Notebook ช่วงปลายปี 2019 ถือว่ามีน้ำหนักของตัวเครื่องที่เบาสุดๆ กับประเภท Ultrabook เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่เป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับ Notebook เมื่อก่อน ด้วยน้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมนิดๆ หรือบางรุ่นไม่ถึง 1 กิโลกรัมด้วยซ้ำ ที่สำคัญยังมาพร้อมกับราคาที่ถูกลงเป็นอย่างมาก ทำให้เราสามารถหาซื้อมาใช้งานกันได้แบบไม่ยากนัก กับราคาเพียงหลักหมื่นบาทต้นๆ เท่านั้นเอง โดยตัวสเปกเองก็มีให้เลือกหลากหลาย ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 10 รุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึงสเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน
สำหรับแบรนด์ Acer ก็ได้นำเสนอ Swift Series รุ่นใหม่ออกมาแล้ว ที่นับว่าเป็น Notebook สายทำงานหน้าจอขนาด 14″ พาเนล IPS สีสันสดใส ที่มีความบางเบาเป็นพิเศษ ซึ่งแบ่งออกเป็น Acer Swift 3 ที่ได้ราคาเริ่มต้นถูกที่สุดเพียง 13,990 บาท ด้วยน้ำหนัก 1.19 กิโลกรัม หรือถ้าขยับความพรีเมียมขึ้นมาก็จะเป็น Acer Swift 5 ที่เบายิ่งกว่าที่ 990 กรัม หรือถ้าไปในสุดในระดับท็อปก็จะเป็น Acer Swift 7 ที่นับว่าเป็น Notebook หน้าจอ 14″ ที่เล็กกระทัดรัดที่สุดในโลกรุ่นนึง ซึ่งเบาเพียง 890 กรัม และบางที่ 9.95 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Notebook หน้าจอ 14″ ที่ดีที่สุดจาก Acer Swift Series กัน ทั้งสเปกและราคาแต่ละรุ่น
Acer Swift 3 ราคา 13,990 – 23,990 บาท
Acer Swift 3 ปี 2019 ได้สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Ice Lake เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร ทั้ง Core i3-1005G1 / Core i5-1035G1 / Core i7-1065G7 ที่แรงกว่าเดิม พร้อมจัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า การพกพา ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.19 กก. และบางเพียง 15.95มม. เท่านั้น ได้ดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ และสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมกว่าเดิม เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า หรูหรา บางเบา จบครบในเครื่องเดียว ได้ประกัน 2 ปี หรือ 3 ปียาวๆ โดยปีแรกจะเป็นแบบ On-site Service ด้วย พร้อมได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,290 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ด้วย สำหรับสเปก i5 / i7
Acer Swift 3 สเปก Intel Core i3 Gen 10 รุ่นใหม่ล่าสุด ใช้วัสดุประกอบหลักเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์คุณภาพดีให้สัมผัวใกล้เคียงกับรุ่นปีอย่าง Acer Swift 5 โดยสีสันเป็น Steel Gray ออกแนวเทาๆ เงินๆ หรือสีชมพู Millennial Pink ที่เหมาะกับทั้งหนุ่มๆ ลุคเท่แบบคลูๆ หรือสาวๆ ที่ดูน่ารักสดใส น่าใช้งานไม่แพ้กัน ซึ่งทั้งตัวเครื่องให้ความบางเบาแต่แข็งแรง กับแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเป็น 10 ชั่วโมง พร้อมยังสามารถชาร์จได้รวดเร็วด้วยการชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง
ที่สำคัญคือเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ จัดได้ว่ามีราคาที่ถูกลงกว่าเดิมมากๆ กับราคาเริ่มต้นเพียง 13,990 บาท อีกทั้งยังได้ความบางเบาและมีพอร์ต Thunderbolt 3 ซึ่งนับว่าเหลือเชื่อมากๆ โดยรองรับทั้งการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง การต่อหน้าจอความละเอียดสูง และการชาร์จไฟผ่านทาง USB PD อย่างที่โน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ Intel Core i Gen 10 ที่แบรนด์อื่นๆ ไม่ค่อยจะให้มา ทำให้เราสามารถชาร์จไฟผ่าน Power Bank รุ่นที่รองรับได้เลย
Acer Swift 3 แบ่งออกเป็น 3 รุ่น 3 สเปก 3 ราคา รุ่นแรกราคา 13,990 บาท ได้ชิปประมวลผล Intel Core i3-1005G1 (1.20 GHz, 4 MB L3 Cache up to 3.40 Ghz) ทำงานแบบ 2 คอร์ 4 เธร์ดที่เพียงพอกับงานทั่วไป ส่วนการ์ดจอออนชิปก็เป็นรุ่นใหม่ Intel UHD Graphics G1 เช่นกัน ได้แรม 4GB DDR4 2400MHz และ SSD PCIe ความจุ 256GB หน้าจอขนาด 14″ แบบด้านเป็นพาเนล IPS ความละเอียด Full HD แบบจอด้านลดแสงสะท้อน พร้อมได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส มีค่าขอบเขตสี sRGB ที่ 61% จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีระดับนึง
อีก 2 รุ่น คือ Core i5-1035G1 ราคา 20,990 บาท และ Core i7-1065G7 ราคา 23,990 บาท พ่วงด้วยการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX250 รุ่นใหม่จาก NVIDIA ได้แรม 8GB และ SSD PCIe ความจุ 512GB หน้าจอเป็นพาเนล IPS ความละเอียด Full HD พร้อมระบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ซึ่งโดยรวมแล้วรองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ และลื่นไหลแน่นอน ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,290 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นทั้ง 3 สเปกเหมือนกัน โดยมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบครัน โดดเ่นด้วย Thunderbolt 3 (เป็น USB 3.1 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก และ Card Reader มาให้ด้วย ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด
สนนราคาสเปก Core i3 ราคา 13,990 บาท ส่วนสเปก Core i5 ราคา 20,990 บาท จะได้ประกันเป็น 2 ปีส่งเคลมศูนย์ปกติ ส่วนสเปก Corei7 ราคา 23,990 บาทจะได้ประกันเป็นแบบ 3 ปี โดยปีแรก On-site Serive ซ่อมฟรีถึงบ้าน และกรณีส่งซ่อมตามศูนย์ก็จะซ่อมอย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมงเหมือนกัน แต่รุ่น i3 มีความแตกต่างนอกจากงสเปกและฟีเจอร์เมื่อเทียบกับรุ่น Core i5/i7 อยู่หลายส่วน ก็คือการตัดในส่วนของไฟคีย์บอร์ดได้นำออกไปด้วย เรียกได้ว่าถ้าเทียบประสบการณ์ใช้งานก็มีความต่างอยู่บ้าง
- Core i3-1005G1 / RAM 4GB / SSD 512GB ประกัน 2 ปี : ราคา 13,990 บาท
- Core i5-1035G1 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB ประกัน 2 ปี : ราคา 20,990 บาท
- Core i7-1065G7 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB ประกัน 3 ปี : ราคา 23,990 บาท
Acer Swift 5 ราคา 29,990 – 34,990 บาท
Acer Swift 5 SF514-54 ปี 2019 สเปก Core i Gen 10 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่เบามากๆ โดดเด่นด้วยค่าขอบเขตสี sRGB ที่ 97% ซึ่งถือว่าสูงมากๆ โดยมีน้ำหนักแค่ 990 กรัมออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบโน๊ตบุ๊ครูปทรงกะทัดรัด พกพาง่าย ทำจากวัสดุที่แข็งแกร่งทนทาน เรียกได้ว่าถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ ที่เบาที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดก็ว่าได้ ส่วนความบางอยู่ที่ 14.95 มิลลิเมตร แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คพกพามาตรฐานระดับสูงอยู่ดี อีกทั้งในรุ่นใหม่นี้ได้ดีไซน์พิเศษโดยมียางรองขอบเครื่องด้านหลังช่วยยกตัวเครื่องให้เอียงสูงขึ้นเมือเรากางหน้าจอ ส่งผลให้พิมพ์ง่ายขึ้นและมุมมองดีขึ้นด้วย
บ่งบอกถึงสไตล์ผู้ใช้งาน ตัวเครื่อง Acer Swift 5 มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กิโลกรัม แน่นอนว่าง่ายต่อการพกพา อีกทั้ง Acer Swift 5 ยังผลิตจากวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ตัวฐาน บริเวณที่วางมือ และฝาครอบทำจากอลูมิเมียนผสมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษแต่ก็ยังแข็งแรงและทนทาน กับสีสัน Charcoal Blue พร้อมแซมด้วยสีทองตามจุดต่างๆ เหมาะทั้งหนุ่มๆ หรือสาวๆ ยุคใหม่ที่ดูทันสมัยสวยงามลงตัว ส่วนสี Moonstone White ก็นับว่าเป็นอีกสีที่ดูหรูหราไม่แพ้กัน
ซึ่งนอกเหนือจากทำให้เรามั่นใจในการใช้งานที่ดูแล้วไม่แตกหักง่ายๆ ยังเสริมภาพลักษณ์ที่ดูสวยงาม หรูหรา ทั้งๆ ที่ราคาไม่แพงจนเกินไปด้วย ตามมาตรฐาน Acer ที่ปกติแล้วดีไซน์จะสวยงามแบบเรียบๆ พร้อมความทนทานที่ให้ได้มากกว่า ส่วนอแดปเตอร์แทบไม่ต้องพกติดไปด้วย เพราะใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง นับได้ว่าเป็นการเปลี่ยนความรู้สึกแบบแต่ก่อน ที่เราต้องคอยพกพาโน๊ตบุ๊คน้ำหนักกิโลกว่า หรือถ้ารวมอแดปเตอร์ด้วยก็อาจจะปาเข้าไปเป็น 2 กิโลกรัมได้เลย เพราะเบากว่าเดิมมากๆ ถือมือเดียวสบาย
Acer Swift 5 ปี 2019 สเปก Core i Gen 10 มาพร้อมกับ 2 สเปก 2 ราคา ที่เป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-1035G1 (1.0 – 3.6GHz) หรือ Intel Core i7-1065G7 (1.3 – 3.9GHz) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลที่ดีและสามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้ที่ต้องบอกว่าแรงมากๆ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ พร้อมการ์ดจอออนชิปรุ่นใหม่ทั้ง G1 / G7 ที่ดีขึ้นกว่าเดิม และด้วยการที่เป็นสถาปัตยกรรม Ice Lake เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตรรุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้ร้อนน้อยกว่าเดิม พร้อมประสิทธิภาพของ AI ที่เร็วขึ้น 2.5-3 เท่า
มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB – 16GB DDR4 และ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ รองรับการสำรองไฟล์ต่างๆ ได้แบบสบายๆ สนับสนุนการทำงานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ ส่วนความบันเทิงดูหนังฟังเพลง ชม Netflix ก็สบายๆ ไปอีก และพอที่จะใช้งานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็พอได้บ้าง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติก็ลื่นไหล จากการที่มีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5) ที่แรงพอๆ กับ GTX 950M เลยทีเดียว
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ เช่น Thunderbolt 3 (เป็น USB 3.1 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก และ Card Reader มาให้ด้วย ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด ได้ประกันจะเป็นแบบ 3 ปี โดยปีแรกเป็นแบบ On-site Serive ซ่อมฟรีถึงบ้าน และกรณีส่งซ่อมตามศูนย์ก็จะซ่อมอย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมงอีกด้วย ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,290 บาท) มาใช้งานทันที นับว่าคุ้มค่าจริงๆ ที่เหนือกว่าหลายๆ แบรนด์
- Core i5-1035G1 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB ราคา 29,990 บาท
- Core i7-1065G7 / MX250 / RAM 16GB / SSD 512GB ราคา 34,990 บาท
Acer Swift 7 ราคา 49,990 บาท
Acer Swift 7 เป็นโน๊ตบุ๊คที่บางมากๆ ซึ่งทาง Acer เคลมว่าบางที่สุดในโลก โดยมีความบางของตัวเครื่องเพียง 9.95 มิลลิเมตร ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบโน๊ตบุ๊ครูปทรงกะทัดรัด พกพาง่าย ทำจากวัสดุแมกนีเซียมและอลูมิเนียมอัลลอยด์แบบไร้รอยต่อที่แข็งแกร่งทนทานพร้อมความพรีเมียมที่สุด โดยมี 2 สีสันให้เลือก คือ Starfield Black / Moonstone White
เรียกได้ว่าถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ ที่เบาที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดก็ว่าได้ ส่วนน้ำหนักอาจจะไม่เบาที่สุด โดยอยู่ที่ 890 กิโลกรัม แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คพกพาทั่วไปมากๆ มีระบบปฏิบัติการ Windwos 10 ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทันที และสามารถใช้งาน Windows Hello ได้ผ่านทางสเแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งาน โดยเป็นปุ่มเดียวกันกับปุ่ม Power
ฝาหลังมีการใช้เทคโนโลยี Micro-Arc Oxidation เป็นการใช้ไฟฟ้าสูงกว่า 10,000 โวลต์เผาวัสดุอลูมิเนียมก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีถึงระดับจุลภาค กำเนิดเป็น Magnesium-Lithium พื้นผิวเซรามิคเคลือบทับวัสดุ Magnesium Alloys อีกที ทำให้ตัวเครื่อง Acer Swift 7 ทนทานต่อรอยขีดข่วนเรียบหรูคงทน พร้อมความหรูหราและสวยงาม แตกต่างจาก Ultrabook รุ่นอื่นๆ ทั่วไป ที่สำคัญสิบเนื่องมาจากขอบหน้าจอที่บางสุดๆ แต่ก็ยังเลือกติดตั้งกล้อง Webcam มาให้ จึงได้ติดตั้งเป็นแบบ Pop Up เอาไว้ที่ขอบจอด้านบน
สเปกของ Acer Swift 7 (2019) มีเพียงรุ่นเดียวสเปกเดียว แต่มีในเลือก 2 สีสัน คือ Starfield Black / Moonstone White สนนราคาที่ 49,990 บาท โดยเลือกใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-8500Y (Amber Lake-Y) ทำงานแบบ 2 คอร์ 4 เธร์ด กับความเร็วที่ 1.50 – 4.20 GHz โดยมีค่า TDP การกินไฟที่ต่ำมากๆ เพียง 3.5 – 7 Watt เท่านั้น ทำให้ความร้อนที่ปลดปล่อยออกมานั้นน้อยจนไม่จำเป็นต้องมีพัดลมระบายความร้อน ซึ่งแม้ว่าจะเป็น Core i Gen 8 แต่ก็ยังมีความน่าสนใจเพราะเป็นตระกูล Y นั่นเอง
นับได้ว่าน้อยรุ่นนักที่จะใช้ชิปประมวลผลประเภทนี้ จากการที่เน้นความบางสุดๆ นั่นเอง หน่วยความจำแรมติดตั้งมาให้ขนาด 16GB แบบ DDR3L การ์ดจอเป็นออนบอร์ด HD 615 เน้นใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการดูหนัง มากกว่าการเล่นเกม พร้อมฮาร์ดดสก์แบบ SSD NVMe ความจุ 512 GB หน้าจอ 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูง มีค่าขอบเขตสี sRGB ที่ 90% และได้ระบบสัมผัสทัชสกรีนแบบ 10 จุดพร้อมๆ กัน โดยใช้กระจกจอ Corning Gorilla Glass 6 ที่แข็งแรงทนทาน
นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดอย่างพอร์ต Thunderbolt 3 (USB-C) จำนวน 2 พอร์ต ที่รองรับทุกอุปกรณ์สมัยใหม่ อย่าง DisplayPort / USB 3.1 Gen 2 รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับอแดปเตอร์จ่ายไฟด้วย โดยมีช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรมาให้ปกติ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายจะได้มาตรฐาน Wi-Fi 6 อย่าง 802.11ax with 2×2 MU-MIMO technology และ Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 แน่นอนว่ายังมีกล้องเว็บแคมความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล ส่วนน้ำหนักตัวเครื่อง 890 กรัม ที่สำคัญยังติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือในปุ่มเปิดในปุ่มเดียงอีกด้วย
แน่นอนว่าได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้พร้อมใช้งาน ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,290 บาทมาใช้งานฟรีๆ อีกด้วย สำหรับการประกันจะเป็นแบบ 3 ปี (On-site ปีแรก) ซ่อมฟรีถึงบ้าน รวมไปถึงมีบริการซ่อมรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมงอีกด้วย เรียกได้ว่าเราสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจหายห่วงได้เลย