Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 4.2 แน่นอนว่ายังมีกล้องหน้าความละเอียด 720p ส่วนน้ำหนักตัวเครื่อง 1.5 กิโลกรัม ที่สำคัญยังติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือให้ด้วย สนนราคาล่าสุดของ HP 14s-dk0014ax เครื่องนี้เพียง 10,500 บาท (ราคากลาง 12,900 บาท) พร้อมการรับประกันถึง 2 ปีเต็ม แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านอีกด้วย
Acer Swift 3 ราคา 12,990 – 23,990 บาท
คุ้มค่าสุด เบา 1.19 โล สเปก Core i Gen 10 มี Thunderbolt 3 / Wi-Fi 6AX / Office แท้
Acer Swift 3 เป็นโน๊ตบุ๊คสายบางเบา ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Ice Lake เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร ทั้ง Core i3-1005G1 / Core i5-1035G1 / Core i7-1065G7 ที่แรงกว่าเดิมพร้อมทำงานด้วย AI (ทำงานซ้ำๆ หรือโปรแกรมรองรับ) ได้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX250 รุ่นใหม่จาก NVIDIA ได้แรม 4GB – 8GB และ SSD PCIe ความจุ 512GB หน้าจอขนาด 14″ แบบด้านเป็นพาเนล IPS ความละเอียด Full HD พร้อม Windows 10 แท้ อันนี้เหมือนกัน
พร้อมจัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า การพกพา ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.19 กก. และบางเพียง 15.95มม. เท่านั้น ได้ดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ และสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมกว่าเดิม เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า หรูหรา บางเบา จบครบในเครื่องเดียว ใช้วัสดุประกอบหลักเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์คุณภาพดี โดยสีสันเป็น Steel Gray ออกแนวเทาๆ เงินๆ หรือสีชมพู Millennial Pink และ Glacier Blue ที่เหมาะกับทั้งหนุ่มๆ ลุคเท่แบบคลูๆ หรือสาวๆ ที่ดูน่ารักสดใส ซึ่งทั้งตัวเครื่องให้ความบางเบาแต่แข็งแรง
ที่สำคัญยังให้พอร์ตอย่าง Thunderbolt 3 ที่เป็น USB 3.1 / DisplayPort / PD รองรับการชาร์จไฟในตัวอีกด้วย อย่างที่โน๊ตบุ๊ครุ่นราคาประมาณ 20,000 บาท สเปก Core i Gen 10 ไม่ค่อยจะให้มาด้วย รวมไปถึงจัดเต็มกว่าเพราะมาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ยังได้ฟีเจอร์แสกนลายนิ้ว Fingerprint เพื่อเข้าใช้งานเพื่อความปลอดภัยด้วย โดยรวมแล้วต้องบอกว่าเหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คในกลุ่มราคาเดียวกันทีเดียว
ที่นอกเหนือจากมีระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ให้พร้อมใช้งานแล้ว ยังได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,290 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ทันที ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย เหมาะมากๆ สำหรับ นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ที่จำเป็นต้องใช้งานโปรแกรมเอกสารอย่าง Word / Excel / Power Point อยู่แล้ว ทำให้เราไม่ต้องไปหาซื้อโปรแกรมเอกสารอีกทีให้เสียเงินและวุ่นวายกันอีกรอบเลย สุดท้ายคือแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง คุ้มค่าๆ จริง ส่วนประกันเป็น 2 ปี มีบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมง
- i3-1005G1 / RAM 4GB / SSD 256GB / จอ 14″ IPS ราคา 12,990 บาท
- i5-1035G1 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 19,990 บาท
- i7-1065G7 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 23,990 บาท
ASUS ZenBook 14 UM433DA ราคา 22,900 – 24,900 บาท
ครบเครื่องสุด สเปก Ryzen 5/7 + RAM 8GB + SSD 512GB เบา 1.15 โล
ASUS ZenBook UM433DA เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่เน้นความกะทัดรัด พกพาสะดวก วัสดุอลูมิเนียม โดดเด่นด้วยสเปกชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง AMD Ryzen 5 3500U / Ryzen 7 3700U ที่ทั้งแรงและร้อนน้อย พร้อมหน่วยความจำแรมและแหล่งเก็บข้อมูล SSD จัดเต็ม ได้ดีไซน์ตัวเครื่องขอบจอบางเป็นมาตรฐาน จากการใช้หน้าจอแสดงผล 14″ ขอบบางแบบ NanoEdge ซึ่งทำให้ ZenBook รุ่นนี้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คมิติตัวเครื่องเทียบเท่าขนาด 13.3″ ส่วนตัวเครื่องก็บางเพียง 18.2 มิลลิเมตร ที่สำคัญตัวเครื่องนอกจากจะบางเฉียบพกพาได้สะดวกแล้ว ยังมีน้ำหนักเบาเพียง 1.15 กิโลกรัมเท่านั้น โดยราคาล่าสุดอยู่อยู่ที่ 22,900 – 24,900 บาทเท่านั้นเรียกได้ว่าน่าจัดมาใช้งานมากๆ สำหรับสายบางเบาพรีเมียม ราคาไม่แพง
สเปกภายในของตัว ASUS ZenBook UM433DA ได้หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูง สเปกชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 3000 Series รหัส U เทคโนโลยีการผลิต 12 นาโนเมตร ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด โดยมีค่าการกินไฟ TDP ที่ 15 Watt ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็นออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon VEGA 8 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติพอได้ สเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจด้วยแรม 8GB DDR4 พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB มี Windows 10 แท้ในตัว
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริม ASUS ZenBook UM433DA ให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็คือ บานพับ ErgoLift Hinge นั้นเวลาที่กางออกมาใช้งานในรูปแบบโน๊ตบุ๊คจะทำให้คีย์บอร์ดทำมุม 3 องศากับฐานตั้ง พร้อมกางจอได้สูงสุดที่ 145 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้นจากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง ที่สำคัญยังมีเทคโนโลยีกล้องหน้าอินฟราเรด (IR) เพื่อเข้าใช้งาน Windows 10 ผ่านทาง Windows Hello ด้วย
ตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ที่ช่วยให้เราทำงานได้ยิ่งขึ้น พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, Micro SD Card Reader และ Headset 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ในตัว ประกัน 2 ปีเต็มตามมาตรฐาน ASUS พร้อมประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรกอีกด้วย โดดเด่นด้วยการเคลมผ่านทางร้าน 7-11 ได้
- Ryzen 5 3500U / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 22,900 บาท
- Ryzen 7 3700U / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 24,900 บาท
Acer Swift 5 ราคา 27,990 – 34,990 บาท
เบาสุด 990 กรัม จอสวยสุด สเปกรวมๆ ไม่ต่างจาก Swift 3
Acer Swift 5 บนรุ่นบนกว่า Swift 3 มาพร้อมสเปกชิป Intel Core i Gen 10 ผสานการทำงานกับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX250 แบ่งออกด้วยกันเป็น 2 สเปกด้วยกัน มาพร้อมหน้าจอ 14″ โดยมีน้ำหนักเพียง 990 กรัมเท่านั้น ส่วนสเปกอื่นๆ ก็ครบครันทั้งแรมขนาด 8GB – 16GB และ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB รองรับการทำงานที่เต็มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ความบันเทิง หรืองานประมวลผลหนักๆ ก็พอได้เลย เหมาะกับคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เบาที่สุดแต่ได้การ์ดจอแยกด้วย
เรียกได้ว่า Acer เสนอโน๊ตบุ๊ครูปแบบใหม่อย่าง Ultrabook มาสู่ท้องตลาด ไม่ใช่แค่บางเบาแบบสุดๆ แต่ยังได้ยกระดับการใช้งานด้วยสเปกที่แรงลื่นขึ้น โดดเด่นด้วยการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ ที่สำคัญได้พอร์ต Thunderbolt 3 ที่โอนไฟล์ไว ชาร์จไฟได้ ต่อจอแยกก็ได้ สนนราคาล่าสุดเริ่มต้นที่ 25,690 บาทในรุ่นชิปประมวลผล Intel Core i5-1035G1 และราคาท็อปสุดที่ 32,290 บาทในรุ่นสเปก Core i7-1065G7 สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,290 บาท) ที่ประกอบไปด้วย Word / Excel / Power Point ไปใช้งานเอกสารฟรีๆ อีกด้วย
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ เช่น Thunderbolt 3 (เป็น USB 3.1 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก และ Card Reader มาให้ด้วย ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด
อีกทั้ง Acer Swift 5 ยังผลิตจากวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ตัวฐาน บริเวณที่วางมือ และฝาครอบทำจากอลูมิเมียนผสมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษแต่ก็ยังแข็งแรงและทนทาน กับสีสัน Charcoal Blue พร้อมแซมด้วยสีทองตามจุดต่างๆ เหมาะทั้งหนุ่มๆ หรือสาวๆ ยุคใหม่ที่ดูทันสมัยสวยงามลงตัว ส่วนสี Moonstone White นับว่าเป็นอีกสีที่ดูหรูหราไม่แพ้กัน เน้นขาวๆ สะอาดๆ ได้ประกัน 3 ปี (On-site Service ในปีแรก) พร้อมส่งศูนย์ซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมงด้วย ใช้งานกันแบบสบายใจหายห่วงไปเลย
- Core i5-1035G1 / RAM 8GB /SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 25,690 บาท
- Core i5-1035G1 / MX250 / RAM 8GB /SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 27,590 บาท
- Core i7-1065G7 / RAM 8GB /SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 28,520 บาท
- Core i7-1065G7 / MX250 / RAM 16GB /SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 32,290 บาท
MSI Prestige 14 ราคา 36,900 – 43,900 บาท
แรงสุด ด้วยสเปก Core i7-10710U + RAM 16GB + GTX 1650 Max-Q
MSI Prestige 14 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่หน้าจอ 14″ ตัวแรงลื่น สีขาวใหม่ Pure White / Carbon Gray โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพจากชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 รุ่นล่าสุดอย่าง Core i7-10510U / Core i7-10710U ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce MX250 / GTX 1650 Max-Q และฟีเจอร์พอร์ต Thunderbolt 3 / USB PD ที่สำคัญคือตัวเครื่องมีความพรีเมียมและบางเบาอย่างที่สุด มีน้ำหนักเพียง 1.29 กิโลกรัมเท่านั้นความบางตัวเครื่องอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่า MSI นำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ทั้งเบามากๆ แถมยังบางสุดๆ ในส่วนของสเปกแรมได้มาขนาด 16GB และ SSD ที่ 512GB จัดเต็ม ส่งให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ทรงพลังอย่างที่สุด สนับสนุนทั้งทำงานและเล่นเกมที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ
ด้านฐานล่างตัวเครื่องจากรุ่นก่อนใช้วัสดุโลหะชิ้นเดียวตลอดทั้งชิ้น ลักษณะเป็นอลูมิเนียมที่มีช่องดูดลมเย็นดีไซน์สวยล้ำ พร้อมมียางรองจำนวน 2 เส้นลากยาว ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี พร้อม Ergonomics View Design ที่ช่วยยกตัวให้สูงขึ้นจากพื้นที่ 5 องศา ส่งผลให้พัดลมสามารถดูดลมเย็นเข้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการเอียงของตัวเครื่องเล็กน้อยนั้น ก็ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง
สำหรับ MSI Prestige 14 ได้หน้าจอแสดงผลแบบ True Pixel พาเนล IPS เกรดสูงสีตรงแม่นยำ มาตรฐานความละเอียด Full HD ที่จะช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์ได้เติมเต็มประสบการณ์ในด้านการสร้างสรรค์ผลงานได้มากยิ่งขึ้น ได้ขอบจอบางเฉียบโดยมีพื้นที่แสดงผลกว่า 90% จอเป็นแบบด้านที่ให้เรื่องสีสันสดใส รองรับใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมกางได้ 180 องศา ทำให้นำเสนองานได้อย่างเต็มที่และง่ายขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งได้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ครบครันตามสไตล์ของ MSI ที่จัดเต็ม ไม่เกรงใจใคร ในราคาเพียง 36,900 – 43,900 บาทเท่านั้น จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊ค Core i Gen 10 หน้าจอขนาด 14″ ที่น่าสนใจมากๆ ทีเดียว
พรีเมียมด้วยวัสดุอลูมิเนียม ตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมตัดขอบเพชรเพิ่มความหรูหรา พร้อมความทนทานระดับ Military Standard ด้วยการผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ทั้งทนร้อนทนเย็น ความดันอากาษ ความชื้นและฝุ่นต่างๆ ในระดับหนึ่ง สเปกที่จัดเต็มตอบโจทย์การใช้งานแบบสุดๆ ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็ครบครันด้วย Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 5.0 ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็มีทุกรูปแบบรวมไปถึงได้ Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต เป็นมาตรฐานอีกด้วยพร้อมซอฟต์แวร์ Creator Center ช่วยปรับแต่งการทำงาน พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI