สำหรับท่านที่อยากได้ของแรงๆไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อะไรทั้งพีซี หรือกระทั่งโน๊ตบุ๊ค แต่บางครั้งอาจจะไม่ได้มีงบประมาณมากมายพอจะซื้อมือ 1 ได้ และไม่ได้ซีเรียดกับสภาพสินค้ามากนัก หรือไม่สนว่าจะเคยผ่านมือชายใดมาก่อน ไปจนถึงท่านที่ชอบซื้อมาขายไป การซื้อสินค้ามือ 2 ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่จะทำให้ได้ของแรง ในราคาที่ถูกลงไม่มากก็น้อย แต่ของถูกย่อมมากับข้อควรระวังที่ทีมงานจะมาแนะนำในวันนี้
ก่อนอ่านต้องบอกก่อนว่าการซื้อสินค้ามือ 2 ผมแนะนำสำหรับท่านที่พอมีประสบการณ์ หรือมีคนรู้จักที่มีประสบการณ์ในการซื้อของมือ 2 สักหน่อย เพราะมีความเสี่ยงอยู่สูงกว่าสินค้ามือ 1 ต้องมั่นใจตรวจเช็คให้ดีก่อนซื้อ แม้จะเป็นกับร้านที่ขายของมือ 2 เป็นอาชีพก็ตาม ถ้ามั่นใจแล้ว ทีมงานจะแนะนำข้อควรระวังในแต่ละขั้นกันเลย
แหล่งที่ซื้อ
หมายถึงแหล่งที่มีการซื้อขายของมือ 2 นั่นเอง ตั้งแต่เว๊บไซท์ต่างๆ Facebook หรือกระทั่งหน้าร้านต่างๆที่ขายของมือ 2 โดย ซึ่งแหล่งที่ซื้อก็ถือเป็นความน่าเชื่อถืออย่างหนึ่ง โดยผมแบ่งเป็น 2 แบบ ชัดๆเลยละกันครับ
หน้าร้าน – ตอนนี้ร้านขายของมือ 2 เยอะมาก ถ้ามีเว๊บไซท์หรือเฟสบุ๊คนี่ก็ลองเข้าไปชมสักหน่อยว่าเขาอัพเดทสินค้าเป็นอย่างไรบ้าง มีคอมเมนท์อะไรหรือเปล่า มีคำแนนรีวิวเป็นอย่างไร โดยเฉพาะระยะเวลาที่ร้านเปิดนานหรือยัง และถ้ามีขายใน Shopee Lazada ก็จะปลอดภัยกับท่านที่ซื้อออนไลด์ได้อีกขั้นเพราะร้านขายจะได้เงินก็ต่อเมื่อท่านได้ของและเช็คของเรียบร้อยแล้ว
มือต่อมือ – หรือก็คือผู้ใช้ขายกันเองไม่ผ่านร้านนี่ละครับส่วนใหญ่ก็ขายกันตามเฟสบุ๊ค เว๊บบอร์ดต่างๆ ซึ่งก็เป็นแหล่งที่เพิ่มความน่าเชื่อถือได้ โดยเริ่มต้นที่เว๊บบอร์ดส่วนใหญ่จะมีการป้องกันโดยการลงทะเบียนคนขาย หรือบังคับลงรายละเอียดให้ครบ เช่น ชื่อ เบอร์ หรือให้ถ่ายรูปคู่กับของที่ขาย ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่าคนขายคือเจ้าของจริง และถ้ามีปัญหาเราก็สามารถติดต่อเจ้าของเว๊บบอร์ดเพื่อขอข้อมูลได้เลย หรือบนกรุ๊ปในเฟสบุ๊คหลายกรุ๊ปก็บังคับให้ลงทะเบียน ให้ลงข้อมูลให้ครับ หรือถ่ายรูปสินค้าคู่ข้อมูลคนขาย ซึ่งกรุ๊ปเหล่านี้ก็สามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ดีระดับหนึ่งเลย ดีกว่ากรุ๊ปหรือเว๊บบอร์ดที่ให้ลงขายได้เลย โดยที่ไม่สามารถเช็คข้อมูลอะไรได้
คนที่ซื้อ
หลังจากดูแหล่งที่ซื้อแล้วว่าน่าเชื่อถือ ไม่ใช่ตลาดมืด หรือกรุ๊ปที่ตั้งมาใหม่เพื่อหลอกขายของ ก็ต้องมาถึงการเช็คคนที่เราจะซื้อขายด้วยว่าน่าเชื่อถือขนาดไหน เคยมีประวัติเสียอะไรบ้างหรือเปล่า วิธีการก็ง่ายๆครับ เอาชื่อเบอร์โทรเช็คใน Google ได้เลย ไปจนถึงกระทั่งเอารูปที๋โพสขายไปเช็คใน Google ได้ด้วย หรือถ้ายังไม่มีชื่อ และจำเป็นต้องโอนเงินก็จะได้เลขบัญชี และชื่อคนรับโอนซึ่งก็เอาไปตรวจเช็คได้เช่นกัน ยกเว้นคนขายจะใช้บัญชีคนอื่นโอน อันนี้ต้องระวังนิดนึง โดยเฉพาะคนที่รับโอนเป็นคนละนามสกุลกัน ถ้าเลือกได้เช็คประวัติแล้วไม่แน่ใจให้เลือกรับกับมือเองดีกว่านะครับ อย่าโอนเงินก่อนเด็ดขาด
อีกประการที่ต้องเตือนเลย ถ้าเช็คแล้วไม่มั่นใจให้ปล่อยผ่านเลยนะครับ อย่าเห็นแก่ของถูก โดยเฉพาะของที่ถูกเกินจริงจากราคาตลาด หรือพวกที่เช็คที่มาที่ไปไม่ได้ คุยแล้วไม่รู้รายละเอียดสินค้า บ่ายเบี่ยงไม่ยอมถ่ายรูปสินค้ากับหลักฐาน ถ้ามีท่าทีไม่น่าไววางใจปล่อยผ่านโดยไว เพราะบางเคสแม้จะได้เงินคืนแต่ก็นาน ต้องดำเนินคดีเสียเงิน เสียเวลาอีก แม้คนที่มีเครดิตดีขายมานาน บางครั้งก็มีโอกาสที่โกงได้นะครับ เน้นสบายใจปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า
สภาพของที่ซื้อ
มาถึงสินค้าที่ซื้อเพราะสินค้าเองก็เป็นปัจจัยให้โกงกันได้ เพราะแม้จะมีสินค้าจริง ใช้งานได้จริง แต่สภาพหรือฟังค์ชั่นการใช้งานอาจจะไม่ได้สมบูรณ์เหมือนที่บอกไว้ เช่นบอกไว้ 95% มันควรจะใหม่ใกล้เคียงมือ 1 ใช่ไหมครับ แต่พอรับมาจริง อาจจะมีริ้วรอย คราบการใช้งานต่างๆที่ให้ยังไงก็ไม่ถึง 50% แม้จะใช้งานได้ แต่ก็ถือว่ามีเจตนาหมกเม็ด เพื่อที่จะได้ขายของได้ราคา แบบนี้ก็ต้องระวังเพราะมีเยอะมาก เวลาถ่ายรูปก็จะเน้นมุมสวยๆทำความสะอาดอย่างดี แต่ของจริงหนักกว่านั้น
นึกง่ายๆก็พวกการ์ดจอครับโดยเฉพาะสายขุดบิตที่ทำงานตลอด 24 x 7 แม้จะใช้งานไม่กี่เดือน แต่สภาพเหมือนคนทั่วไปใช้มาเป็นปี บางครั้งคนขายบอกตามตรงยอมกดราคาผมว่าก็ยังดีถือว่าคนซื้อยอมเสี่ยงตามสภาพแลกกับของถูก แต่บางคนขายโดยบอกว่าเป็นการ์ดจอเล่นเกม แม้จะมีประกัน แต่ทำงานมาหนักมันก็ไม่สมบูรณ์เหมือนการ์ดจอทั่วไปแน่นอนครับ
ซึ่งการเช็คแนะนำว่ารับของแบบมือต่อมือ แล้วส่องกันต่อหน้าไปเลยดีกว่าว่าเหมือนที่ลงไว้จริงไหม ถ้าไม่ตามที่คุยจะได้คืนได้เลย เลยเวลานิดหน่อย แต่สบายใจกว่า และขอประกันใจเพิ่มสัก 5-7 วั่น หากมีปัญหาการใช้งานจะได้แจ้งและช่วยกันแก้ปัญหาหรือไม่ก็คืนได้ครับ
การรับประกัน
ปรกติสินค้าไอทีจะมีประกันจากผู้ผลิตอยู่แล้ว 3-5 ปี ซึ่งถ้าสินค้ามือ 2 ที่ซื้อขายกันยังไม่หมดประกันศูนย์ต่อให้เปลี่ยนมือเจ้าของก็ยังสามารถส่งเคลมกับตัวแทนจำหน่ายได้ปรกติ ยกเว้นการ์ดจอบางแบรนด์ที่ถ้าเอาไปขุดบิตมา จะถูกตัดหรือลดการรับประกันไปเลย ซึ่งศูนย์สามารถเช็คได้ เพราะฉะนั้นซื้อการ์ดจอต้องเช็คให้ดี ซึ่งส่วนใหญ่คนขายจะลงการรับประกันที่เหลือไว้ด้วย เมื่อตกลงซื้อขายแล้วแนะนำว่านำ S/N ไปเช็คกับเว๊บผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายว่ามีการรับประกันตามที่แจ้งมาไหมเพื่อความสบายใจ และอย่าลืมว่าตัวอุปกรณ์ต้องอยู่ในภาพสมบูรณ์ ถึงจะทำให้การรับประกันยังคงอยู่ปรกติ โดยเฉพาะการ์ดจอเมนบอร์ด
กรณีอุปกรณ์ที่หมดประกันไปแล้ว หรือไม่มีการรับประกันเช่นพวกของหิ้ว ตรงนี้ควรจะมีการรับประกันจากคนขายอย่างน้อย 15-30 วัน เพื่อให้อุ่นใจว่าสินค้าไม่มีปัญหาจริงๆ สามารถใช้งานได้ปรกติตามที่คุยกันไว้ ซึ่งตรงนี้เหมือนเป็นสัญญาใจนะครับ บางครั้งก้ไม่ได้มีหลักฐาน แต่ถ้ากลัวจะมีปัญหา แนะนำแคปภาพกระทู้ที่มีการลงขายไว้เป็นหลักฐานด้วยก็จะช่วยให้สบายใจมากขึ้น
ถ้ามีปัญหาละทำอย่างไร
สุดท้าย แม้จะป้องกันดีขนาดไหนก็ยังมีโอกาสถูกโกงหรือถูกหลอกได้อยู่ดี โดยเฉพาะผู้ใช้มือใหม่ที่เริ่มซื้อขายสินค้ามือ 2 ผมแนะนำว่าก่อนจะเกิดการซื้อขายให้เก้บหลักฐานต่างๆไว้ก่อนตั้งแต่แรกไม่ว่าจะเป็น
- หน้ากระทู้ที่มีการลงประกาศซื้อขาย (แคปไว้ก่อนเลย เพราะส่วนใหญ่เวลาขายแล้วชอบลบรายละเอียดออกไม่รู้เป็นโรคอะไรกัน)
- ชื่อ เบอร์โทร ผู้ที่ติดต่อซื้อขาย
- ภาพสินค้าที่ซื้อขาย
- เลขที่บัญชี หน้าสมุดบัญชี บัตรประชาชน (กรณีโอนเงินจัดส่ง ควรจะต้องมี)
- หลักฐานการแชคพูดคุย หรืออัดเสียงตอนติดต่อไว้ได้ก็จะดี
- อื่นๆ เช่นใบเสร็จตอนซื้อ รูปตอนรับส่งของ
หลายท่านอาจจะมองว่าดูยุ่งยาก แต่เอาจริงๆผมบอกเลยว่าตอนตามตัวหลังถูกโกงยุ่งยากกว่าเยอะครับ โดยเฉพาะพวกที่ตั้งใจโกงจะมีวิธีที่ซับซ้อนกว่านี้อีก เช่นให้บุคคลที่ 3 โอนเงินมาให้แล้วสมอ้างว่าโอนแล้ว ทั้งที่ไปหลอกขายของให้บุคคลที่ 3 แต่ให้เลขบัญชีเราที่ขายไป (ก็ช่างคิดได้เนอะ)
โดยขั้นแรกถ้าสินค้ามีปัญหาไม่ได้ตามที่ตกลงกัน ขั้นแรกควรติดต่อไปที่คนซื้อขายก่อน ลองคุยกันดีๆบางครั้งคนขายเขาก็ไม่ทราบว่ามีปัญหา หรือบางครั้งอาจจะมีปัญหาจากการขนส่ง ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องลองคุยกันว่าขอเงินคืนได้ไหม เดี๋ยวส่งของคืนก่อนหรืออย่างไรก็ว่าไป แต่ถ้าคนซื้อขายเริ่มมีปัญหาบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมรับปิดเฟส บล๊อคเบอร์ หรือติดต่อไม่ได้ เริ่มด้วย
- ปริ้นเอกสารหลักฐานการซื้อขายทุกอย่าง เป็นกระดาษเก็บไว้กับตัว
- รวบรวมหลักฐานไปแจ้งความยังสถานีตำรวจท้องที่ของบ้านท่าน หรือท้องที่ส่งของ
- นำใบแจ้งความไปติดต่อยัง admin หรือเจ้าของเว๊บบอร์ดที่มีการซื้อขาย เพื่อขอเลข IP ของคนที่โกง กรณี Facebook ให้ติดต่อ admin ของกรุ๊ปเพื่อขอหลักฐานที่ลงทะเบียนไว้ (กรณีมีการลงทะเบียนไว้)
- นำเลขที่ IP พร้อมทั้งใบแจ้งความ ยื่นให้กับทาง ISP ที่สมาชิกท่านนั้นใช้อยู่ ซึ่งสามารถระบุเครือขายและพื้นที่ใช้งานได้ประมาณหนึ่ง
- ได้ที่อยู่มาแล้ว ให้ส่งกลับไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำหมายจับ และพาไปจับกุมตัว (ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้เจรจายอมความกัน อันนี้ก็แล้วแต่สะดวก)
- แต่ถ้าไม่ยอมความ ก็เจอกันที่ศาลได้เลย
สุดท้ายทีมงานไม่ได้บอกว่าอย่าซื้อของมือ 2 เลย เพียงแต่อยากให้ทุกท่านระมัดระวังตัวกัน เพราะผมเองก็เป็นคนที่ซื้อขายของมือ 2 แต่ก็อยู่บนความไม่ประมาท กันไว้ดีกว่าแก้ และอย่าเห็นแก่ของถูกจนเกินไปนะครับ