หลายคนที่เล่นเกม ส่วนใหญ่ ก็มักให้ความสำคัญกับหูฟังในการเล่นที่จริงจังมากขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นส่วนตัว ก็ยังทำให้เข้าถึงเกมได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะการหูฟังรุ่นใหม่ๆ ที่มักจะสนับสนุนระบบเสียงรอบทิศทาง ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการเล่นเกมในปัจจุบัน ทั้งเกมแอ็คชั่นหรือแนว Adventure ก็มักจะมีเรื่องของเสียงมาสร้างความได้เปรียบ นอกเหนือจากการเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมนั่นเอง วันนี้เรามี หูฟัง RAZER มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับคุณ ในซีรีส์ของ KRAKEN X นั่นเอง
หูฟัง RAZER KRAKEN X USB เป็นหูฟังเกมมิ่งในสายพันธุ์ของ KRAKEN ที่ได้รับความนิยมอีกรุ่นหนึ่งในท้องตลาดบ้านเรา สำหรับคอเกมที่ให้ความสำคัญกับเสียงและความคุ้มค่า เพราะโดยมากจะเปิดราคามาเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า แบบที่เอื้อมถึง ซื้อได้ง่าย อีกทั้งดีไซน์ก็เรียกว่า ไม่เคยตกยุค กับรูปทรงที่ไม่ค่อยหวือหวา โดยครั้งนี้ KRAKEN X จะยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของ Comfort หรือความสบาย เพื่อให้คอเกมเล่นสนุกกับการเล่นเกมได้ยาวนาน กับการใช้เมมโมรีโฟม ในส่วนของรองศีรษะและครอบหูฟัง รวมถึงน้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษ ความกระชับของ Headband ที่แน่นกระชับ ไม่บีบหูจนเกินไป ใส่ระบบเสียง 7.1-channel ที่มีความสำคัญและสร้างความได้เปรียบให้กับการเล่นเกม และไดรเวอร์ขนาด 40mm ที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้เป็นอย่างดี กับสนนราคาที่สบายกระเป๋า เมื่อเทียบกับหูฟังในระดับเดียวกัน แต่ทาง RAZER ไม่ได้เติมเรื่องของสีสันให้กับหูฟังรุ่นนี้มากนัก จะต่างจาก KRAKEN Ultimte รุ่นพี่อยู่พอสมควรในจุดนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นน้อง แต่ทาง RAZER ก็วางตำแหน่งของหูฟังรุ่นนี้ได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะในเรื่องของราคา ที่เกมเมอร์มือใหม่ หรือใครที่จะเริ่มต้นกับการเล่นเกมอย่างจริงจัง ไม่ควรพลาด
Specification
At a Glance
- 7.1 Surround Sound
- Ultra-light at 250g
- Bendable Cardioid Microphone
- Custom-Tuned 40 mm Drivers
- On-headset Controls
- Cross-Platform Compatibility
Headphones
- Frequency response: 12 Hz – 28 kHz
- Impedance: 32 Ω @ 1 kHz
- Sensitivity (@1 kHz): 109 dB
- Drivers: 40 mm, with Neodymium magnets
- Inner ear cup diameter: 65 x 44 mm
- Connection type: Analog 3.5 mm
- Cable length: 1.3 m / 4.27 ft.
- Approx. weight: 250g / 0.55lbs
- Oval ear cushions: Designed for full-ear coverage with leatherette, for sound isolation and comfort
Microphone
- Frequency response: 100 Hz – 10 kHz
- Signal-to-noise ratio: > 60 dB
- Sensitivity (@1 kHz): -45 ± 3 dB
- Pick-up pattern: Unidirectional ECM boom
- On-earcup controls
- Volume up and down
- Microphone quick mute toggle
- Audio Usage
- Audio Usage: Devices with 3.5 mm audio jack
- Audio + microphone usage: Devices with 3.5 mm audio + mic combined Jack
- Audio / mic splitter adapter cable usage: Devices with separate 3.5 mm audio and microphone jacks
การออกแบบและฟังก์ชั่น
กล่องของหูฟัง KRAKEN X USB นี้ เรียกว่าแทบไม่ได้ต่างไปจากก่อนหน้านี้มากนัก ด้านหน้ามาพร้อมฟีเจอร์หลัก และภาพกราฟิกของตัวหูฟัง ให้เห็นอย่างชัดเจน
ด้านหลังกล่องเป็นรายละเอียดของหูฟัง ทั้งเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นต่างๆ มาให้ตัดสินใจครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟที่ Earcup, ครอบศีรษะปรับได้, น้ำหนักเบาด้วยเมมโมรีโฟมหรือจะเป็นไดรเวอร์ 40mm เป็นต้น
ด้านในกล่อง หูฟัง RAZER รุ่นนี้ มาพร้อมเอกสารของหูฟังและรายละเอียดการใช้งานของหูฟังรุ่นนี้
สายต่อที่มีมาให้เป็นแบบ USB ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับพีซี โน๊ตบุ๊คและเครื่องเล่นเกมคอนโซล
ดีไซน์เรียกว่าหล่อเหลาเอาการ กับโครงสร้างสีดำ พร้อมโลโก้แสงไฟสีเขียวด้านข้าง บริเวณครอบหูฟัง ขนาดกระทัดรัด
ครอบศีรษะเป็นเมมโมรีโฟม หุ้มด้วยหนัง มีความนุ่มนวล งานตัดเย็บปราณีตเลยทีเดียว
ครอบหูฟังเป็นแบบ Close back ตามสไตล์ของ Earcup แบบนี้ ยังคงเน้นที่เบสหนัก และเอฟเฟกต์เยอะ ซึ่งจากที่ลองเล่นต้องบอกว่าเป็นอีกรุ่นที่ RAZER ค่อนข้างเน้นเป็นพิเศษ เหมือนตั้งใจลุยตลาดเกมเมอร์มือใหม่และคอเกมที่ไม่สนใจเรื่องรูปลักษณ์สีสันมากนัก แต่ได้อารมณ์ในการเล่นเต็มที่มากขึ้น
ครอบหูฟังหรือ Earcup นั้น ออกแบบโดยใช้วัสดุที่เป็นเมมโมรีโฟม หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์อีกชั้นหนึ่ง เพื่อเน้นความนุ่มสบาย และสามารถกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีทีเดียว สำหรับใครที่ถูกจริตกับสไตล์หุ้มด้วยหนังแบบนี้ น่าจะชื่นชอบไม่น้อย
บนครอบหูฟังนั้น มีการติดตั้งตัวควบคุมเสียงมาให้ด้วยเลย เพื่อให้ผู้ใช้เลือกปรับได้ตามสะดวก นอกเหนือจากการปรับบนคีย์บอร์ด หรือซอฟต์แวร์ รวมถึงปุ่ม Mute หรือปิดเสียงไมโครโฟนมาด้วย
ไมโครโฟนเป็นก้านขนาดเล็ก ถอดออกไม่ได้ และดันเข้าไปเก็บไม่ได้เช่นกัน ซึ่งจะต่างจากหูฟังรุ่นพี่ๆ ที่มักจะทำได้ แต่ทาง RAZER ก็ออกแบบให้ก้านปรับตามความต้องการได้ อีกทั้งพับเก็บได้สะดวก
Headband ปรับได้ 8 ระดับ ทำให้การสวมใส่สบายยิ่งขึ้น เพราะเลือกปรับได้ตามขนาดศีรษะของแต่ละบุคคล โดยที่การครอบจะเป็นลักษณะของการหนีบเข้าโดยตรง และใช้เมมโมรีโฟมที่ครอบหู เพื่อถ่ายน้ำหนักให้สวมได้ง่าย
เมื่อเสียบสาย USB เข้ากับเครื่องเล่น เช่น โน๊ตบุ๊คหรือเกมคอนโซล จะมีไฟปรากฏบนโลโก้สีเขียวด้านข้าง จะต่างจากรุ่นพี่ๆ ที่มีแสงตรงจุดที่เป็น Earcup หรือเป็นไฟ Chroma นั่นเอง
แสงไฟไม่ได้เน้นความเวอร์วัง เอาแค่พอมีแสงสว่างให้ดูสวยงาม บนโลโก้สีเขียวที่สะดุดตาไม่น้อย
การสวมใส่ค่อยข้างสบายศีรษะไม่น้อยเลย ส่วนหนึ่งเพราะน้ำหนักที่เบามาก เรียกว่าใส่เหมือนไม่ได้ใส่ ในจุดที่เป็น Headband ก็ปรับได้หลายระดับ เลื่อนไปมาได้ง่าย แม้เวลาที่เล่น จุดที่รองศีรษะก็มีขนาดไม่ใหญ่มาก น้ำหนักที่ลงบนศีรษะทั้ง 3 จุดคือ บน ข้างและครอบหู ถูกกระจายน้ำหนักได้อย่างลงตัว
แม้จะใช้ไดรเวอร์ขนาด 40mm แต่เรื่องเสียงไม่ธรรมดาเลย ด้วยเสียงกลางที่หนักพอสมควร กับเสียงแหลมที่เก็บได้ดีในระดับหนึ่ง ก็ทำให้การเล่นเกมประเภทแอ็คชั่น ประเภทยิงหูดับ ถล่มด้วยอาวุธหนัก หรือจะเป็นรายละเอียดของห่ากระสุนที่ถล่มเข้ามา ก็ยังถือว่าทำได้ดีทีเดียว
ส่วนในเรื่องของเอฟเฟกต์บนเกมนั้น เสียงกลาง อาจจะไม่ได้ลุ่มลึกนัก ตามสไตล์ของหูฟัง แต่ก็มีบึ้มบั้มให้ได้สัมผัสกันในบางจังหวะ แต่ถ้าเอาไปใช้ในการฟังเพลง ดูคอนเสิร์ท เสียงกลางจะค่อนข้างเด่นขึ้นมาเหมือนกัน
ส่วนในแง่ของทิศทางเสียงในการเล่นเกม บอกได้เลยว่า หูฟัง RAZER เป็นอีกรุ่นหนึ่ง ที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการของเกมเมอร์ได้ดี สามารถจับทิศทางศัตรูได้ง่ายขึ้น รวมถึงการจับสังเกตของสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ดีกว่า ซึ่งหากใครที่ไม่เคยได้ใช้หูฟังแนวนี้ น่าจะสัมผัสได้ดีถึงการเปลี่ยนแปลง
Conclusion
สำหรับใครที่เคยเป็นแฟนของ หูฟัง RAZER ในซีรีส์ KRAKEN มาก่อน เชื่อว่าการเปลี่ยนมาใช้ KRAKEN X ใหม่นี้ น่าจะยังคงกลิ่นอาย และสัมผัสเดิมๆ ของความหนักแน่นและการสวมใส่ที่สบายของหูฟังรุ่นนี้ได้ไม่เปลี่ยน กับเสียงกลางที่กว้างแต่ไม่ลึก และเสียงแหลมที่เก็บรายละเอียดได้พอสมควร ตอบโจทย์คอเกม ที่ชื่นชอบการเล่นแนวแอ็คชั่น บุกตะลุยไม่ทุกย่าน ตั้งแต่ FPS พื้นฐาน ไปยัน Open World ด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง ที่เรียกว่าให้คุณมันส์ได้ ตั้งแต่ในสนามรบกลางดงระเบิดในเกม Battlefield V หรือความสะใจในดงกระสุนของ PUBG และอารมณ์การเบียดบี้ไล่ปาดกันใน NFS ซึ่งทำให้คุณได้อิ่มเอมใจไปกับเสียงกลางอันจัดจ้านของหูฟังรุ่นนี้อย่างแน่นอน กับสนนราคาที่เกมเมอร์ระดับไหนก็ตาม สามารถเอื้อมได้ถึง ใครสนใจก็ไปลองกันได้เลยตามร้านค้า ถือว่าช้อปเป็นของขวัญปลายปีได้เลย
จุดเด่น
- น้ำหนักเบาแค่ 250 กรัม
- หูฟังแม่เหล็กนีโอดายเมียม ให้เสียงที่มีคุณภาพ
- สวมสบาย ปรับเลื่อนได้สะดวก
- การเชื่อมต่อผ่าน USB ทำให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย
- มีปุ่มปรับเสียงบนตัวหูฟัง
ข้อสังเกต
- ไมโครโฟนเป็นแบบก้านเล็ก งอได้ แต่ถอดออกไม่ได้
ราคา: ประมาณ 2,290 บาท
ติดต่อ: ร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่าย ที่มีสัญลักษณ์ RAZER