ถึงแม้ว่าทางฝั่งเครื่องเล่นเกมคอนโซลนั้นผู้กุมตลาดของส่วนตัว APU(หน่วยประมวลผลที่มาพร้อมชิปกราฟิกในตัว) จะเป็นของทาง AMD เกือบทั้งหมด(ที่ไม่ทั้งหมดเพราะทางฝั่ง Nintendo นั้นเลือกใช้ APU จากทาง NVIDIA) ทว่าการแข่งขันกันระหว่าง PlayStation ของ Sony และ Xbox ของ Microsoft นั้นก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กันเนื่องจากว่าทั้ง 2 ต่างก็พยายามแข่งขันทางด้านฮาร์ดแวร์กันอย่างเต็มสูบ ล่าสุดนั้น twitter “_rogames” ได้มีการนำเสนอข้อมูลของ APU รุ่นใหม่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น APU ที่ใช้บน Xbox Series S โดยที่ข้อมูลที่หลุดออกมานั้นก็น่าสนใจไม่น้อยเนื่องจากหากดูกันตามสเปคแล้วนั้นต้องบอกเลยว่าแรงไม่แพ้ทางฝั่งคอมพิวเตอร์ PC เข่นเดียวกัน
สำหรับ APU ที่หลุดออกมาใหม่นี้มีชื่อรหัสว่า Lockhart โดยจะมีจำนวนแกนการประมวลผลอยู่ที่ 8 แกน 8 threads ความเร็วสัญญาณนาฬิกาอยู่ที่ 4,000 MHz และที่ turbo อยู่ที่ 3,177 MHz(ซึ่งความเร็วในส่วนนี้นั้นน่าจะเป็นความเร็วสูงสุดที่มีการใช้งานการประมวลผลทั้ง 8 แกนพร้อมๆ กัน สำหรับข้อมูลที่หลุดออกมานั้นจะมีดังต่อไปนี้
New Unknown APU | Xbox Series S APU ? | AMD FireFlight APU/ Subor Z+ successor ?https://t.co/oXAOCV5vxN pic.twitter.com/vFA7oJOPD6
— _rogame (@_rogame) January 27, 2020
หากนำเอาไปรวมกับข้อมูลที่มีการหลุดออกมาก่อนหน้านี้นั้นก็จะพอสรุปได้ว่า Xbox Series S นั้นจะมาพร้อมกับหน่วยความจำทั้งหมด 16 GB แบบแบ่งหน่วยความจำใช้โดยใข้งานกับระบบที่ 12 GB และใช้งานร่วมกับชิปกราฟิกที่ 4 GB นอกไปจากนั้นจากข้อมูลผลการทดสอบ Time spy ที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ซึ่งได้อยู่ที่ 7,100 คะแนน หากเรานำไปลองเทียบกับสเปคของเครื่องคอมพิวเตอร์ PC ในปัจจุบันนั้นก็จะได้สเปคอยู่ที่ราวๆ
- RX 5600M + 4800H = 5,400
- R9 3900X + OC GTX 1660 Super = 7,300
- i9 9900K + OC GTX 1660 Ti = 7,500
ซึ่งในส่วนของหน่วยประมวลผลนั้นถือว่าสูงมากเรื่อง ทว่าน่าเสียดายที่ตอนที่มีการเผยข้อมูลของการทดสอบ Time Spy ไม่ได้มีการเผยข้อมูลของตัวชิปกราฟิกเอาไว้ว่าได้คะแนนที่เท่ากันแน่แต่คาดการณ์ได้ว่าตัวชิปกราฟิกนั้นน่าจะมีความเร็วอยู่ใกล้ๆ กับ RX 5600 XT ซึ่งมีประสิทธิภาพในการประมวลผล 7-7.9 TFLOP อย่างไรก็ตามด้วยสเปคนี้นั้นน่าจะเล่นเกมที่ความละเอียด 1080p@60k ได้แบบสบายๆ อย่างไรแล้วนั้นก็คงต้องดูกันต่อไปเพราะยิ่งข้อมูลหลุดออกมามากขึ้นเท่าไรนั้นจะเห็นได้ว่าในส่วนของ Xbox Series จะแรงกว่าที่เคยมีการคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก
ที่มา : tweaktown