สำหรับ Lenovo ThinkBook 13s เป็นส่วนหนึ่งของ ThinkBook คอมพิวเตอร์ซับแบรนด์จาก Lenovo สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่มาพร้อมดีไซน์บางเฉียบ เพิ่มความคล่องตัวในทุกการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 เติมเต็มศักยภาพการทำงานให้ธุรกิจสู่ยุคแห่งอนาคต โดย Lenovo ThinkBook 13s เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 13.3″ ที่มีความบางเฉียบเน้นพกพาสะดวก เบาเพียง 1.4 กิโลกรัม รองรับทั้งการทำงานระดับมืออาชีพ รวมไปถึงความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบในเครื่องเดียวกัน
Lenovo ThinkBook 13s เน้นออกแบบให้ตรงต่อรูปแบบการใช้งานของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางซึ่งให้ความสำคัญไม่เพียงเฉพาะดีไซน์ที่สวยงามทันสมัยในราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังมีบริการหลังการขายและการรับประกันที่ดีเยี่ยม สำหรับสเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอแยก AMD Radeon 540X ที่รอบรับการทำงานหรือเล่นเกม 3 มิติพอได้ มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB DDR4 และ SSD M.2 NVMe ความจุ 256GB สนนราคาเริ่มต้นเพียง 28,490 บาทเท่านั้นเอง
Specification
โดย Lenovo ThinkBook 13s ที่เราได้รับมารีวิวในครั้งนี้ จะเป็นรุ่นเริ่มต้นคือ 28,490 บาท มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U ที่เป็นชิป 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 1.6 GHz สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้เป็น 3.9 GHz ทำงานร่วมกับแรมขนาด 8GB การ์ดจอออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 สำหรับใช้งานทั่วไป และการ์ดจอแยก AMD Radeon 540X (2GB GDDR5) ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลก็ใช้เป็น SSD M.2 แบบ PCIe ความจุ 256GB ทำให้สเปคโดยรวมนั้นลงตัวมาก ๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเว็บ ทำเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง เน้นพกพาไปใช้งานนอกสถานที่
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดย Lenovo ThinkBook 13s ใช้หน้าจอขนาด 13.3″ ความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080) อัตราส่วน 16:9 ขอบจอบางเฉียบ พาเนลจอแบบ IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งจัดว่าเป็นสเปคจอที่เหมาะสำหรับการใช้งานแทบทุกรูปแบบ มาพร้อม Windows 10 Home Single Language และซอฟต์แวร์จากทาง Lenovo Vantage ที่ช่วยในการจัดการปรับแต่ง
พอร์ตเชื่อมต่อก็มาพร้อมพอร์ตจำเป็นค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A ที่เป็นมาตรฐาน จำนวน 2 พอร์ต ส่วนอีกพอร์ตจะเป็น USB Type-C 3.2 Gen 2 ส่วนช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. และ HDMI ยังมีมาให้ นอกจากนี้ยังมี Finger Print สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Windows Hello ของ Windows 10 เพื่อล็อกอินโดยใช้การสแกนนิ้วอีกด้วย สำหรับประกันเป็น 1 ปี ตามมาตรฐาน Lenovo
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo ThinkBook 13s นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ แบบสมัยก่อนอยู่พอสมควร เนื่องด้วยขอบจอที่บางกว่าปกติ ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กพอๆ กับโน๊ตบุ๊คจอ 12.5″ ส่งผลให้ Lenovo ThinkBook 13s เป็นอีกหนึ่ง Ultrabook ปี 2019 ที่ดูเล็กกระทัดที่สุด ด้วยน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัม กับความบางของตัวเครื่องเพียง 15.9 มิิลลิเมตรเท่านั้น สำหรับหน้าจอสามารถกางได้ถึง 90 องศาเลยทีเดียว
ด้วยดีไซน์ออกมาได้ขอบหน้าจอบางแบบเพียง 5 ม.ม. ส่วนของตัวเครื่องทั้งหมดจะใช้เป็นอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา พร้อมสีสันสีเงิน Mineral Grey ส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหราให้อารมณ์พรีเมียมสุดๆ พร้อมให้ลุคทันสมัยแต่แฝงไว้ด้วยความเรียบหรูเป็นทางการ ภายในติดตั้งด้วยวัสดุและเทคโนโลยีที่ให้ความปลอดภัยและประสิทธิภาพการใช้งานระดับองค์กรตามแบบฉบับเครื่องคอมพิวเตอร์ตระกูล Think
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย โลโก้ Lenovo จะมีอยู่ 2 จุดเท่านั้น คือ มุมบนฝาหลังด้านซ้าย ส่วนมุมซ้ายล่างของฝาหลังจะโดดเด่นด้วยโลโก้ ThinkBook ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะงานประกอบทั้งหมดแทบจะเป็นชิ้นเดียวกัน แบบ Unibody ส่งให้เวลาที่เราจับถือหรือใช้งานจะรู้สึกว่าแน่นหนา ซึ่งจากการใช้งานจริงพื้นผิวบางนี้เป็บรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความสะอาดได้เลย หรือถ้าจะเช็ดก็ง่ายดาย
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Lenovo ThinkBook 13s เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ทรงประสิทธิภาพในการทำงานทั่วไปเน้นการพกพา แบบที่หารุ่นเปรียบเทียบได้ยาก ที่สำคัญ Lenovo ThinkBook 13s นั้นผ่านการทดสอบคุณภาพและความน่าเชื่อถือหลายอย่าง อาทิ การป้องกันน้ำหกเข้าสู่เครื่อง 60 มิลลิลิตร การทนต่ออุณหภูมิสูงและการสั่นสะเทือน และทดสอบบานพับโลหะผสมที่ใช้เทคโนโลยี Powdere-Metal ด้วยการเปิด-ปิดกว่า 25,000 รอบ ทั้งยังและเคลือบด้วยโลหะอินเดียมและสแตนเนียมเพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับสัญญาณ Wi-Fi
นอกเหนือจากนี้ Lenovo ThinkBook 13s ยังมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนแบบ 1 ตัว ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ โดยดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่องพร้อมทั้งช่องคีย์บอร์ด ทำให้การทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ในการใช้งานไปแทบจะไม่รู้สึกถึงความร้อนภายใน ส่วนใต้ตัวเครื่องก็มาพร้อมงานประกอบเรียบร้อยมาตรฐานโน๊ตบุ๊ค Lenovo ระดับสูง
แม้หน้าตาโดยรวมจะเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป แต่แตกต่างด้วยฟังก์ชั่น Windows Modern Standby ที่มากับ ThinkBook 13s ช่วยให้เครื่องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเช็คอีเมล์, รับสายผ่าน Skype และอัพเดทแอพพลิเคชั่น Windows ทำได้ง่ายแม้ในขณะที่หน้าจอเครื่องปิดพับปิดอยู่ ฟังก์ชั่น Smart Power On ช่วยให้เครื่องพร้อมใช้งานจากโหมดแสตนบายได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่กดปุ่มหรือสั่งงานผ่านเสียง พร้อมเพิ่มเฟิร์มแวร์ TPM 2.0 เพื่อใช้การใช้งาน Windows 10 security และ User Data Encryption ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องพร้อมตัวอักษรโปร่งแสง มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดีสไตล์ Lenovo ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังเด้งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกดในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบนพร้อมไฟส่องสว่างแสดงสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ที่สำคัญการเข้าใช้งานผ่านทาง Windows Hello ของ Windows 10 ยังสามารถทำได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือจากปุ่ม Power (มีไฟ LED สีขาว) ที่เป็นปุ่มเดียวกับ Finger Print แน่นอนว่าทำให้เราไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป แถมยังปลอดภัยและรวดเร็วด้วย ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้ว ถือว่าทำได้ดีได้ไวมากๆ ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนในตลาดปัจจุบันเลย
Screen / Speaker
หน้าจอของ Lenovo ThinkBook 13s เป็นแบบด้าน พาเนล IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ที่ให้ภาพคมชัด สวยงามทุกมุมมอง เมื่อประกอบกับขอบจอที่บางเฉียบ กว่า 97% เป็นหน้าจอแสดงผล ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีที่สมจริงอย่าง Dolby Vision และเทคโนโลยีภาพไดนามิกสูง (HDR) ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความคมชัดและแสดงเม็ดสีแม่นยำ พร้อมรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้การทำงานต่างๆ เปิดหน้าเว็บ การชมภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมถึงการเล่นเกมดูเต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าและไมโครโฟน 2 ตัวที่ซอนเอาไว้อย่างเรียบเนียน
อีกทั้งใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้ และที่ถึงแม้ขอบจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้งกล้องเว็บแคมไปอยู่บริเวณขอบจอด้านบนของหน้าจอได้ ที่สำคัญยังมาพร้อมฟีเจอร์ ThinkShutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น การใช้งานก็ง่ายมากๆ ด้วยการใช้นิ้วเลื่อนเปิดหรือปิดการใช้งานเท่านั้น
ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 97% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องแถวล่างมุมซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 8% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ด้านของลำโพงสเตอรีโอของ Lenovo ThinkBook 13s ใช้เป็นแบรนด์คุณภาพอย่าง HARMAN พร้อมมีเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีมาก และสามารถจำลองเสียง 360 องศาได้ โดยถูกติดตั้งบริเวณด้านล่างซ้ายขวาขอบตัวเครื่อง ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานดูหนังฟังเพลงแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Lenovo ThinkBook 13s นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีการกระชับพื้นที่มากๆ แต่ยังมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต (รองรับการชาร์จไฟ) ที่ติดตั้งอยู่ทางด้านซ้าย พร้อมติดตั้งพอร์ต USB 3.1 Type-C Gen 2 จำนวน 1 พอร์ต และ HDMI ไว้เชื่อมต่อแสดงผลหน้าจอภายนอกอยู่ทางด้านขวา พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 13.3 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.4 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวก้อนอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.7 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันทีเดียว
Performance / Software
Lenovo ThinkBook 13s มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดย Lenovo ThinkBook 13s เป็นรุ่นชิป Intel Core i5-8265U ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 1.6 GHz ไปจนถึง 3.9 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 15W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i5 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 14 นาโนเมตรเท่านั้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และการ์ดจอแยก AMD Radeon 540X (2GB GDDR5) ไว้ใช้คอยทำงาน 3 มิติหรือเล่นเกมออนไลน์ก็ยังพอได้ ด้วยความแรงพอๆ กับ MX150 นั่นเอง
ส่วนการทดสอบพลังประมวลผลด้วยโปรแกรม Cinebench ก็ให้ผลคะแนนในส่วนของ CPU ได้ดีตามระดับของ Core i5 ในรหัส U ส่วนด้านของ OpenGL ก็คะแนนพุ่งกว่าเครื่องที่ใช้ชิปออนบอร์ดทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นประหยัดพลังงาน ที่ใกล้เคียงกับตระกูล H ทีเดียว โดยดีขึ้นกว่า Core i5 รุ่นก่อนหน้าประมาณนึง
ด้านของ Storage เป็น SSD มาตรฐาน NVMe ระดับบน ความจุ 512GB ของ Samsung ที่ทำการทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ก็พบว่าความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 1728 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนก็อยู่ที่ 1289 MB/s ด้านของความเร็วในการอ่านเขียนไฟล์ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ สามารถใช้งานทั่วไปได้เหลือเฟือ ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ เร็วกว่ามาตรฐาน SATA 3 หลายเท่าตัว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3809 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งใกล้เคียงโน๊ตบุ๊คบางเบาในระดับเดียวกัน
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Lenovo Vantage ก็เรียกได้ว่าเป็นซอฟแวร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมในหลายๆ ส่วนของเครื่องได้ เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทไดร์เวอร์ล่าสุด การเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ตั้งค่าทัชแพด การเชื่อมต่อไร้สาย แบตเตอรี่ กล้องเว็บแคม ระบบเสียง และ Fingerprint ที่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นไม่ได้ติดตั้งมาให้หนักเครื่องเปล่าๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Lenovo ThinkBook 13s เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด ประมาณ 4,500 mAh สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบดู YouTube ผ่าน Wi-Fi ถือได้ว่าเป็น Ultrabook หน้าจอ 13.3″ อีกรุ่นหนึ่งเลยที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานในระดับนึง ในการใช้งานจริงก็ถือว่าน่าประทับใจแล้ว พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ทั้งวันได้เลย ที่สำคัญมีเทคโนโลยีรองรับระบบชาร์จเร็ว (Rapid Charge) ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ด้วยอแดปเตอร์ขนาด 65Watt
ผลการตรวจสอบอุณหภูมิขณะเครื่องทำงานปกติ มีเปิดโปรแกรมทำงานอยู่ด้วยบางส่วน โดยทดสอบเมื่ออยู่ในห้องแอร์อุณหภูมิประมาณ 26 องศา พบว่าความร้อนของ CPU จะอยู่ในช่วง 30 – 45 องศา ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับปกติของโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ใช้ชิป Core i5 ส่วนถ้าเป็นอุณหภูมิหลังจากทดสอบงานประมวลผลหนักๆ แล้ว จะเห็นว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU นั้นพุ่งไปสูงสุดที่ 97 องศาเซลเซียส แม้อาจจะดูว่าอุณหภูมิของ CPU ค่อนข้างสูง ส่วน GPU ร้อนสุดก็อยู่ที่ 80 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง แต่ความร้อนที่แผ่ออกมานั้นก็ไม่ได้รบกวนการทำงานแต่อย่างใด รวมไปถึงถ้าไม่ใช้งานหนัก ตัวเครื่องเองก็ระบายความร้อนออกไปได้อย่างรวดเร็วดี
อย่างไรก็ตามช่องดูดลมเข้าไปในเครื่องจะอยู่ที่ฝาปิดด้านล่าง ดังนั้น แนะนำว่าระหว่างใช้งาน อย่าหาของไปปิดกั้นช่องนี้รวมไปถึงช่องร่องตามคีย์บอร์ดด้วย หรือถ้าต้องการหาแท่นระบายความร้อนที่มีพัดลมอยู่ใต้เครื่อง ก็ควรเลือกแท่นที่มาพร้อมพัดลมเป่าลมขึ้นมายังตัวเครื่องนะครับ เพื่อจะได้ให้ลมเย็นสามารถไหลเข้าไปภายในได้เร็วขึ้นด้วย
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง Lenovo ThinkBook 13s ที่ต่อยอดความสำเร็จจากซี่รีส์ ThinkPad และ Ideapad ได้เป็นอย่างดี มาพร้อมความสมบูรณ์แบบพร้อมเปลี่ยนเป็นซีรีส์เป็น ThinkBook ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็น Ultrabook ระดับสูงของทาง Lenovo ที่ทุกคนต่างให้ความนิยม ที่สำคัญคือความเชื่อใจในระดับการทำงานมืออาชีพ
Lenovo ThinkBook 13s เป็นโน๊ตบุ๊คสายพกพาบางเบาอีกรุ่นที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านของความกะทัดรัดของตัวเครื่อง ที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ น้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมนิด ๆ ขอบจอบางเฉียบที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งการใช้งานคีย์บอร์ดก็ยังคงยอดเยี่ยม นับได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Lenovo ที่ทำมาได้ดีโดยตลอด ถอดแบบมาจาก ThinkPad เลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องดีไซน์การออกแบบที่ทันสมัยสวยงามเหมาะกับคนรุ่นใหม่ๆ ที่ถอดแบบมานาก IdeaPad ก็ทำมาได้อย่างยอดเยี่ยม
ส่วนประสิทธิภาพการทำงานของ Lenovo ThinkBook 13s ก็ยังครบครันทั้งแง่ของชิปประมวลผล Core i5 Gen 8 ตระกูล U รุ่นล่าสุด รวมถึงแรม 8GB และ SSD M.2 NVMe ในเครื่องความจุ 256GB หน้าจอ 13.3″ คุณภาพสูงพาเนล IPS ความละเอียด Full HD มาพร้อมเทคโนโลยีที่สมจริงอย่าง Dolby Vision และเทคโนโลยีภาพไดนามิกสูง (HDR) ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความคมชัดและแสดงเม็ดสีแม่นยำ พร้อมรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ตอบโจทย์ทั้งการทำงานจริงจัง หรือการใช้งานเพื่อความบันเทิง ตอบโจทย์ได้หมด
นอกจากนี้ Lenovo ThinkBook 13s ยังมาพร้อมฟีเจอร์ ThinkShutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น และยังมี Finger Print ระบบแสกนลายนิ้วมือเป็นอุปกรณ์ที่จะผนวกรวมเข้ากับปุ่มเปิดปิด ไว้ใช้งาน Windows Hello ผ่านทางระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องกรอกรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัยทุกครั้ง
รวมถึงตัวเครรื่องยังผ่านการทดสอบคุณภาพและความน่าเชื่อถือหลายอย่าง อาทิ การป้องกันน้ำหกเข้าสู่เครื่อง 60 มิลลิลิตร การทนต่ออุณหภูมิสูงและการสั่นสะเทือน และทดสอบบานพับโลหะผสมที่ใช้เทคโนโลยี Powdere-Metal ด้วยการเปิด-ปิดกว่า 25,000 รอบ ทั้งยังและเคลือบด้วยโลหะอินเดียมและสแตนเนียมเพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับสัญญาณ Wi-Fi
กับราคาเริ่มต้นที่ 28,490 บาท ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชูเรื่องของนวัตกรรมของทาง Lenovo ที่คุ้มค่าอีกหนึ่งรุ่น ส่วนตัวเองก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้สัมผัสและรีวิวโน๊ตบุ๊คแบบนี้เหมือนกัน
จุดเด่น
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ ThinkBook มีความหรูหรา พรีเมียม
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ขอบจอบาง พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- ตัวเครื่องทนทานต่ออุณหภูมิสูงและการสั่นสะเทือน คีย์บอร์ดทนน้ำ
- สเปกโดยรวม ประสิทธิภาพแรง ใช้งานลื่นไหล ทั้งทำงานและบันเทิง
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS สีสันสวยงามเนียนตา พร้อมฟีเจอร์ Dolby Vision
- มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือ ใช้งานผ่านทาง Windows Hello
- ThinkShutter ฝาปิดกล้องเพิ่มความปลอดภัยด้านความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งาน
- รองรับ Rapid Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ภายใน 1 ชั่วโมง
- ลำโพง HARMAN ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีมาก
- มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ติดตั้งมาให้ทันที
- ซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage ใช้งานได้จริง
- ประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ตามมาตรฐานของ Lenovo
ข้อสังเกต
- อุณหภูมิตรวจสอบด้วยโปรแกรม เวลาทำงานหนักจะค่อนข้างสูง
- ไม่มีมีอแดปเตอร์แปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ มาให้ในบันเดิลด้วย
- มีรุ่นที่จำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ Lenovo โดยตรง จะได้ประกันเป็น 1 ปีปกติ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มเครื่องบางเบา ขนาดหน้าจอ 13.3″ ซึ่ง Lenovo ThinkBook 13s ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
ดีไซน์โดยรวมของ Lenovo ThinkBook 13s มีความโดดเด่นเรื่องสีสัน รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 13.3 นิ้วภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน อีกทั้งความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ บางแค่ 15.9 มิลลิเมตร เบาเพียง 1.4 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
ปัจจัยสำคัญของด้าน Mobility ก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง Lenovo ThinkBook 13s ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 802.11ac (2×2) ทั้ง 2.4 และ 5 GHz รวมถึง Bluetooth 5.2 ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมง แทบไม่ต้องพกอแดปเตอร์กันเลยทีเดียว
ถ้านับในแง่ของ Ultrabook ต้องบอกว่า Lenovo ThinkBook 13sตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะในแง่ของความบางเบาและประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน วัสดุสวยงามทนทานบางเบา ประกอบกับราคาในช่วงราคาเริ่มต้น 28,490 บาท ทำให้เป็น Ultrabook ที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบมืออาชีพหรือความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งระบบภาพและเสียง
Specification
โดย Lenovo ThinkBook 13s ที่เราได้รับมารีวิวในครั้งนี้ จะเป็นรุ่นเริ่มต้นคือ 28,490 บาท มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U ที่เป็นชิป 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 1.6 GHz สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้เป็น 3.9 GHz ทำงานร่วมกับแรมขนาด 8GB การ์ดจอออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 สำหรับใช้งานทั่วไป และการ์ดจอแยก AMD Radeon 540X (2GB GDDR5) ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลก็ใช้เป็น SSD M.2 แบบ PCIe ความจุ 256GB ทำให้สเปคโดยรวมนั้นลงตัวมาก ๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเว็บ ทำเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง เน้นพกพาไปใช้งานนอกสถานที่
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดย Lenovo ThinkBook 13s ใช้หน้าจอขนาด 13.3″ ความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080) อัตราส่วน 16:9 ขอบจอบางเฉียบ พาเนลจอแบบ IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งจัดว่าเป็นสเปคจอที่เหมาะสำหรับการใช้งานแทบทุกรูปแบบ มาพร้อม Windows 10 Home Single Language และซอฟต์แวร์จากทาง Lenovo Vantage ที่ช่วยในการจัดการปรับแต่ง
พอร์ตเชื่อมต่อก็มาพร้อมพอร์ตจำเป็นค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A ที่เป็นมาตรฐาน จำนวน 2 พอร์ต ส่วนอีกพอร์ตจะเป็น USB Type-C 3.2 Gen 2 ส่วนช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. และ HDMI ยังมีมาให้ นอกจากนี้ยังมี Finger Print สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Windows Hello ของ Windows 10 เพื่อล็อกอินโดยใช้การสแกนนิ้วอีกด้วย สำหรับประกันเป็น 1 ปี ตามมาตรฐาน Lenovo
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo ThinkBook 13s นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ แบบสมัยก่อนอยู่พอสมควร เนื่องด้วยขอบจอที่บางกว่าปกติ ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กพอๆ กับโน๊ตบุ๊คจอ 12.5″ ส่งผลให้ Lenovo ThinkBook 13s เป็นอีกหนึ่ง Ultrabook ปี 2019 ที่ดูเล็กกระทัดที่สุด ด้วยน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัม กับความบางของตัวเครื่องเพียง 15.9 มิิลลิเมตรเท่านั้น สำหรับหน้าจอสามารถกางได้ถึง 90 องศาเลยทีเดียว
ด้วยดีไซน์ออกมาได้ขอบหน้าจอบางแบบเพียง 5 ม.ม. ส่วนของตัวเครื่องทั้งหมดจะใช้เป็นอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา พร้อมสีสันสีเงิน Mineral Grey ส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหราให้อารมณ์พรีเมียมสุดๆ พร้อมให้ลุคทันสมัยแต่แฝงไว้ด้วยความเรียบหรูเป็นทางการ ภายในติดตั้งด้วยวัสดุและเทคโนโลยีที่ให้ความปลอดภัยและประสิทธิภาพการใช้งานระดับองค์กรตามแบบฉบับเครื่องคอมพิวเตอร์ตระกูล Think
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย โลโก้ Lenovo จะมีอยู่ 2 จุดเท่านั้น คือ มุมบนฝาหลังด้านซ้าย ส่วนมุมซ้ายล่างของฝาหลังจะโดดเด่นด้วยโลโก้ ThinkBook ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะงานประกอบทั้งหมดแทบจะเป็นชิ้นเดียวกัน แบบ Unibody ส่งให้เวลาที่เราจับถือหรือใช้งานจะรู้สึกว่าแน่นหนา ซึ่งจากการใช้งานจริงพื้นผิวบางนี้เป็บรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความสะอาดได้เลย หรือถ้าจะเช็ดก็ง่ายดาย
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Lenovo ThinkBook 13s เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ทรงประสิทธิภาพในการทำงานทั่วไปเน้นการพกพา แบบที่หารุ่นเปรียบเทียบได้ยาก ที่สำคัญ Lenovo ThinkBook 13s นั้นผ่านการทดสอบคุณภาพและความน่าเชื่อถือหลายอย่าง อาทิ การป้องกันน้ำหกเข้าสู่เครื่อง 60 มิลลิลิตร การทนต่ออุณหภูมิสูงและการสั่นสะเทือน และทดสอบบานพับโลหะผสมที่ใช้เทคโนโลยี Powdere-Metal ด้วยการเปิด-ปิดกว่า 25,000 รอบ ทั้งยังและเคลือบด้วยโลหะอินเดียมและสแตนเนียมเพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับสัญญาณ Wi-Fi
นอกเหนือจากนี้ Lenovo ThinkBook 13s ยังมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนแบบ 1 ตัว ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ โดยดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่องพร้อมทั้งช่องคีย์บอร์ด ทำให้การทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ในการใช้งานไปแทบจะไม่รู้สึกถึงความร้อนภายใน ส่วนใต้ตัวเครื่องก็มาพร้อมงานประกอบเรียบร้อยมาตรฐานโน๊ตบุ๊ค Lenovo ระดับสูง
แม้หน้าตาโดยรวมจะเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป แต่แตกต่างด้วยฟังก์ชั่น Windows Modern Standby ที่มากับ ThinkBook 13s ช่วยให้เครื่องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเช็คอีเมล์, รับสายผ่าน Skype และอัพเดทแอพพลิเคชั่น Windows ทำได้ง่ายแม้ในขณะที่หน้าจอเครื่องปิดพับปิดอยู่ ฟังก์ชั่น Smart Power On ช่วยให้เครื่องพร้อมใช้งานจากโหมดแสตนบายได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่กดปุ่มหรือสั่งงานผ่านเสียง พร้อมเพิ่มเฟิร์มแวร์ TPM 2.0 เพื่อใช้การใช้งาน Windows 10 security และ User Data Encryption ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องพร้อมตัวอักษรโปร่งแสง มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดีสไตล์ Lenovo ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังเด้งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกดในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบนพร้อมไฟส่องสว่างแสดงสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ที่สำคัญการเข้าใช้งานผ่านทาง Windows Hello ของ Windows 10 ยังสามารถทำได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือจากปุ่ม Power (มีไฟ LED สีขาว) ที่เป็นปุ่มเดียวกับ Finger Print แน่นอนว่าทำให้เราไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป แถมยังปลอดภัยและรวดเร็วด้วย ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้ว ถือว่าทำได้ดีได้ไวมากๆ ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนในตลาดปัจจุบันเลย
Screen / Speaker
หน้าจอของ Lenovo ThinkBook 13s เป็นแบบด้าน พาเนล IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ที่ให้ภาพคมชัด สวยงามทุกมุมมอง เมื่อประกอบกับขอบจอที่บางเฉียบ กว่า 97% เป็นหน้าจอแสดงผล ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีที่สมจริงอย่าง Dolby Vision และเทคโนโลยีภาพไดนามิกสูง (HDR) ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความคมชัดและแสดงเม็ดสีแม่นยำ พร้อมรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้การทำงานต่างๆ เปิดหน้าเว็บ การชมภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมถึงการเล่นเกมดูเต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าและไมโครโฟน 2 ตัวที่ซอนเอาไว้อย่างเรียบเนียน
อีกทั้งใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้ และที่ถึงแม้ขอบจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้งกล้องเว็บแคมไปอยู่บริเวณขอบจอด้านบนของหน้าจอได้ ที่สำคัญยังมาพร้อมฟีเจอร์ ThinkShutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น การใช้งานก็ง่ายมากๆ ด้วยการใช้นิ้วเลื่อนเปิดหรือปิดการใช้งานเท่านั้น
ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 97% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องแถวล่างมุมซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 8% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ด้านของลำโพงสเตอรีโอของ Lenovo ThinkBook 13s ใช้เป็นแบรนด์คุณภาพอย่าง HARMAN พร้อมมีเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีมาก และสามารถจำลองเสียง 360 องศาได้ โดยถูกติดตั้งบริเวณด้านล่างซ้ายขวาขอบตัวเครื่อง ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานดูหนังฟังเพลงแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Lenovo ThinkBook 13s นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีการกระชับพื้นที่มากๆ แต่ยังมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต (รองรับการชาร์จไฟ) ที่ติดตั้งอยู่ทางด้านซ้าย พร้อมติดตั้งพอร์ต USB 3.1 Type-C Gen 2 จำนวน 1 พอร์ต และ HDMI ไว้เชื่อมต่อแสดงผลหน้าจอภายนอกอยู่ทางด้านขวา พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 13.3 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.4 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวก้อนอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.7 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันทีเดียว
Performance / Software
Lenovo ThinkBook 13s มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดย Lenovo ThinkBook 13s เป็นรุ่นชิป Intel Core i5-8265U ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 1.6 GHz ไปจนถึง 3.9 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 15W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i5 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 14 นาโนเมตรเท่านั้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และการ์ดจอแยก AMD Radeon 540X (2GB GDDR5) ไว้ใช้คอยทำงาน 3 มิติหรือเล่นเกมออนไลน์ก็ยังพอได้ ด้วยความแรงพอๆ กับ MX150 นั่นเอง
ส่วนการทดสอบพลังประมวลผลด้วยโปรแกรม Cinebench ก็ให้ผลคะแนนในส่วนของ CPU ได้ดีตามระดับของ Core i5 ในรหัส U ส่วนด้านของ OpenGL ก็คะแนนพุ่งกว่าเครื่องที่ใช้ชิปออนบอร์ดทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นประหยัดพลังงาน ที่ใกล้เคียงกับตระกูล H ทีเดียว โดยดีขึ้นกว่า Core i5 รุ่นก่อนหน้าประมาณนึง
ด้านของ Storage เป็น SSD มาตรฐาน NVMe ระดับบน ความจุ 512GB ของ Samsung ที่ทำการทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ก็พบว่าความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 1728 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนก็อยู่ที่ 1289 MB/s ด้านของความเร็วในการอ่านเขียนไฟล์ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ สามารถใช้งานทั่วไปได้เหลือเฟือ ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ เร็วกว่ามาตรฐาน SATA 3 หลายเท่าตัว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3809 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งใกล้เคียงโน๊ตบุ๊คบางเบาในระดับเดียวกัน
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Lenovo Vantage ก็เรียกได้ว่าเป็นซอฟแวร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมในหลายๆ ส่วนของเครื่องได้ เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทไดร์เวอร์ล่าสุด การเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ตั้งค่าทัชแพด การเชื่อมต่อไร้สาย แบตเตอรี่ กล้องเว็บแคม ระบบเสียง และ Fingerprint ที่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นไม่ได้ติดตั้งมาให้หนักเครื่องเปล่าๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Lenovo ThinkBook 13s เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด ประมาณ 4,500 mAh สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบดู YouTube ผ่าน Wi-Fi ถือได้ว่าเป็น Ultrabook หน้าจอ 13.3″ อีกรุ่นหนึ่งเลยที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานในระดับนึง ในการใช้งานจริงก็ถือว่าน่าประทับใจแล้ว พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ทั้งวันได้เลย ที่สำคัญมีเทคโนโลยีรองรับระบบชาร์จเร็ว (Rapid Charge) ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ด้วยอแดปเตอร์ขนาด 65Watt
ผลการตรวจสอบอุณหภูมิขณะเครื่องทำงานปกติ มีเปิดโปรแกรมทำงานอยู่ด้วยบางส่วน โดยทดสอบเมื่ออยู่ในห้องแอร์อุณหภูมิประมาณ 26 องศา พบว่าความร้อนของ CPU จะอยู่ในช่วง 30 – 45 องศา ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับปกติของโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ใช้ชิป Core i5 ส่วนถ้าเป็นอุณหภูมิหลังจากทดสอบงานประมวลผลหนักๆ แล้ว จะเห็นว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU นั้นพุ่งไปสูงสุดที่ 97 องศาเซลเซียส แม้อาจจะดูว่าอุณหภูมิของ CPU ค่อนข้างสูง ส่วน GPU ร้อนสุดก็อยู่ที่ 80 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง แต่ความร้อนที่แผ่ออกมานั้นก็ไม่ได้รบกวนการทำงานแต่อย่างใด รวมไปถึงถ้าไม่ใช้งานหนัก ตัวเครื่องเองก็ระบายความร้อนออกไปได้อย่างรวดเร็วดี
อย่างไรก็ตามช่องดูดลมเข้าไปในเครื่องจะอยู่ที่ฝาปิดด้านล่าง ดังนั้น แนะนำว่าระหว่างใช้งาน อย่าหาของไปปิดกั้นช่องนี้รวมไปถึงช่องร่องตามคีย์บอร์ดด้วย หรือถ้าต้องการหาแท่นระบายความร้อนที่มีพัดลมอยู่ใต้เครื่อง ก็ควรเลือกแท่นที่มาพร้อมพัดลมเป่าลมขึ้นมายังตัวเครื่องนะครับ เพื่อจะได้ให้ลมเย็นสามารถไหลเข้าไปภายในได้เร็วขึ้นด้วย
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง Lenovo ThinkBook 13s ที่ต่อยอดความสำเร็จจากซี่รีส์ ThinkPad และ Ideapad ได้เป็นอย่างดี มาพร้อมความสมบูรณ์แบบพร้อมเปลี่ยนเป็นซีรีส์เป็น ThinkBook ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็น Ultrabook ระดับสูงของทาง Lenovo ที่ทุกคนต่างให้ความนิยม ที่สำคัญคือความเชื่อใจในระดับการทำงานมืออาชีพ
Lenovo ThinkBook 13s เป็นโน๊ตบุ๊คสายพกพาบางเบาอีกรุ่นที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านของความกะทัดรัดของตัวเครื่อง ที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ น้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมนิด ๆ ขอบจอบางเฉียบที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งการใช้งานคีย์บอร์ดก็ยังคงยอดเยี่ยม นับได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Lenovo ที่ทำมาได้ดีโดยตลอด ถอดแบบมาจาก ThinkPad เลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องดีไซน์การออกแบบที่ทันสมัยสวยงามเหมาะกับคนรุ่นใหม่ๆ ที่ถอดแบบมานาก IdeaPad ก็ทำมาได้อย่างยอดเยี่ยม
ส่วนประสิทธิภาพการทำงานของ Lenovo ThinkBook 13s ก็ยังครบครันทั้งแง่ของชิปประมวลผล Core i5 Gen 8 ตระกูล U รุ่นล่าสุด รวมถึงแรม 8GB และ SSD M.2 NVMe ในเครื่องความจุ 256GB หน้าจอ 13.3″ คุณภาพสูงพาเนล IPS ความละเอียด Full HD มาพร้อมเทคโนโลยีที่สมจริงอย่าง Dolby Vision และเทคโนโลยีภาพไดนามิกสูง (HDR) ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความคมชัดและแสดงเม็ดสีแม่นยำ พร้อมรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ตอบโจทย์ทั้งการทำงานจริงจัง หรือการใช้งานเพื่อความบันเทิง ตอบโจทย์ได้หมด
นอกจากนี้ Lenovo ThinkBook 13s ยังมาพร้อมฟีเจอร์ ThinkShutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น และยังมี Finger Print ระบบแสกนลายนิ้วมือเป็นอุปกรณ์ที่จะผนวกรวมเข้ากับปุ่มเปิดปิด ไว้ใช้งาน Windows Hello ผ่านทางระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องกรอกรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัยทุกครั้ง
รวมถึงตัวเครรื่องยังผ่านการทดสอบคุณภาพและความน่าเชื่อถือหลายอย่าง อาทิ การป้องกันน้ำหกเข้าสู่เครื่อง 60 มิลลิลิตร การทนต่ออุณหภูมิสูงและการสั่นสะเทือน และทดสอบบานพับโลหะผสมที่ใช้เทคโนโลยี Powdere-Metal ด้วยการเปิด-ปิดกว่า 25,000 รอบ ทั้งยังและเคลือบด้วยโลหะอินเดียมและสแตนเนียมเพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับสัญญาณ Wi-Fi
กับราคาเริ่มต้นที่ 28,490 บาท ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชูเรื่องของนวัตกรรมของทาง Lenovo ที่คุ้มค่าอีกหนึ่งรุ่น ส่วนตัวเองก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้สัมผัสและรีวิวโน๊ตบุ๊คแบบนี้เหมือนกัน
จุดเด่น
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ ThinkBook มีความหรูหรา พรีเมียม
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ขอบจอบาง พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- ตัวเครื่องทนทานต่ออุณหภูมิสูงและการสั่นสะเทือน คีย์บอร์ดทนน้ำ
- สเปกโดยรวม ประสิทธิภาพแรง ใช้งานลื่นไหล ทั้งทำงานและบันเทิง
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS สีสันสวยงามเนียนตา พร้อมฟีเจอร์ Dolby Vision
- มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือ ใช้งานผ่านทาง Windows Hello
- ThinkShutter ฝาปิดกล้องเพิ่มความปลอดภัยด้านความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งาน
- รองรับ Rapid Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ภายใน 1 ชั่วโมง
- ลำโพง HARMAN ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีมาก
- มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ติดตั้งมาให้ทันที
- ซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage ใช้งานได้จริง
- ประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ตามมาตรฐานของ Lenovo
ข้อสังเกต
- อุณหภูมิตรวจสอบด้วยโปรแกรม เวลาทำงานหนักจะค่อนข้างสูง
- ไม่มีมีอแดปเตอร์แปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ มาให้ในบันเดิลด้วย
- มีรุ่นที่จำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ Lenovo โดยตรง จะได้ประกันเป็น 1 ปีปกติ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มเครื่องบางเบา ขนาดหน้าจอ 13.3″ ซึ่ง Lenovo ThinkBook 13s ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
ดีไซน์โดยรวมของ Lenovo ThinkBook 13s มีความโดดเด่นเรื่องสีสัน รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 13.3 นิ้วภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน อีกทั้งความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ บางแค่ 15.9 มิลลิเมตร เบาเพียง 1.4 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
ปัจจัยสำคัญของด้าน Mobility ก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง Lenovo ThinkBook 13s ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 802.11ac (2×2) ทั้ง 2.4 และ 5 GHz รวมถึง Bluetooth 5.2 ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมง แทบไม่ต้องพกอแดปเตอร์กันเลยทีเดียว
ถ้านับในแง่ของ Ultrabook ต้องบอกว่า Lenovo ThinkBook 13sตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะในแง่ของความบางเบาและประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน วัสดุสวยงามทนทานบางเบา ประกอบกับราคาในช่วงราคาเริ่มต้น 28,490 บาท ทำให้เป็น Ultrabook ที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบมืออาชีพหรือความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งระบบภาพและเสียง