MSI เปิดตัวโน๊ตบุ๊คซีรี่ส์ใหม่สำหรับสายครีเอเตอร์ พร้อมมุ่งสู่การเป็นเบอร์หนึ่งในด้านการสร้างสรรค์ด้วยการนำ CPU Intel 10th Generation ตัวล่าสุดมาใช้เป็นรายแรกของโลก
MSI ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านการผลิตโน๊ตบุ๊คสำหรับสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้งานในด้านการสร้างคอนเทนต์และความคิดสร้างสรรค์ โดยได้มีการนำ CPU Intel 10th Generation ตัวล่าสุด มาใช้กับโน๊ตบุ๊คเป็นครั้งแรกของโลก โดยโน๊ตบุ๊คสำหรับครีเอเตอร์ซีรีส์ใหม่ล่าสุดนี้ จะเปิดตัวครั้งแรกกับทาง Intel ในงาน IFA ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-11 กันยายน
โดยในซีรี่ส์ใหม่นี้นั้น จะมีชื่อว่า MSI Prestige 14 และ 15 ซึ่งมาพร้อมกับประสิทธิภาพและฟีเจอร์ใหม่ๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแกนประมวลผลที่มากถึง 6 คอร์ จาก CPU Intel 10th Generation ตัวล่าสุด, หน้าจอแสดงผลแบบ True Pixel เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์ได้เติมเต็มประสบการณ์ในด้านการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น
โน๊ตบุ๊คผู้นำเทรนด์แห่งยุคครีเอเตอร์ พร้อมขับเคลื่อนโดยขุมพลังที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในตอนนี้
ในฐานะที่เป็นโน๊ตบุ๊คซีรี่ส์ครีเอเตอร์ ที่เน้นการใช้งานในด้านการสร้างสรรค์ผลงานและมีการอัพเกรดในด้านซอฟต์แวร์มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีส่วนสำคัญที่การมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นในการพกพาเพื่อไม่ให้มาเป็นอุปสรรคของความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา จึงออกมาเป็น MSI โน๊ตบุ๊คซีรี่ส์ล่าสุดอย่าง Prestige และ Modern นี้
โดยในส่วนของซีรี่ส์ Prestige นั้น เป็นครั้งแรกของโลกที่ได้มีการติดตั้ง CPU Intel® 10th Generation ตัวล่าสุดเอาไว้ ซึ่งมาพร้อมกับแกนประมวลผลจำนวน 6 คอร์ด้วยกัน ทำให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลนั้นเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึง 50% เลยทีเดียว โดยสิ่งนี้จะช่วยให้การสร้างสรรค์ผลงานของคุณมีความราบรื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในด้านการทำงานแบบหลายๆโปรแกรมพร้อมกันที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ประสิทธิภาพในการประมวลผลขณะทำงาน เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ให้ความสำคัญเมื่อยามต้องเลือกอุปกรณ์คู่ใจ โดยหน่วยประมวลผล Intel® Core™ i7 10th Generation ตัวล่าสุดนั้น ได้มีการปรับปรุงด้านการประมวลผลข้อมูลให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถประมวลผลในรูปแบบการทำงานหลายๆโปรแกรมพร้อมกันได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ผลงานทั้งในรูปแบบ 2D และ 3D ที่ต้องมีการใช้งานโปรแกรมหลายๆตัวพร้อมกันได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมกับเหล่า ยูทูปเบอร์, ช่างภาพ, อนิเมเตอร์ และนักดนตรีมากเลยทีเดียว
โดยประสิทธิภาพในการทำงานของโปรแกรมในหมวดตกแต่งหรือแก้ไขภาพอย่าง Photoshop นั้น มีประสิทธิภาพในการทำงานในบางฟังก์ชั่นสูงขึ้นถึง 40% เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
ในขณะที่การใช้งานโปรแกรม Premier โดยการประมวลผลผ่านการ์ดจอ NVIDIA® GeForce® GTX 16 Series ซึ่งโน๊ตบุ๊ค MSI Prestige ตัวล่าสุดนี้สามารถให้ประสิทธิภาพในการแสดงผลขณะตัดต่อวีดีโอความละเอียด 4K ได้ราบรื่นกว่าเดิมอย่างมาก โดยเฉพาะในรุ่น Prestige 15 ที่มาพร้อมความเร็วที่มากขึ้นถึง 4 เท่าเลยทีเดียว
สู่โลกแห่งความสมจริง กับหน้าจอแสดงผลแบบ True Pixel เติมเต็มประสบการณ์ในด้านภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ผู้คนมักเชื่อในสิ่งที่เห็น ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักออกแบบ ก็คงจะเป็นความคมชัดรวมถึงความแม่นยำของสีในระดับที่สูงที่สุด ทำให้ผลงานที่ออกมานั้น สื่อถึงความคิดของผู้สร้างสรรค์ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ และด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ True Pixel ของ MSI Prestige ซึ่งมีความละเอียดสูงสุดถึงระดับ 4K UHD, พร้อมการตั้งค่าสีด้วยฟีเจอร์ True Color เพื่อให้สีสันมีความแม่นยำตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ขยายขอบเขตการแสดงผลของสีให้กว้างขึ้นด้วยมาตรฐาน 100% AdobeRGB เพื่อการแสดงผลของสีที่มีมิติมากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยมาตรฐานความแม่นยำของสีที่เป็นที่ยอมรับกันในอุตสาหกรรมชั้นนำอย่าง Delta-E<2 ที่จะช่วยการันตีว่าสีที่ได้นั้น มีความถูกต้องและแม่นยำแน่นอน และหน้าจอ True Pixel ทั้งหมดของ MSI นั้น ยังได้รับประกันคุณภาพจากการตรวจสอบของมาตรฐานระดับโลกอย่าง CalMAN เพื่อการแสดงผลของภาพที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้หน้าจอ True Pixel มีการแสดงผลที่ดีมากยิ่งขึ้น ในซีรีส์ Prestige 14 และ 15 นี้ยังคงมาพร้อมหน้าจอที่มีขอบบางแบบ Thin-Bezel ซึ่งมีส่วนช่วยให้หน้าจอ True Pixel ตัวใหม่นั้น มีสัดส่วนที่เหมาะสมต่อร่างกายของผู้ใช้งานถึงประมาณ 90% เลยทีเดียว
Prestige Series การันตีด้านประสิทธิภาพ มากับภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย พร้อมการออกแบบที่ใส่ใจในด้านความคล่องตัว
ด้วยการออกแบบที่เน้นให้ตัวเครื่องมีความบางและมีน้ำหนักเบา สองสิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้งาน MSI Prestige เสมือนกับได้รับโบนัสแบบฟรีๆสำหรับโอกาสที่จะพกพาโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อให้เข้ากับการทำงานในปัจจุบันที่ต้องปรับเปลี่ยนการรูปแบบการทำงานให้ทันตามยุคสมัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงทั้งหมดในการผลิตมาผนวกรวมกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องที่ทำจากอลูมิเนียมเคลือบพื้นผิวด้วยเนื้อทรายขัดละเอียด มีขนาดกระทัดรัดทั้งรุ่น Prestige 14 และ 15 น้ำหนักเบาอย่างน่าเหลือเชื่อแค่เพียง 1.2 และ 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น
เพื่อมอบประสบการณ์ในการสร้างสรรค์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน ทาง MSI ได้นำเสนอซีรี่ส์ Prestige นี้ในฐานะผู้ช่วยชั้นดีของเหล่าครีเอเตอร์ โดย MSI ได้คำนึงถึงประโยชน์ของผู้ใช้งาน เริ่มตั้งแต่กระบวนการออกแบบที่ได้ถูกคำนวนมาอย่างดีเพื่อให้เข้ากับหลักสรีรศาสตร์, แป้นพิมพ์ที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ไวขึ้น นอกจากนี้บานพับของหน้าจอยังสามารถกางออกได้กว้างถึง 180 องศา เพื่อที่ว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีที่สุดในการนำเสนอผลงานนั่นเอง
ตัวเครื่องมาพร้อมกับดีไซน์ที่มากมายหลากหลายสี เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ใช้งานที่จะได้เลือกสิ่งที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเองมากที่สุด เพื่อให้สมกับชื่อซีรี่ส์ Prestige ที่แสดงออกถึงความมีระดับของการเป็นผู้นำในด้านความคิดสร้างสรรค์ และจากการออกแบบที่พิถีพิถันนั้น ตัวเครื่องสี Carbon Gray ของ Prestige 14 และ 15 มีตกแต่งรายละเอียดบริเวณขอบด้วยเทคโนโลยี diamond-cutting สีฟ้าสดใส เสริมให้เห็นถึงจิตวิญญาณของผู้ใช้งานที่มีความเป็นครีเอเตอร์ผสมกับกับความเป็นบิสเนสยูเซอร์ได้อย่างชัดเจน (**ในส่วนของตัวเครื่องสีขาวจะเปิดตัวตามมาในเร็วๆนี้)
แบตเตอรี่ยาวนานถึง 16 ชั่วโมงเพื่อตอบสนองการใช้งานด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีขีดจำกัด
เหล่าผู้ใช้งานและเหล่าครีเอเตอร์ไม่เพียงแต่จะได้รับประสิทธิภาพในการทำงานและขนาดหน้าจอที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระยะเวลาในการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานสูงสุดถึง 16 ชั่วโมง โดยจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ทำงานด้านการออกแบบส่วนใหญ่ ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งที่สำคัญสำหรับการใช้งานของโน๊ตบุ๊คสำหรับพวกเขานั้นก็คือ ระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานนั่นเอง ซึ่งเมื่อพวกเขาได้เห็นถึงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ใส่มาใน Prestige ตัวล่าสุดนี้ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่างเป็นระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานจนน่าตกใจ และนั่นก็เป็นเหตุผลหลักๆที่ทาง MSI ได้ออกแบบให้ซีรี่ส์ Prestige ตัวล่าสุดนี้มีระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าปกตินั่นเอง
ในส่วนของการเชื่อมต่อ ทั้ง Prestige 14 และ 15 มาพร้อมกับพอร์ต Thunderbolt™ 3 เสริมประสิทธิภาพในความเร็วของการโอนถ่ายข้อมูลด้วยการประมวลผลจาก CPU Intel® Core™ 10th Generation ตัวล่าสุด ซึ่งทำให้พอร์ตการเชื่อมต่อสารพัดประโยชน์นี้มีความรวดเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลมากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อน และที่สำคัญนั้น ยังมาพร้อมกับมาตรฐาน Wi-Fi 6 ตัวใหม่ล่าสุด สำหรับการเชื่อมต่อสัญญาณแบบไร้สายที่เร็วกว่ามาตรฐานก่อนหน้าถึง 3 เท่าตัว
Modern 14 Series มีดีที่บาง – เบา เข้ากับการใช้งานในทุกสถานการณ์
สำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่มักต้องจะมีการพกพาอุปกรณ์ออกไปใช้งานสถานที่ ซีรี่ส์ Modern 14 ตัวล่าสุดนี้สามารถตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ด้วยตัวเครื่องกระทัดรัดขนาด 14 นิ้ว น้ำหนักเบา 1.19 กิโลกรัม ซึ่งล้วนเป็นตัวเลขที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งสำหรับโน๊ตบุ๊คสักเครื่องหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กและเบา แต่ประสิทธิภาพนั้นต้องบอกว่าเอาเรื่องเลยทีเดียว ทั้งในด้านการใช้งานและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ก็ได้ทำได้อย่างดีไม่มีที่ติ มาพร้อมการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานสูงสุดถึง 10 ชั่วโมง ช่วยให้ผู้ใช้งานได้มีเวลาจัดการกับความคิดสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องกังวลถึงข้อจำกัดแบบที่แล้วๆมา
ในฐานะที่เป็นผู้นำในด้านการผลิตโน๊ตบุ๊คที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานด้านคอนเทนต์ครีเอเตอร์มากที่สุดในปัจจุบัน ทำให้มั่นใจได้เลยว่า MSI Prestige และ Modern series ตัวใหม่ล่าสุดนี้ จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานได้อย่างแน่นอน
ส่วนสเปคของรุ่นที่จะมีการวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ได้รับการเปิดเผยมา ณ ตอนนี้จะมีเพียงรุ่น Prestige 14 และ 15 โดยมีรายละเอียดสเปคของแต่ละรุ่นดังนี้
Prestige 15
– Windows 10 Home
– Intel Core i7-10710U
– GeForce® GTX 1650 MAX Q, GDDR5 4GB
– 15.6″ FHD (1920*1080), IPS-Level Thin Bezel, close to 100% sRGB
– DDR IV 8GB*2 (2666MHz)
– 1TB NVMe PCIe Gen 3×4 SSD
– Intel Wi-Fi 6 AX201(2*2 ax) + BT5
– Single Backlight (White) Keyboard
– FREE SLEEVE BAG
– 2 Years Warranty
————————————-
Prestige 14
– Windows 10 Home
– Intel Core i7-10710U
– GeForce® GTX 1650 MAX Q, GDDR5 4GB
– 14″ FHD (1920*1080), IPS-Level NTSC Thin Bezel, close to 100% sRGB
– DDR IV 16GB (2666MHz)
– 512GB NVMe PCIe SSD
– Intel Wi-Fi 6 AX201(2*2 ax) + BT5
– Single Backlight (White) Keyboard
– FREE SLEEVE BAG
– 2 Years Warranty
ส่วน Modern 14 นั้นยังไม่มีการเปิดเผยสเปคของตัวที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยออกมา สำหรับใครที่สนใจก็สามารถติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวจากทาง MSI ได้ที่ Facebook Fanpage: MSI Gaming (TH) https://msi.gm/2u6kGeX
————————————-
MSI Content Creation: https://th.msi.com/Prestige
MSI TH Facebook: https://msi.gm/2u6kGeX
MSI TH Instagram: https://msi.gm/2QOli6R
MSI TH YouTube: https://msi.gm/2ZgU1tt
MSI TH Twitter: https://msi.gm/30afDZW