HP Pavilion Gaming 15 สเปก AMD Ryzen 5 3550H + GTX 1650 เป็น Gaming Notebook ที่คุ้มค่าและน่าสนใจที่สุด ณ เวลานี้ ซึ่งในบทความนี้จะเป็นการทดสอบเพิ่มแรมจากเดิม 8GB เป็น 16GB (8GB x 2) ซึ่งสเปกเดิมๆ ก็มาพร้อมประสิทธิภาพสูงแล้ว ด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H และการ์ดจอ GeForce GTX 1650 คุณภาพเยี่ยม ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างราบรื่น ด้วย SSD M.2 NVMe ที่ 512GB พร้อมติดตั้ง Windows 10 แท้
แต่ด้วยแรมขนาด 8GB อาจจะทำให้เครื่องยังลื่นไหลได้ไม่สุด แม้ในการใช้งานทั่วไปอย่างใช้งานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง จะดูเหมือนว่าแรม 8GB จะพอเพียงแล้ว ในการเล่นเกมหรือประมวลผลหนักๆ เชื่อได้ว่าถ้าอัพเกรดแรมเป็น 16GB จะได้ต้องเฟรมเรทเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่จะเพิ่มขึ้นลื่นขึ้นมากน้อยแค่ไหน เดี๋ยวเราต้องไปติดตามกัน บทความนี้จะมาแนะนำกันตั้งแต่การแกะฝาล่างของเครื่องกันเลย บอกเลยว่าไม่ยากๆ ส่วนแรมที่เรานำมาอัพเกรดนั้นเป็นของ Transcend ขนาด 8GB DDR4 Bus 2400 ราคา 1,590 บาท
สำหรับ HP Pavilion Gaming 15 รุ่นนี้สเปก AMD Ryzen 5 3550H + GTX 1650 ได้ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างไปจาก Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ ออกแบบโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ให้มีความสวย โดยมาพร้อม 2 สีสันหลักก็คือ สีเขียวและสีม่วง ทันสมัยให้ความแข็งแรงทนทาน เพิ่มความโดดเด่น ใช้งานง่ายและสะดวก รวมไปถึงการรับประกันที่เป็นแบบ On-site Serive ระยะเวลา 2 ปี
พร้อมทั้งมีให้เลือกหน้าจอ IPS คุณภาพสูง sRGB ที่ 96% ซึ่งมี Refresh Rate ที่ 60Hz / 144Hz ให้เลือก มีราคาเริ่มต้นเพียง 21,990 – 23,990 บาท จึงจัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook สเปกการ์ดจอ GTX 1650 ที่มาพร้อม SSD ที่ถูกที่สุดในตลาดก็ว่าได้ ดูรีวิวเต็มๆ ได้ ที่นี่ พร้อมกับมีรุ่นใหม่ที่ได้สเปก AMD Ryzen 7 3750H + GTX 1660 Ti มาแล้ว ในราคา 30,990 บาทเท่านั้น ที่ในอนาคตอาจจะมีมาทดสอบกันให้ได้ชมเรื่องของประสิทธิภาพกันอีกที
HP Pavilion Gaming 15 สเปก AMD Ryzen ตอนนี้จะมีอยู่ 4 สเปก 4 ราคา จำนวน 2 สี คือ ม่วงและเขียว หลักๆ โดยจะเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H และ AMD Ryzen 7 3750H ซึ่งทำให้การใช้งานโดยรวมลื่นไหลแน่นอน มีรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญมาพร้อมกับการ์ดจอแยกตัวแรง 2 รุ่น อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) และ GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) พร้อมหน่วยความจำแรมขนาด 8GB มาตรฐาน DDR4 bus 2666 ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB (สามารถเพิ่มเติม HDD 2.5″ ได้ภายหลัง) เรียกได้ว่าเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหลแน่นอน ส่วนเกมออฟไลน์ปรับกลางๆ ลื่นไหลทุกเกมสบายๆ ตอบสนองได้คุ้มค่าราคา
ได้หน้าจอแบบด้านขอบจอบาง พาเนล IPS คุณภาพสูง ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 60Hz และรุ่นที่เป็น 144Hz ให้เลือก ที่สำคัญได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ในราคาที่ถูกและคุ้มค่าไม่แพ้ Gaming Notebook หลายๆ รุ่นในตลาด ที่ใช้สเปก AMD Ryzen 5 3550H (หรือ i5-9300H) + GTX 1650 / GTX 1660 Ti ในรุ่นอื่นๆ ใกล้เคียงกัน ที่สำคัญจัดว่าเป็น Gaming Notebook ที่ใช้การ์ดจอ GTX 1650 ที่ถูกที่สุดในตลาดตอนนี้ก็ว่าได้
นอกจากนี้ยังมีกล้องเว็บความละเอียด HD และมีไมค์ดิจิตอลในตัว การเชื่อมต่อไร้สายเป็น Bluetooth 5.0 และ Realtek Wi-Fi 5 แบบ MU-MIMO มิติของตัวเครื่อง HP Pavilion Gaming 15 เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คจอขนาด 15.6 นิ้ว ก็มีขนาดเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัดแถมมีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 2.3 กิโลกรัม พกพาง่าย พร้อมการรับประกัน 2 ปี ซ่อมฟรีถึงบ้านและบริการช่วยเหลืออื่นๆ อีกด้วย
สเปกเต็มๆ HP Pavilion Gaming 15 Ryzen 5 3550H / R7 3750H + GTX 1050 / 1650 /1660Ti
- Ryzen 5 3550H / GTX 1050 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 60Hz ราคา 19,900 บาท
- Ryzen 5 3550H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 60Hz ราคา 21,900 บาท
- Ryzen 5 3550H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 23,900 บาท
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 30,900 บาท
การแกะเครื่อง HP Pavilion Gaming 15 สเปก AMD Ryzen นั้นสามารถทำได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเสียทีเดียว เพราะงานประกอบค่อนข้างแน่นหนา ต้องใช้ฝีมือและทักษะพอสมควร ซึ่งหลังจากถอดน็อตทุกตัวเสร็จหมดแล้ว ต้องใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากขอบด้านหน้า ควรทำอย่างใจเย็น และขอบฝาด้านหลังตรงแกนฝาพับค่อนข้างคมระวังบาดนิ้วมือกันด้วย ส่วนหลายคนที่สงสัยว่ามีน็อตตรงแกนยางรองไหมบอกเลยว่ารุ่นนี้ไม่มี มีน็อตแค่เท่าที่เห็นคือ 7 ตัว ยาว 4 (ด้านหลัง) สั้น 3 (ด้านหน้า) โดยเมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ อย่างตามรูปเลย
การวางรูปแบบของฮาร์ดแวร์เครื่องนี้ทำได้ดูดีเลยที ซึ่งในส่วนที่สามารถทำการอัพเกรดเพิ่ม HDD SATA ขนาด 2.5″ ธรรมดาเป็น SSD ได้ทันที (ถอดกล่องเปล่าสีดำออกมาก่อน) โดยเครื่องนี้ได้ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความเร็วสูงมาแล้วที่ความจุ 512GB พร้อมใส่แรมขนาด 8GB DDR4 Bus 2400 1 แถว (สามารถใส่ได้สูงสุด 2 แถว) ส่วนเรื่องระบายความร้อนตัวเครื่องมี Heat Pipe จำนวน 2 เส้น วางพาดยาวไล่ไปทั้งชิปการ์ดจอและตัวซีพียูเอง ส่วนพัดลมเครื่องนี้ก็มีมาให้ 2 ตัว ตามแบบฉบับ Gaming Notebook ปกติทั่วไป สำหรับการใส่แรมนั้นก็ง่ายๆ ด้วยการกดลงในช่องพร้อมกับล็อคก็เป็นอันเรียบร้อย
โดย HP Pavilion Gaming 15 รุ่นนี้เดิมๆ ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H สถาปัตยกรรม Zen+ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 12 nm ความเร็ว 2.1 – 3.7 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread ร้อนน้อยกว่า ในราคาที่คุ้มกว่า พร้อมฟีเจอร์มากมาย เช่น SenseMI คอยจัดการให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างที่ไม่มีใน Intel ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 8 ส่วนการ์ดจอแยกก็อย่างที่รู้กันดีคือ GTX 1650 (GDDR5 4GB) ส่วนแรมขนาด 8GB 1 แถว DDR4 Bus 2400 MHz และให้ SSD NVMe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน ซึ่งเมื่อเราใส่ไปแล้ว และเปิดเครื่องอีกครั้ง ตัวเครื่องก็จะพร้อมใช้งานเป็นแรม 16GB ได้ทันที โดยที่เราไม่ต้องตั้งค่าใดๆ ดูได้จากส่วนของ Setting > About ของ Windows ได้เลย
ในส่วนของ Task Manager > Memory เราก็จะเห็นถึงขนาดของแรมที่เพิ่มขึ้นจาก 8GB เดิมๆ เป็น 16GB เช่นกัน แต่ในกรณีของ HP Pavilion Gaming 15 จะมีการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 8 ซึ่งจะถูกจองพื้นที่แรมไปใช้งานประมาณ 2GB โดยจากการเปิดเครื่องและใช้งานปกติจะถูกใช้งานไปอีก 3.5GB จาก 13.9GB ทำให้เหลือใช้งานจริงๆ ที่ 10.4GB ซึ่งแสดงถึงการใช้งานของแรมที่มีพื้นที่เหลืออยู่พอประมาณทีเดียว แน่นอนว่าย่อมดีกว่าการที่เราใช้แรมขนาด 8GB เดิมๆ ที่จะเหลือตามที่คำนวณคือ 8GB – (2GB + 3.5GB) = 2.5GB เท่านั้น ที่ดูแล้วจะแน่นไปหน่อย สำหรับการที่เราจะเปิดเกมเล่น
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ด้วยแรมขนาด 8GB เดิมๆ สามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,060 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอยู่แล้ว แต่เมืออัพเกรดแรมเป็นขนาด 16GB จะเห็นถึงคะแนนว่ามีการขยับขึ้นมาในแต่ละส่วนการทดสอบ รวมเป็น 4178 คะแนน ซึ่งดูแล้วก็ไม่เยอะเท่าไร สรุปก็คือ ถ้าเป็นงานที่ไม่เน้นพื้นที่การจองแรมที่มากอย่างการเล่นเกมหรือตัดต่อวีดีโอ การอัพเกรดจากแรม 8GB เป็น 16GB มีผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เฟรมเรมในการเล่นเกมของ HP Pavilion Gaming 15 ทำออกมาน่าสนใจประมาณนึง โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 30 – 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1650 ออกมาได้อย่างเต็มที่และเหมาะสม ประกอบกับใช้แรมขนาด 8GB DDR4 และ SSD M.2 NVMe ความเร็วสูงอีกด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / FarCry 5 / BF V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ ไม่มีปัญหากระตุกในเกมแต่อย่างใด แตกต่างจากรุ่นที่เป็นฮาร์ดดิสก์ที่มักจะโหลดข้อมูลไม่ทัน
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 40 – 60 – 80 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้วก็ถือว่าเล่นพอได้ทีเดียวในกรณีที่ปรับกราฟิกสุด
แต่เมื่อเราทดสอบ HP Pavilion Gaming 15 ที่เมื่อเพิ่มแรมเป็น 16GB (8GB x 2) แล้ว ในลักษณะการทดสอบพื้นฐานเดียวกันทั้งหมด เห็นได้ชัดถึงเฟรมเรทความลื่นไหลที่มากขึ้นในทุกๆ เกม ทั้งเกมออฟไลน์หรือออนไลน์อย่าง BFV / FarCry 5 / GTA V / PUBG / DOTA 2 / Overwatch เป็นทั้งในส่วนของเฟรมเรทเฉลี่ย ต่ำสุด และสูงสุดด้วย เรียกได้ว่าการอัพเกรดแรมจาก 8GB เป็น 16GB มีผลมากๆ สำหรับ HP Pavilion Gaming 15 ซึ่งเราลองมาเทียบกันตามข้อมูลด้านล่างให้เห็นว่าเฟรมเรทเฉลี่ยแต่ละเกมเพิ่มขึ้นมาแตกต่างเท่าไรกันบ้าง
- BF V : 47 / 57 = เพิ่มมา 10 เฟรม
- FarCry 5 : 40 / 52 = เพิ่มมา 12 เฟรม
- GTA V : 45 / 72 = เพิ่มมา 27 เฟรม
- PUBG : 36 / 88 = เพิ่มมา 52 เฟรม
- DOTA 2 : 78 / 96 = เพิ่มมา 18 เฟรม
- Overwatch : 77 / 85 = เพิ่มมา 8 เฟรม
จากข้อมูลตรงนี้แสดงให้เห็นว่าในการเพิ่มแรมอัพเกรดแรมเข้าไป มีผลกับเฟรมเรทที่เพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ว่าในแต่เกมก็จะมีเฟรมเรทความลื่นไหลที่เพิ่มขึ้นไม่เท่ากันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าเกมนั้นใช้พื้นที่แรมไปมากหรือน้อย อย่างเกมที่มีผลกับการเพิ่มแรมเป็น 16GB มากที่สุดก็จะเป็น PUBG ที่เพิ่มขึ้นมาถึง 52 เฟรม ที่จัดได้ว่าเป็นเกมที่มีพื้นที่ฉากในเกมขนาดใหญ่และมีความซับซ้อน ส่วนเกมที่มีเฟรมเรทเพิ่มขึ้นมาน้อยที่สุดก็จะเป็น Overwatch ที่ตัวเกมเองมีการจองแรมไปใช้งานไม่เยอะเท่าไรนัก
สรุปปิดท้ายกันแบบง่ายๆ ก็คือ ในส่วนของ HP Pavilion Gaming 15 สเปก AMD Ryzen 5 3550H + GTX 1650 ที่ให้แรมมาจากโรงงานขนาด 8GB พร้อมกับมี SSD มาให้เลยเช่นกัน เมื่อเราทำการอัพเกรดแรมเป็น 16GB ด้วยการใส่เพิ่ม 8GB อีก 1 แถวเป็น Dual Channel มีผลให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมเพิ่มขึ้นแน่นอน (แต่ละเกมไม่เท่ากัน) ด้วยราคาแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 2400 MHz มีราคา 1,590 บาท จัดว่ามีความคุ้มค่าที่จะซื้อเพื่อทำการอัพเกรดมากๆ จะซื้อเครื่องแล้วอัพเกรดทันทีที่ร้านก็ได้ หรือจะค่อยมาอัพเกรดด้วยตนเองทีหลังก็ได้ เพราะเครื่องนี้ก็แกะได้ไม่ยากเกินความสามารถแต่อย่างใด
หรือในกรณี Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน ว่าจริงๆ แล้วถ้าอยากให้เฟรมเรมเกมสูงขึ้น เล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น รวมไปถึงทำงานที่ประมวลผลหนักหรือมีการจองพื้นที่แรมไปใช้งานได้เยอะ รุ่นที่ให้แรมมาขนาด 8GB กับแรมขนาด 16GB มีผลต่อการใช้งานจริงๆ ไม่มากก็น้อย อย่างการใช้งานทั่วไปอาจจะไม่เห็นผลที่ชัดเจนมากนักว่ารุ่นแรม 16GB ดีกว่า แต่ถ้าเมื่อไรเราเอาไปเล่นเกมแล้วเทียบกับรุ่นแรม 8GB จะเห็นว่าลื่นกว่าพอสมควร ฉะนั้นสำหรับคนที่ใช้งาน Gaming Notebook รุ่นใหม่ๆ ที่ให้แรมมาขนาด 8GB ควรอัพเกรดเป็นแรมขนาด 16GB แบบไม่ต้องสงสัยเลยครับ