Acer ConceptD 5 Pro เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพ ที่มาพร้อมสเปก Core i7-9750H + Quadro RTX 3000 ดีไซน์ใหม่ขอบจอบางเฉียบ วัสดุเป็นอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ทั้งฝาหลัง ด้านนอก ด้านใน ใต้เครื่อง การออกแบบก็สวยล้ำ เน้นความพรีเมียมในดีไซน์ที่เรียบง่าย มาพร้อมหน้าจอ 15.6″ ความละเอียด 4K Ultra HD พาเนล IPS เกรดสูง ระดับ 100% Adobe RGB หลักๆ คือเน้นความเป็นมืออาชีพ เรียกได้ว่าจัดเต็มจริงๆ สำหรับ ConceptD ที่เป็นโน๊ตบุ๊คซีรีส์ใหม่จากทาง Acer หลักจากที่ประสบความสำเร็จจาก Aspire / Swift / Nitro / Predator มาแล้ว
สำหรับ Acer ConceptD 5 Pro ที่เราได้รับมารีวิวนั้นยังเป็นเพียงตัวเดโมเท่านั้น สำหรับวันวางขายและราคาจริงๆ คงต้องรอซักหน่อย สำหรับสเปกอื่นๆ นอกเหนือจากซชิปประมวลผลและการ์ดจอแล้ว ยังจัดเต็มด้วยแรมขนาด 32GB DDR4 และได้แหล่งเก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB พร้อมรองรับ HDD 2.5″ ปกติก็ยังมีติดตั้งให้อยู่ คาดว่าจะมาพร้อมการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน หรือส่งศูนย์เองก็ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย ตามมาตรฐานของ Acer ด้วย
VDO Review
Specification
Acer ConceptD 5 Pro เพราะมาพร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ปที่สำคัญได้การ์ดจอรุ่นใหม่สายทำงานระดับมืออาชีพมาเสริมทัพอัพเดทอย่าง NVIDIA Quadro RTX 3000 (6GB GDDR6) ที่เป็นรุ่นใหม่ของ Quadro RTX รองรับ Ray-Tracing เหมือนอย่าง GeFoece RTX เน้นความแรงในการประมวลผลภาพ 3 มิติ หรืองานดีไซน์อื่นๆ รวมไปถึงใช้งานทางด้านการตัดต่อสื่อวีดีโอและภาพถ่ายโดยเฉพาะ ซึ่งประสิทธิภาพพอๆ กับ GTX 1080 รุ่นก่อนหน้าทีเดียวสำหรับการเล่นเกม
พร้อมติดตั้ง SSD แบบ M.2 PCIe จำนวน 2 ช่องอีกด้วย ใส่มาแล้ว 512GB จำนวน 2 ตัว และมีฮาร์ดดิสก์ปกติ HDD 2.5″ มาให้ ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 32GB แบบ DDR4 Bus 2666 ที่เป็นแบบ 16GB x 2 แถว โดดเด่นด้วยจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ความละเอียด 4K Ultra HD ที่ 3840 x 2160 พิกเซล พาเนล IPS แบบ 60Hz เกรดสูง มาตรฐาน Pantone® validated ค่าสีคลาดเคลื่อนที่ Delta E < 2 ขอบเขตสีระดับ 100% Adobe RGB ให้สีสันที่สวยงามเที่ยงตรงแบบสุดๆ และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจ ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง Wave MaxxAudio ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก
ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 (KillerTM Ethernet E2500) , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 Intel Dual Band MU-Mimo มาตรฐาน AX คาดการณ์ว่าตัวขายจริงจะมีการประกัน On-site Service ถึง 3 ปีเต็ม ส่วนราคาอาจจะอยู่ที่ 5x,xxx บาทขึ้นไป
Hardware / Design
เรื่องของการดีไซน์ออกแบบ หลักๆ Acer ConceptD 5 Pro ยังมีทรงคล้ายๆ กับ Acer Nitro 7 เรียกได้ว่าถอดแบบกันมาเลยดีกว่า ซึ่งจากการที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมตลอทั้งตัวเครื่องทำให้ดูแข็งแรงทนทานและหรูหรา รวมไปถึงการพกพาก็สะดวก ด้วยหน้าจอขอบบางทำให้แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ แต่มิติตัวเครื่องโดยรวมใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ แบบเดิมๆ ทีเดียว จากการที่ขอบหน้าจอที่บางเฉียบที่ 7.48 มิลลิเมตร พื้นที่แสดงผลเป็น 78% ส่งผลให้มิติโดยรวมตัวเครื่องทั้งหมดมีขนาดที่เล็กกระชับ มีความบางที่ 19.9 มิลลิเมตรเท่านั้น นับว่ามีความบางเบากว่ารุ่นก่อนมาก รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น กับน้ำหนักเบาเพียง 2.5 กิโลกรัม
สีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำสนิททั้งตัวเครื่อง ทำให้ดูเรียบง่ายเรียบเนียนสวยงาม พร้อม DNA ในการตัดมุมตัวเครื่อง โดยฝาหลังของ Acer ConceptD 5 Pro เป็นอลูมิเนียมดูสวยงามดุดันซึ่งไม่มีสัญลักษณ์อะไรเลย นอกจากขอบฝาด้านบนจะเป็นคำว่า ConceptD ส่วนด้านในเหนือคีย์บอร์ดก็เป็นอีกจุกที่มีความว่า ConceptD เรียกได้ว่าไม่มีคำว่า Acer อยู่เป็นตัวเครื่องเลย ทำให้แตกต่างจากโน๊ตบุ๊คของทาง Acer ที่เป็นรุ่นอื่นๆ ชัดเจนทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Aeroblade 3D Fan รุ่นที่ 4 ที่เป็นใบพัดลมแบบพิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะ Acer เท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาได้นำไปใช้กับ Gaming Notebook ระดับสูงอย่าง Predator รุ่นต่างๆ ทำงานร่วมกับช่องระบายความร้อนด้านหลังแถวยาว 1 ช่อง พร้อมด้านข้างทางขวาอีก 1 ช่อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ แม้จะทำงานหนักหน่วงแค่ไหนก็เอาอยู่ ส่งผลให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป ที่สำคัญคือ เสียงของพัดลมจะมีความดังไม่เกิน 40dBA ทำให้เมื่อเรานำไปใช้งานนอกสถานที่แล้วจะไม่มีเสียงรบกวนที่ดังเกินไปนั่นเอง
สรุปแล้วสำหรับหน้าตาการออกแบบ Acer ConceptD 5 Pro โดยรวม เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีน่าประทับใจ พร้อมการเลือกใช้ไฟคีย์บอร์ดส่องสว่างเป็นที่ส้ม แม้จะมีรูปทรงที่ใกล้กับ Acer Nitro 7 แต่ในประสบการณ์ใช้งานที่แตกต่าง เน้นใช้งานระดับมืออาชีพกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพเครื่องที่สูงเป็นหลัก ทำให้ดีไซน์ดูน้อยแต่มาก เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนน่าจะชื่นชอบกัน
Keyboard / Touchpad
Acer ConceptD 5 Pro มีตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6”ขอบหน้าจอบางก็จริง แต่ก็ยังสามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีขาวรวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีส้มที่ดูแล้วโดดเด่นและแตต่าง (ปรับแสงได้ 5 ระดับ) ที่ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีเงินสวยงาม ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Acer ConceptD 5 Pro มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ Screen-to-Body เป็น 78% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.48 มิลลิเมตร บนความละเอียด 4K Ultra HD ที่ 3840 x 2160 พิกเซล ให้ทั้งความเรียบเนียนตาหรือพื้นที่ในการใช้งานมากกว่า Full HD หลายเท่าตัว กับพาเนล IPS แบบ 60Hz เกรดสูง มาตรฐาน Pantone® validated ให้ค่าความสีคลาดเคลื่อนเพียง Delta E < 2 พร้อมขอบเขตสีระดับ 100% Adobe RGB ให้สีสันที่สวยงามเที่ยงตรงแบบสุดๆ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป
ซึ่งตรงนี้ทำให้รองรับการทำงานระดับมืออาชีพได้สมบูรณ์แบบทีเดียว เหมาะกับงานที่จริงจังเรื่องสีสันและความละเอียดของหน้าจอ รวมไปถึงเมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานและเล่นเกม ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 145 องศา พร้อมติดตั้งกล้องเว็บแคมแบบ 720p และไมโครโฟนไว้ขอบด้านบน ตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 97% และ AdobeRGB ที่ 92% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่น่าประทับใจมากๆ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 400 nit ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวบนของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องแถวล่างมุมซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 12% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer ConceptD 5 Pro นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Waves MaxxAudio ที่ผสานกับ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
Connector / Thin And Weight
Acer ConceptD 5 Pro จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, 1 x USB 2.0 Type-A , HDMI, RJ45 (Killer E2500) และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน พูดตรงๆ ก็คือ เหมือนกันกับ Acer Nitro 7 เลยล่ะ ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่มีส่วนของช่อง SD(XC/HC) Card reader
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดดีที่สุด พร้อมมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครันและทางด้านการพกพา Acer ConceptD 5 Pro ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง ตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คที่มีดีไซน์ขอบจอบาง ด้วยมิติตัวเครื่องกระชับเทียบเท่าหน้าจอ 14″ แบบก่อนๆ รวมถึงน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.5 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.8 กิโลกรัม นับได้ว่าพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศ หรือร้านกาแฟต่างๆ
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer ConceptD 5 Pro นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จะมีน็อตแค่ตัวเดียวที่มีสติกเกอร์แปะอยู่ เราสามารถเจาะทะลุไปได้เลย จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยเวลาทำห้ามใจร้อนเด็ดขาด ไม่งั้นเกลียวใต้ฝาอาจจะหักได้ แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมมีฮีท์ไปป์สองเส้นพาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองตัวติดกัน ช่องระบายความร้อนแถวยาวช่องเดียว
ซึ่งแรมกับฮาร์ดดิสก์จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ถึงแรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 16GB มาแล้ว 2 แถว รองรับสูงสุดที่ 32GB ซึ่งก็จัดเต็มมาแล้ว ส่วน SSD M.2 NVMe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน ใส่มาแล้วที่ 512GB x 2 พร้อมมีน็อตมาให้ด้วย ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5″ ที่ให้มาอยู่แล้วเป็นมาตรฐาน เรียกได้ว่าการแกะตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว อย่างไรก็ตามที่เห็นอยู่นี้เป็นเพียงเครื่องเดโม เครื่องขายจริงอาจจะไม่มีฮาร์ดแวร์ตามนี้ก็เป็นไปได้
Performance / Software
โดย Acer ConceptD 5 Pro รุ่นที่ได้รับมารีวิวมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 32GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 16GB x 2 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ยกระดับประสิทธิภาพ จากการที่ Acer ConceptD 5 Pro มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น
แน่นอนว่ามาพร้อมกับกราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกอย่างNVIDIA Quadro RTX 3000 (6GB GDDR6) ที่เป็นรุ่นใหม่ของ Quadro RTX รองรับ Ray-Tracing เหมือนอย่าง GeFoece RTX เน้นความแรงในการประมวลผลภาพ 3 มิติ หรืองานดีไซน์อื่นๆ รวมไปถึงใช้งานทางด้านการตัดต่อสื่อวีดีโอและภาพถ่ายโดยเฉพาะ ซึ่งประสิทธิภาพพอๆ กับ GTX 1080 รุ่นก่อนหน้าทีเดียวสำหรับการเล่นเกม
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าอย่าง Core i7-8750H ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงในระดับนึง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับ GTX ที่เน้นการทำงานหรือเล่นเกมเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe ระดับสูงมาก แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไปหลายเท่าตัว ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3532MB/s และเขียนที่ 3125MB/s แรงลื่นเหนือชั้นกว่า SSD ทั่วไปมากๆ ทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 / 3DMark / VRMark ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปรวมไปถึง Gaming Notebook หลายๆ ตัว ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังได้สเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรง โดยทำงานร่วมกับการ์ดจอแยก NVIDIA Quadro RTX3000 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปกติอย่างชัดเจน
ที่แม้ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงาน แต่ก็พอที่จะเล่นเกมได้ลื่นไหล จากคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจประมาณนึง โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 30 – 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA Quadro RTX 3000 ออกมาได้อย่างเต็มที่ประกอบกับยังใช้แรม 32GB DDR4 และ SSD NVMe 1TB ก็ถือว่าไม่มีส่วนใดคอขวด
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / FarCry 5 / BF V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 4K Ultra HD 3840 x 2160 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าได้เฟรมเรืประมาณ 30 กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ หรือปรับเป็นความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซลก็ได้ เชื่อได้ว่าต้องลื่นไหลกว่านี้พอสมควรทีเดียว
ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่4 K Ultra HD 3840 x 2160 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่แบบ Native ของหจ้าจอ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 40 – 60 – 90 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 30 บ้าง และถ้าอยากให้ลื่นไหลกว่านี้ก็คือ ปรับเป็นความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ก็พอแล้ว
ขาดไม่ได้เลยสำหรับ Acer ConceptD 5 Pro ก็คือซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
ที่สำคัญ Acer ConceptD 5 Pro มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ที่โดดเด่นอย่าง ConceptD Palette ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า การดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ รวมไปถึงการปรับโปรไฟล์สีเป็น AdobeRGB การปรับระบบเสียง หรือการปรับแต่งแบ่งหน้าจอออกมาเพื่อให้เปิดได้หลายๆ โปรแกรมพร้อมกันอย่างลงตัว เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน ConceptD Palette เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer ConceptD 5 Pro ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวเกือบๆ 5 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานปกติกับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงแบบนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Acer ConceptD 5 Pro เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 42 – 48 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ และการประมวลผล 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด เห็นได้ชัดเลยว่าเทคโนโลยี Aeroblade 3D Fan รุ่นที่ 4 แม้จะทำงานหนักหน่วงแค่ไหนก็เอาอยู่ ส่งผลให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป ที่สำคัญคือ เสียงของพัดลมจะมีความดังไม่เกิน 40dBA
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 92 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 80 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมากับขนาดตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม
Conclusion / Award
สรุปรีวิวสำหรับการมาของ Acer ConceptD 5 Pro ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสร้างสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพรุ่นแรกของทาง Acer ที่แอดมินโป้งได้สัมผัสกีนเลยทีเดียว หลังจากกที่มีการเปิดตัวไปแล้วในซีรีส์ ConceptD รุ่นต่างๆ ทั้งในส่วนของโน๊ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ รวมไปถึงหน้าจอมมอนิเตอร์ ซึ่งทาง Acer ตั้งใจนำเสนอมาตอบโจทย์ สำหรับคนที่ต้องคอมพิวเตอร์เน้นประสิทธิภาพในการทำงานที่สูง ด้วยสเปกที่แตกต่างจาก Gaming Notebook อย่าง Acer ConceptD 5 Pro
รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของดีไซน์ใหม่ให้ดูแล้วเรียบง่ายหรูหรา พร้อมได้หน้าจอเทพมากๆ sRGB ใกล้เคียง 100% จริงๆ กับความละเอียดหน้าจอที่สูง มิติตัวเครื่องเล็กลงกว่า Acer รุ่นก่อนๆ การประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ ถอดอัพเกรดก็ง่ายขึ้น เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย (รองรับการใส่ SSD M.2 NVMe แบบ 2 สล็อต) อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วก็เป็นการต่อยอดจาก Acer Nitro 7 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบใหม่ทั้งหมดเสียทีเดียว แต่ประสบการณ์ใช้งานที่แตกต่างอย่างชัดเจน
ส่วนสเปกที่เราได้รับมารีวิวให้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรง สำหรับการ์ดจอก็เป็นตัวใหม่ NVIDIA Quadro RTX 3000 จัดเต็มทั้งแรมและ SSD ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.1 Type-A จำนวน 2 ช่อง แต่ก็ยังมี USB 2.0 Type-A อีกช่องอยู่ไว้เชื่อมต่อเมาส์เป็นหลัก พร้อมกับ Wi-Fi 6 AX200 รุ่นใหม่ ทำงานร่วมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2500 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตลื่นไหลไร้สะดุดที่สุด อีกทั้งมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ไม่มีตรงนี้
สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีตามาตรฐานอยู่ คือ ไม่ได้ร้อนเกินไปนัก จนกระทบการทำงานของเครื่อง ด้วยเทคโนโลยี Aeroblade 3D Fan รุ่นที่ 4 ที่เป็นใบพัดลมแบบพิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะ Acer เท่านั้น ทำงานร่วมกับช่องระบายความร้อนด้านหลังแถวยาว 1 ช่อง พร้อมด้านข้างทางขวาอีก 1 ช่อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ แม้จะทำงานหนักหน่วงแค่ไหนก็เอาอยู่ ส่งผลให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป ที่สำคัญคือ เสียงของพัดลมจะมีความดังไม่เกิน 40dBA ทำให้เมื่อเรานำไปใช้งานนอกสถานที่แล้วจะไม่มีเสียงรบกวนที่ดังเกินไป
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจัง เน้นงานออกแบบ ประมวลผล 3 มิติ หรือต้องการหน้าจอเทพๆ สีตรง ขนาด เน้นให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดล่ะก็ Acer ConceptD 5 Pro น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร ที่คาดว่าจะมาพร้อมราคาประมาณ 5x,xxx บาท ด้วยไม้เด็ดก็คือการรับประกัน On-Site Service 3 ปี และส่งซ่อมศูนย์ด่วนแบบรับภายใน 3 ชั่วโมงจัดเต็มเหมือนเดิม เรียกได้ว่าครบครันเสร็จสรรพในเครื่องเดียวโคตรคุ้ม
ข้อดี
- การออกแบบเล็กกระชับ งานประกอบแน่นหนา วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
- ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม ทันสมัย ตอบโจทย์ของคนทำงานสายสร้างสรรค์
- สเปคแรงจัดเต็ม ด้วยชิป Core i7-9750H และการ์ดจอ Quadro RTX 3000
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว IPS คุณภาพดีเยี่ยม ที่ 4K Ultra HD สีสันแม่นยำ
- การแกะอัพเกรดทำได้ง่ายกว่าเดิม รองรับ SSD M.2 สองสล็อต
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, HDMI
- LAN รองรับ Killer Ethernet E2500 ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ลื่นไหล
- การเชื่อมต่อมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX200 ดีและใหม่ที่สุด
- คีย์บอร์ดใช้งานสะดวก มีไฟ Backlit สีส้มดูโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร
- ระบบระบายความร้อนดีเยี่ยม พร้อมพัดลมทำงานเงียบ ดังไม่เกิน 40dBA
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ ConceptD Palette
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ข้อสังเกต
- ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 5 ชั่วโมง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer ConceptD 5 Pro ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer กับซีรีส์ ConceptD ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer ConceptD 5 Pro ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง แม้หน้าจอ 15.6″ ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แม้จะมีน้ำหนักที่ 2.5 กิโลกรัม แต่ก็รับได้อยู่ เพราะเข้าใจว่าวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดเป็นโลหะอลูเมียมเกรดสูง สัมผัสดีเยี่ยม
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 Gen 9 ตระกูล H ตัวล่าสุด และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA Quadro RTX 3000 (6GB GDDR6) ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 32GB แบบ DDR4 รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูง ที่ 1TB ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เข้ากันเป็นอย่างดี ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ
VDO Review
Specification
Acer ConceptD 5 Pro เพราะมาพร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ปที่สำคัญได้การ์ดจอรุ่นใหม่สายทำงานระดับมืออาชีพมาเสริมทัพอัพเดทอย่าง NVIDIA Quadro RTX 3000 (6GB GDDR6) ที่เป็นรุ่นใหม่ของ Quadro RTX รองรับ Ray-Tracing เหมือนอย่าง GeFoece RTX เน้นความแรงในการประมวลผลภาพ 3 มิติ หรืองานดีไซน์อื่นๆ รวมไปถึงใช้งานทางด้านการตัดต่อสื่อวีดีโอและภาพถ่ายโดยเฉพาะ ซึ่งประสิทธิภาพพอๆ กับ GTX 1080 รุ่นก่อนหน้าทีเดียวสำหรับการเล่นเกม
พร้อมติดตั้ง SSD แบบ M.2 PCIe จำนวน 2 ช่องอีกด้วย ใส่มาแล้ว 512GB จำนวน 2 ตัว และมีฮาร์ดดิสก์ปกติ HDD 2.5″ มาให้ ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 32GB แบบ DDR4 Bus 2666 ที่เป็นแบบ 16GB x 2 แถว โดดเด่นด้วยจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ความละเอียด 4K Ultra HD ที่ 3840 x 2160 พิกเซล พาเนล IPS แบบ 60Hz เกรดสูง มาตรฐาน Pantone® validated ค่าสีคลาดเคลื่อนที่ Delta E < 2 ขอบเขตสีระดับ 100% Adobe RGB ให้สีสันที่สวยงามเที่ยงตรงแบบสุดๆ และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจ ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง Wave MaxxAudio ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก
ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 (KillerTM Ethernet E2500) , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 Intel Dual Band MU-Mimo มาตรฐาน AX คาดการณ์ว่าตัวขายจริงจะมีการประกัน On-site Service ถึง 3 ปีเต็ม ส่วนราคาอาจจะอยู่ที่ 5x,xxx บาทขึ้นไป
Hardware / Design
เรื่องของการดีไซน์ออกแบบ หลักๆ Acer ConceptD 5 Pro ยังมีทรงคล้ายๆ กับ Acer Nitro 7 เรียกได้ว่าถอดแบบกันมาเลยดีกว่า ซึ่งจากการที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมตลอทั้งตัวเครื่องทำให้ดูแข็งแรงทนทานและหรูหรา รวมไปถึงการพกพาก็สะดวก ด้วยหน้าจอขอบบางทำให้แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ แต่มิติตัวเครื่องโดยรวมใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ แบบเดิมๆ ทีเดียว จากการที่ขอบหน้าจอที่บางเฉียบที่ 7.48 มิลลิเมตร พื้นที่แสดงผลเป็น 78% ส่งผลให้มิติโดยรวมตัวเครื่องทั้งหมดมีขนาดที่เล็กกระชับ มีความบางที่ 19.9 มิลลิเมตรเท่านั้น นับว่ามีความบางเบากว่ารุ่นก่อนมาก รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น กับน้ำหนักเบาเพียง 2.5 กิโลกรัม
สีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำสนิททั้งตัวเครื่อง ทำให้ดูเรียบง่ายเรียบเนียนสวยงาม พร้อม DNA ในการตัดมุมตัวเครื่อง โดยฝาหลังของ Acer ConceptD 5 Pro เป็นอลูมิเนียมดูสวยงามดุดันซึ่งไม่มีสัญลักษณ์อะไรเลย นอกจากขอบฝาด้านบนจะเป็นคำว่า ConceptD ส่วนด้านในเหนือคีย์บอร์ดก็เป็นอีกจุกที่มีความว่า ConceptD เรียกได้ว่าไม่มีคำว่า Acer อยู่เป็นตัวเครื่องเลย ทำให้แตกต่างจากโน๊ตบุ๊คของทาง Acer ที่เป็นรุ่นอื่นๆ ชัดเจนทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Aeroblade 3D Fan รุ่นที่ 4 ที่เป็นใบพัดลมแบบพิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะ Acer เท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาได้นำไปใช้กับ Gaming Notebook ระดับสูงอย่าง Predator รุ่นต่างๆ ทำงานร่วมกับช่องระบายความร้อนด้านหลังแถวยาว 1 ช่อง พร้อมด้านข้างทางขวาอีก 1 ช่อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ แม้จะทำงานหนักหน่วงแค่ไหนก็เอาอยู่ ส่งผลให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป ที่สำคัญคือ เสียงของพัดลมจะมีความดังไม่เกิน 40dBA ทำให้เมื่อเรานำไปใช้งานนอกสถานที่แล้วจะไม่มีเสียงรบกวนที่ดังเกินไปนั่นเอง
สรุปแล้วสำหรับหน้าตาการออกแบบ Acer ConceptD 5 Pro โดยรวม เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีน่าประทับใจ พร้อมการเลือกใช้ไฟคีย์บอร์ดส่องสว่างเป็นที่ส้ม แม้จะมีรูปทรงที่ใกล้กับ Acer Nitro 7 แต่ในประสบการณ์ใช้งานที่แตกต่าง เน้นใช้งานระดับมืออาชีพกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพเครื่องที่สูงเป็นหลัก ทำให้ดีไซน์ดูน้อยแต่มาก เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนน่าจะชื่นชอบกัน
Keyboard / Touchpad
Acer ConceptD 5 Pro มีตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6”ขอบหน้าจอบางก็จริง แต่ก็ยังสามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีขาวรวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีส้มที่ดูแล้วโดดเด่นและแตต่าง (ปรับแสงได้ 5 ระดับ) ที่ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีเงินสวยงาม ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Acer ConceptD 5 Pro มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ Screen-to-Body เป็น 78% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.48 มิลลิเมตร บนความละเอียด 4K Ultra HD ที่ 3840 x 2160 พิกเซล ให้ทั้งความเรียบเนียนตาหรือพื้นที่ในการใช้งานมากกว่า Full HD หลายเท่าตัว กับพาเนล IPS แบบ 60Hz เกรดสูง มาตรฐาน Pantone® validated ให้ค่าความสีคลาดเคลื่อนเพียง Delta E < 2 พร้อมขอบเขตสีระดับ 100% Adobe RGB ให้สีสันที่สวยงามเที่ยงตรงแบบสุดๆ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป
ซึ่งตรงนี้ทำให้รองรับการทำงานระดับมืออาชีพได้สมบูรณ์แบบทีเดียว เหมาะกับงานที่จริงจังเรื่องสีสันและความละเอียดของหน้าจอ รวมไปถึงเมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานและเล่นเกม ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 145 องศา พร้อมติดตั้งกล้องเว็บแคมแบบ 720p และไมโครโฟนไว้ขอบด้านบน ตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 97% และ AdobeRGB ที่ 92% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่น่าประทับใจมากๆ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 400 nit ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวบนของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องแถวล่างมุมซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 12% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer ConceptD 5 Pro นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Waves MaxxAudio ที่ผสานกับ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
Connector / Thin And Weight
Acer ConceptD 5 Pro จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, 1 x USB 2.0 Type-A , HDMI, RJ45 (Killer E2500) และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน พูดตรงๆ ก็คือ เหมือนกันกับ Acer Nitro 7 เลยล่ะ ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่มีส่วนของช่อง SD(XC/HC) Card reader
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดดีที่สุด พร้อมมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครันและทางด้านการพกพา Acer ConceptD 5 Pro ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง ตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คที่มีดีไซน์ขอบจอบาง ด้วยมิติตัวเครื่องกระชับเทียบเท่าหน้าจอ 14″ แบบก่อนๆ รวมถึงน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.5 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.8 กิโลกรัม นับได้ว่าพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศ หรือร้านกาแฟต่างๆ
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer ConceptD 5 Pro นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จะมีน็อตแค่ตัวเดียวที่มีสติกเกอร์แปะอยู่ เราสามารถเจาะทะลุไปได้เลย จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยเวลาทำห้ามใจร้อนเด็ดขาด ไม่งั้นเกลียวใต้ฝาอาจจะหักได้ แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมมีฮีท์ไปป์สองเส้นพาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองตัวติดกัน ช่องระบายความร้อนแถวยาวช่องเดียว
ซึ่งแรมกับฮาร์ดดิสก์จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ถึงแรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 16GB มาแล้ว 2 แถว รองรับสูงสุดที่ 32GB ซึ่งก็จัดเต็มมาแล้ว ส่วน SSD M.2 NVMe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน ใส่มาแล้วที่ 512GB x 2 พร้อมมีน็อตมาให้ด้วย ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5″ ที่ให้มาอยู่แล้วเป็นมาตรฐาน เรียกได้ว่าการแกะตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว อย่างไรก็ตามที่เห็นอยู่นี้เป็นเพียงเครื่องเดโม เครื่องขายจริงอาจจะไม่มีฮาร์ดแวร์ตามนี้ก็เป็นไปได้
Performance / Software
โดย Acer ConceptD 5 Pro รุ่นที่ได้รับมารีวิวมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 32GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 16GB x 2 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ยกระดับประสิทธิภาพ จากการที่ Acer ConceptD 5 Pro มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น
แน่นอนว่ามาพร้อมกับกราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกอย่างNVIDIA Quadro RTX 3000 (6GB GDDR6) ที่เป็นรุ่นใหม่ของ Quadro RTX รองรับ Ray-Tracing เหมือนอย่าง GeFoece RTX เน้นความแรงในการประมวลผลภาพ 3 มิติ หรืองานดีไซน์อื่นๆ รวมไปถึงใช้งานทางด้านการตัดต่อสื่อวีดีโอและภาพถ่ายโดยเฉพาะ ซึ่งประสิทธิภาพพอๆ กับ GTX 1080 รุ่นก่อนหน้าทีเดียวสำหรับการเล่นเกม
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าอย่าง Core i7-8750H ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงในระดับนึง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับ GTX ที่เน้นการทำงานหรือเล่นเกมเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe ระดับสูงมาก แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไปหลายเท่าตัว ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3532MB/s และเขียนที่ 3125MB/s แรงลื่นเหนือชั้นกว่า SSD ทั่วไปมากๆ ทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 / 3DMark / VRMark ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปรวมไปถึง Gaming Notebook หลายๆ ตัว ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังได้สเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรง โดยทำงานร่วมกับการ์ดจอแยก NVIDIA Quadro RTX3000 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปกติอย่างชัดเจน
ที่แม้ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงาน แต่ก็พอที่จะเล่นเกมได้ลื่นไหล จากคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจประมาณนึง โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 30 – 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA Quadro RTX 3000 ออกมาได้อย่างเต็มที่ประกอบกับยังใช้แรม 32GB DDR4 และ SSD NVMe 1TB ก็ถือว่าไม่มีส่วนใดคอขวด
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / FarCry 5 / BF V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 4K Ultra HD 3840 x 2160 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าได้เฟรมเรืประมาณ 30 กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ หรือปรับเป็นความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซลก็ได้ เชื่อได้ว่าต้องลื่นไหลกว่านี้พอสมควรทีเดียว
ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่4 K Ultra HD 3840 x 2160 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่แบบ Native ของหจ้าจอ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 40 – 60 – 90 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 30 บ้าง และถ้าอยากให้ลื่นไหลกว่านี้ก็คือ ปรับเป็นความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ก็พอแล้ว
ขาดไม่ได้เลยสำหรับ Acer ConceptD 5 Pro ก็คือซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
ที่สำคัญ Acer ConceptD 5 Pro มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ที่โดดเด่นอย่าง ConceptD Palette ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า การดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ รวมไปถึงการปรับโปรไฟล์สีเป็น AdobeRGB การปรับระบบเสียง หรือการปรับแต่งแบ่งหน้าจอออกมาเพื่อให้เปิดได้หลายๆ โปรแกรมพร้อมกันอย่างลงตัว เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน ConceptD Palette เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer ConceptD 5 Pro ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวเกือบๆ 5 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานปกติกับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงแบบนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Acer ConceptD 5 Pro เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 42 – 48 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ และการประมวลผล 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด เห็นได้ชัดเลยว่าเทคโนโลยี Aeroblade 3D Fan รุ่นที่ 4 แม้จะทำงานหนักหน่วงแค่ไหนก็เอาอยู่ ส่งผลให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป ที่สำคัญคือ เสียงของพัดลมจะมีความดังไม่เกิน 40dBA
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 92 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 80 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมากับขนาดตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม
Conclusion / Award
สรุปรีวิวสำหรับการมาของ Acer ConceptD 5 Pro ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสร้างสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพรุ่นแรกของทาง Acer ที่แอดมินโป้งได้สัมผัสกีนเลยทีเดียว หลังจากกที่มีการเปิดตัวไปแล้วในซีรีส์ ConceptD รุ่นต่างๆ ทั้งในส่วนของโน๊ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ รวมไปถึงหน้าจอมมอนิเตอร์ ซึ่งทาง Acer ตั้งใจนำเสนอมาตอบโจทย์ สำหรับคนที่ต้องคอมพิวเตอร์เน้นประสิทธิภาพในการทำงานที่สูง ด้วยสเปกที่แตกต่างจาก Gaming Notebook อย่าง Acer ConceptD 5 Pro
รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของดีไซน์ใหม่ให้ดูแล้วเรียบง่ายหรูหรา พร้อมได้หน้าจอเทพมากๆ sRGB ใกล้เคียง 100% จริงๆ กับความละเอียดหน้าจอที่สูง มิติตัวเครื่องเล็กลงกว่า Acer รุ่นก่อนๆ การประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ ถอดอัพเกรดก็ง่ายขึ้น เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย (รองรับการใส่ SSD M.2 NVMe แบบ 2 สล็อต) อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วก็เป็นการต่อยอดจาก Acer Nitro 7 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบใหม่ทั้งหมดเสียทีเดียว แต่ประสบการณ์ใช้งานที่แตกต่างอย่างชัดเจน
ส่วนสเปกที่เราได้รับมารีวิวให้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรง สำหรับการ์ดจอก็เป็นตัวใหม่ NVIDIA Quadro RTX 3000 จัดเต็มทั้งแรมและ SSD ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.1 Type-A จำนวน 2 ช่อง แต่ก็ยังมี USB 2.0 Type-A อีกช่องอยู่ไว้เชื่อมต่อเมาส์เป็นหลัก พร้อมกับ Wi-Fi 6 AX200 รุ่นใหม่ ทำงานร่วมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2500 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตลื่นไหลไร้สะดุดที่สุด อีกทั้งมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ไม่มีตรงนี้
สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีตามาตรฐานอยู่ คือ ไม่ได้ร้อนเกินไปนัก จนกระทบการทำงานของเครื่อง ด้วยเทคโนโลยี Aeroblade 3D Fan รุ่นที่ 4 ที่เป็นใบพัดลมแบบพิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะ Acer เท่านั้น ทำงานร่วมกับช่องระบายความร้อนด้านหลังแถวยาว 1 ช่อง พร้อมด้านข้างทางขวาอีก 1 ช่อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ แม้จะทำงานหนักหน่วงแค่ไหนก็เอาอยู่ ส่งผลให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป ที่สำคัญคือ เสียงของพัดลมจะมีความดังไม่เกิน 40dBA ทำให้เมื่อเรานำไปใช้งานนอกสถานที่แล้วจะไม่มีเสียงรบกวนที่ดังเกินไป
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจัง เน้นงานออกแบบ ประมวลผล 3 มิติ หรือต้องการหน้าจอเทพๆ สีตรง ขนาด เน้นให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดล่ะก็ Acer ConceptD 5 Pro น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร ที่คาดว่าจะมาพร้อมราคาประมาณ 5x,xxx บาท ด้วยไม้เด็ดก็คือการรับประกัน On-Site Service 3 ปี และส่งซ่อมศูนย์ด่วนแบบรับภายใน 3 ชั่วโมงจัดเต็มเหมือนเดิม เรียกได้ว่าครบครันเสร็จสรรพในเครื่องเดียวโคตรคุ้ม
ข้อดี
- การออกแบบเล็กกระชับ งานประกอบแน่นหนา วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
- ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม ทันสมัย ตอบโจทย์ของคนทำงานสายสร้างสรรค์
- สเปคแรงจัดเต็ม ด้วยชิป Core i7-9750H และการ์ดจอ Quadro RTX 3000
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว IPS คุณภาพดีเยี่ยม ที่ 4K Ultra HD สีสันแม่นยำ
- การแกะอัพเกรดทำได้ง่ายกว่าเดิม รองรับ SSD M.2 สองสล็อต
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, HDMI
- LAN รองรับ Killer Ethernet E2500 ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ลื่นไหล
- การเชื่อมต่อมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX200 ดีและใหม่ที่สุด
- คีย์บอร์ดใช้งานสะดวก มีไฟ Backlit สีส้มดูโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร
- ระบบระบายความร้อนดีเยี่ยม พร้อมพัดลมทำงานเงียบ ดังไม่เกิน 40dBA
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ ConceptD Palette
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ข้อสังเกต
- ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 5 ชั่วโมง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer ConceptD 5 Pro ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer กับซีรีส์ ConceptD ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer ConceptD 5 Pro ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง แม้หน้าจอ 15.6″ ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แม้จะมีน้ำหนักที่ 2.5 กิโลกรัม แต่ก็รับได้อยู่ เพราะเข้าใจว่าวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดเป็นโลหะอลูเมียมเกรดสูง สัมผัสดีเยี่ยม
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 Gen 9 ตระกูล H ตัวล่าสุด และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA Quadro RTX 3000 (6GB GDDR6) ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 32GB แบบ DDR4 รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูง ที่ 1TB ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เข้ากันเป็นอย่างดี ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ