ในบรรดาเกมมิ่งเมาส์ที่มีให้เลือกมากมายในท้องตลาด RAZER นับว่าเป็นอีกค่ายหนึ่ง ซึ่งถือว่านอกจากจะได้การยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลก ในแง่ของประสิทธิภาพและการไว้วางใจ รวมถึงการออกแบบที่โดดเด่น ก็ยังเป็นแบรนด์ที่บุกตลาดเกมมิ่งเกียร์ในเมืองไทยเราเป็นเจ้าแรกๆ อีกด้วย โดยมีไลน์ผลิตภัณฑ์มากมาย ให้ผู้ใช้ได้เลือกกัน ไม่ว่าจะเป็นเมาส์ หูฟัง หรือคีย์บอร์ดก็ตาม และยังมีเกมมิ่งเกียร์ในทุกกลุ่มสำหรับเกมเมอร์อีกด้วย เช่นเดียวกับในวันนี้ ที่มีเกมมิ่งเมาส์ BASILISK v2 ที่ได้รับการปรับโฉมและติดอาวุธเพิ่มเข้าไป เอาใจเกมเมอร์ พร้อมปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ดูโฉบเฉี่ยว และคงยังฟีเจอร์ HyperShift อันเป็นเอกลักษณ์สำหรับการใช้งานเอาไว้ นอกจากนี้ยังเพิ่มความอึดทนของปุ่มคลิ๊กที่มากถึง 70 ล้านครั้ง และลูกเล่นอื่นๆ อีกเพียบ
RAZER BASILISK v2 เรียกว่าเป็นเกมมิ่งเมาส์สไตล์ดุดันอีกรุ่นหนึ่งของ RAZER ตั้งแต่รูปทรง ที่แม้จะมีขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงกับ BASILISK รุ่นแรก แต่ก็เติมเส้นสาย และปรับรูปลักษณ์เล็กน้อยให้โฉบเฉี่ยว จับถนัดมือมากขึ้น โดยเมาส์รุ่นนี้เป็นแบบออพติคอลสวิทช์ ซึ่งถือว่าเป็นสวิทช์รุ่นใหม่ ที่กำลังได้รับความนิยม กับอัตราตอบสนองที่ไวและส่งสัญญาณได้รวดเร็ว ให้อัตราการคลิ๊กที่มากขึ้น โดยมีเซ็นเซอร์เป็นแบบออพติคอล มีค่า DPI สูงสุด 20,000 DPI รวมถึงฟีเจอร์พิเศษ ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเคลื่อนไหว เช่นเดียวกับ Razer HyperShift ที่เป็นไฮไลต์ของเมาส์รุ่นนี้ สำหรับการปรับเปลี่ยนปุ่มมาโครที่มีบนเมาส์ เพื่อเลือกเปลี่ยนค่า Key set ของมาโคร ในการเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ Razer Synapse 3 ในการตั้งค่าบนเมาส์ รวมถึงแสงสีต่างๆ ได้อีกด้วย ที่น่าสนใจคือ แม้จะปรับสเปคให้ดีขึ้น พร้อมกับรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนใหม่ แต่จ่ายถูกลง เพราะ BASILISK v2 นี้ เปิดราคาประมาณ 2,590 บาทเท่านั้น จึงถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
Specification
At a Glance
- 11 programmable buttons
- Customizable scroll wheel resistance
- Razer Optical Mouse Switches
- Razer Focus+ Optical Sensor
- Razer Speedflex Cable
Sensor
- True 20,000 DPI Focus+ optical sensor with 99.6% resolution accuracy
- Up to 650 inches per second (IPS) / 50 G acceleration
- On-The-Fly Sensitivity Adjustment (Default stages: 800/1800/4000/9000/20000)
- Advanced Lift-off/Landing distance customization
Connectivity
- Wired mode only
- 2.1 m / 7 ft Speedflex cable
Buttons
- Eleven independently programmable buttons
- Replaceable Multi-function paddle
Switch
- Razer™ Optical Mouse Switches rated for 70M clicks
Scroll Wheel
- Gaming-grade tactile scroll wheel with infinitely customizable resistance
On-Board Memory
- 5 On-board Memory Profiles (4+1 profiles)
RGB Lighting
- 2 Razer Chroma™ lighting zones with true 16.8 million customizable color options
Size & Weight
- 130mm / 5.11 in (Length) x 60mm / 2.36 in (Grip Width) x 42mm / 1.65 in (Height)
- Approximate weight: 92 g / 3.3 oz (Excluding cable)
Compatibility
- Razer Synapse 3 enabled
การออกแบบและฟังก์ชั่น
RAZER BASILISK v2 มาในแพ็คเกจที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ ด้วยโทนสีเขียว-ดำ พร้อมภาพกราฟิกหน้ากล่องให้เห็นตัวเมาส์แบบชัดๆ กับรายละเอียดที่เป็นฟีเจอร์สำคัญ
หน้ากล่องระบุฟีเจอร์มาให้ อาทิ ปุ่มมาโครสามารถโปรแกรมได้ 11 ชุดด้วยกัน ปรับแต่งแรงต้าน Scroll wheel ได้ และเป็นเมาส์ที่ใช้สวิทช์ RAZER Optical
เมื่อแกะกล่องด้านในมีซ้อนอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเมาส์แพ็คอยู่ในกล่องใส ให้เห็นตัวเมาส์ได้ชัดเจน และช่วยกันกระแทกได้อีกชั้นหนึ่ง
ในกล่องประกอบด้วย ตัวเมาส์และเอกสารประกอบสินค้า
เมื่อเปิดออกมา จะเห็นเมาส์ RAZER BASILISK v2 ที่นอนอยู่ในกล่อง และพร้อมสำหรับการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังมีชิ้นส่วนชิ้นหนึ่ง ติดมาในแพ็คเกจด้วย เดี๋ยวมาเฉลยกันว่าเป็นอะไร
กับหน้าตาที่ค่อนข้างดุดันเลยทีเดียว เป็นเมาส์สำหรับผู้ใช้มือขวาโดยเฉพาะ เนื่องจากบรรดาปุ่มและมาโครต่างๆ จะมาในแนวของเมาส์เกม FPS เป็นหลัก
หน้าตาเมื่อเทียบกับ RAZER BASILISK เดิม จะเห็นได้ว่ามีพัฒนาการต่างออกมาพอสมควร
มาดูที่ด้านหน้าของเมาส์กันก่อน ปุ่มคลิ๊กขวา จะค่อนข้างยื่นออกมาเล็กน้อย เพื่อให้รองรับกับนิ้วได้สะดวกขึ้น พร้อม Scroll wheel ที่เพิ่มความพิเศษเข้ามา โดนหลักคือสีดำด้าน มีพื้นผิวเล็กน้อย ให้จับได้สะดวกขึ้น
ด้านข้างขวาเสริมพื้นผิวเข้ามา เพื่อให้จับได้สะดวกถนัดมือมากขึ้น และยังมีเส้นสายที่เงางาม ตัดกับตัวเมาส์ดูทันสมัย
ด้านซ้ายเป็นจุดสำคัญ มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไปจาก RAZER BASILISK เดิม อยู่พอสมควร ขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และพื้นผิวที่จับเหมือนกับด้านขวา มีปุ่มมาโครมาให้ 2 ปุ่ม และมียางที่ปิดตรงสวิทช์ที่เรียกว่า HyperShift เอาไว้ด้วย
และชิ้นส่วนที่ติดมาในกล่อง ที่หลายคนอาจจะเคยได้สัมผัสกับ BASILISK ครั้งแรกหรือเคยได้ลองเล่น ฟีเจอร์นี้จะทำหน้าที่ในการเปลี่ยนชุดฟังก์ชั่นหรือ Key set ของปุ่ม ทำให้สามารถกำหนดมาโครได้ถึง 2 ชุด และพร้อมใช้ด้วยการกดปุ่มที่อยู่ทางนิ้วโป้งได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องไปกดสลับที่คีย์บอร์ดให้วุ่นวาย
จะเห็นว่าเส้นสายสีดำเงานั้น ลากไปทั่วตัวเมาส์ เพื่อให้ดูล้ำสมัย และเกมเมอร์เอง ก็สามารถกะระยะในการจับได้ง่ายขึ้น
ด้านท้ายก็ยังดูโดดเด่น เป็นเมาส์ที่ไม่ได้โค้งนัก และขนาดไม่ใหญ่ ต่างกับเมาส์หลายๆ รุ่นของทาง RAZER ก่อนหน้านี้ จึงใช้ได้ทั้งมือผู้ชายและเกมเมอร์หญิง เล่นได้สนุกมือ
สวิทช์ที่เป็น HyperShift ใช้งานง่าย แค่เพียงถอดยางที่ปิดออก จากนั้นนำชิ้นส่วนโลหะที่เป็นสวิทช์ในกล่อง ใส่ลงไปในช่องได้เลย
ด้านใต้ของเมาส์ มีหลายจุดที่น่าสนใจ สังเกตว่าในส่วนของ Mouse skate จะมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ เรียกว่าแทบจะ 1 ใน 3 ของตัวเมาส์ ช่วยทำให้หน้าสัมผัสมีมากขึ้น เลยช่วยให้การเลื่อนไปมาทำได้รวดเร็วดีทีเดียว
เซ็นเซอร์ในแบบออพติคอล ให้ความละเอียดสูงสุด 20,000 DPI ปรับได้ตั้งแต่ 800/1,800/4,000/9,000/20,000 พร้อมปุ่มปรับ Profile ใกล้ๆ กัน พร้อม
ขยับมาด้านบน เป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจเช่นกัน สิ่งนี้เป็นฟีเจอร์พิเศษ ที่ทาง RAZER จัดมาให้ผู้ใช้เมาส์รุ่นนี้ เป็นสิ่งที่เรียกว่า “SCROLL WHEEL RESISTANCE” หรือการปรับแรงต้านของสกอล์เมาส์ สำหรับคอเกมที่มีแนวการเล่นที่ต่างกัน เมื่อหมุนขึ้นด้านบน จะทำให้การหมุน Scroll เป็นแบบฟรี สำหรับการซูม เปลี่ยนอาวุธ หรือเลือกสกิล ซึ่งก็แล้วแต่ความถนัด และเกมที่เล่น การปรับซูมกล้องในการเล็ง การมีจังหวะนิดหน่อย ก็ช่วยได้ไม่วืด หรือการเปลี่ยนอาวุธแบบฉับพลัน การปล่อยฟรีมากไปก็ไม่ดี
สายเคเบิลของเมาส์รุ่นนี้ เน้นความยืดหยุ่น และสะดวกต่อการลากเมาส์ไปมาได้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องการหักงอของสาย เวลาที่เคลื่อนเมาส์ไปมาบนโต๊ะขณะเล่นเกม ไม่ว่าจะลากจากด้านหลังเคสหรือต่อจากด้านหน้าเคสก็ตาม ทาง RAZER ให้สายยาวมาก 2.1 เมตร
หัวต่อเป็นแบบ USB ด้านในยังคงใช้โทนสีเขียว มาตัดเข้ากับตัวสายและหัวต่อที่เป็นสีดำได้ลงตัว
เมื่อประกอบ HyperShift และต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ ติดตั้งซอฟต์แวร์ Synapse 3 เรียบร้อย ก็พร้อมสำหรับการลุยเกมกันแล้ว
เมื่อติดตั้งโปรแกรม Synapse 3 ระบบตรวจพบเมาส์ และพร้อมสำหรับการปรับแต่งได้ทันที
ในส่วนนี้ เชื่อมโยงเข้ากับฟีเจอร์ HyperShift สำหรับตั้งค่าการทำงานมาโครของปุ่มทั้ง 11 ปุ่ม ให้เลือกได้ 2 โหมด สลับใช้งานตามความสะดวก ตั้งที่ซอฟต์แวร์ครั้งเดียว ก็พร้อมสำหรับใช้งาน
ตั้งการการตอบสนองหรือ Sensitive ได้ 5 ระดับหลัก สำหรับการใช้งานแต่ละแบบ และสามารถปรับที่ปุ่มด้านบนของเมาส์ เพื่อเปลี่ยนค่า DPI ได้สะดวกรวดเร็ว เพิ่มความว่องไวในการตอบสนองด้วย Polling Rate และให้ความแม่นยำ
นอกจากนี้ยังรองรับการปรับแสงไฟบนตัวเมาส์ในรูปแบบต่างๆ ตามโพรไฟล์ได้อีกด้วย
การใช้ซอฟต์แวร์ Synapse 3 สำหรับการตั้งค่าให้กับเมาส์ RAZER BASILISK รุ่นนี้ ค่อนข้างละเอียดและทำได้ง่ายเลยทีเดียว ว่ากันตั้งแต่เรื่องของการปรับ DPI, ตั้งค่ามาโคร ไปจนถึงการปรับแสงไฟ RAZER Chroma ในโหมดต่างๆ ตามต้องการ
จุดที่มีแสงไฟปรากฏขึ้นจะมีอยู่ 2 โซน คือ Scroll wheel และตรงอุ้งมือ สามารถปรับรูปแบบได้ผ่านทาง RAZER Synapse ค่อนข้างสะดวกและยืดหยุ่นดีทีเดียว
Conclusion
คงต้องบอกว่า RAZER ยังตำแหน่งของ RAZER BASILISK v2 นี้ ไว้สำหรับคอเกมที่เน้นเรียกศักยภาพในการเล่นเกมอย่างเต็มรูปแบบเอาไว้ ด้วยการใส่ลูกเล่นในด้านคุณสมบัติและการปรับแต่ง ให้ผู้ใช้สามารถ Customize ได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากคุณชื่นชอบการเล่นเกมที่หลากหลาก และอยากได้เมาส์ที่ตอบโจทย์การเล่นเกมในรูปแบบต่างๆ และมีความละเอียดสูงเหมาะกับการใช้งานได้ดีแล้ว BASILISK v2 รุ่นนี้ น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่ของคุณ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูล้ำสมัย และเป็นเมาส์ขนาดกลาง ที่ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงการปรับแต่งที่จัดมาให้แบบเต็มพิกัด เมื่อผนวกกับความทนทาน ที่ทาง RAZER จัดสวิทช์แบบออพติคอล ที่ให้ความทนทานในการกดระดับ 70 ล้านครั้ง น่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับการใช้งานได้ไม่น้อย เมื่อดูจากราคาจำหน่ายแค่ 2 พันกว่าบาท ก็ถือว่าทำราคาได้ค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับเกมมิ่งเมาส์ในฟีเจอร์ระดับใกล้เคียงกัน พร้อมกันนี้ยังให้การรับประกันอีก 2 ปี น่าสนใจไม่น้อยเลย
จุดเด่น
- ขนาดเมาส์ไม่ใหญ่เกินไป จับถือสะดวก
- เคลื่อนไหวได้ลื่นไหล
- ให้ความแม่นยำสูง ปรับได้สูงสุดถึง 20,000 DPI
- ปรับความหนืดของ Scroll wheel ได้
- เปิดให้ปรับแต่งได้หลากหลาย
ข้อสังเกต
- โหมดปรับแต่งค่อนข้างเยอะ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ
ราคา: ประมาณ 2,590 บาท
ติดต่อ: ตัวแทนจำหน่าย RAZER ทั่วประเทศ