MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin จาก MSI GS Series ที่เป็น Gaming Notebook ตัวแรง ที่มีนำหนักเบาแค่ 1.9 กิโลกรัม บางเพียง 17.9 มิลลิเมตร ส่งผลให้เป็น Gaming Notebook เน้นพกพาบางเบาที่ดีรุ่นนึงที่สุดของโลก มาพร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุด อย่างชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H จับคู่กับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti ส่งผลให้ได้ประสบการณ์ใช้งานที่สมบูรณ์แบบกว่าที่เคยมีมา เพราะสนับสนุนได้ทั้งการเล่นเกม 3 มิติ หรือที่ทำงานหนักๆ ได้อย่างสบายๆ โดดเด่นด้วยวัสดุอลูมิเนียมที่พรีเมียมตลอดทั้งเครื่อง
โดยล่าสุด MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มาพร้อมราคาที่ถูกมากๆ เพียง 47,900 บาทเท่านั้น โดยที่สเปกแรงเหนือชั้นไปอีก ประสิทธิภาพสูงเทียบเท่าพีซีตั้งโต๊ะ มาพร้อมกับชิปประมวลผล Core i7-9750H และ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ขับเคลื่อนผ่านทางหน้าจอ 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ขอบจอบางเพียง 4.9 มิลลิเมตร มีการออกแบบมาให้มีความเรียบหรูและบางเบา และจากการที่ใช้ชุดระบายความร้อนที่พัฒนาต่อยอดไปอีก
Specification
MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7- 9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660Ti (6GB GDDR6) โดยแรงพอๆ กับ RTX 2060 ทีเดียว ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Desktop มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB จำนวน 1 แถว ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 จำนวน 1 แถว พร้อมรองรับ Dual Channel สามารถอัพเกรดแรม 8GB อีก 1 แถวได้ในภายหลัง
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS สีสดใสมุมมองกว้าง ขอบเขตสีใกล้เคียง sRGB 100% พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ที่สำคัญรองรับ 144Hz ส่งผลให้เล่นเกมได้ลื่นไหลสุดๆ และตัวเครื่องยังมีลำโพงจากแบรนด์ Dynaudio พร้อมซอฟแวร์เสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 ขับเสียงได้ดียิ่งกว่า มาพร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย ไม่ว่าจะเป็น 1x Type-C (USB3.1 Gen2 / DP / Thunderbolt 3), 3x Type-A USB3.1, 1x RJ45, 1x (4K @ 60Hz) HDMI, 1x Mini-DisplayPort บอกเลยว่าจัดเต็มมากๆ ส่วนช่องหูฟัง Hi-Res Audio และไมค์แบบแจ็คทอง 3.5 มิลลิเมตรเป็นแบบแยกออกจากกัน เอาใจ Gaming Headset ทีเดียว การเชื่อมต่อไร้สายก็จะมีมาตรฐาน ac Wi-Fi + Bluetooth v5 รวมไปถึงมี Killer Doubleshot Pro ทำให้เล่นเกมได้ไม่สะดุดทั้ง LAN และ Wi-Fi
สนนราคา MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin อยู่ที่ 47,900 บาท พร้อมการรับประกันมาตรฐาน MSI จำนวน 2 ปี ถือว่าเป็น Gaming Notebook ระดับสูงจากทาง MSI อีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะไม่ใช่แค่แรงแต่บางเบาแต่ฟีเจอร์จัดเต็มด้วย
Hardware / Design
สำหรับ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มีรายละเอียดต่างๆ เหมือนกัน MSI GS65 รุ่นก่อนหน้า แต่มีความพิเศษมากๆ เลยก็คือ เรื่องของราคาที่ถูกลงกว่าสเปกก่อนๆ จากการเลือกใช้งานโดยชิปประมวลผล Core i7-9750H ที่ประสิทธิภาพสูง และการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ซึ่งมาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing เหมือน RTX 2060 ซึ่งมีความแรงที่ใกล้เคียงกันเลยทีเดียว แต่สามารถทำราคาได้ถูกกว่ามาก
MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ยังเป็น Gaming Notebook มาตรฐานใหม่ที่มีความเบาบางมีขอบจอบางพิเศษ ที่ได้ความแรงไม่แพง Gaming Notebook เครื่องหนักๆ หนาๆ แบบแต่ก่อน โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่เพกพาได้สะดวก ที่รักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัม บางที่ 1.79 มิลลิเมตร ทำให้ถือมือเดียวได้ หรือหยิบใส่กระเป๋าแบบสบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการปรับให้เรียบหรูขึ้น กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีทองในการประกอบกับสีดำของตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ที่เป็นลักษณะนู้นต่ำ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วแตกต่างจาก Gaming Notebook G Series ของทาง MSI รุ่นอื่น ที่ต้องเป็นสีแดง จ๋าๆ ให้กลายเป็นสีทองบางๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกใจหลายคนแน่นอน (เอาใจคนเอเชียโดยเฉพาะ)
ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่อง MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ถูกติดตั้งบริเวณเหนือคีย์บอร์ด พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน โดยอยู่ตรงกลางเหนือคีย์บอร์ด พร้อมการติดตั้งช่องลมโปร่งขนาดใหญ่เพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม ซึ่งตรงบริเวณนี้ตรงขอบบนมุมขวาจะเป็นโลโก้ลำโพงของ DYNAUDIO ส่วนมุมขวาล่างจะเป็นโลโก้คีย์บอร์ด SteelSeries ที่การันตีว่าของดีแน่นอน เรียกได้ว่าใส่ทุกรายละเอียดสมกับเป็น GS Series ที่เน้นความพรีเมียมมากกว่า GE, GL, GF
MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อน Cooler Boost Trinity ใช้พัดลม 3 ตัว ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง อย่างละ 2 ด้วยการดูดลมเย็นจากช่องเหนือคีย์บอร์ดและใต้ตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 6 เส้น (รุ่นก่อน 4 เส้น) หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมแบบสีดำด้านที่สวยงาม อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตอย่างเมื่อเราออกแรงกดลงไปนิดหน่อยจะมีอาการยุบเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการใช้งาน ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 4.9 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ
ด้านฐานล่างตัวเครื่องของ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin รุ่นนี้เป็นอะลูมิเนียมเรียบๆ ซึ่งดูแล้วเป็นหนึ่งด้วยกับตัวเครื่องกับงานประกอบที่เรียบร้อย พร้อมมียางรองขนาดใหญ่ 2 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ส่วนงานประกอบก็เนียบเหมือนเดิม เรื่องนี้ไว้ใจทาง MSI เค้าได้เลย
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่า Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin Thin ไม่ใช่แค่แรงแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายบางเบาช่วงงบประมาณไม่เกิน 50,000 บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ที่สเปกเหมือนๆ กัน แต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่ Gaming Notebook ทั่วไปไม่สามารถให้ประสบการณ์การใช้งานแบบนี้ได้
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ แบบสิ้นเชิง จากการที่ใช้ Per-Key RGB Gaming Keyboard พร้อมแป้นที่ใหญ่พิเศษ ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน ที่สำคัญในคราวนี้ไฟ LED ที่เป็น RGB สามารถเปลี่ยนสีทีละปุ่ม ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน Steelseries Engine 3 ได้ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าตัดชุด Numpad ออกไป จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่เล็กลง
ทัชแพดมีขนาดใหญ่โตมาก เป็นลักษณะผือผ้าออกแนวยาวๆ ใหญ่กว่าเดิมถึง 35% โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับลงตัว ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี มีการตัดขอบเส้นสีทองที่ขอบนอก เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม
Screen / Speaker
MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ ขอบจอบาง รองรับที่ความถี่ 144Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่ตาเราเห็น เพราะหน้าจอปกตินั้นจะแสดงได้สูงสุด 60Hz เท่านั้น พร้อมได้เป็นพาเนล IPS คุณภาพสูง โดยให้มุมมองที่กว้างเกือบ 180 องศา สีสันก็สดใสสมจริง sRGB ใกล้เคียง 100% มากๆ เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานและเล่นเกม ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 180 องศา พร้อมติดตั้งกล้องเว็บแคมแบบ 720p และไมโครโฟนไว้ขอบด้านบน
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอด้วย Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 94% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันที่ดีมากๆ ได้ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมขวาบนเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องซ้ายแถวกลางจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 16% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง DYNAUDIO แบบสเตอริโอ โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมจากฝรั่งเศส ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน สนับสนุน VR และ 3D เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียงอีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปเสียงต่างหาก
Connector / Thin And Weight
MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin จัดว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6 นิ้วซึ่งไซส์เล็กกว่าปกติ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 3 ช่อง , Thunderbolt 3 (USB Type-C) จำนวน 1 ช่อง พร้อมด้วย HDMI 1.4 และ miniDisplayPort 1.2 อีกทั้งมี RJ45 (Killer E2500 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ แต่ก็เข้าใจได้
เชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ ลดค่าปิงต่ำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Matrix Display ช่วยให้ต่อจอได้หลากหลายจอแบบรอบทิศทาง จากทั้ง Thunderbolt 3, HDMI และ miniDisplayPort ส่วนของการพกพา ก็ถือว่าทำได้ดี ด้วยน้ำหนัก 1.9 กิโลกรัม ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 180 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่า 28% เลยทีเดียว รวมๆ กันแล้วหนักเพียง 2 โลนิดๆ เท่านั้น
Inside / Upgrade
การแกะอัพเกรดของ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ต้องแกะฝาล่างออกทั้งหมด ซึ่งการแกะฝาล่างนั้นไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงไขน๊อตประมาณ 10 ตัว จากนั้นก็ค่อยแกะออกมาตามขอบทีละส่วนซึ่งต้องใช้ความใจเย็นระมัดระวังมากๆ เพราะถ้าแรงไปสลักอาจจะหักได้ และเมื่อแกะออกมาแล้ว ก็ยังไม่เห็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ภายในทั้งหมด เพราะมีแผ่นพลาสติกบางๆ กั้นเอาไว้อีกชั้นแปะไว้ด้วยกาวเบาๆ อย่างมิชิด ซึ่งก็ต้องแกะออกก่อน แต่จากตรงนี้เราจะเห็นถึงแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ และลำโพง 2 ตัวที่อยู่ด้านล่าง พร้อพัดลมระบายความร้อน 3 ตัวที่อยู่ด้านบน
และแม้ว่าจะแกะแผ่นพลาสติกออกแล้วก็ตาม เราก็ยังไม่สามารถเข้าถึงการอัพเกรดในส่วนของแรมและ SSD ได้ เพราะตัว MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ได้มีการดีไซน์เมนบอร์ดกลับไปอีกด้าน ส่งผลให้เราจำเป็นต้องไขส่วนของน๊อตบานพับออกพร้อมสายแพรต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ ซึ่งมาถึงตรงนี้ต้องบอกว่า ไม่น่านำให้ทำเองแล้วสำหรับการอัพเกรด เพราะตัวเครื่องอาจจะเกิดความเสียหายได้ ยังไงให้ทางร้านที่เราซื้อมา หรือตัวแทนของ MSI แกะงัดอัพเกรดให้ดีกว่า
โดยระบบระบายความร้อน Cooler Boost Trinity ใช้พัดลม 3 ตัว ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง อย่างละ 2 ด้วยการดูดลมเย็นจากช่องเหนือคีย์บอร์ดและใต้ตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 6 เส้น (รุ่นก่อน 4 เส้น) ก็ถูกซ่อนเอาไว้อีกด้านเช่นเดียวกันของชุดเมนบอร์ด
เรียกได้การอัพเกรดของ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ไม่สามารถทำได้โดยง่าย แม้ว่าจะแกะฝาล่างออกมาง่ายก็จริง แต่การไปต่อเพื่อที่จะเข้าถึงการใส่แรมและ SSD M.2 NVMe เพิ่มไม่ง่ายเลย ซึ่งจากสเปกที่ทราบมาก็คือ รองรับการใส่แรมแบบ 2 แถว โดยจากโรงงานใส่ไปแล้วเป็น 8GB x 1 แถว ถ้าจะอัพเป็น 16GB ก็ต้องใส่แรม 8GB เพิ่มอีก 1 นั่นเอง ส่วน SSD ใส่มาแล้ว 1 ช่อง ว่างแน่ๆ อีก 1 ช่อง อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ทำเอง เพราะถ้าเสียหายเสี่ยงประกันจะหลุดไปด้วย ให้ทางตัวแทน MSI ทำให้จะดีที่สุด
Performance / Software
โดย MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 2 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงระดับรองท็อปอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 1060 แบบรู้สึกได้จากการที่สามารถขับเฟรมเรทได้ลื่นไหล โดยเป็นรอง RTX 2060 และไม่มีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี แต่ก็ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ซึ่งทาง NVIDIA ได้เผยข้อมูลออกมาว่า 3/4 ของผู้ใช้งาน Gaming Notebook นั้นยังคงใช้เครื่องที่มาพร้อมกับการ์ดจอรุ่นเก่าอย่าง GTX 960M อยู่ ซึ่งเมื่อพวกเขาเหล่านั้นตัวสินใจที่จะเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเป็นรุ่นใหม่ แน่นอนว่า GTX 1660 Ti จะทำให้เห็นความแตกต่างของประสิทธิภาพที่เห็นได้อย่างชัดเจน โดยทาง NVIDIA ได้บอกเอาไว้ว่า GTX 1660 Ti นั้นจะมีประสิทธิภาพมากกว่า GTX 960M อยู่ถึง 4 เท่า และเมื่อเทียบกับ GTX 1060 นั้นพบว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ราวๆ 1.5 เท่า ซึ่งบางเกมก็เทียบเท่าหรือมากกว่า GTX 1070 ด้วยซ้ำ
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3248MB/s และเขียนที่ 1870MB/s ซึ่งถ้าใครอยากเร็วแรงกว่านี้ก็สามารถซื้อ SSD มาทำ Raid เพิ่มได้อีก 1 ตัว ความเร็วก็จะทะลุยิ่งขึ้นไปอีก หรือจะเอามาเพิ่มความจุก็แล้วแต่
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,880 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยกอย่าง GTX 1660 Ti ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากพอสมควร ระดับเทียบเท่า Desktop สบายๆ
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 80 – 100+ FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX1660 Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้จะไม่รองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงามไม่แพ้กัน แถมไม่กินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย
เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล เทียบกับการ์ดจอ RTX 2060 ถือว่าใกล้เคียง
ซึ่งด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล อาจจะปรับกราฟิกต่ำลงมาเท่าที่เราพอใจ หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 144Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมากลางๆ ก็ได้
MSI DRAGON CENTER Version 2 เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- LED Wizard : ปรับแต่งไฟคีย์บอร์ด RGB ตามความต้องการ
- Gaming Mode : ตรวจสอบว่าเครื่องมีเกมไหนอยู่ พร้อมปรับแต่งเล่นเกมให้
- Voice Wizard : ปรับแต่งด้านเสียง หรือเร่งคุณภาพเสียง
- Mobile Center : ทำการเชื่อมต่อกับมือถือ
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
นอกเหนือจากนี้ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ยังมีในส่วน SteelSeries Engine 3 ที่ช่วยในการปรับแต่งการใช้งานของอุปกรณ์ต่อพ่วง Gaming Gear ต่างๆ ของ SteelSeries แน่นอนว่าในส่วนของคีย์บอร์ด SteelSeries Per-Key RGB ตัวเครื่องก็สามารถปรับแต่งได้ผ่านทางโปรแกรมนี้ เรียกได้ว่าจะปรับไฟให้ตะมุตะมิแค่ไหนก็สามารถทำได้เลย หรือจะได้พรีเซ็ทต่างๆ ที่มีมาแล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน
ปิดท้ายด้วยระบบเสียงจาก MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มาพร้อมกับระบบเสียงที่อัพเกรดขึ้นกว่าเดิม คือ Nahimic v3 ที่ทำให้สุดยอด ที่ว่าสุดยอดอยู่แล้วนั้น ทำงานได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก ด้วยซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาให้มีระบบเสียง ไม่ว่าจะเสียงคนพูด, เสียงเบส และเสียงที่มีย่านความถี่ต่ำ ระบบเสียง Nahimic และระบบเสียงอันสุดยอดของ MSI ก็สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเยี่ยมยอด (พบได้บน MSI G Series ทุกรุ่น)
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 8:30 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานน้อยกว่านี้ ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 35 – 60 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 – 32 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU อยู่ที่ไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส และการ์ดจออยู่ไม่เกิน 83 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่เปิดฟีเจอร์ CoolerBoots เพิ่มรอบพัดลมเป็น 6,xxx รอบต่อวินาที จากการที่มีพัดลม 3 ตัว แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง
Conclusion / Award
Gaming Notebook น้ำหนักเบาพกพาสะดวก ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เกมเมอร์หลายคนรวมไปถึงคนใช้งานทำงานที่อยากจะเล่นเกมบ้างในบางเวลาต้องการจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งปกติแล้วโน๊ตบุ๊คเล่นเกมแรงๆ แต่ละรุ่นมักจะมีน้ำหนักที่เยอะ พกพาลำบาก เวลาใส่กระเป๋าแบกไปไหนมาไหนปวดหลังปวดไหล่กันสุดๆ แต่ว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin แน่นอน เพราะด้วยตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น แถมได้สเปคสุดแรง Intel Core i Gen 9 ตระกูล H ล่าสุดกับ i7-9750H และการ์ดจอ GeForce GTX 1660 Ti บอกเลยประสิทธิภาพสูงเหมือนยก Desktop PC ไปใช้งานทีเดียว
ดีไซน์ตัวเครื่องออกแบบมาใหม่หมด บอดี้เป็นอลูมิเนียมอัลลอยสีดำขอบทอง ซึ่งแตกต่างจากรุ่นอื่นก่อนหน้านี้ที่จะเป็นสีดำขอบแดง โดย MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD IPS รองรับที่ 144 Hz ขอบเขตสี 94% sRGB คีย์บอร์ด Steelseries RGB สดใหม่ ลำโพงเลือกใช้ของ Dynaudio ระบบเสียง Nahimic 3 รองรับระบบเสียงแบบ Hi-Res จัดเต็ม ที่สำคัญเหนือกว่า Gaming Notebook ทั่วไปด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 8:30 ชั่วโมง
การระบายความร้อนตัวเครื่องเป็นแบบ Cooler Boost Trinity ที่มีพัดลม 3 ตัว ฮีทไปป์ 6 เส้น ขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 4 ช่องหมดห่วงเรื่องตัวเครื่องร้อน ส่วนแรมตัวเครื่องให้มา 16GB DDR4 ความจุ SSD 512GB m.2 NVMe ตัวแรง แถมตัวเครื่องยังสามารถใส่ SSD M.2 NVMe ได้เพิ่มอีกหนึ่งช่อง (มี M.2 2 ช่องนั่นเอง) นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานอีกด้วย
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันหายห่วงทั้ง Thunderbolt 3, USB 3.1 Type-A x3, RJ45, HDMI, Mini-DisplayPort รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน แต่น่าเสียดายที่ตัดช่อง SD Card Reader ออกไปด้วย ซึ่งเข้าใจว่าไม่เหลือที่แล้ว โดยราคาของ MSI GS65 8SE Stealth Thin สนนราคาอยู่ที่ 47,900 บาทพร้อมประกัน 2 ปีเต็ม จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook สไตล์บางเบาที่น่าซื้อที่สุดรุ่นนึงทีเดียว
เปรียบเทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์ หรือคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ เบาๆ ซักเครื่อง สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางแบรนด์สามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้ หรือใครจะเอางบขนาดนี้ไปแยกซื้อโน๊ตบุ๊คกับคอมประกอบก็ไม่ว่ากัน เอาว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ระดับสูงรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ จาก MSI สามารถสอบถามไปที่ MSI Gaming Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย
เครื่องเดียวจบครบในตัวเดียว ประสิทธิภาพแรงลื่นไหล จอสวยเทพ 144Hz บางเบาพกพาสะดวก ทั้งทำงานและเล่นเกมตอบโจทย์ได้ลงตัว ถ้าให้ซื้อ Gaming Notebook บางเบา ในราคาไม่แพงแต่แรงที่สุด MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin คือคำตอบ ในราคาที่ถูกที่สุด ตั้งแต่เคยมี MSI GS65 มา ด้วยการใช้การ์ดจอ GTX 1660 Ti ในขณะที่ฟีเจอร์เด่นๆ ทั้งหมดยังอยู่อย่างครบถ้วน
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- ตัวเครื่องบางเฉียบ เล็กกระชับกว่าเดิม โดยมีน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคสูงมากทั้ง Core i7-9750H และการ์ดจอ GeForce GTX 1660 Ti
- หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 144Hz ขอบเขตสี sRGB 94%
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.1, HDMI และ Mini DisplayPort 1.2
- อีกทั้งยังมาพร้อมพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3 ที่เป็นฟอร์ม USB-C
- มาพร้อมลำโพง Dynaudio ชาแนลพร้อมระบบเสียง Nahimic 3 ให้เสียงที่ดี
- รองรับไดร์ฟ SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูง
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost Trinity มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ให้สนุกยิ่งขึ้น
- คีย์บอร์ด SteelSeries Per-key RGB ปรับเปลี่ยนสีไฟตามปุ่ม ทำงานร่วมกับเกมได้
- อแดปเตอร์จ่ายไฟ มีขนาดที่เล็กและเบากว่า 28% เป็นภาระน้อยลงไปชัดเจน
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 8:30 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- ความร้อนอาจจะดูสูงไปนิด เมื่อใช้งานเต็มที่ แต่ในการใช้งานจริงไม่มีปัญหาอะไร
- พอร์ตการเชื่อมต่อชิดกันไปนิด SD Card Reader ถูกตัดออกไป
- การอัพเกรดใส่แรมและ SSD M.2 ทำได้ยาก
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7- 9750HQ (2.50 – 4.60 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Desktop มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 1.9 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ รวมถึงแบตอาจจะใช้งานได้ 8 ชั่วโมงจริงๆ ตามที่เคลมไว้ก็ตาม
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI Gaming มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวดุดันและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้การตัดสีดำกับทอง รวมไปถึงไฟคีย์บอร์ดก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วย Per-key RGB ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนที่เป็นเกมเมอร์ต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
Specification
MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7- 9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660Ti (6GB GDDR6) โดยแรงพอๆ กับ RTX 2060 ทีเดียว ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Desktop มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB จำนวน 1 แถว ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 จำนวน 1 แถว พร้อมรองรับ Dual Channel สามารถอัพเกรดแรม 8GB อีก 1 แถวได้ในภายหลัง
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS สีสดใสมุมมองกว้าง ขอบเขตสีใกล้เคียง sRGB 100% พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ที่สำคัญรองรับ 144Hz ส่งผลให้เล่นเกมได้ลื่นไหลสุดๆ และตัวเครื่องยังมีลำโพงจากแบรนด์ Dynaudio พร้อมซอฟแวร์เสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 ขับเสียงได้ดียิ่งกว่า มาพร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย ไม่ว่าจะเป็น 1x Type-C (USB3.1 Gen2 / DP / Thunderbolt 3), 3x Type-A USB3.1, 1x RJ45, 1x (4K @ 60Hz) HDMI, 1x Mini-DisplayPort บอกเลยว่าจัดเต็มมากๆ ส่วนช่องหูฟัง Hi-Res Audio และไมค์แบบแจ็คทอง 3.5 มิลลิเมตรเป็นแบบแยกออกจากกัน เอาใจ Gaming Headset ทีเดียว การเชื่อมต่อไร้สายก็จะมีมาตรฐาน ac Wi-Fi + Bluetooth v5 รวมไปถึงมี Killer Doubleshot Pro ทำให้เล่นเกมได้ไม่สะดุดทั้ง LAN และ Wi-Fi
สนนราคา MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin อยู่ที่ 47,900 บาท พร้อมการรับประกันมาตรฐาน MSI จำนวน 2 ปี ถือว่าเป็น Gaming Notebook ระดับสูงจากทาง MSI อีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะไม่ใช่แค่แรงแต่บางเบาแต่ฟีเจอร์จัดเต็มด้วย
Hardware / Design
สำหรับ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มีรายละเอียดต่างๆ เหมือนกัน MSI GS65 รุ่นก่อนหน้า แต่มีความพิเศษมากๆ เลยก็คือ เรื่องของราคาที่ถูกลงกว่าสเปกก่อนๆ จากการเลือกใช้งานโดยชิปประมวลผล Core i7-9750H ที่ประสิทธิภาพสูง และการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ซึ่งมาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing เหมือน RTX 2060 ซึ่งมีความแรงที่ใกล้เคียงกันเลยทีเดียว แต่สามารถทำราคาได้ถูกกว่ามาก
MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ยังเป็น Gaming Notebook มาตรฐานใหม่ที่มีความเบาบางมีขอบจอบางพิเศษ ที่ได้ความแรงไม่แพง Gaming Notebook เครื่องหนักๆ หนาๆ แบบแต่ก่อน โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่เพกพาได้สะดวก ที่รักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัม บางที่ 1.79 มิลลิเมตร ทำให้ถือมือเดียวได้ หรือหยิบใส่กระเป๋าแบบสบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการปรับให้เรียบหรูขึ้น กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีทองในการประกอบกับสีดำของตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ที่เป็นลักษณะนู้นต่ำ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วแตกต่างจาก Gaming Notebook G Series ของทาง MSI รุ่นอื่น ที่ต้องเป็นสีแดง จ๋าๆ ให้กลายเป็นสีทองบางๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกใจหลายคนแน่นอน (เอาใจคนเอเชียโดยเฉพาะ)
ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่อง MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ถูกติดตั้งบริเวณเหนือคีย์บอร์ด พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน โดยอยู่ตรงกลางเหนือคีย์บอร์ด พร้อมการติดตั้งช่องลมโปร่งขนาดใหญ่เพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม ซึ่งตรงบริเวณนี้ตรงขอบบนมุมขวาจะเป็นโลโก้ลำโพงของ DYNAUDIO ส่วนมุมขวาล่างจะเป็นโลโก้คีย์บอร์ด SteelSeries ที่การันตีว่าของดีแน่นอน เรียกได้ว่าใส่ทุกรายละเอียดสมกับเป็น GS Series ที่เน้นความพรีเมียมมากกว่า GE, GL, GF
MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อน Cooler Boost Trinity ใช้พัดลม 3 ตัว ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง อย่างละ 2 ด้วยการดูดลมเย็นจากช่องเหนือคีย์บอร์ดและใต้ตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 6 เส้น (รุ่นก่อน 4 เส้น) หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมแบบสีดำด้านที่สวยงาม อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตอย่างเมื่อเราออกแรงกดลงไปนิดหน่อยจะมีอาการยุบเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการใช้งาน ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 4.9 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ
ด้านฐานล่างตัวเครื่องของ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin รุ่นนี้เป็นอะลูมิเนียมเรียบๆ ซึ่งดูแล้วเป็นหนึ่งด้วยกับตัวเครื่องกับงานประกอบที่เรียบร้อย พร้อมมียางรองขนาดใหญ่ 2 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ส่วนงานประกอบก็เนียบเหมือนเดิม เรื่องนี้ไว้ใจทาง MSI เค้าได้เลย
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่า Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin Thin ไม่ใช่แค่แรงแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายบางเบาช่วงงบประมาณไม่เกิน 50,000 บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ที่สเปกเหมือนๆ กัน แต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่ Gaming Notebook ทั่วไปไม่สามารถให้ประสบการณ์การใช้งานแบบนี้ได้
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ แบบสิ้นเชิง จากการที่ใช้ Per-Key RGB Gaming Keyboard พร้อมแป้นที่ใหญ่พิเศษ ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน ที่สำคัญในคราวนี้ไฟ LED ที่เป็น RGB สามารถเปลี่ยนสีทีละปุ่ม ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน Steelseries Engine 3 ได้ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าตัดชุด Numpad ออกไป จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่เล็กลง
ทัชแพดมีขนาดใหญ่โตมาก เป็นลักษณะผือผ้าออกแนวยาวๆ ใหญ่กว่าเดิมถึง 35% โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับลงตัว ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี มีการตัดขอบเส้นสีทองที่ขอบนอก เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม
Screen / Speaker
MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ ขอบจอบาง รองรับที่ความถี่ 144Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่ตาเราเห็น เพราะหน้าจอปกตินั้นจะแสดงได้สูงสุด 60Hz เท่านั้น พร้อมได้เป็นพาเนล IPS คุณภาพสูง โดยให้มุมมองที่กว้างเกือบ 180 องศา สีสันก็สดใสสมจริง sRGB ใกล้เคียง 100% มากๆ เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานและเล่นเกม ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 180 องศา พร้อมติดตั้งกล้องเว็บแคมแบบ 720p และไมโครโฟนไว้ขอบด้านบน
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอด้วย Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 94% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันที่ดีมากๆ ได้ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมขวาบนเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องซ้ายแถวกลางจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 16% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง DYNAUDIO แบบสเตอริโอ โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมจากฝรั่งเศส ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน สนับสนุน VR และ 3D เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียงอีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปเสียงต่างหาก
Connector / Thin And Weight
MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin จัดว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6 นิ้วซึ่งไซส์เล็กกว่าปกติ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 3 ช่อง , Thunderbolt 3 (USB Type-C) จำนวน 1 ช่อง พร้อมด้วย HDMI 1.4 และ miniDisplayPort 1.2 อีกทั้งมี RJ45 (Killer E2500 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ แต่ก็เข้าใจได้
เชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ ลดค่าปิงต่ำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Matrix Display ช่วยให้ต่อจอได้หลากหลายจอแบบรอบทิศทาง จากทั้ง Thunderbolt 3, HDMI และ miniDisplayPort ส่วนของการพกพา ก็ถือว่าทำได้ดี ด้วยน้ำหนัก 1.9 กิโลกรัม ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 180 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่า 28% เลยทีเดียว รวมๆ กันแล้วหนักเพียง 2 โลนิดๆ เท่านั้น
Inside / Upgrade
การแกะอัพเกรดของ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ต้องแกะฝาล่างออกทั้งหมด ซึ่งการแกะฝาล่างนั้นไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงไขน๊อตประมาณ 10 ตัว จากนั้นก็ค่อยแกะออกมาตามขอบทีละส่วนซึ่งต้องใช้ความใจเย็นระมัดระวังมากๆ เพราะถ้าแรงไปสลักอาจจะหักได้ และเมื่อแกะออกมาแล้ว ก็ยังไม่เห็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ภายในทั้งหมด เพราะมีแผ่นพลาสติกบางๆ กั้นเอาไว้อีกชั้นแปะไว้ด้วยกาวเบาๆ อย่างมิชิด ซึ่งก็ต้องแกะออกก่อน แต่จากตรงนี้เราจะเห็นถึงแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ และลำโพง 2 ตัวที่อยู่ด้านล่าง พร้อพัดลมระบายความร้อน 3 ตัวที่อยู่ด้านบน
และแม้ว่าจะแกะแผ่นพลาสติกออกแล้วก็ตาม เราก็ยังไม่สามารถเข้าถึงการอัพเกรดในส่วนของแรมและ SSD ได้ เพราะตัว MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ได้มีการดีไซน์เมนบอร์ดกลับไปอีกด้าน ส่งผลให้เราจำเป็นต้องไขส่วนของน๊อตบานพับออกพร้อมสายแพรต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ ซึ่งมาถึงตรงนี้ต้องบอกว่า ไม่น่านำให้ทำเองแล้วสำหรับการอัพเกรด เพราะตัวเครื่องอาจจะเกิดความเสียหายได้ ยังไงให้ทางร้านที่เราซื้อมา หรือตัวแทนของ MSI แกะงัดอัพเกรดให้ดีกว่า
โดยระบบระบายความร้อน Cooler Boost Trinity ใช้พัดลม 3 ตัว ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง อย่างละ 2 ด้วยการดูดลมเย็นจากช่องเหนือคีย์บอร์ดและใต้ตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 6 เส้น (รุ่นก่อน 4 เส้น) ก็ถูกซ่อนเอาไว้อีกด้านเช่นเดียวกันของชุดเมนบอร์ด
เรียกได้การอัพเกรดของ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ไม่สามารถทำได้โดยง่าย แม้ว่าจะแกะฝาล่างออกมาง่ายก็จริง แต่การไปต่อเพื่อที่จะเข้าถึงการใส่แรมและ SSD M.2 NVMe เพิ่มไม่ง่ายเลย ซึ่งจากสเปกที่ทราบมาก็คือ รองรับการใส่แรมแบบ 2 แถว โดยจากโรงงานใส่ไปแล้วเป็น 8GB x 1 แถว ถ้าจะอัพเป็น 16GB ก็ต้องใส่แรม 8GB เพิ่มอีก 1 นั่นเอง ส่วน SSD ใส่มาแล้ว 1 ช่อง ว่างแน่ๆ อีก 1 ช่อง อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ทำเอง เพราะถ้าเสียหายเสี่ยงประกันจะหลุดไปด้วย ให้ทางตัวแทน MSI ทำให้จะดีที่สุด
Performance / Software
โดย MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 2 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงระดับรองท็อปอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 1060 แบบรู้สึกได้จากการที่สามารถขับเฟรมเรทได้ลื่นไหล โดยเป็นรอง RTX 2060 และไม่มีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี แต่ก็ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ซึ่งทาง NVIDIA ได้เผยข้อมูลออกมาว่า 3/4 ของผู้ใช้งาน Gaming Notebook นั้นยังคงใช้เครื่องที่มาพร้อมกับการ์ดจอรุ่นเก่าอย่าง GTX 960M อยู่ ซึ่งเมื่อพวกเขาเหล่านั้นตัวสินใจที่จะเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเป็นรุ่นใหม่ แน่นอนว่า GTX 1660 Ti จะทำให้เห็นความแตกต่างของประสิทธิภาพที่เห็นได้อย่างชัดเจน โดยทาง NVIDIA ได้บอกเอาไว้ว่า GTX 1660 Ti นั้นจะมีประสิทธิภาพมากกว่า GTX 960M อยู่ถึง 4 เท่า และเมื่อเทียบกับ GTX 1060 นั้นพบว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ราวๆ 1.5 เท่า ซึ่งบางเกมก็เทียบเท่าหรือมากกว่า GTX 1070 ด้วยซ้ำ
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3248MB/s และเขียนที่ 1870MB/s ซึ่งถ้าใครอยากเร็วแรงกว่านี้ก็สามารถซื้อ SSD มาทำ Raid เพิ่มได้อีก 1 ตัว ความเร็วก็จะทะลุยิ่งขึ้นไปอีก หรือจะเอามาเพิ่มความจุก็แล้วแต่
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,880 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยกอย่าง GTX 1660 Ti ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากพอสมควร ระดับเทียบเท่า Desktop สบายๆ
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 80 – 100+ FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX1660 Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้จะไม่รองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงามไม่แพ้กัน แถมไม่กินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย
เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล เทียบกับการ์ดจอ RTX 2060 ถือว่าใกล้เคียง
ซึ่งด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล อาจจะปรับกราฟิกต่ำลงมาเท่าที่เราพอใจ หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 144Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมากลางๆ ก็ได้
MSI DRAGON CENTER Version 2 เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- LED Wizard : ปรับแต่งไฟคีย์บอร์ด RGB ตามความต้องการ
- Gaming Mode : ตรวจสอบว่าเครื่องมีเกมไหนอยู่ พร้อมปรับแต่งเล่นเกมให้
- Voice Wizard : ปรับแต่งด้านเสียง หรือเร่งคุณภาพเสียง
- Mobile Center : ทำการเชื่อมต่อกับมือถือ
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
นอกเหนือจากนี้ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ยังมีในส่วน SteelSeries Engine 3 ที่ช่วยในการปรับแต่งการใช้งานของอุปกรณ์ต่อพ่วง Gaming Gear ต่างๆ ของ SteelSeries แน่นอนว่าในส่วนของคีย์บอร์ด SteelSeries Per-Key RGB ตัวเครื่องก็สามารถปรับแต่งได้ผ่านทางโปรแกรมนี้ เรียกได้ว่าจะปรับไฟให้ตะมุตะมิแค่ไหนก็สามารถทำได้เลย หรือจะได้พรีเซ็ทต่างๆ ที่มีมาแล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน
ปิดท้ายด้วยระบบเสียงจาก MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin มาพร้อมกับระบบเสียงที่อัพเกรดขึ้นกว่าเดิม คือ Nahimic v3 ที่ทำให้สุดยอด ที่ว่าสุดยอดอยู่แล้วนั้น ทำงานได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก ด้วยซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาให้มีระบบเสียง ไม่ว่าจะเสียงคนพูด, เสียงเบส และเสียงที่มีย่านความถี่ต่ำ ระบบเสียง Nahimic และระบบเสียงอันสุดยอดของ MSI ก็สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเยี่ยมยอด (พบได้บน MSI G Series ทุกรุ่น)
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 8:30 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานน้อยกว่านี้ ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 35 – 60 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 – 32 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU อยู่ที่ไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส และการ์ดจออยู่ไม่เกิน 83 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่เปิดฟีเจอร์ CoolerBoots เพิ่มรอบพัดลมเป็น 6,xxx รอบต่อวินาที จากการที่มีพัดลม 3 ตัว แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง
Conclusion / Award
Gaming Notebook น้ำหนักเบาพกพาสะดวก ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เกมเมอร์หลายคนรวมไปถึงคนใช้งานทำงานที่อยากจะเล่นเกมบ้างในบางเวลาต้องการจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งปกติแล้วโน๊ตบุ๊คเล่นเกมแรงๆ แต่ละรุ่นมักจะมีน้ำหนักที่เยอะ พกพาลำบาก เวลาใส่กระเป๋าแบกไปไหนมาไหนปวดหลังปวดไหล่กันสุดๆ แต่ว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin แน่นอน เพราะด้วยตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น แถมได้สเปคสุดแรง Intel Core i Gen 9 ตระกูล H ล่าสุดกับ i7-9750H และการ์ดจอ GeForce GTX 1660 Ti บอกเลยประสิทธิภาพสูงเหมือนยก Desktop PC ไปใช้งานทีเดียว
ดีไซน์ตัวเครื่องออกแบบมาใหม่หมด บอดี้เป็นอลูมิเนียมอัลลอยสีดำขอบทอง ซึ่งแตกต่างจากรุ่นอื่นก่อนหน้านี้ที่จะเป็นสีดำขอบแดง โดย MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD IPS รองรับที่ 144 Hz ขอบเขตสี 94% sRGB คีย์บอร์ด Steelseries RGB สดใหม่ ลำโพงเลือกใช้ของ Dynaudio ระบบเสียง Nahimic 3 รองรับระบบเสียงแบบ Hi-Res จัดเต็ม ที่สำคัญเหนือกว่า Gaming Notebook ทั่วไปด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 8:30 ชั่วโมง
การระบายความร้อนตัวเครื่องเป็นแบบ Cooler Boost Trinity ที่มีพัดลม 3 ตัว ฮีทไปป์ 6 เส้น ขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 4 ช่องหมดห่วงเรื่องตัวเครื่องร้อน ส่วนแรมตัวเครื่องให้มา 16GB DDR4 ความจุ SSD 512GB m.2 NVMe ตัวแรง แถมตัวเครื่องยังสามารถใส่ SSD M.2 NVMe ได้เพิ่มอีกหนึ่งช่อง (มี M.2 2 ช่องนั่นเอง) นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานอีกด้วย
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันหายห่วงทั้ง Thunderbolt 3, USB 3.1 Type-A x3, RJ45, HDMI, Mini-DisplayPort รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน แต่น่าเสียดายที่ตัดช่อง SD Card Reader ออกไปด้วย ซึ่งเข้าใจว่าไม่เหลือที่แล้ว โดยราคาของ MSI GS65 8SE Stealth Thin สนนราคาอยู่ที่ 47,900 บาทพร้อมประกัน 2 ปีเต็ม จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook สไตล์บางเบาที่น่าซื้อที่สุดรุ่นนึงทีเดียว
เปรียบเทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์ หรือคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ เบาๆ ซักเครื่อง สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางแบรนด์สามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้ หรือใครจะเอางบขนาดนี้ไปแยกซื้อโน๊ตบุ๊คกับคอมประกอบก็ไม่ว่ากัน เอาว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ระดับสูงรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ จาก MSI สามารถสอบถามไปที่ MSI Gaming Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย
เครื่องเดียวจบครบในตัวเดียว ประสิทธิภาพแรงลื่นไหล จอสวยเทพ 144Hz บางเบาพกพาสะดวก ทั้งทำงานและเล่นเกมตอบโจทย์ได้ลงตัว ถ้าให้ซื้อ Gaming Notebook บางเบา ในราคาไม่แพงแต่แรงที่สุด MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin คือคำตอบ ในราคาที่ถูกที่สุด ตั้งแต่เคยมี MSI GS65 มา ด้วยการใช้การ์ดจอ GTX 1660 Ti ในขณะที่ฟีเจอร์เด่นๆ ทั้งหมดยังอยู่อย่างครบถ้วน
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- ตัวเครื่องบางเฉียบ เล็กกระชับกว่าเดิม โดยมีน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคสูงมากทั้ง Core i7-9750H และการ์ดจอ GeForce GTX 1660 Ti
- หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 144Hz ขอบเขตสี sRGB 94%
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.1, HDMI และ Mini DisplayPort 1.2
- อีกทั้งยังมาพร้อมพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3 ที่เป็นฟอร์ม USB-C
- มาพร้อมลำโพง Dynaudio ชาแนลพร้อมระบบเสียง Nahimic 3 ให้เสียงที่ดี
- รองรับไดร์ฟ SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูง
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost Trinity มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ให้สนุกยิ่งขึ้น
- คีย์บอร์ด SteelSeries Per-key RGB ปรับเปลี่ยนสีไฟตามปุ่ม ทำงานร่วมกับเกมได้
- อแดปเตอร์จ่ายไฟ มีขนาดที่เล็กและเบากว่า 28% เป็นภาระน้อยลงไปชัดเจน
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 8:30 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- ความร้อนอาจจะดูสูงไปนิด เมื่อใช้งานเต็มที่ แต่ในการใช้งานจริงไม่มีปัญหาอะไร
- พอร์ตการเชื่อมต่อชิดกันไปนิด SD Card Reader ถูกตัดออกไป
- การอัพเกรดใส่แรมและ SSD M.2 ทำได้ยาก
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7- 9750HQ (2.50 – 4.60 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Desktop มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 1.9 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ รวมถึงแบตอาจจะใช้งานได้ 8 ชั่วโมงจริงๆ ตามที่เคลมไว้ก็ตาม
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI Gaming มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน MSI GS65 9SD-1094TH Stealth Thin ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวดุดันและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้การตัดสีดำกับทอง รวมไปถึงไฟคีย์บอร์ดก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วย Per-key RGB ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนที่เป็นเกมเมอร์ต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน