หากจะว่าไปแล้วนั้นเชื่อว่ายังคงมีนักเล่นเกม PC หลายๆ ท่านที่ยังคงใช้กราฟิกการ์ดรุ่นเก่าระดับกลางในช่วงปี 2016 อยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วนั้นเชื่อว่าหลายๆ ท่านก็ยังคงรู้สึกว่ามันยังสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้วนั้นนับมาจนถึงปี 2019 ก็เป็นเวลา 3 ปีได้แล้วที่กราฟิกการ์ดมีการพัฒนาออกมาอย่างเรื่อยๆ ทุกปี ดังนั้นหลายๆ ท่านอาจจะมีคำถามขึ้นมาในใจว่าถึงเวลาแล้วรึยังที่ควรจะต้องทำการเปลี่ยนกราฟิกการ์ดกันสักที ในวันนี้นั้นเราจึงขอนำเอาการเปรียบเทียบกราฟิการ์ดในระดับกลางที่มีราคาใกล้ๆ กันคืออยู่ในช่วงราวๆ 5,000 – 7,000 บาททั้งในปี 2016 และ 2019 ให้ทุกท่านได้ดูกันว่ามันจะคุ้มรึยังหากท่านจะทำการอัพเกรดกราฟิกการ์ดรุ่นประจำปี 2019 ที่มีราคาใกล้เคียงกันกับกราฟิกการ์ดในรุ่นปี 2016
สำหรับกราฟิกการ์ดที่จะนำมาเปรียบเทียบนี้นั้นจะประกอบไปด้วยกราฟิกการ์ดดังต่อไปนี้
จะเห็นได้ว่ากราฟิกการ์ดที่นำเอามาเปรียบเทียบนั้นทุกปี(หรืออย่างน้อยก็ 2 ปี) จะมีการเปลี่ยนไปใช้งานสถาปัตยกรรมใหม่ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องของการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ นั้นกราฟิกการ์ดในรุ่นเก่าๆ ก็คงไม่สามารถที่จะสู้กับกราฟิกการ์ดใหม่ๆ ได้แน่ๆ ทว่ากับกราฟิกการ์ดในราคาไม่เกิน 7,000 บาทนั้นอย่างไรแล้วก็คงไม่สามารถที่จะทำการเปิดฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นที่เราจะมาดูกันนี้นั้นก็จะเน้นเรื่องของการเล่นเกมที่ความละเอียด 1080p โดยทำการเปิดเอฟเฟคไปที่ High มาดูกันว่าในการทดสอบกับการเล่นเกมนั้นจะเป็นเช่นไรบ้าง
หมายเหตุ – ในการทดสอบนั้นใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i9-9900K ทำการทดสอบเพื่อที่จะได้ขับความสามารถของกราฟิกการ์ดออกมาให้ได้มากที่สุด
Game Benchmarks
เริ่มต้นกันที่เกมโหดๆ กินสเปคสูงอย่าง Battlefield V พร้อมด้วยการเปิดใช้ DirectX 12 โดยจากราฟนั้นจะเห็นได้ว่ากราฟิกการ์ดอย่าง R9 370X และ GTX 950 ได้เฟรมเรทต่ำสุดดังนั้นเราจะใช้กราฟิกการ์ดทั้ง 2 นี้เป็นพื้นฐานและดูว่ากราฟิกการ์ดอื่นๆ นั้นจะสามารถทำเฟรมเรทได้มากกว่ากราฟิกการ์ดทั้ง 2 อยู่ที่ระดับเท่าไร โดยหากเริ่มต้นจากกราฟิกการ์ดจากปี 2016 นั้นจะพบว่าสามารถที่จะทำเฟรมเรทได้มากกว่ากราฟิกการ์ดรุ่นเก่าอยู่ที่ 37% ตามมาด้วย GTX 1650 ที่สามารถทำเฟรมเรทได้มากกว่า GTX 1050 Ti ราวๆ 22% ส่วนกราฟิกการ์ดรุ่นล่าสุดจากทาง NVIDIA อย่าง GTX 1650 Super นั้นสามารถที่จะขับเฟรมเรทได้กว่าการ์ดที่เป็นตัวเก่าทั้ง 2 ตัวอยู่ที่ราวๆ 67% เลยทีเดียว
ในส่วนของกราฟิกการ์ดทางฝั่ง AMD นั้นถือว่ามีเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งมากเนื่องจากว่า RX 470 และ RX 570 สามารถขับเฟรมเรทออกมาได้สูงกว่าการ์ดรุ่นเก่าทั้ง 2 อยู่ถึง 103% เลยทีเดียวซึ่งในจุดนี้นั้นน่าจะเกิดมาจากการที่ตัวสถาปัตยกรรม GCN 4 นั้นมีประสิทธิภาพสูงกว่า GCN 1 และ Maxwell เป็นอย่างมาก ส่วนกราฟิกการ์ดรุ่นล่าสุดอย่าง RX 5500 XT นั้นพบว่าเป็นกราฟิกการ์ดที่สามารถขับเฟรมเรทเกม Battlefield V ออกมาได้สูงที่สุดในกราฟิกการ์ดที่นำมาทำการทดสอบ ทว่าเมื่อเอาไปเทียบกับกราฟิกการ์ดของทาง AMD เองอย่าง RX 570 และ RX 470 แล้วนั้นจะเห็นได้ว่าเผรมเรทที่ได้สูงกว่ากันแค่เพียงราวๆ 6% – 11% เท่านั้น
ต่อกันที่อีกหนึ่งเกมที่กินสเปคค่อนข้างมากกับ Call of Duty Modern Warfare ซึ่งจากผลการทดสอบนั้นพบว่า GTX 1050 Ti สามารถที่จะทำเฟรมเรทได้สูงกว่ากราฟิกการ์ดรุ่นเก่าที่ราวๆ 36% และหากเทียบกัล GTX 1650 แล้วนั้นจะเพิ่มขึ้นมาถึง 43% ส่วน GTX 1650 Super นั้นสามารถที่จะทำคะแนนการทดสอบได้สูงกว่า GTX 1650 ถึง 50% อย่างไรก็ตามแล้วถ้าเทียบกับ GTX 1050 Ti แล้วนั้นจะเห็นได้ว่า GTX 1650 Super สามารถที่จะทำเฟรมเรทได้มากกว่า GTX 1050 Ti ถึง 113% เลยทีเดียว
จุดที่น่าสนใจนั้นคงหนีไม้พ้นกราฟิกการ์ดจากทาง AMD ที่ทั้ง RX 470, RX 570 และ RX 5500 XT นั้นสามารถที่จะทำเฟรมเรมได้สูงกว่า GTX 1650 ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นประจำปี 2019 ของทาง NVIDIA ซะอีก ซึ่งในจุดนี้นั้นทำให้เห็นได้ว่าถึงแม้กราฟิกการ์ดอย่าง RX 470 และ RX 570 ซึ่งเปิดตัวออกมาในปี 2016 และ 2017 ตามลำดับนั้นกลับมาพร้อมกับความแรงมากกว่ากราฟิกการ์ดในปี 2019 ของทาง NVIDIA
เปลี่ยนแนวเกมกันบ้างกับเกมรถแข่งอย่าง F1 2019 ซึ่งผลการทดสอบนั้นก็น่าสนใจมากที่หราฟิกการ์ดประจำปี 2016 และ 2017 ของทาง AMD อย่าง RX 470 และ RX 570 ยังคงสามารถขับเฟรมเรทตัวเกมได้สูงกว่ากราฟิกการ์ดประจำปี 2019 ของทาง NVIDIA อย่าง GTX 1650 ซะอีก
วนกลับมาที่เกมแนว FPS กับ Far Cry New Dawn ที่ผลการทดสอบนั้นยังคงไม่แตกต่างไปจาก 2 เกมก่อนหน้านี้เท่าไรนักโดยจะเห็นได้ว่าทั้ง RX 470 และ RX 570 นั้นยังคงสามารถทีจะขับเฟรมเรทออกมาได้เป็นที่น่าประทับใจเช่นเดิม
ยังอยู่กับเกมแนว FPS อย่าง Gear 5 ที่พบว่าผลการทดสอบนั้นยังคงคล้ายกับ 3 เกมก่อนหน้านี้ที่ทั้ง RX 470 และ RX 570 ยังคงสามารถที่จะขับเฟรมเรทออกมาได้ดีเหมือนเดิม
เปลี่ยนแนวเกมนิดหน่อยมาเป็นเกมแนวมุมมองบุคคลที่ 3 กับ Star Wars Jedi: Fallen Order ซึ่งผลการทดสอบนั้นยังคงเหมือนกับเกมก่อนหน้านี้ที่กราฟิกการ์ดรุ่นเก่าของ AMD ทั้ง RX 470 และ RX 570 ยังคงสามารถที่จะขับเฟรมเรทออกมาได้ดีเหมือนเดิม ซึ่งในจุดนี้เริ่มทำให้เราเห็นได้แล้วว่าหากเล่นเกมโดยใช้ DirectX 11 แล้วนั้น กราฟิกการ์ดรุ่นเก่าอย่างทั้ง RX 470 และ RX 570 ยังคงสามารถที่จะใช้งานได้การเล่นเกมได้เป็นอย่างดีโดยเปรมเรทที่ได้นั้นก็ถือว่าน่าประทับใจเพราะอยู่ที่ราวๆ 60 FPS เลยทีเดียว
อีกหนึ่งเกมที่กินสเปคค่อนข้างจะโหดมากอย่าง Metro Exodus ซึ่งใช้ DirectX 12 แล้วนั้น ผลที่ได้น่าสนใจมากเพราะ RX 470 และ RX 570 สามารถที่จะขับเฟรมเรทออกมาได้ใกล้กับ GTX 1650 Super ของทาง NVIDIA
มาต่อกันที่การทดสอบกับเกม Rainbow Six Siege ที่ผลการทดสอบนั้นยังคงคล้ายๆ เดิมคือ RX 470 และ RX 570 สามารถที่จะขับเฟรมเรทออกมาได้ดีอยู่แถมยังถือว่าดีกว่า GTX 1650 ค่อนข้างที่จะมาก งานนี้นั้นจะเห็นได้ว่าถึงแม้จะเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นเก่าของทาง AMD แต่ด้วยความที่ทาง AMD นั้นได้ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี(แต่จะว่าไปแล้วนั้นเอาเข้าจริงๆ RX 470 และ RX 570 นั้นค่อนข้างจะเป็นกราฟิกการ์ดในระดับสูงประจำปีที่ออกของทาง AMD มากกว่าดังนั้นแล้วประสิทธิภาพที่ได้ก็ยังคงมากกว่ากราฟิกการ์ดในระดับล่างของทาง NVIDIA อยู่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้ว 2 – 3 ปีก็ตาม)
ดูกันต่อกับผลการทดสอบอีก 2 เกมอย่าง Assassin’s Creed Odyssey และ World of Tanks ที่พบว่าผลการทดสอบนั้นไม่ได้แตกต่างไปจากเกมก่อนหน้านี้มากเท่าไรนัก
ทีนี้ลองกลับมาดูเกมเก่าอย่าง Tomb Raider ซึ่งออกวางจำหน่ายในช่วงปี 2013 กันบ้าง โดยจากการทดสอบนั้นจะเห็นได้ว่าทุกๆ กราฟิกการ์ดยังคงสามารถที่จะใช้งานได้เป็นอย่างดีอยู่ จุดนี้นั้นทำให้เราได้เห็นว่าสำหรับเกมเก่าๆ แล้วนั้นทุกกราฟิกการ์ดที่นำมาทดสอบก็ยังคงสามารถที่จะขับเฟรมเรทออกมาได้เป็นอย่างดีอยู่ดังนั้นหากคุณเองไม่ได้ตามเล่นเกมที่ออกใหม่ๆ แบบทันทีแล้วล่ะก็กราฟิกการ์ดรุ่นเก่าที่คุณใช้อยู่นั้นก็ยังคงสามารถที่จะรองรับการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี
Power Consumption
แน่นอนว่าการทดสอบทั้งหมดนั้นสิ่งที่ควรคำนึงด้วยว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่คุณจำเป็นจะต้องเปลี่ยนกราฟิกการ์ดใหม่ก็คือเรื่องของอัตรการใช้พลังงานเนื่องจากว่ากราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับความแรงมากกว่าเดิมนั้นย่อมจะรับประทานพลังงานมากขึ้นไปด้วย ซึ่งจากกราฟทางด้านบนนั้นจะเห็นได้ว่ากราฟิกการ์ดอย่างในรุ่นล่างๆ นั้นจะมีอัตราการใช้พลังงานที่น้อยกว่ากราฟิกการ์ดรุ่นที่แรงกว่าเดิมอยู่แล้ว
หมายเหตุ – การพิจารณาในส่วนของอัตราการใช้พลังงานนั้นจะเป็นส่วนสำคัญมากๆ ที่จะทำให้เราๆ ท่านๆ ได้รู้ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องทำการเปลี่ยน Power Supply ใหม่
Performance Summary
สรุปแล้วนั้นการเล่นเกมที่ความละเอียดระดับ 1080p นั้นจะเห็นได้ว่าเมื่อเราหาค่าเฉลี่ยออกมาจะพบว่ากราฟิกการ์ดใหม่ๆ ย่อมต้องขับเฟรมเรทออกมาได้มากกว่ากราฟิกการ์ดรุ่นเก่าอยู่แล้ว แต่จากผลการทดสอบทั้งหมดนั้นจะเห็นได้ว่าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้งานกราฟิกการ์ดของทาง AMD อย่าง RX 470 และ RX 570 อยู่นั้น การยอมเสียเงินเพื่อที่จะเปลี่ยนมาเป็นกราฟิการ์ดในระดับเดียวกันที่ออกในช่วงปี 2019 นั้นก็ยังคงไม่จำเป็นมากนักเนื่องจากมันก็แรงพอตัวอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามแต่แล้วหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้มีปัญหามากเท่าไรนักกับการซื้อกราฟิกการ์ดมือ 2 การเปลี่ยนมาใช้ GTX 1070 Ti ที่ ณ เวลานี้มีราคาในการวางจำหน่ายอยู่ที่ราวๆ 6,xxx บาทนั้นก็ถือได้ว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก(โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าตัวการ์ดยังคงมีประกันอยู่) ทว่าสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงด้วยนั้นก็คือหน่วยประมวลผลที่คุณใช้งานอยู่เป็นรุ่นเก่ามากขนาดไหนเพราะจากการทดสอบทั้งหมดนี้นั้นได้ทำการทดสอบด้วย Core i9-9900K ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยประมวลผลระดับสูง หากคุณยังใช้หน่วยประมวลผลที่เป็นรุ่นเก่ามากๆ อยู่นั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องคอขวดระหว่างหน่วยประมวลผลกับกราฟิกการ์ดขึ้นได้ทำให้ประสิทธิภาพที่ได้นั้นอาจจะไม่สูงมากอย่างที่ควรจะเป็น
ที่มา : techspot