Review – Dell Inspiron 15 5583 โน๊ตบุ๊คจอ 15.6″ สเปก i5/i7 + MX130 + RAM 8GB + SSD 256GB ราคาเริ่ม 24,490 บาท

Dell Inspiron 15 5583 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ปี 2019 หน้าจอ 15.6″ ที่ดูหรูหรา มาพร้อมกับขนาดตัวเครื่องมาตรฐานมีสีสันให้เลือกทั้งสีเงินและสีดำ ส่วนสเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 8 (Whiskey Lake) อย่าง i5-8265U / i7-8565U และการ์ดจอแยก GeForce MX130 ได้แรมขนาด 8GB DDR4 พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 256GB สำหรับความละเอียดหน้าจอก็เป็นระดับ Full HD ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง พร้อมใช้งานด้วย Windows 10 สนนราคาถูกกว่ารุ่นเดิมอยู่ที่ 28,990 บาท กับรุ่น Core i7 ส่วนถ้าเป็นรุ่น Core i5 จะอยู่ที่ 24,490 บาท

สำหรับโน๊ตบุ๊คแบรนด์ Dell ได้รับความน่าเชื่อถือเชื่อมั่นมาอย่างยาวนานและเป็นที่นิยมในการใช้งานกับองค์กรและภาคธุรกิจอย่างมากมาย ทั้งมาตรฐานการบริการ Dell Premium Support และ On-site Service “บริการซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก 1 วันทำการ” ถึง 2 ปีด้วยกัน มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบๆ แต่แฝงความหรูหรา ซึ่ง Dell Inspiron 15 5583 รุ่นนี้ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ราคาไม่แพง ใช้งานลื่นไหล เน้นคุ้มค่าใช้งานไม่เน้นทำงาน 3 มิติหรือเล่นเกม แบบที่ซื้อไปแล้วจบไม่ต้องอัพเกรดอะไรแล้ว

Specification

สเปกของ Dell Inspiron 15 5583 อย่างที่บอกไปแล้วคือ แบ่งด้วยกันเป็น 2 รุ่นหลักๆ คือ i5-8265U / i7-8565U ซึ่งในครั้งนี้แอดมินโป้ง NBS ได้มาเป็นสเปก Core i5 โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณ TN เกรดดี ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริงและมุมมองกว้างประมาณนึง ด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U ความเร็ว 1.80GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.60GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 8 (Whiskey Lake) รุ่นล่าสุด

ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX130 (2GB GDDR5) ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดีในระดับเริ่มต้น สำหรับฮาร์ดดิสก์ให้มาเป็นมาตรฐาน SSD M.2 NVMe ความจุ 256GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC +Bluetooth 4.1 ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 2.33 กิโลกรัมเท่านั้น ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call

สนนราคา Dell Inspiron 15 5583 รุ่นที่นำมารีวิวมีราคากลางอยู่ที่ 28,990 บาท ซึ่งมี 2 สีสันเป็นสีดำและสีเงินให้เลือกตามความชอบ พร้อมการรับประกัน 2 ปี แบบ Dell Premium Support และ On-Site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ตามมาตรฐานของ Dell รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้

• i5-8265U + MX130 + RAM 8GB + SSD 256GB + Windows 10 ราคา 24,490 บาท
• i7-8565U + MX130 + RAM 8GB + SSD 256GB + Windows 10 ราคา 28,990 บาท

Hardware / Design

ดีไซน์การออกแบบของ Dell Inspiron 15 5583 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ ที่มีความบางเบา Thin & Light กว่าโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป มาพร้อม DNA รูปลักษณ์ทรวดทรงตามสไตล์ Dell แบบเต็มรูปแบบ ที่เรียกได้ว่ามีความโดดเด่นชัดเจน แม้หน้าจอไม่ได้ขอบบางเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปี 2019 หลายๆ รุ่น โดยวัสดุเป็นพลาสติกตลอดทั้งตัวเครื่อง ที่แม้จะราคาคุ้มค่าแต่ก็ถือว่าได้งานประกอบโดยรวมที่ดี ด้วยน้ำหนัก 2.33 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีความบางเพียง 19.4 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกประมาณนึง

แนวคิดโดยรวม Dell Inspiron 15 5583 ถอดแบบมาจาก Dell Inspiron 15 รุ่นก่อนๆ เป็นอย่างดี ทำให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน รับกับมือเวลาจับถือพกพา ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อย พร้อมด้วยสีที่ดูสะอาดตา โดยรุ่นที่นำมารีวิวสีสันเป็นเงิน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา สง่างาม เหมาะสมทั้งสาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นภาพลักษณ์ไว้ใช้งาน ส่วนอีกสีจะเป็นดำ Black Texture ที่ดูแล้วดุดันกว่า ซึ่งในสัมผัสที่จับถือได้ติดมือทีเดียว

ส่วนของตัวเครื่องหลักๆ แล้วจะใช้เป็นพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียม ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป ที่สำคัญคือพื้นผิววัสดุทั้งหมดเป็นแบบด้านส่งผลให้เป็นรอยนิ้วมือได้ยากอีกด้วย ได้โลโก้ Dell ที่ดูเด่นสวยงามอยู่กลางฝาหลัง พร้อมปุ่ม Power ที่ติดตั้งอยู่ที่มุมขวาบนของคีย์บอร์ด ซึ่งมีความลงตัวเป็นอย่างดี

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Dell Inspiron 15 5583 ก็คือ ยังเป็นโน๊ตบุ๊คที่ติดตั้งไดร์ฟ DVD ไว้สำหรับเขียนอ่านแผ่น CD/DVD เรียกได้ตอบโจทย์สำหรับคนที่ยังจำเป็นต้องใช้งานแผ่น CD/DVD อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านไฟล์จาก CD หรือดูสื่อผ่าน DVD ต่างๆ ซึ่งเข้าใจว่าบางองค์กรยังจำเป็นต้องใช้งานอยู่ ฉะนั้นโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว รวมไปถึงบางคนยังจำเป็นต้องบันทึกไฟล์ต่างๆ ด้วยแผ่นเหล่านี้อยู่ อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ไม่ใช่งานก็สามารถถอดแล้วใส่เบย์เพื่อเพิ่ม HDD 2.5″ SATA ได้ภายหลัง

การออกแบบมาอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คงเป็นส่วนตัวเครื่องด้านล่างก็จะมีคำว่า Inspiron ปั๊มเอาไว้ พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวอีก แน่นอนว่าสติกเกอร์ Windows 10 ก็จะติดอยู่บริเวณนี้เช่นกัน สำหรับ Dell Inspiron 15 5583ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี

เรียกได้ว่าเรื่องของดีไซน์นั้นตอบโจทย์กับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้วเครื่องเดียวจบแน่นอน ทำให้ไม่ว่าเราจะเอาไปทำงาน หรือเพื่อความบันเทิง ก็ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้หมด เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษาหรือคนทำงานที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นความเรียบง่ายราคาไม่แพง และใช้งานไม่หนักมากนัก

Keyboard / Touchpad

คีย์บอร์ตัวปุ่มของ Dell Inspiron 15 5583 เป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่าย ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งการเด้งรับและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด พร้อมแป้นตัวเลข Numpad ก็ยังคงมีมาให้ปกติ อย่างไรก็ตามในส่วนของไฟ LED Backlit รุ่นนี้ไม่มีแต่อย่างใด ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน ซึ่งมีดีไซน์เรียบเนียนไปกับตัวเครื่องโดยรวม

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น แต่มีเส้นแบ่งเล็กๆ เอาไว้เพื่อความสวยงาม การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

Dell Inspiron 15 5583 ติดตั้งหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล TN เกรดดีที่อาจจะไม่มีดีเท่ากับพาเนล IPS แต่โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจในราคาคุ้มค่า โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียว และแม้จอเป็นแบบด้านลดสะท้อนแสง แต่ก็ยังให้เรื่องสีสันสดใสที่ดูสดใจไม่แพ้จอกระจกเลย พร้อมติดตั้งชุดกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนแบบคู่ ไว้ขอบด้านบนปกติ

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell Inspiron 15 5583 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล TN ก็จริง แต่ก็อยากทราบถึงค่าขอบเบตสีความแม่นยำ เลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่เพียง 55% และ AdobeRGB ที่ 41% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันธรรมดาในเกณฑ์ทั่วไป ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปของพาเนล TN ซึ่งถ้าเอาไปทำงานหรือความบันเทิงทั่วไป หรือใช้งานข้างนอกก็พอได้อยู่ แต่ทำอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลักมากนัก

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าตรงกลางแถวล่างหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านขอบมุมซ้ายบนที่ลดลงไปที่ระดับ 16% ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 2.5 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่ามาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง หรือทำงานไม่จริงจังเรื่องสีสัน

ลำโพงสเตอริโอเทคโนโลยี Waves MaxxAudio Pro ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ให้เสียงที่ค่อนข้างดี แยกรายละเอียดได้ในระดับที่ดีน่าประทับใจ ถือได้ว่ามีเสียงดังชัดเจนออกแนวใสๆ เน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว

Connector / Thin And Weight

มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อของ Dell Inspiron 15 5583 กันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type-A จำนวนสองพอร์ต ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูล แน่นอนว่ายังมีการติดตั้ง USB 3.1 Type-C มาแล้ว และพอร์ต USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ

รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน รวมไปถึงยังมีช่องเชื่อมต่อไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องอ่าน SD Card ตามสมัยนิยมอีกด้วย LAN RJ45 ก็ยังมีอยู่ด้วย อีกทั้งด้วย DVD Drive ก็มีติดตั้งไว้ด้วยอย่างที่บอกไว้ข้างต้น

เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วทั่วไป ถือได้ว่ามีมิติที่ใกล้เคียงกัน ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.33 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ที่ชาร์จเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 2.6 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัมขึ้นไป แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คในยุคปัจจุบันทีเดียว

Performance / Software

   

Dell Inspiron 15 5583 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.60 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ

เทียบกับรุ่นก่อนเรียกได้ว่าแรงขึ้นพอตัวเพราะ Core เยอะขึ้น แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กว่าพวก Core i7 ตัวซีรีย์ H ตรงๆ ไม่ได้เรื่องของประสิทธิภาพการประมวลผล แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายใช้งานได้ทันที ไม่ต้องอัพเกรดใดๆ

   

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอแยกน้องเล็กสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX130 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าพอใช้งาน 3 มิติได้บ้าง แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD M.2 NVMe ที่ความจุ 256GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 1739 MB/s – Write: 623.2 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรื่องของความลื่นไหลโดยรวมของระบบ

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,757 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก พร้อม SSD ในตัวทันที ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกเดียวกันที่ไม่มีนั่นเอง

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell Inspiron 15 5583 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง Dell SupportAssistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

รวมไปถึงซอฟต์แวร์ Dell Power Manager ที่คอยเป็นตัวช่วยในการจัดการพลังงาน การชาร์จไฟ สถานะแบตเตอรี่ รวมไปถึงระบบระบายความร้อน ที่เราสามารถเลือกการจัดการได้ ว่าจะใช้งานทั่วไป อัตโนมัติ หรือเร่งรอบพัดลม เพื่อให้ระบายความร้อนได้สูงสุด ตามแต่ลักษณะการใช้งานของเรา

ปิดท้ายด้วย Dell Mobile Connect ซอฟต์แวร์ที่คอยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องแยกการใช้งานระหว่างพีซีและสมาร์ทโฟน  โดยเชื่อมต่อกันผ่านสัญญาณ Bluetooth ซึ่งทำให้การแจ้งเตือนต่างๆ ข้อมความ เบอร์โทร รวมไปถึงการโทรศัพท์ติดต่อ สามารถทำผ่านโน๊ตบุ๊คของ Dell ได้เลย สำหรับ Dell Inspiron 15 5583 ก็มีซอฟต์แวร์ตัวนี้ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน เรียกได้ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปากทีเดีย

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ของ Dell Inspiron 15 5583 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 8 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ดูแล้วอาจให้ระยะเวลาการทำงานที่ค่อนข้างสั้นกว่าเครื่องอื่นเล็กน้อย ส่วนช่องระบายความร้อนของ Dell Inspiron 15 5583  จะอยู่ด้านบนบริเวณข้อพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดขอบจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย

อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 99 องศาเซลเซียสทีเดียว ด้วยการที่ระบบระบายความร้อนของ Dell Inspiron 15 5583 ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานหนักๆ ตลอดเวลา เหมือน Gaming Notebook เครื่องอื่นๆ ซึ่งจากการทดสอบเป็นการนำไปเล่นเกมหลายชั่วโมง อย่างไรก็ตามตัวเครื่องไม่ได้เกิดอาการค้าง หน่วง หรือมีปัญหาแต่อย่างใด แม้ว่าชิปประมวลผล Intel และ NVDIA รุ่นล่าสุดจะแรงขึ้น แต่ทางฝั่ง Intel เหมือนจะร้อนขึ้นด้วย เรียกได้ว่าชุดระบายความร้อนของ Dell ไม่สามารถจัดการได้เย็นกว่านี้แล้ว เวลาใช้งานหนักๆ ฉะนั้นใครกังวลส่วนนี้ก็ควรหลีกเลี่ยง

Conclusion / Award

เป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจ ด้วยความเป็นแบรนด์ Dell อย่าง Dell Inspiron 15 5583 ที่นำเสนอสิ่งใหม่ผ่านความสำเร็จตระกูล Inspiron รุ่นใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะมาพร้อมเพรียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ น้ำหนักตัวเครื่อง รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน อีกทั้งมีสีสันให้เลือกทั้ง Platinum Silver ที่ดูหรูหรา และดำ Black Texture ที่ดูดุดันด้วย

โดยสนนเริ่มต้นที่ 24,490 บาท สำหรับรุ่น Core i5 ส่วนรุ่น Core i7 ก็สนนราคาที่ 28,990 บาท ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องสเปกการ์ดจอ MX130 แรม 8GB และฮาร์ดดิสก์ SSD 256GB ที่เหมือนกันหมด (สามารถอัพเกรด HDD 2.5″ ได้ภายหลัง) กับขนาดหน้าจอ 15.6″ พาเนล TN โดยส่วนตัวแล้วแนะนำว่าตัว i5 ก็เพียงพอแล้ว เพราะส่วนต่างค่อนข้างเยอะ ซึ่งประสิทธิภาพถ้าเน้นใช้งานทั่วไปอยู่แล้วก็ให้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลไม่ต่างกันมากนัก

Dell Inspiron 15 5583 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่รักความบันเทิงนระดับเบื้องต้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีราคา Dell Inspiron 15 5583 จะมีราคาที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ในสเปกที่ใกล้เคียงกับแบรนด์อื่นๆ จากการที่เป็นแบรนด์ Dell ซึ่งตัวแบรนด์เองเค้ามองว่าสมเหตุสมผล จากกการที่มีการรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย แบบ On-site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย นอกจากนี้ยังมี Call Center ช่วยบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊ค ที่เน้นประสบการณ์ใช้งานกับแบรนด์ Dell โดยไม่กังวลในเรื่องของราคาค่าตัวเมื่อเทียบกับสเปกความแรงล่ะก็ Dell Inspiron 15 5583 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่สามารถจัดการความร้อนได้ดีกว่ารุ่นก่อน รวมไปถึงหน้าจอก็มีขอบเขตสีน้อยกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ หน่อย ซึ่งถ้าเป็นแฟน Dell และรับได้ ก็จัดไปครับ

จุดเด่น

• ดีไซน์สวยงามตามสไตล์ Dell งานประกอบเรียบร้อย ที่หลายๆ คนชื่นชอบกัน
• หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล
• ประสิทธิภาพลื่นไฟลด้วยสเปกที่ให้มาทั้ง CPU / GPU / RAM / SSD
• มีพอร์ต USB 3.1 Type-C ติดตั้งมาให้ และ DVD Drive
• มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 และซอฟต์แวร์ต่างๆ
• ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม On-site Service มาตรฐาน Dell

ข้อสังเกตุ

• หน้าจอพาเนล TN ให้ค่า sRGB เพียง 55% เท่านั้น
• เมื่อใช้งานหนักๆ ต่อเนื่อง อุณภูมิจะสูงถึง 99 องศา
• ราคาสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ ในสเปกที่ใกล้เคียงกัน

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell Inspiron 5480 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Inspiron มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Inspiron 15 5583 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ แถมยังบางเบาสุดๆ ด้วย ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

Specification

สเปกของ Dell Inspiron 15 5583 อย่างที่บอกไปแล้วคือ แบ่งด้วยกันเป็น 2 รุ่นหลักๆ คือ i5-8265U / i7-8565U ซึ่งในครั้งนี้แอดมินโป้ง NBS ได้มาเป็นสเปก Core i5 โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณ TN เกรดดี ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริงและมุมมองกว้างประมาณนึง ด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U ความเร็ว 1.80GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.60GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 8 (Whiskey Lake) รุ่นล่าสุด

ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX130 (2GB GDDR5) ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดีในระดับเริ่มต้น สำหรับฮาร์ดดิสก์ให้มาเป็นมาตรฐาน SSD M.2 NVMe ความจุ 256GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC +Bluetooth 4.1 ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 2.33 กิโลกรัมเท่านั้น ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call

สนนราคา Dell Inspiron 15 5583 รุ่นที่นำมารีวิวมีราคากลางอยู่ที่ 28,990 บาท ซึ่งมี 2 สีสันเป็นสีดำและสีเงินให้เลือกตามความชอบ พร้อมการรับประกัน 2 ปี แบบ Dell Premium Support และ On-Site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ตามมาตรฐานของ Dell รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้

• i5-8265U + MX130 + RAM 8GB + SSD 256GB + Windows 10 ราคา 24,490 บาท
• i7-8565U + MX130 + RAM 8GB + SSD 256GB + Windows 10 ราคา 28,990 บาท

Hardware / Design

ดีไซน์การออกแบบของ Dell Inspiron 15 5583 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ ที่มีความบางเบา Thin & Light กว่าโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป มาพร้อม DNA รูปลักษณ์ทรวดทรงตามสไตล์ Dell แบบเต็มรูปแบบ ที่เรียกได้ว่ามีความโดดเด่นชัดเจน แม้หน้าจอไม่ได้ขอบบางเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปี 2019 หลายๆ รุ่น โดยวัสดุเป็นพลาสติกตลอดทั้งตัวเครื่อง ที่แม้จะราคาคุ้มค่าแต่ก็ถือว่าได้งานประกอบโดยรวมที่ดี ด้วยน้ำหนัก 2.33 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีความบางเพียง 19.4 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกประมาณนึง

แนวคิดโดยรวม Dell Inspiron 15 5583 ถอดแบบมาจาก Dell Inspiron 15 รุ่นก่อนๆ เป็นอย่างดี ทำให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน รับกับมือเวลาจับถือพกพา ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อย พร้อมด้วยสีที่ดูสะอาดตา โดยรุ่นที่นำมารีวิวสีสันเป็นเงิน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา สง่างาม เหมาะสมทั้งสาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นภาพลักษณ์ไว้ใช้งาน ส่วนอีกสีจะเป็นดำ Black Texture ที่ดูแล้วดุดันกว่า ซึ่งในสัมผัสที่จับถือได้ติดมือทีเดียว

ส่วนของตัวเครื่องหลักๆ แล้วจะใช้เป็นพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียม ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป ที่สำคัญคือพื้นผิววัสดุทั้งหมดเป็นแบบด้านส่งผลให้เป็นรอยนิ้วมือได้ยากอีกด้วย ได้โลโก้ Dell ที่ดูเด่นสวยงามอยู่กลางฝาหลัง พร้อมปุ่ม Power ที่ติดตั้งอยู่ที่มุมขวาบนของคีย์บอร์ด ซึ่งมีความลงตัวเป็นอย่างดี

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Dell Inspiron 15 5583 ก็คือ ยังเป็นโน๊ตบุ๊คที่ติดตั้งไดร์ฟ DVD ไว้สำหรับเขียนอ่านแผ่น CD/DVD เรียกได้ตอบโจทย์สำหรับคนที่ยังจำเป็นต้องใช้งานแผ่น CD/DVD อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านไฟล์จาก CD หรือดูสื่อผ่าน DVD ต่างๆ ซึ่งเข้าใจว่าบางองค์กรยังจำเป็นต้องใช้งานอยู่ ฉะนั้นโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว รวมไปถึงบางคนยังจำเป็นต้องบันทึกไฟล์ต่างๆ ด้วยแผ่นเหล่านี้อยู่ อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ไม่ใช่งานก็สามารถถอดแล้วใส่เบย์เพื่อเพิ่ม HDD 2.5″ SATA ได้ภายหลัง

การออกแบบมาอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คงเป็นส่วนตัวเครื่องด้านล่างก็จะมีคำว่า Inspiron ปั๊มเอาไว้ พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวอีก แน่นอนว่าสติกเกอร์ Windows 10 ก็จะติดอยู่บริเวณนี้เช่นกัน สำหรับ Dell Inspiron 15 5583ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี

เรียกได้ว่าเรื่องของดีไซน์นั้นตอบโจทย์กับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้วเครื่องเดียวจบแน่นอน ทำให้ไม่ว่าเราจะเอาไปทำงาน หรือเพื่อความบันเทิง ก็ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้หมด เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษาหรือคนทำงานที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นความเรียบง่ายราคาไม่แพง และใช้งานไม่หนักมากนัก

Keyboard / Touchpad

คีย์บอร์ตัวปุ่มของ Dell Inspiron 15 5583 เป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่าย ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งการเด้งรับและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด พร้อมแป้นตัวเลข Numpad ก็ยังคงมีมาให้ปกติ อย่างไรก็ตามในส่วนของไฟ LED Backlit รุ่นนี้ไม่มีแต่อย่างใด ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน ซึ่งมีดีไซน์เรียบเนียนไปกับตัวเครื่องโดยรวม

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น แต่มีเส้นแบ่งเล็กๆ เอาไว้เพื่อความสวยงาม การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

Dell Inspiron 15 5583 ติดตั้งหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล TN เกรดดีที่อาจจะไม่มีดีเท่ากับพาเนล IPS แต่โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจในราคาคุ้มค่า โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียว และแม้จอเป็นแบบด้านลดสะท้อนแสง แต่ก็ยังให้เรื่องสีสันสดใสที่ดูสดใจไม่แพ้จอกระจกเลย พร้อมติดตั้งชุดกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนแบบคู่ ไว้ขอบด้านบนปกติ

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell Inspiron 15 5583 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล TN ก็จริง แต่ก็อยากทราบถึงค่าขอบเบตสีความแม่นยำ เลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่เพียง 55% และ AdobeRGB ที่ 41% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันธรรมดาในเกณฑ์ทั่วไป ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปของพาเนล TN ซึ่งถ้าเอาไปทำงานหรือความบันเทิงทั่วไป หรือใช้งานข้างนอกก็พอได้อยู่ แต่ทำอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลักมากนัก

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าตรงกลางแถวล่างหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านขอบมุมซ้ายบนที่ลดลงไปที่ระดับ 16% ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 2.5 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่ามาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง หรือทำงานไม่จริงจังเรื่องสีสัน

ลำโพงสเตอริโอเทคโนโลยี Waves MaxxAudio Pro ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ให้เสียงที่ค่อนข้างดี แยกรายละเอียดได้ในระดับที่ดีน่าประทับใจ ถือได้ว่ามีเสียงดังชัดเจนออกแนวใสๆ เน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว

Connector / Thin And Weight

มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อของ Dell Inspiron 15 5583 กันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type-A จำนวนสองพอร์ต ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูล แน่นอนว่ายังมีการติดตั้ง USB 3.1 Type-C มาแล้ว และพอร์ต USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ

รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน รวมไปถึงยังมีช่องเชื่อมต่อไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องอ่าน SD Card ตามสมัยนิยมอีกด้วย LAN RJ45 ก็ยังมีอยู่ด้วย อีกทั้งด้วย DVD Drive ก็มีติดตั้งไว้ด้วยอย่างที่บอกไว้ข้างต้น

เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วทั่วไป ถือได้ว่ามีมิติที่ใกล้เคียงกัน ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.33 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ที่ชาร์จเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 2.6 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัมขึ้นไป แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คในยุคปัจจุบันทีเดียว

Performance / Software

   

Dell Inspiron 15 5583 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.60 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ

เทียบกับรุ่นก่อนเรียกได้ว่าแรงขึ้นพอตัวเพราะ Core เยอะขึ้น แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กว่าพวก Core i7 ตัวซีรีย์ H ตรงๆ ไม่ได้เรื่องของประสิทธิภาพการประมวลผล แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายใช้งานได้ทันที ไม่ต้องอัพเกรดใดๆ

   

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอแยกน้องเล็กสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX130 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าพอใช้งาน 3 มิติได้บ้าง แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD M.2 NVMe ที่ความจุ 256GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 1739 MB/s – Write: 623.2 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรื่องของความลื่นไหลโดยรวมของระบบ

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,757 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก พร้อม SSD ในตัวทันที ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกเดียวกันที่ไม่มีนั่นเอง

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell Inspiron 15 5583 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง Dell SupportAssistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

รวมไปถึงซอฟต์แวร์ Dell Power Manager ที่คอยเป็นตัวช่วยในการจัดการพลังงาน การชาร์จไฟ สถานะแบตเตอรี่ รวมไปถึงระบบระบายความร้อน ที่เราสามารถเลือกการจัดการได้ ว่าจะใช้งานทั่วไป อัตโนมัติ หรือเร่งรอบพัดลม เพื่อให้ระบายความร้อนได้สูงสุด ตามแต่ลักษณะการใช้งานของเรา

ปิดท้ายด้วย Dell Mobile Connect ซอฟต์แวร์ที่คอยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องแยกการใช้งานระหว่างพีซีและสมาร์ทโฟน  โดยเชื่อมต่อกันผ่านสัญญาณ Bluetooth ซึ่งทำให้การแจ้งเตือนต่างๆ ข้อมความ เบอร์โทร รวมไปถึงการโทรศัพท์ติดต่อ สามารถทำผ่านโน๊ตบุ๊คของ Dell ได้เลย สำหรับ Dell Inspiron 15 5583 ก็มีซอฟต์แวร์ตัวนี้ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน เรียกได้ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปากทีเดีย

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ของ Dell Inspiron 15 5583 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 8 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ดูแล้วอาจให้ระยะเวลาการทำงานที่ค่อนข้างสั้นกว่าเครื่องอื่นเล็กน้อย ส่วนช่องระบายความร้อนของ Dell Inspiron 15 5583  จะอยู่ด้านบนบริเวณข้อพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดขอบจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย

อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 99 องศาเซลเซียสทีเดียว ด้วยการที่ระบบระบายความร้อนของ Dell Inspiron 15 5583 ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานหนักๆ ตลอดเวลา เหมือน Gaming Notebook เครื่องอื่นๆ ซึ่งจากการทดสอบเป็นการนำไปเล่นเกมหลายชั่วโมง อย่างไรก็ตามตัวเครื่องไม่ได้เกิดอาการค้าง หน่วง หรือมีปัญหาแต่อย่างใด แม้ว่าชิปประมวลผล Intel และ NVDIA รุ่นล่าสุดจะแรงขึ้น แต่ทางฝั่ง Intel เหมือนจะร้อนขึ้นด้วย เรียกได้ว่าชุดระบายความร้อนของ Dell ไม่สามารถจัดการได้เย็นกว่านี้แล้ว เวลาใช้งานหนักๆ ฉะนั้นใครกังวลส่วนนี้ก็ควรหลีกเลี่ยง

Conclusion / Award

เป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจ ด้วยความเป็นแบรนด์ Dell อย่าง Dell Inspiron 15 5583 ที่นำเสนอสิ่งใหม่ผ่านความสำเร็จตระกูล Inspiron รุ่นใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะมาพร้อมเพรียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ น้ำหนักตัวเครื่อง รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน อีกทั้งมีสีสันให้เลือกทั้ง Platinum Silver ที่ดูหรูหรา และดำ Black Texture ที่ดูดุดันด้วย

โดยสนนเริ่มต้นที่ 24,490 บาท สำหรับรุ่น Core i5 ส่วนรุ่น Core i7 ก็สนนราคาที่ 28,990 บาท ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องสเปกการ์ดจอ MX130 แรม 8GB และฮาร์ดดิสก์ SSD 256GB ที่เหมือนกันหมด (สามารถอัพเกรด HDD 2.5″ ได้ภายหลัง) กับขนาดหน้าจอ 15.6″ พาเนล TN โดยส่วนตัวแล้วแนะนำว่าตัว i5 ก็เพียงพอแล้ว เพราะส่วนต่างค่อนข้างเยอะ ซึ่งประสิทธิภาพถ้าเน้นใช้งานทั่วไปอยู่แล้วก็ให้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลไม่ต่างกันมากนัก

Dell Inspiron 15 5583 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่รักความบันเทิงนระดับเบื้องต้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีราคา Dell Inspiron 15 5583 จะมีราคาที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ในสเปกที่ใกล้เคียงกับแบรนด์อื่นๆ จากการที่เป็นแบรนด์ Dell ซึ่งตัวแบรนด์เองเค้ามองว่าสมเหตุสมผล จากกการที่มีการรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย แบบ On-site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย นอกจากนี้ยังมี Call Center ช่วยบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊ค ที่เน้นประสบการณ์ใช้งานกับแบรนด์ Dell โดยไม่กังวลในเรื่องของราคาค่าตัวเมื่อเทียบกับสเปกความแรงล่ะก็ Dell Inspiron 15 5583 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่สามารถจัดการความร้อนได้ดีกว่ารุ่นก่อน รวมไปถึงหน้าจอก็มีขอบเขตสีน้อยกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ หน่อย ซึ่งถ้าเป็นแฟน Dell และรับได้ ก็จัดไปครับ

จุดเด่น

• ดีไซน์สวยงามตามสไตล์ Dell งานประกอบเรียบร้อย ที่หลายๆ คนชื่นชอบกัน
• หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล
• ประสิทธิภาพลื่นไฟลด้วยสเปกที่ให้มาทั้ง CPU / GPU / RAM / SSD
• มีพอร์ต USB 3.1 Type-C ติดตั้งมาให้ และ DVD Drive
• มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 และซอฟต์แวร์ต่างๆ
• ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม On-site Service มาตรฐาน Dell

ข้อสังเกตุ

• หน้าจอพาเนล TN ให้ค่า sRGB เพียง 55% เท่านั้น
• เมื่อใช้งานหนักๆ ต่อเนื่อง อุณภูมิจะสูงถึง 99 องศา
• ราคาสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ ในสเปกที่ใกล้เคียงกัน

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell Inspiron 5480 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Inspiron มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Inspiron 15 5583 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ แถมยังบางเบาสุดๆ ด้วย ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว