ในขณะที่ทางบ้านเมืองไทยเรานั้นต้องประสบต่อปัญหาฝุ่น PM2.5 กันอย่างต่อเนื่อง ในต่างประเทศเองนั้นก็มีปัญหาดังกล่าวมากไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตามที่สหรัฐอเมริกานั้นให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งต่อการลดภาวะการสร้างมลพิษให้กับโลกของเรา โดยล่าสุดนั้นได้มีการเผยข้อมูลออกมาจากทาง Grist.org ว่าอุตสาหกรรมเกมเองก็สร้างปัญหามลภาวะทางด้านคาร์บอนให้กับโลกของเราไม่แพ้อุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างตู้เย็นเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าใจหายเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากว่ามลภาวะดังกล่าวนี้นั้นเกิดขึ้น ณ เวลาที่เราๆ ท่านกำลังทำการเล่นเกมอยู่ด้วย
ในปีที่ผ่านมานี้นั้นนักวิจัยของทาง Lawrence Berkeley National Laboratory ได้ออกมาเผยข้อมูลการวิจัยว่าอุตสาหกรรมเกมในปี 2019 นั้นได้สร้างมลพิษทางด้านคาร์บอนให้กับโลกของเราๆ ท่านๆ เท่ากับตู้จำนวนทั้งหมด 85 ล้านเครื่องซึ่งถือว่าเป็นปริมาณคาร์บอนที่สูงเอามาเลยทีเดียว(นอกไปจากนั้นแล้วยังมีการเปรียบอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วยว่าอุตสาหกรรมเกมนั้นสร้างมลภาวะทางคาร์บอนเท่ากับที่รถยนต์ 5 ล้านคัน)
ทั้งนี้แล้วนั้นทาง Microsoft เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าวนี้และได้มีการประกาศออกมาแล้วว่าทาง Microsoft เองจะเปลี่ยนไปใช้วิธีการผลิตทุกอย่างแบบที่ไม่มีคาร์บอนเข้ามาเกี่ยวข้องกับภายในปี 2023 ที่จะถึงนี้ทว่าทาง Grist.org เองนั้นก็ได้ออกมาบอกเอาไว้ว่าถึงว่าทาง Microsoft จะมีนโยบายดังกล่าวขึ้นมาใช้งานทว่าก็ไม่สามารถที่จะลดการสร้างมลภาวะทางคาร์บอนได้มากเท่าไรนักเพราะว่าถึงแม้กระบวนการผลิตต่างๆ จะไม่ได้ใช้คาร์บอนในการผลิตแต่ตามหลักการแล้วนั้นตัวเครื่องเกมก็ยังคงมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกมาอยู่ดี แถมนับวันที่เครื่องเกมคอนโซลนั้นจะมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นทำให้อัตรการใช้พลังงานเองนั้นก็เพิ่มมากขึ้นตามมาเป็นเงาของการเพิ่มสเปคของตัวเครื่องเกมที่ยิ่งแรงมากเท่าไรยิ่งใช้พลังงานมากเท่านั้นแถมในปัจุบันก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องเกมคอนโซลนั้นต่างก็มาพร้อมความแรงที่มากขึ้นจริงๆ ในแต่ละรุ่น
ทว่าถึงจะมีการสร้างมลภาวะทางคาร์บอนมากแต่การที่ Microsoft ใส่ใจกับการที่จะลดปริมาณการใช้คาร์บอนให้ลดต่ำลงนั้นก็ถือว่ายังคงดีอยู่ โดยทาง Grist.org ก็ได้บอกเอาไว้ว่าอยากให้อีก 2 ผู้นำของโลกทางด้านเกมคอนโซลอย่าง Sony และ Nintendo หันมาใส่ใจในการผลิตที่ไร้คาร์บอนเหมือนอย่างที่ทาง Microsoft ได้มีการประกาศออกมาก่อนหน้าเช่นเดียวกัน
ที่มา : tweaktown