Connect with us

Hi, what are you looking for?

Tips & Tricks

วิธีใส่ไฟล์ PDF ลงไปบน PowerPoint

How to Insert a PDF into Microsoft PowerPoint

เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าไฟล์ที่มาในรูปแบบ PDF นั้นเต็มไปด้วยข้อมูลต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นในการที่จะนำเอาข้อมูลต่างๆ บนไฟล์ PDF โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรูปภาพที่อยู่ในไฟล์ PDF ถือว่าเป็นที่ค่อนข้างยุ่งยากและต้องทำหลายขั้นตอนด้วยกัน ที่หนักกว่านั้นแล้วในการทำสไลด์สำหรับการนำเสนองานด้วย PowerPoint โดยที่อยากจะนำเอาข้อมูลบน PDF ไปลงเอาไว้นั้นยิ่งยากไปกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้วในบทความนี้เราจะขอนำเสนอวิธีการนำเอาข้อมูลที่อยู่บนไฟล์ PDF มาลงเอาไว้ใน PowerPoint ให้ทุกท่านได้ทราบและนำไปประยุกต์ใช้กัน

Advertisement

xstock lede microsoft office powerpoint

สำหรับวิธีการในการนำเอาข้อมูลในไฟล์ PDF เข้าไปไว้ในไฟล์ PowerPoint นั้นจะมีอยู่ 2 วิธีด้วยกันซึ่งนั่นก็คือวิธีมาตรฐานอย่างการจับภาพหน้าจอแล้วใส่ลงไปในรูปแบบของรูปภาพและอีกวิธีนั้นก็คือการนำเอาไฟล์ PDF ขึ้นเป็นวัตถุหนึ่งบนไฟล์ PowerPoint เลย มาดูกันว่าแต่ละวิธีนั้นต้องทำอย่างไรและข้อดีข้อเสียนั้นจะเป็นเช่นไร

การจับภาพหน้าจอแล้วใส่ลงไปในรูปแบบของรูปภาพ

จุดเริ่มต้นของวิธีการนี้นั้นเราต้องทำการจับภาพหน้าจอของไฟล์ PDF ก่อน ซึ่งบน PowerPoint นั้นก็ได้มีการใส่ฟีเจอร์ดังกล่าวนี้มาด้วย ทว่าในการใช้งานนั้นคุณจะต้องทำการเปิดทั้งไฟล์ PDF และ PowerPoint ไปพร้อมๆ กันโดยที่จะต้องทำให้ไฟล์ PDF นั้นแสดงในส่วนของหน้าจอที่คุณต้องการจะจับภาพ สำหรับวิธีการใช้ฟีเจอร์การจับภาพหน้าจอบน PowerPoint นั้นจะมีดังต่อไปนี้

PowerPoint Insert Screenshot

เริ่มต้นบน tab เมนูหลักให้คุณเลือกอเข้าไปที่ Insert หลังจากนั้นคุณจะเห็นคำสั่ง “Screenshot” เพื่อที่จะทำการจับภาพดังรูปต่อไปนี้

xPowerPoint Screenshot Options.png.pagespeed.gpjpjwpjwsjsrjrprwricpmd.ic .yWzM1gIy3C

เมื่อเลือกจับภาพหน้าจอของไฟล์ PDF แล้วนั้นบน PowerPoint จะมีการเพิ่มรูปดังกล่าวเข้าไปในสไลด์ที่คุณกำลังทำงานอยู่

PowerPoint Screenshot Screen Clipping

อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณต้องการที่จะทำการจับภาพในส่วนของไฟล์ PDF เป็นบางส่วนเท่านั้นคุณสามารถที่จะเลือกไปที่คำสั่ง “Screen Clipping” เพื่อที่จะทำการจับภาพมาบางส่วนได้ โดยวิธีใช้งานนั้นก็จะคล้ายๆ การ Crop รูปนั่นเอง

สำหรับวิธีแรกนั้นมีข้อดีอยู่ที่มันสามารถที่จะทำการจับภาพหน้าจอจากโปรแกรมอื่นๆ เข้าไปได้ด้วย ทว่าข้อเสียนั้นก็ดูน่าจะรำคาญไปหน่อยสำหรับคนที่ต้องการนำเอาไฟล์ PDF ที่มีจำนวนหลายหน้าเพราะนั่นหมายความว่าคุณจะต้องทำวนซ้ำวิธีดังกล่าวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสามารถจับภาพได้ตามที่คุณต้องการ

การนำเอาไฟล์ PDF ขึ้นเป็นวัตถุหนึ่งบนไฟล์ PowerPoint

มาต่อกันที่วิธีการที่ 2 กับการนำเอาไฟล์ PDF ขึ้นไปเป็นวัตถุหนึ่งบนไฟล์ PowerPoint โดยในขึ้นตอนการทำนั้นจะมีดังต่อไปนี้

PowerPoint Insert Object

เริ่มต้นให้คุณเลือกไปที่ tab “Insert” เช่นเดิมแต่ในครั้งนี้นั้นให้เลือกไปที่ “Object” ซึ่งจะอยู่ที่บริเวณ “Text”

PowerPoint Insert Object Menu

เมื่อเลือกไปแล้วนั้นจะขึ้นหน้าต่าง Insert Object ให้คุณเลือกไปที่ “Create from File” แล้วเลือกไปที่ “Browse” จากนั้นให้เลือกไปยังไฟล์ PDF ที่คุณต้องการจะนำเข้ามาใช้งานใน PowerPoint ทว่าก่อนที่จะเลือกนั้นคุณต้องทำการปิดไฟล์ PDF นั้นก่อนเพราะไม่อย่างนั้นแล้วจะไม่สามารถนำขึ้นมาใช้งานบน PowerPoint ได้

PowerPoint Inserted Object

เมื่อเลือกขึ้นมาแล้วนั้นตัวไฟล์ PDF จะเข้ามาแสดงอยู่ที่หน้าจาสไลด์ ซึ่งคุณสามารถที่จะเพิ่มลดขนาดได้ตามต้องการ ในการใช้งานนั้นเมื่อคุณทำการนำเสนออยู่แล้วต้องการที่จะเปิดไฟล์ PDF ดังกล่าวขึ้นมาให้ทำการ Double-clicking บนวัตถุ PDF แล้วตัวไฟล์ PDF นั้นจะถูกเปิดขึ้นมาตามโปรแกรมที่คุณได้ตั้งค่าหลักในการเปิดไฟล์ PDF เอาไว้ เมื่อใช้งานเสร็จคุณก็ทำการเปิดโปรแกรมดังกล่าวตัวสไลด์ก็จะกลับมาสู่หน้าจอเดิม

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าวิธีการนำไฟล์ PDF ขึ้นมาเป็นวัตถุหนึ่งของ PowerPoint นั้นจะดูง่ายกว่า ทว่ามันก็ไม่เหมาะสมเท่าไรนักหากคุณมีเพียงบางส่วนของไฟล์ PDF ที่ต้องการนำขึ้นมาใช้เนื่องจากว่าการนำไฟล์ PDF มาเป็นวัตถุใน PowerPoint นี้นั้นจะเป็นการนำเข้าไฟล์ PDF ทั้งหมดทุกหน้า ดังนั้นแล้วก็ลองเลือกดูว่าความต้องการของคุณนั้นจะเหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบไหน

ที่มา : howtogeek

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก