ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA นั้นถือเป็น 2-in-1 Notebook ที่ได้ความบางเบาราคาคุ้มค่ารุ่นล่าสุด โดดเด่นด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3700U อีกทั้งยังแถมปากกา Stylus ใช้วาดรูปขีดเขียนอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่มีราคาถูกมากๆ เพียง 22,990 บาท (Ryzen 5 แค่ 19,990 บาท) จากดีไซน์ที่สวยงามหรูหรา พกพาสะดวก พร้อมสเปกและฟีเจอร์ที่เกินราคา กว่า 2-in-1 Notebook ทั่วไป กับขนาดหน้าจอ 14″ แต่ตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดเทียบเท่า 13.3″ นี้ โดยมีน้ำหนักที่ 1.6 กิโลกกรัม พร้อมดีไซน์หรูหราตามสไตล์ของ ZenBook จากทาง ASUS
สเปกเต็มๆ ของ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3700U ที่เป็นสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุดที่การผลิต 12 นาโนเมตร มาพร้อมความเร็ว 2.3 – 4.0 GHz ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด โดยมีค่าการกินไฟ TDP ที่ 15 Watt เท่านั้น การ์ดจอออนบอร์ดเป็น Radeon VEGA 10 ประสิทธิภาพใช้ได้ดี ควบคู่กับแรมขนาด 8 GB และ SSD m.2 512 GB PCIe NVMe ส่วนหน้าจอเป็นแบบจอกระจกสัมผัส 14″ รองรับสัมผัสมัลติทัชและปากกา Stylus รองรับแรงกดได้หลายระดับ พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมกับ Windows 10 แท้ในตัว ประกัน 2 ปีตามมาตรฐาน ASUS
Specification
ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA รุ่นที่แอดมินโป้ง NBS ได้รับมารีวิวจากทาง ASUS ประเทศไทย มีราคากลางอยู่ที่ 22,990 บาท ใช้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดตัวอย่างประพลังงานอย่าง AMD Ryzen 7 3700U (2.3 – 4.0 GHz) ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread โดยมี APU หรือการ์ดจอบนชิปเป็น Radeon VEGA 10 ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ พร้อมแรมขนาด 8 GB DDR4 หน่วยความจำสำรองเลือกใช้ SSD m.2 ความจุ 512 GB PCIe NVMe ที่ทำให้ทุกๆ การใช้งานลื่นไหลอย่างแน่นอน
ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบมัลติทัชขนาด 14″ แบบกระจก รองรับสัมผัสมัลติทัชและปากกา Stylus รองรับแรงกดได้หลายระดับ พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD) มีกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลในตัว ที่สำคัญมีกล้องอินฟราเรด IR 3D Camera ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อปลดล็อคตัวเครื่องได้อีกด้วยตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบ และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมพับปรับได้ 360 องศา พร้อมบันเดิลปากกา Stylus อย่าง ASUS Active Pen มาให้เลยในกล่องเลย
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, Micro SD Card Reader และ Headset 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ในตัว ประกัน 2 ปีเต็มตามมาตรฐาน ASUS พร้อมประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรกอีกด้วย โดดเด่นด้วยการเคลมผ่านทางร้าน 7-11 ได้
- UM462DA : Ryzen 5 3500U / VEGA 8/ RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 19,990 บาท
- UM462DA : Ryzen 7 3700U / VEGA 10/ RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 22,990 บาท
Hardware / Design
ด้วยการออกแบบตัวเครื่องที่เน้นเป็น 2-in-1 Notebook ที่ครบเครื่อง ทำให้ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA มีความคุ้มค่าที่สุด โดยมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม ทำให้ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ โดยเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ต้องการที่สุดของโน๊ตบุ๊คในเกรดระดับสูง หรือคนทำงานพนักงานออฟฟิศที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ที่สำคัญคือได้ภาพลักษณ์จากการที่เป็น ZenBook และสีสัน Metallic Light Grey ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์พรีเมียมเข้าไปอีกขั้น
วัสดุหลักของ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เป็นพลาสติกเกรดสูงที่แทบจะไร้รอยต่อตลอดทั้งตัวเครื่อง โดดเด่นด้วยการออกแบบจอภาพไร้กรอบ NanoEdge แบบใหม่ที่ทำให้กรอบจอภาพมีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนเกือบ 10% จอแสดงผลขนาด 14″ แบบขอบจอบางทั้ง 4 ด้านทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 90% ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3700U รุ่นล่าสุดการรองรับการใช้งานสไตลัส นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ ZenBook Flip 14 จึงมีความอเนกประสงค์ มีประสิทธิภาพ และมีความสามารถในการพกพาได้อย่างยอดเยี่ยม
เจาะในส่วนของเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็คือ บานพับ ErgoLift 360° แบบ 2 แกน ซึ่งเวลาที่กางออกมาใช้งานในรูปแบบโน๊ตบุ๊คจะทำให้คีย์บอร์ดทำมุม 2 องศากับฐานตั้ง พร้อมกางจอที่ 135 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้นจากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง ที่หากเรากางหน้าจอมากกว่านั้นก็จะรองรับการใช้งาน Multi-Mode อื่นๆ เรียกได้ว่าฟีเจอร์นี้ไม่เคยมีใครทำมาก่อนบน 2-in-1 Notebook พร้อมดีไซน์ที่ดูสวยวามหรูหรา
ซึ่งบานพับ ErgoLift 360° ที่ว่านี้นั้นทาง ASUS ได้ทำการวิจัยออกมาเป็นอย่างดี ว่ามันจะช่วยให้เราใช้งานโน๊ตบุ๊คนั้นสามารถที่จะพิมพ์ได้อย่างสบาย แถมเวลาที่กางบานพับออกมานั้นมันจะทำให้ส่วนของฐานคีย์บอร์ดมีระยะห่างกับฐานตั้งซึ่งทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในส่วนของตัวเครื่องนั้นมีการดูดลมเย็นเข้าไปช่วย พร้อมกันนั้นยังให้เสียงที่ดีขึ้นด้วย แน่นอนว่าบานพันนี้มีกลไกแบบฟันเฟืองโลหะที่มีความแม่นยำพร้อมความทนทาน จากการทดสอบใช้งานได้ถึง 20,000 ครั้งด้วยกัน
นอกจากนี้ใต้เครื่องก็เรียกได้ว่าไม่มีช่องระบายอากาศให้เห็นเลย สำหรับ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ ซึ่งไม่ว่าจะกางหน้าจอแบบไหนก็จะไม่บังลมจากช่องระบายความร้อนเลย ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งตัวเครื่อง ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เองก็ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810G ระดับกองทัพสหรัฐฯ ที่มีการทดสอบในหลากหลายด้าน เช่น ทดสอบการตกหล่น ทดสอบการสั่นสะเทือน ทดสอบการทำงานในสภาวะอุณหภูมิต่าง ๆ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถใช้งาน ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เครื่องนี้ได้ในแทบทุกสภาพแวดล้อมอย่างแน่นอน จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่ครบเครื่องคุ้มค่าดีจริงๆ
Keyboard / Touchpad
ในส่วนของคีย์บอร์ด ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ติดตั้งคีย์บอร์ดเป็นปุ่มพลาสติกสีเดียวกับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีเทา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือตัดขอบมน ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น พร้อมไฟส่องสว่างทำให้เราใช้งานในที่แสงน้อยหรือมืดๆ ได้ดีกว่าไม่มี ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่ขอบเครื่องด้านซ้ายตามสไตล์ของ 2-in-1 Notebook ส่วนปุ่ม Fn ที่เป็นทางลัดต่างๆ ติดตั้งอยู่ชุดคีย์บอร์ดแถวบนเป็นมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก
ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกโดยเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ซึ่งขอบรอบๆ มีกรเล่นสีสันเป็นสีมันวาวสะดุดตา พร้อมตัวทชแพดเองจะมีสีเข้มกว่าตัวเครื่องด้วย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชร่วมกับ Windows 10 ได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด
Screen / Speaker
ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ได้ติดตั้งหน้าจอกระจกขนาด 14″ มีขอบที่บางมากเพียง 4.37 มิลลิเมตร ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS การแสดงผลของสีเป็นแบบใกล้เคียง 100% sRGB และมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา รองรับทัชสกรีน ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 14″ ที่ให้สีที่สวยที่สุด สมจริงที่สุด และการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น
แม้ขอบจอจะบางเฉียบแต่ก็ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมไว้ด้านบนเหมือนเดิม เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบด้วยกล้องอินฟราเรด IR 3D Camera ระบบไบโอเมตริกซ์ทำงานร่วมกับ Windows Hello ได้อย่างราบรื่นช่วย และง่ายดายเพียงแค่มอง ไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 95% และ AdobeRGB ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่า 2-in-1 Notebook รุ่นอื่นๆ พอตัว ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับกลางๆ ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้มาตรฐานระดับมืออาชีพเลยทีเดียว ส่งผลให้มีคะแนนรวมอยูท่ี 4.5 คะแนน ถือว่าสูงกว่าโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปี 2019 นี้
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
ASUS ZenBook Flip 14 UM462DAในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครันตามมาตรฐานของ 2-in-1 Notebook ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type-A จำนวน 1 พอร์ต (น่าจะให้มาสักสอง) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีก 1 พอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้ 1 พอร์ต ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน microSD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง แต่หากใครที่ต้องการใช้พอร์ท Lan คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง USB to Lan เอาเอง
ขนาดของ 2-in-1 Notebook ตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.6 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ 1.8 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 14″ แค่ตัวเครื่องก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไปแน่นอน ซึ่ง ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาใส่กระเป๋าไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ เช่นเอาไปใช้ตามร้านกาแฟ หรือออฟฟิศชิลๆ เลยล่ะ
Multi-Mode
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
สำหรับ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA วางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
Performance / Software
ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก AMD Ryzen 7 3700U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำแต่แรง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.3 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.0 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core/ 8 Thread ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 8 GB DDR4 ประเภทฝังบอร์ดที่ไม่สามารถอัพเกรดได้ แต่จริงๆ ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะ
ในส่วนของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้มีเพียงการ์ดจอออนบอร์ดที่อยู่ในชิปประมวลผล AMD ซึ่งเป็น Radeon RX VEGA 10 ซึ่งนับว่าเป็นรุ่นบนสุดของ AMD Ryzen 3000 Series สำหรับประมวลผลทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับ 2 มิติสบายๆ ส่วน 3 มิติก็พอได้ ทั้งในส่วนของการตัดต่อวิดีโอหรือจะเล่นเกมสามารทำได้ดีในระดับหนึ่ง
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจตามมาตรฐานของ AMD Ryzen 7 3700U เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i5 ตระกูล U ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ในส่วนของตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพตอบโจทย์ในส่วนของงานทั่วไปได้อย่างลงตัว
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD แบบ M.2 NVMe PCIe ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB โดยเป็นของแบรนด์ชั้นนำกับความเร็วระดับ Read:1752 MB/s – Write: 1463 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือ SSD มาตรฐาน SATA 3 แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3491 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปนั่นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอก็พอทำได้ดีในระดับหนึ่งเลย หรือใครจะเอาไปเล่นเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 / Overwatch แล้วปรับกราฟิกกลางๆ หน่อย ก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหลเช่นเดียวกัน
Battery / Heat / Noise
Conclusion / Award
ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เป็นอีก 2-in-1 Notebook ที่น่าสนใจมากๆ ทั้งจากราคาที่คุ้มค่า ด้วยราคาเพียง 22,990 บาท แต่ได้โน๊ตบุ๊คระดับสูงของทาง ASUS ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความพรีเมียมหรูหรา โดดเด่น และมีสไตล์มากๆ จนคิดว่าราคาค่าตัวจะสูงหลายหมื่นบาท จากการที่เป็น ZenBook Series ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะทาง ASUS เลือกใช้ชิปประมวลผลของ AMD Ryzen 3700U ที่ไม่ใช่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีเยี่ยม จากสถาปัตยกรรม Zen + เทคโนโลยีการผลิตที่ 12 นาโนเมตร ยังได้เรื่องของต้นทุนที่ถูกลงกว่าอีกค่าย ทำให้ ASUS สามารถทำราคาได้ไม่แพง ส่งผลให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ตัดสินใจซื้อกันได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย
สเปกภายในโดยรวมอื่นๆ ก็ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแรมมาขนาด 8GB ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่มีอาการคอขวดแน่นอน อีกทั้งยังใส่ SSD m.2 มาตรฐานความเร็วสูง NVMe PCIe ที่ความจุ 512GB เพียงพอเหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไป หรืองานหนักๆ ก็สบายๆ รวมถึงหน้าจอก็เป็นพาเนล IPS คุณภาพดี มีความละเอียด Full HD ที่แสดงผลได้อย่างลื่นไหล ที่สำคัญเป็นระบบสัมผัสที่รองรับการใช้งานมัลติทัชแถมลื่นเสมือนใช้สมาร์ทโฟนและยังรองรับการใช้ปากกา Stylus ที่ใช้สำหรับงานวาดรูป รองรับแรงกดได้หลายระดับเสมือนวาดบนกระดาษเลยจริงๆ เลยทีเดียว
การออกแบบดีไซน์ของ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่อง งานประกอบก็เรียบร้อย มิติตัวเครื่องก็เล็กกระชับบางเบา พกพาสะดวก แบตใช้งานได้ยาวนานเกือบ 7 ชั่วโมง โดดเด่นด้วย ErgoLift 360° พร้อมความทนทาน ใช้ระบบปลดล็อคด้วยIR 3D Camera รวมไปถึงมีประกันถึง 2 ปีตามมาตรฐาน ASUS เคลมผ่านร้าน 7-11 ก็ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรกด้วย
ทำให้ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เป็น 2-in-1 Notebook สไตล์บางเบา ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งหลายๆ ตัวในตลาด ราคาก็คุ้มค่ามากๆ เพียง 22,290 บาท (บางร้านอาจจะตั้งราคาขายถูกกว่านี้อีก) เรียกได้ว่าใครกำลังจะซื้อโน๊ตบุ๊คบางเบาอยู่แล้วช่วงงบประมาณสองหมื่นบาทกลางๆ จ่ายเท่าๆ กัน ได้ 2-in-1 Notebook ครบเครื่องแบบนี้ อาจจะมีเปลี่ยนใจกันเลยทีเดียว
ข้อดี
- สเปกแรงคุ้มประสิทธิภาพดีด้วย AMD Ryzen 7 3700 + RAM 8GB + SSD 512GB
- เล่นเกม 3 มิติ หรือตัดต่อวีดีโอพอได้ ใช้งานทั่วไปลื่นไหลสบายมาก
- ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810G ทนทานต่อการใช้งาน
- น้ำหนักเบา 1.6 กิโลกรัม เหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- หน้าจอสัมผัสมัลติทัชลื่นมาก รองรับแรงกดได้หลายระดับ พร้อม Stylus สามารถใช้วาดรูปได้ดี
- เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 Notebook ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- รองรับการใช้งานกับปากกาสไตลัส ASUS Active Pen บันเดิลมาให้เลย
- หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูงมาก ความละเอียด Full HD ขอบจอบางเฉียบ
- ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงคุณภาพดี
- มีไฟ Backlit Keyboard สวยงาม รวมถึงใช้งานได้เป็นอย่างดี
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบ 7 ชั่วโมง
- บานพับ ErgoLift 360° ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงยิ่งขึ้นเวลาใช้งาน
- ตัวเครื่องสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายโหมด กางหน้าจอได้ 360 องศา
- มี Windows 10 แท้ในตัวเครื่อง
- ประกัน 2 ปี เคลมผ่านร้าน 7-11 ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรก
- ราคาคุ้มค่ามาก เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้
ข้อสังเกต
- การแกะอัพเกรดทำได้ยาก ทำได้แต่ SSD
- จอกระจกทำให้เวลาใช้งานกลางแจ้งเจอแสงสะท้อน
- ยังมีการติดตั้งพอร์ต USB 2.0 Type-A มาให้อยู่
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับกลุ่ม 2-in-1 Notebook ด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA มีความโดดเด่นเรื่องความพรีเมียมพรูหรา รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 14″ ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง ASUS ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Value
ถึงแม้ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาประมาณสองหมื่นบาท ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 24,900 บาท ที่มาพร้อมสเปคอย่าง AMD Ryzen 7 3700U รวมถึงมีแรม 8GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD PCIe ความจุ 256GB / 512GB แถมมีสแกนลายนิ้วมือและฟีเจอร์อื่นๆ จัดเต็ม เป็น 2-in-1 Notebook เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นหลากหลายพับหน้าจอไปมาได้ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 2 ปี เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย
Best Thin & Light
ความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยมิติที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ ขอบจอบางเฉียบทั้ง 4 ด้าน ตัวเครื่องบางเฉียบ เบาเพียง 1.6 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง รวมไปถึงแบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานเกือบ 7 ชั่วโมง เรียกได้ว่าไม่ต้องพกอแดปเตอร์ไปมาก็ยังได้ ทำให้เป็น 2-in-1 Notebook ที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง
Specification
ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA รุ่นที่แอดมินโป้ง NBS ได้รับมารีวิวจากทาง ASUS ประเทศไทย มีราคากลางอยู่ที่ 22,990 บาท ใช้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดตัวอย่างประพลังงานอย่าง AMD Ryzen 7 3700U (2.3 – 4.0 GHz) ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread โดยมี APU หรือการ์ดจอบนชิปเป็น Radeon VEGA 10 ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ พร้อมแรมขนาด 8 GB DDR4 หน่วยความจำสำรองเลือกใช้ SSD m.2 ความจุ 512 GB PCIe NVMe ที่ทำให้ทุกๆ การใช้งานลื่นไหลอย่างแน่นอน
ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบมัลติทัชขนาด 14″ แบบกระจก รองรับสัมผัสมัลติทัชและปากกา Stylus รองรับแรงกดได้หลายระดับ พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD) มีกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลในตัว ที่สำคัญมีกล้องอินฟราเรด IR 3D Camera ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อปลดล็อคตัวเครื่องได้อีกด้วยตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบ และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมพับปรับได้ 360 องศา พร้อมบันเดิลปากกา Stylus อย่าง ASUS Active Pen มาให้เลยในกล่องเลย
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, Micro SD Card Reader และ Headset 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ในตัว ประกัน 2 ปีเต็มตามมาตรฐาน ASUS พร้อมประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรกอีกด้วย โดดเด่นด้วยการเคลมผ่านทางร้าน 7-11 ได้
- UM462DA : Ryzen 5 3500U / VEGA 8/ RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 19,990 บาท
- UM462DA : Ryzen 7 3700U / VEGA 10/ RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 22,990 บาท
Hardware / Design
ด้วยการออกแบบตัวเครื่องที่เน้นเป็น 2-in-1 Notebook ที่ครบเครื่อง ทำให้ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA มีความคุ้มค่าที่สุด โดยมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม ทำให้ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ โดยเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ต้องการที่สุดของโน๊ตบุ๊คในเกรดระดับสูง หรือคนทำงานพนักงานออฟฟิศที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ที่สำคัญคือได้ภาพลักษณ์จากการที่เป็น ZenBook และสีสัน Metallic Light Grey ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์พรีเมียมเข้าไปอีกขั้น
วัสดุหลักของ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เป็นพลาสติกเกรดสูงที่แทบจะไร้รอยต่อตลอดทั้งตัวเครื่อง โดดเด่นด้วยการออกแบบจอภาพไร้กรอบ NanoEdge แบบใหม่ที่ทำให้กรอบจอภาพมีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนเกือบ 10% จอแสดงผลขนาด 14″ แบบขอบจอบางทั้ง 4 ด้านทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 90% ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3700U รุ่นล่าสุดการรองรับการใช้งานสไตลัส นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ ZenBook Flip 14 จึงมีความอเนกประสงค์ มีประสิทธิภาพ และมีความสามารถในการพกพาได้อย่างยอดเยี่ยม
เจาะในส่วนของเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็คือ บานพับ ErgoLift 360° แบบ 2 แกน ซึ่งเวลาที่กางออกมาใช้งานในรูปแบบโน๊ตบุ๊คจะทำให้คีย์บอร์ดทำมุม 2 องศากับฐานตั้ง พร้อมกางจอที่ 135 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้นจากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง ที่หากเรากางหน้าจอมากกว่านั้นก็จะรองรับการใช้งาน Multi-Mode อื่นๆ เรียกได้ว่าฟีเจอร์นี้ไม่เคยมีใครทำมาก่อนบน 2-in-1 Notebook พร้อมดีไซน์ที่ดูสวยวามหรูหรา
ซึ่งบานพับ ErgoLift 360° ที่ว่านี้นั้นทาง ASUS ได้ทำการวิจัยออกมาเป็นอย่างดี ว่ามันจะช่วยให้เราใช้งานโน๊ตบุ๊คนั้นสามารถที่จะพิมพ์ได้อย่างสบาย แถมเวลาที่กางบานพับออกมานั้นมันจะทำให้ส่วนของฐานคีย์บอร์ดมีระยะห่างกับฐานตั้งซึ่งทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในส่วนของตัวเครื่องนั้นมีการดูดลมเย็นเข้าไปช่วย พร้อมกันนั้นยังให้เสียงที่ดีขึ้นด้วย แน่นอนว่าบานพันนี้มีกลไกแบบฟันเฟืองโลหะที่มีความแม่นยำพร้อมความทนทาน จากการทดสอบใช้งานได้ถึง 20,000 ครั้งด้วยกัน
นอกจากนี้ใต้เครื่องก็เรียกได้ว่าไม่มีช่องระบายอากาศให้เห็นเลย สำหรับ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ ซึ่งไม่ว่าจะกางหน้าจอแบบไหนก็จะไม่บังลมจากช่องระบายความร้อนเลย ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งตัวเครื่อง ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เองก็ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810G ระดับกองทัพสหรัฐฯ ที่มีการทดสอบในหลากหลายด้าน เช่น ทดสอบการตกหล่น ทดสอบการสั่นสะเทือน ทดสอบการทำงานในสภาวะอุณหภูมิต่าง ๆ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถใช้งาน ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เครื่องนี้ได้ในแทบทุกสภาพแวดล้อมอย่างแน่นอน จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่ครบเครื่องคุ้มค่าดีจริงๆ
Keyboard / Touchpad
ในส่วนของคีย์บอร์ด ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ติดตั้งคีย์บอร์ดเป็นปุ่มพลาสติกสีเดียวกับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีเทา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือตัดขอบมน ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น พร้อมไฟส่องสว่างทำให้เราใช้งานในที่แสงน้อยหรือมืดๆ ได้ดีกว่าไม่มี ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่ขอบเครื่องด้านซ้ายตามสไตล์ของ 2-in-1 Notebook ส่วนปุ่ม Fn ที่เป็นทางลัดต่างๆ ติดตั้งอยู่ชุดคีย์บอร์ดแถวบนเป็นมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก
ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกโดยเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ซึ่งขอบรอบๆ มีกรเล่นสีสันเป็นสีมันวาวสะดุดตา พร้อมตัวทชแพดเองจะมีสีเข้มกว่าตัวเครื่องด้วย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชร่วมกับ Windows 10 ได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด
Screen / Speaker
ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ได้ติดตั้งหน้าจอกระจกขนาด 14″ มีขอบที่บางมากเพียง 4.37 มิลลิเมตร ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS การแสดงผลของสีเป็นแบบใกล้เคียง 100% sRGB และมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา รองรับทัชสกรีน ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 14″ ที่ให้สีที่สวยที่สุด สมจริงที่สุด และการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น
แม้ขอบจอจะบางเฉียบแต่ก็ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมไว้ด้านบนเหมือนเดิม เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบด้วยกล้องอินฟราเรด IR 3D Camera ระบบไบโอเมตริกซ์ทำงานร่วมกับ Windows Hello ได้อย่างราบรื่นช่วย และง่ายดายเพียงแค่มอง ไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 95% และ AdobeRGB ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่า 2-in-1 Notebook รุ่นอื่นๆ พอตัว ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับกลางๆ ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้มาตรฐานระดับมืออาชีพเลยทีเดียว ส่งผลให้มีคะแนนรวมอยูท่ี 4.5 คะแนน ถือว่าสูงกว่าโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปี 2019 นี้
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
ASUS ZenBook Flip 14 UM462DAในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครันตามมาตรฐานของ 2-in-1 Notebook ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type-A จำนวน 1 พอร์ต (น่าจะให้มาสักสอง) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีก 1 พอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้ 1 พอร์ต ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน microSD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง แต่หากใครที่ต้องการใช้พอร์ท Lan คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง USB to Lan เอาเอง
ขนาดของ 2-in-1 Notebook ตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.6 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ 1.8 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 14″ แค่ตัวเครื่องก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไปแน่นอน ซึ่ง ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาใส่กระเป๋าไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ เช่นเอาไปใช้ตามร้านกาแฟ หรือออฟฟิศชิลๆ เลยล่ะ
Multi-Mode
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
สำหรับ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA วางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
Performance / Software
ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก AMD Ryzen 7 3700U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำแต่แรง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.3 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.0 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core/ 8 Thread ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 8 GB DDR4 ประเภทฝังบอร์ดที่ไม่สามารถอัพเกรดได้ แต่จริงๆ ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะ
ในส่วนของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้มีเพียงการ์ดจอออนบอร์ดที่อยู่ในชิปประมวลผล AMD ซึ่งเป็น Radeon RX VEGA 10 ซึ่งนับว่าเป็นรุ่นบนสุดของ AMD Ryzen 3000 Series สำหรับประมวลผลทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับ 2 มิติสบายๆ ส่วน 3 มิติก็พอได้ ทั้งในส่วนของการตัดต่อวิดีโอหรือจะเล่นเกมสามารทำได้ดีในระดับหนึ่ง
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจตามมาตรฐานของ AMD Ryzen 7 3700U เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i5 ตระกูล U ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ในส่วนของตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพตอบโจทย์ในส่วนของงานทั่วไปได้อย่างลงตัว
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD แบบ M.2 NVMe PCIe ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB โดยเป็นของแบรนด์ชั้นนำกับความเร็วระดับ Read:1752 MB/s – Write: 1463 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือ SSD มาตรฐาน SATA 3 แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3491 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปนั่นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอก็พอทำได้ดีในระดับหนึ่งเลย หรือใครจะเอาไปเล่นเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 / Overwatch แล้วปรับกราฟิกกลางๆ หน่อย ก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหลเช่นเดียวกัน
Battery / Heat / Noise
Conclusion / Award
ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เป็นอีก 2-in-1 Notebook ที่น่าสนใจมากๆ ทั้งจากราคาที่คุ้มค่า ด้วยราคาเพียง 22,990 บาท แต่ได้โน๊ตบุ๊คระดับสูงของทาง ASUS ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความพรีเมียมหรูหรา โดดเด่น และมีสไตล์มากๆ จนคิดว่าราคาค่าตัวจะสูงหลายหมื่นบาท จากการที่เป็น ZenBook Series ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะทาง ASUS เลือกใช้ชิปประมวลผลของ AMD Ryzen 3700U ที่ไม่ใช่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีเยี่ยม จากสถาปัตยกรรม Zen + เทคโนโลยีการผลิตที่ 12 นาโนเมตร ยังได้เรื่องของต้นทุนที่ถูกลงกว่าอีกค่าย ทำให้ ASUS สามารถทำราคาได้ไม่แพง ส่งผลให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ตัดสินใจซื้อกันได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย
สเปกภายในโดยรวมอื่นๆ ก็ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแรมมาขนาด 8GB ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่มีอาการคอขวดแน่นอน อีกทั้งยังใส่ SSD m.2 มาตรฐานความเร็วสูง NVMe PCIe ที่ความจุ 512GB เพียงพอเหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไป หรืองานหนักๆ ก็สบายๆ รวมถึงหน้าจอก็เป็นพาเนล IPS คุณภาพดี มีความละเอียด Full HD ที่แสดงผลได้อย่างลื่นไหล ที่สำคัญเป็นระบบสัมผัสที่รองรับการใช้งานมัลติทัชแถมลื่นเสมือนใช้สมาร์ทโฟนและยังรองรับการใช้ปากกา Stylus ที่ใช้สำหรับงานวาดรูป รองรับแรงกดได้หลายระดับเสมือนวาดบนกระดาษเลยจริงๆ เลยทีเดียว
การออกแบบดีไซน์ของ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่อง งานประกอบก็เรียบร้อย มิติตัวเครื่องก็เล็กกระชับบางเบา พกพาสะดวก แบตใช้งานได้ยาวนานเกือบ 7 ชั่วโมง โดดเด่นด้วย ErgoLift 360° พร้อมความทนทาน ใช้ระบบปลดล็อคด้วยIR 3D Camera รวมไปถึงมีประกันถึง 2 ปีตามมาตรฐาน ASUS เคลมผ่านร้าน 7-11 ก็ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรกด้วย
ทำให้ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA เป็น 2-in-1 Notebook สไตล์บางเบา ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งหลายๆ ตัวในตลาด ราคาก็คุ้มค่ามากๆ เพียง 22,290 บาท (บางร้านอาจจะตั้งราคาขายถูกกว่านี้อีก) เรียกได้ว่าใครกำลังจะซื้อโน๊ตบุ๊คบางเบาอยู่แล้วช่วงงบประมาณสองหมื่นบาทกลางๆ จ่ายเท่าๆ กัน ได้ 2-in-1 Notebook ครบเครื่องแบบนี้ อาจจะมีเปลี่ยนใจกันเลยทีเดียว
ข้อดี
- สเปกแรงคุ้มประสิทธิภาพดีด้วย AMD Ryzen 7 3700 + RAM 8GB + SSD 512GB
- เล่นเกม 3 มิติ หรือตัดต่อวีดีโอพอได้ ใช้งานทั่วไปลื่นไหลสบายมาก
- ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810G ทนทานต่อการใช้งาน
- น้ำหนักเบา 1.6 กิโลกรัม เหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- หน้าจอสัมผัสมัลติทัชลื่นมาก รองรับแรงกดได้หลายระดับ พร้อม Stylus สามารถใช้วาดรูปได้ดี
- เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 Notebook ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- รองรับการใช้งานกับปากกาสไตลัส ASUS Active Pen บันเดิลมาให้เลย
- หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูงมาก ความละเอียด Full HD ขอบจอบางเฉียบ
- ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงคุณภาพดี
- มีไฟ Backlit Keyboard สวยงาม รวมถึงใช้งานได้เป็นอย่างดี
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบ 7 ชั่วโมง
- บานพับ ErgoLift 360° ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงยิ่งขึ้นเวลาใช้งาน
- ตัวเครื่องสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายโหมด กางหน้าจอได้ 360 องศา
- มี Windows 10 แท้ในตัวเครื่อง
- ประกัน 2 ปี เคลมผ่านร้าน 7-11 ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรก
- ราคาคุ้มค่ามาก เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้
ข้อสังเกต
- การแกะอัพเกรดทำได้ยาก ทำได้แต่ SSD
- จอกระจกทำให้เวลาใช้งานกลางแจ้งเจอแสงสะท้อน
- ยังมีการติดตั้งพอร์ต USB 2.0 Type-A มาให้อยู่
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับกลุ่ม 2-in-1 Notebook ด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA มีความโดดเด่นเรื่องความพรีเมียมพรูหรา รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 14″ ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง ASUS ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Value
ถึงแม้ ASUS ZenBook Flip 14 UM462DA จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาประมาณสองหมื่นบาท ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 24,900 บาท ที่มาพร้อมสเปคอย่าง AMD Ryzen 7 3700U รวมถึงมีแรม 8GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD PCIe ความจุ 256GB / 512GB แถมมีสแกนลายนิ้วมือและฟีเจอร์อื่นๆ จัดเต็ม เป็น 2-in-1 Notebook เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นหลากหลายพับหน้าจอไปมาได้ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 2 ปี เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย
Best Thin & Light
ความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยมิติที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ ขอบจอบางเฉียบทั้ง 4 ด้าน ตัวเครื่องบางเฉียบ เบาเพียง 1.6 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง รวมไปถึงแบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานเกือบ 7 ชั่วโมง เรียกได้ว่าไม่ต้องพกอแดปเตอร์ไปมาก็ยังได้ ทำให้เป็น 2-in-1 Notebook ที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง