คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากจะพูดว่า Gaming Mouse สำหรับใช้งานเล่นเกมของหลายๆ คนต้องเป็นแบบที่มีสายกันเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเหตุผลที่พบได้ก็คือมันถนัดกว่า ไม่ต้องกลัวเล่นๆ แล้วถ่านหมด ตอบสนองได้ดีกว่า ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดแย้งจากความคิดเหล่านี้เท่าไหร่นัก เนื่องจากว่ามันก็เป็นข้อเท็จจริงที่เห็นได้ชัด
แต่ความคิดเหล่านี้อาจจะต้องเปลี่ยนไปเมื่อได้ลองใช้งานเม้าส์ตัวนึงที่เป็นแบบไร้สายแล้วสามารถใช้งานได้อย่างที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากแบบที่มีสาย เม้าส์ที่ผมกำลังพูดถึงอยู่นั้นก็คือ Logitech G304 ซึ่งเป็นเม้าส์ไร้สายที่มาพร้อมกับสเปคการใช้งานสูงพอควรกับ DPI สูงสุดที่ 12,000 DPI Polling Rate ที่ 1,000 Hz
สเปคของ Logitech G304
- ตัวเม้าส์ใช้งานสีดำทั้งหมด
- ใช้งาน Hero เซนเซอร์ ซึ่งเป็นการพัฒนาจาก Optical ให้ดียิ่งขึ้น
- รองรับ DPI สูงสุดที่ 12,000 DPI
- มีค่า Polling Rate ที่ 1,000 Hz (1ms)
- มีปุ่มให้ใช้งานทั้งหมด 6 ปุ่มด้วยกัน
- ใช้งาน Logitech Gaming Software เพื่อปรับแต่งการใช้งานต่างๆได้ง่าย
- มาพร้อมกับสายสำหรับต่อเพื่อเพิ่มมุมที่สัญญาณเข้าไม่ถึง
- น้ำหนักตัวเพียง 99 กรัม
- ราคา 1,299 บาท
กล่องอันเป็นเอกลักษณ์ของค่าย Logitech บอกหน้าตาสเปคอย่างครบครัน
อุปกรณ์ภายในกล่องมีคู่มือ สติกเกอร์ สายต่อ USB และถ่าน AA แถมมาให้ด้วย
สำหรับภายนอกของตัว Logitech G304 มีการออกแบบที่ไม่ได้หวือหว่าอะไรมากนักหากเทียบกับเม้าส์สำหรับการเล่นเกมทั่วๆไปที่จะออกแบบมาให้ แปลกตา มาพร้อมไฟไฟหลากหลายสี แต่สำหรับตัวนี้จะมาพร้อมกับการออกแบบในลักษณะที่เหมาะกับการใช้งานในทุกๆสถานการณ์เสียมากกว่า โดยรอบๆตัวจะใช้งานสีดำด้าน
ส่วนด้านซ้ายของตัวเม้าส์จะมาพร้อมกับปุ่มสำหรับการใช้งานอีก 2 ปุ่มด้วยกันโดยค่าพื้นฐานจะเป็นการ Forward และ Back
ด้านบนของตัวเม้าส์จะมาพร้อมกับปุ่มให้ได้ใช้งานทั้งหมด 4 ปุ่ม โดยที่ตรงกลางจะเป็นปุ่มสำหรับใช้งานในการปรับค่า DPI พร้อมกับมีโลโก้ตัว G ที่แสดงความเป็น Logitech ออกมาบนเม้าส์ตัวนี้
สำหรับภายนอกของตัว Logitech G304 มีการออกแบบที่ไม่ได้หวือหว่าอะไรมากนักหากเทียบกับเม้าส์สำหรับการเล่นเกมทั่วๆไปที่จะออกแบบมาให้ แปลกตา มาพร้อมไฟไฟหลากหลายสี แต่สำหรับตัวนี้จะมาพร้อมกับการออกแบบในลักษณะที่เหมาะกับการใช้งานในทุกๆสถานการณ์เสียมากกว่า โดยรอบๆตัวจะใช้งานสีดำด้าน
ด้านในของตัวเม้าส์จะเก็บตำแหน่งต่างๆออกมาได้ดีโดยจะมีช่องสำหรับไว้เก็บตัวรับสัญญาณที่เป็น USB เสียบลงไปไม่มีหลุดหรือหลวมแน่นอน ตรงกลางจะเป็นช่องสำหรับใส่ถ่าน AA 1 ก้อน เพื่อใช้งาน
ด้านล่างของตัวเม้าส์จะมาพร้อมกับยางทั้งหมด 4 มุม พร้อมกับปุ่มสำหรับเปิดปิดการใช้งานเม้าส์ พร้อมกับมีการลงลายโลโก้พร้อมชื่อรุ่นเอาไว้
Logitech Gaming Software
สำหรับการใช้งานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดยิ่งขึ้นก็ต้องใช้คู่กับ Software ของทาง Logitech อย่าง Logitech Gaming Software ที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางในการจัดการอุปกรณ์ต่างๆของทาง Logitech เอาไว้ โดยการใช้งานก็ไม่ได้ยากอะไรเพียงแค่เข้าไปดาวน์โหลดบนหน้าเว็บและทำการติดตั้งเท่านี้ก็ใช้งานได้แล้ว ที่เหลือก็ทำแค่เสียบตัว USB เข้ากับเครื่องเพื่อเริ่มจัดการเท่านั้นเอง
สำหรับหน้าจอการตั้งค่าแรกจะเป็นในส่วนของการปรับแต่ง DPI และ Polling Rate โดยในส่วนของการปรับแต่งค่า DPI ก็สามารถใช้ได้ทั้งการใส่ตัวเลขเข้าไปหรือจะเป็นการเลื่อนแถบสีเพื่อปรับค่าได้ ส่วนการปรับแต่งค่า Polling Rate ก็สามารถเลือกเอาได้ตามที่มีให้ได้เลย
ในส่วนของการปรับแต่งค่าของปุ่มต่างๆก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยทำการกดไปที่ปุ่มที่ต้องการแล้วก็ทำการเลือก Command ใหม่ๆได้เลยโดยเมื่อเข้ามาแล้วจะแบ่งออกเป็นอีก 3 ส่วนคือ Mouse Function, Keystroke และ Multikey Macro สำหรับหน้าแรกอย่าง Mouse Function คือการเปลี่ยนคำสั่งการใช้งานตามที่ตัวโปรแกรมมีให้
ถัดมาเป็นส่วนของ Keystroke จะเป็นในส่วนของการใช้งานคำสั่งที่เรามักจะใช้ๆกันอย่างพวก Copy, Paste หรือ Undo โดยหากให้เปรียบเทียบก็จะเป็นการใช้งานค่ามาโครตามที่ตัวระบบมีมาให้
ส่วนสุดท้ายเป็นเรื่องของ Multikey Macro ซึ่งจะเป็นการกำหนดค่ามาโครขึ้นมาเองตามการใช้งานของผู้ใช้ โดยจะเป็นการบันทึกค่าเมื่อเราทำการกดลงไปและจะนำไปเป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งมาโครใหม่ๆได้
ส่วนที่สองของโปรแกรมจะเป็นเรื่องของการระบุค่า KPM ที่จะบอกว่าเราทำการกดปุ่มแต่ละปุ่มไปเท่าไหร่แล้วบ้าง โดยจะแสดงออกมาเป็นโทนสีต่างๆที่แตกต่างกันส่วนด้านขวาบนของจอจะเป็นการบอกตัวเลขที่ชัดเจนออกมาให้ผู้ใช้งานให้เห็นได้
สำหรับการใช้งานถือว่าสามารถใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและขวาได้เนื่องจากการออกแบบของตัวเม้าส์ออกแบบมาในลักษณะที่ไม่ได้มีส่วนเว้าหรือโค้งไปในด้านใดด้านหนึ่ง
หลังจากที่ได้ลองใช้งาน Logitech G304 ก็ต้องบอกว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาสำหรับเม้าส์ไร้สายที่ใช้งานในการเล่นเกมเลยก็ว่าได้ เนื่องจากปกติแล้วเม้าส์ไร้สายทั่วๆไปมักจะมีบางช่วงที่สัญญาณหายไปถึงจะไม่ใช่เวลาที่นานมากแต่ก็ขัดจังหวะในการเล่นเกมได้พอควร แต่เมื่อได้ลองตัวนี้แล้วก็พบว่าการตอบสนองและการรับส่งสัญญาณทำออกมาได้ดีไม่มีจังหวะที่ขัดหายไปเลย
ในส่วนของการใช้งานในระยะต่างๆ ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมากหลังจากที่ได้ลองนำไปต่อกับพวก Android Box ก็ทำออกมาได้อย่างดี ระยะการใช้งานนับว่าคอนข้างไกลพอสมควรจากการประมาณ 2 เมตรก็ยังใช้งานได้อยู่ไม่มีปัญหาการรับสัญญาณไม่ถึง และถึงแม้ว่าจะสัญญาณไม่ถึงก็ยังมีสายสำหรับต่อเพื่อเพิ่มระยะได้เช่นกัน
เรื่องของการเล่นเกมก็ทำออกมาได้ไม่ต่างจากเม้าส์ที่ใช้งานสายเลย ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองหรือการขยับเม้าส์ก็ทำออกมาได้อย่างไม่มีข้อผิดพลาด ซึ่งจากการใช้งานในส่วนของค่า DPI สูงๆอย่าง 12,000 DPI ก็ยังทำออกมาได้ตรงกับการกระทำที่ทำลงไป เช่นการสะบัดเม้าส์ หยุดเม้าส์ หรือคลิ้กก็ทำได้ตรงตามจริงไม่ได้มีการดีเลย์การออกผลแต่อย่างใด
สำหรับข้อสังเกตที่ใช้งานจะมีความรู้สึกว่าการกระจายน้ำหนักทำออกมาได้แปลกๆอยู่เล็กน้อยคือเวลาใช้งานน้ำหนักมันจะถูกเทลงไปที่ส่วนท้ายของเม้าส์เป็นหลักทั้งเวลาที่ใส่ถ่านและไม่ใส่ก็ให้ความรู้สึกไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งสำหรับใครที่ชอบขยับหรือยกเม้าส์เวลาใช้งานอาจจะรู้สึกไม่ถูกใจนัก ส่วนเรื่องของขนาดและการจับ ใครที่มีมือที่ใหญ่อาจจะไม่เหมาะนักเนื่องจากตัวเม้าส์อยู่ในลักษณะกลางๆทำให้พื้นที่ในการใช้อาจจะไม่ดีเท่าไหร่นัก
จุดเด่น
- การตอบสนองเทียบกับเม้าส์ไร้สายตัวอื่นๆทำออกมาได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
- ค่า DPI สูงถึง 12,000 DPI
- ใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและขวา
- มีสายสำหรับการเพิ่มระยะการใช้งานในที่สัญญาณเข้าไม่ถึง
ข้อสังเกต
- การกระจายน้ำหนักที่ทำออกมาให้ความรู้สึกแปลกๆ (น้ำหนักจะเทไปส่วนท้ายของเม้าส์ ทำให้สำหรับคนที่ชอบยกหรือขยับเม้าส์อาจจะไม่ถูกใจนัก)
สั่งซื้อได้ที่
