Acer ถือว่าเป็นแบรนด์คอมพิวเตอร์ที่ยอดนิยมในไทย ซึ่งที่ผ่านมาก็นำเสนอโน๊ตบุ๊คเข้าสู่ตลาดหลากหลายรุ่น ให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ได้เลือกใช้งานกันลักษณะการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแบบทั่วไปเน้นคุ้มค่า บางเบาเน้นพกพา 2-in-1 เน้นใช้งานหลายโหมด หรือ Gaming Notebook ที่เน้นเล่นเกมรวมไปถึงประมวลผลหนักๆ ซึ่งในปัจจุบันชิปประมวลผลของ AMD รุ่นใหม่ๆ นั้น ได้รับการตอบรับที่ดีมาก
อย่างเช่น AMD Ryzen 3000 Series / AMD Athlon รุ่นต่างๆ ก็ตอบโจทย์ ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพและราคาที่คุ้มค่า ส่งผลให้เราก็มีโน๊ตบุ๊คสเปกที่เป็น AMD ให้เลือกมากมาย ซึ่งในบทความนี้เราจะแนะนำ AMD Notebook จากทาง Acer มาว่ามีรุ่นไหน แล้วเหมาะกับการใช้งานยังไงบ้าง โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 12,990 บาทเท่านั้นเอง
Acer Swift 3 ราคา 13,990 บาท
Acer Swift 3 จริงๆ แล้วมีอยู่หลากหลายรุ่นด้วยกัน ทั้ง Intel Core i รวมไปถึง AMD Ryzen แต่ในรุ่นที่แอดมินโป้งได้มารีวิวนี้เป็นสเปกใหม่ล่าสุดอย่าง ชิปประมวลผล AMD Athlon 300U ทำงานแบบ 2 คอร์ 4 เธร์ด ด้วยความเร็วนาฬิกาที่ 2.4 – 3.3 GHz มีค่าที่ TDP อยู่ที่ 15Watt เท่านั้น ประสิทธิภาพเทียบเคียงกับ Core i3 หรือ Ryzen 3 ทีเดียว ส่วนการ์ดจอเป็น AMD Radeon Vega 3 ให้กำลังในการประมวลผลกราฟิกที่พอเพียงในการใช้งานทั่วไป แรมให้มาขนาด 4GB DDR4 แบบฝังบอร์ด โดยเป็นรุ่นประหยัดพลังงานพิเศษ ทำให้กินไฟต่ำใช้งานได้ยาวนาน
หน้าจอขนาด 14 นิ้ว บนความละเอียดมาตรฐาน 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นแบบหน้าจอด้าน พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี แรมภายในเครื่องมีมาให้ขนาด 4GB แบบ DDR4 ส่วนฮาร์ดดิสก์แบบ SSD NVMe M.2 มีความจุ 256GB ที่มีพื้นที่เพียงพอพร้อมกับลื่นไหล ซึ่งรองรับการใช้งานได้อย่างสบายๆ ติดตั้ง Windows 10 ใช้งานได้ทันที
Acer Swift 3 เครื่องนี้ใช้วัสดุประกอบหลักเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์คุณภาพดีที่ทั้งตัวเครื่องให้ความบางเบาแต่แข็งแรง เรียกได้ว่าได้รับการพัฒนาต่อยอดจากโน๊ตบุ๊คบางเบาของทาง Acer ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก โดยมาพร้อมกับบางเพียง 18.7 มิลลิเมตร ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ที่บางเบาที่สุดรุ่นหนึ่ง กับราคาแค่หมื่บาทต้นๆ เทียบกับแบรนด์อื่นๆ ถือว่าน่าประทับใจทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อครบครันด้วยพอร์ตต่างๆ อาทิ USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, HDMI, Card Reader, Wi-Fi และ Bluetooth แน่นอนว่ายังมีกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล ส่วนน้ำหนักตัวเครื่อง 1.5 กิโลกรัม ที่สำคัญยังติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือให้ด้วย สนนราคาของ Acer Swift 3 สเปก AMD Athlon เครื่องนี้เพียง 13,990 บาท พร้อมการรับประกันถึง 2 ปีเต็มอีกด้วย
Acer Aspire 3 A315-42 ราคา 12,990 – 17,990 บาท
Acer Aspire 3 A315-42 รุ่นนี้จัดได้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เน้นในเรื่องของความครบครันคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย ด้านการออกแบบดีไซน์ของ Acer Aspire 3 A315 รุ่นนี้จะมาในสไตล์เรียบๆ ได้หน้าจอแบบขอบจอบาง โดยลักษณะรวมแล้วเป็นสีดำแบบด้านและมีลักษณะพื้นผิวแบบเรียบๆ แต่ดูดี มาพร้อมสเปกและประสิทธิภาพการใช้งานที่ครบครัน ด้วยงบประมาณในเลือกซื้อที่ไม่แพงจนเกินไป ด้านการออกแบบดีไซน์ใหม่นี้จะมาในสไตล์เรียบง่าย แต่มีความสวยงาม
โดยเป็นการอัพเดทสเปคภายในเริ่มต้นเป็น AMD Ryzen 3 3200U พร้อมการ์ดจอ AMD Radeon RX Vega 3 ที่รองรับทุกๆ การใช้งานตามมาตรฐาน ซึ่งพอจะเล่นเกมได้ในระดับนึง ส่วนแรมก็ได้มา 4GB ซึ่งพอใช้งานได้ (แนะนำให้อัพเกรดเป็น 8GB) ฮาร์ดดิสก์ก็ความจุ 1TB สำรองไฟล์ต่างๆ ได้อย่างสบายๆ หน้าจอ 15.6″ 1366 x 768 พิกเซล HD หรือ 15.6″ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD นับว่าคุ้มค่าจริงๆ ส่วนถ้าจะอัพเกรด ใส่ SSD เพิ่มเข้าไปก็พอแล้ว กับราคาเพียง 12,990 บาท นับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีค่าตัวไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของชิปประมวลผล
สำหรับ Acer Aspire 3 A315 มีหลากหลายสเปกทั้ง AMD Ryzen 5 3500U / AMD Ryzen 7 3700U เป็นอีกรุ่นที่แนะนำหน้าจอขนาด 15.6″ บนความละเอียดมาตรฐานแรมภายในเครื่องมีมาให้ขนาด 4GB แบบ DDR4 ซึ่งบางรุ่นจะติดตั้งฮาร์ดดิสก์แบบ SSD NVMe M.2 มีความจุ 256GB ซึ่งรองรับการใช้งานได้ลื่ไหล ติดตั้ง Windows 10 ใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อครบครันด้วยพอร์ตต่างๆ
โดยวัสดุที่ใช้เป็นพลาสติกเกรดสูงตามสมัยนิยม งานประกอบโดยรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว เทียบแล้วทำได้ดีพอๆ กับรุ่นก่อนหน้า เรียกได้ว่ารูปลักษณ์ของเครื่องนั้นเหมาะสมกับราคาที่ให้มา ซึ่งรูปทรงของ Acer Aspire 3 A315 อาจจะไม่ใช้สายบางเบามากมายอะไร โดยมีน้ำหนักที่ 2.3 กิโลกรัม ก็นำไปใช้งานจริงในเรื่องของการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้แบบสบายๆ อยู่ สำหรับสเปกต่างๆ แบบเป็นตามนี้เลย
- AMD Ryzen 3 3200U / RAM 4GB / HDD 1TB / Windows 10 / จอ HD ราคา 12,990 บาท
- AMD Ryzen 3 3200U / RAM 4GB / SSD 256GB / Windows 10 / จอ HD ราคา 13,990 บาท
- AMD Ryzen 5 3500U / RAM 8GB / HDD 1TB / Windows 10 / จอ Full HD ราคา 14,990 บาท
- AMD Ryzen 5 3500U / RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 / จอ Full HD ราคา 15,990 บาท
- AMD Ryzen 7 3700U / RAM 8GB / HDD 1TB / Windows 10 / จอ Full HD ราคา 17,990 บาท
Acer Nitro 5 ราคา 21,990 บาท
Acer Nitro 5 รุ่นใหม่มีความพิเศษตรงที่ได้สเปกที่เป็น AMD ทั้งชิปประมวลผล Ryzen 5 3550H และใช้การ์ดจอเป็น AMD Radeon RX560X ในราคา 21,990 บาท ที่สำคัญได้หน้าจอเป็นพาเนล IPS ที่ 144Hz ซึ่งดูจากราคาค่าตัวแล้วคุ้มค่ามากๆ แน่นอนว่ามี Windows 10 แท้พร้อมใช้งานทันที จากที่ก่อนหน้านี้มีสเปก Core i Gen 9 + GTX ให้เลือกเท่านั้น พร้อมด้วยดีไซน์ขอบจอบางเฉียบซึ่งต้องบอกว่าได้รับการออกแบบที่เหมือนกันสำหรับภายนอก แต่ภายในนั้นต่างด้วยสเปกชัดเจน ส่วนฟีเจอร์ CoolBoots ช่วยระบายความร้อนก็ยังมีอยู่เช่นเดิม
เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook สายพันธุ์ AMD ที่ราคาคุ้มค่าสเปกโดนใจ ที่น่าจับตามองมากๆ จากการที่เป็น AMD Ryzen 3000 ซีรีส์ H ที่ทั้งแรงและร้อนน้อย แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน แม้การ์ดจออาจจะแรงสูง GTX ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าใกล้เคียง สเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยแรม 8GB ส่วน SSD M.2 NVMe ใส่ให้มาเลย 512GB รองรับอัพเกรด M.2 SATA อีก 1 ช่อง พร้อม HDD 2.5″ ได้ประกัน 3 ปี On-site Service หรือจะส่งศูนย์ซ่อมด่วนภายใน 3 ชั่วโมงก็สามารถทำได้
หน้าจอเป็นพาเนล IPS ที่รองรับการแสดงผล Refreash Rate 144Hz ที่สำคัญคือขอบเขตสีก็ดีมากๆ เรียกได้ว่าคุณภาพดีทีเดียวเมื่อเทียบกับค่าตัวเพียงสองหมื่นบาทต้นๆ คาดว่าคงเป็นหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อของเพื่อนๆ เหมือนกัน สำหรับคนที่เอาไปทำงานด้านสีที่จริงจัง ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.1 Type-C จำนวน 2 ช่อง แต่ก็ยังมี USB 2.0 Type-C อีกช่องอยู่ไว้เชื่อมต่อเมาส์เป็นหลัก พร้อมกับ LAN เป็น Killer Ethernet ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยการเล่นเกมที่ลื่นไหลได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นมาตรฐานที่ดีมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ทั่วไปที่ไม่มีตรงนี้
คนไหนที่สนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ เน้นให้ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่าที่สุดในงบสองหมื่นบาทต้นๆ ที่หวังซื้อแล้วจบ ส่วนอัพเกรดไว้ทีหลังก็ได้ล่ะก็ Acer Nitro 5 รุ่น AMD Ryzen 5 3550H น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว กั โดยรวมแล้วถือว่ามีน่าใช้งานจริงๆ อีกทั้งแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 6 – 7 ชั่วโมงด้วย แถมไม้เด็ดก็คือ On-Site Service 3 ปี และส่งซ่อมศูนย์ด่วนแบบรับภายใน 3 ชั่วโมงจัดเต็มเหมือนเดิม เรียกได้ว่าครบครันเสร็จสรรพในเครื่องเดียวโคตรคุ้ม