แว่วมาว่าปีนี้จะเป็นครั้งใหญ่ที่ Apple จะปล่อย iPhone ออกมาถึง 5 รุ่น อันได้แก่ iPhone 12 series, iPhone SE 2 (iPhone 9 ?) รวมไปถึงอุปกรณ์ 4 อย่างที่ออกแบบมาเพื่อ iPhone 12 series ความคิดนี้เกิดขึ้นมาเนื่องจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ TF International อย่าง Ming-Chi Kuo ซึ่งมักเปิดเผยรายละเอียดลับเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่เปิดตัวของ Apple อยู่เสมอ และในปีนี้ Kuo กล่าวว่า Apple จะเปิดตัว iPhone SE 2 ในเดือนนี้และมีความคล้ายกับ iPhone 8 ที่ได้รับการอัพเกรดพร้อมสเป็คที่ดีกว่าและราคาเริ่มต้นเพียง $399
จากนั้นในเดือนกันยายนเราจะได้เห็น iPhone 12 รุ่นใหม่ 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone 12 จำนวน 2 รุ่น ที่จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.4 นิ้วและอีกรุ่นหนึ่งที่มีหน้าจอ 6.1 นิ้วจากนั้นรุ่น iPhone 12 Pro 2 รุ่น คือรุ่นหนึ่งมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.1 นิ้วแทนที่จะเป็นหน้าจอ 5.8 นิ้วและ iPhone 12 Pro Max จะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่า คือ 6.7 นิ้ว
credit: bgr
iPhone รุ่นเล็กที่จะเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้ และวางจำหน่ายอย่างเร็วที่สุดในเดือนถัดไปนั้น น่าจะขายได้เป็นอันดับต้นๆ เนื่องมาจากเป็นการอัปเกรดต่อจาก iPhone SE ที่ออกมาในปี 2016 แต่จะมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และโปรเซสเซอร์ A13 ที่รวดเร็วและราคาที่เหมาะสมที่สุดที่เราเคยเห็นบน iPhone ในปีนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าจะมีปุ่ม Home และ Touch ID ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟน ๆ Apple จำนวนมากโหยหานับตั้งแต่เปิดตัว iPhone X
ในส่วนของ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro นั้นจะเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์หลักของ Apple และจะมีคุณสมบัติที่ดีที่สุดของ Apple ในปี 2020 ที่น่าตื่นเต้นที่สุด คือ การออกแบบใหม่ ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า Apple จะออกแบบครั้งใหญเป็นครั้งแรกในรอบสามปี
credit: bgr
ตามที่ Kuo กล่าวว่าโทรศัพท์ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro รุ่นใหม่ของ Apple จะมีการออกแบบที่มีส่วนที่คล้ายกับ iPhone 5 แต่จะมีจอแสดงผลขนาดใหญ่แทนหน้าจอขนาดเล็ก 4 นิ้วของ iPhone 5 และจะยังคงมีรอยบากด้านบนอยู่ แต่ส่วนของตัวเครื่องนั้นจะเป็นขอบโลหะแบนเหมือนที่มีใน iPhone 5 ที่มีหลายคนคิดว่าเป็นการออกแบบ iPhone ที่ดีที่สุดของ Apple
นักออกแบบกราฟิกหลายคนคาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มเซ็นเซอร์ตัวที่สี่ในอาร์เรย์กล้องด้านหลังของ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ซึ่งเราจะได้ในวิดีโอที่มาจากนักออกแบบกราฟิก “Technizo” อย่างไรก็ตามเราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าการคาดการณ์นี้จะถูกต้องแม่นยำแค่ไหนอย่างไร
ที่มา: BGR