เชื่อว่าหลายๆ ท่านน่าจะคิดเหมือนๆ กันครับว่าในประเทศทางโซนยุโรปหรืออเมริกานั้นรถยนต์พลังงานสะอาดหรือในที่นี้ก็คือรถยนต์พลังงานไฟฟ้าน่าจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับประเทศที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ทว่าในความเป็นจริงแล้วนั้นจากการสำรวจล่าสุดพบว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น โดยทาง European Automobile Manufacturers’ Association(ACEA) ได้มีการเผยข้อมูลออกมาว่า ในบรรดา 28 ประเทศที่อยู่ใน EU นั้นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถทำยอดขายได้ดีเฉพาะในประเทศที่มีคนรวยอยู่มากเท่านั้น
จากการสำรวจยอดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทาง ACEA นั้นพบว่าในปี 2018 ที่ผ่านมานั้นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามียอดจำหน่ายสูงขึ้นกว่าเดิมจากในปี 2017 อยู่ที่ราวๆ 2% ซึ่งเมื่อดูข้อมูลแล้วนั้นจะพบว่าประเทศที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถที่จะจำหน่ายได้มากๆ นั้นจะเป็นประเทศที่ GDP หรือ Gross Domestic Products ต่อประชากรสูงมากดังเช่นตัวอย่างดังต่อไปนี้
- Sweden มี GDP ต่อหัวอยู่ที่ 47,900 euros โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถที่จะทำยอดส่วนแบ่งในตลาดไปได้ 8.0%
- Netherlands มี GDP ต่อหัวอยู่ที่ 46,600 euros โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถที่จะทำยอดส่วนแบ่งในตลาดไปได้ 6.7%
- Finland มี GDP ต่อหัวอยู่ที่ 42,200 euros โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถที่จะทำยอดส่วนแบ่งในตลาดไปได้ 4.7%
ยอดดังกล่าวนั้นจะตกลงมาเรื่อยๆ เช่น Belgians มี GDP ต่อหัวอยู่ที่ 39,600 euros โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถที่จะทำยอดส่วนแบ่งในตลาดไปได้ 2.4%, Germany รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถที่จะทำยอดส่วนแบ่งในตลาดไปได้ 2.0%, UK รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถที่จะทำยอดส่วนแบ่งในตลาดไปได้ 2.5% และ France รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถที่จะทำยอดส่วนแบ่งในตลาดไปได้ 2.1% ซึ่งจากอัตราดังกล่าวนั้นจะเห็นได้ว่าถึงแม้ประเทศใหญ่ๆ จะใช้กฎหมายการเก็บภาษีค่ารถยนต์ตามมลพิษที่ปล่อยออกมานั้นบางแล้วก็ไม่ได้ช่วยกระตุ้นตลาดมากเท่าไรนักหากผู้ใช้งานไม่มีความพร้อมครับ
แต่หากจะว่าไปแล้วการเรียกเก็บภาษีรถยนต์ตามมลพิษที่ปล่อยออกมานั้นก็ใช่ว่าจะกระตุ้นได้มากครับ โดยในประเทศที่มีน้ำมันจำนวนมากและประชากรค่อนข้างรวยคือมี GDP สูงถึง 73,200 euros ทว่ากลายเป็นว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ปล่อยมลพิษน้อยกลับไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไรนัก งานนี้ก็คงต้องย้อมกลับมาดูเมืองไทยเรากันครับว่าหลังจากที่เริ่มใช้กฎหมายเรียกเก็บภาษีการซื้อรถเป็นเก็บเพิ่มขึ้นตามเปอร์เซ็นต์การปล่อยมลพิษออกมาซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ 1 มกราคม 2020 นี้เป็นต้นไปจะสามารถเพิ่มยอดส่วนแบ่งรถยนต์พลังงานสะอาดได้มากน้อยเพียงใด
ที่มา : brusselstimes