Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

Review – Dell G7 15 7590 Gaming Notebook แรงล้ำสุด สเปก i7-9750H + RTX 2070 Max-Q + จอ 240Hz

Dell G7 15 7590 รุ่นใหม่ปี 2019 ที่เป็นตระกูลท็อปสุด รองลงมาก็เป็น G5 15 5590 และ G3 15 3590 ดีไซน์สวยงามเฉียบเรียบ มิติตัวเครื่องดูเล็กกระชับลงจากการที่ขอบหน้าจอบาง

Dell G7 15 7590 รุ่นใหม่ปี 2019 ที่เป็นตระกูลท็อปสุด รองลงมาก็เป็น G5 15 5590 และ G3 15 3590 ดีไซน์สวยงามเฉียบเรียบ มิติตัวเครื่องดูเล็กกระชับลงจากการที่ขอบหน้าจอบางลงตามเทรนด์ของ Notebook ปี 2019 มาพร้อมสีเทาที่ดูเข้มหน่อยสไตล์แบบทูโทน ที่บอกได้เลยว่าดูหรูหรามากๆ ตามมาตรฐานของ Dell ที่หลายๆ คนชื่นชอบกันอยู่แล้ว วัสดุหลักๆ ก็เป็นอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ที่มีงานประกอบที่แน่นหนา รวมไปถึงระบบระบายความร้อนเป็นแบบโชว์โปร่งใสสีฟ้าดูดีทีเดียว แน่นอนว่าของดีเป็นประกัน Dell On-site Premium Support ระยะเวลา 2 ปี

สำหรับสเปกหลักๆ ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 9 อย่าง i7-9750H ใส่แรมมาขนาด 16GB DDR4 รวมไปถึงสนับสนุนการใช้งานทั้งฮาร์ดดิสก์ปกติ 2.5″ และ SSD M.2 NVMe ตามมาตรฐานที่ติดตั้งมาแล้ว 512GB โดดเด่นด้วยการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2060 และ RTX 2070 Max-Q ที่ต้องบอกว่าสมกับการรอคอยของหลายๆ คน นอกเหนือจากนั้นเรื่องของสเปกหน้าจอก็โดดเด่น ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD  พาเนล IPS ที่ 144Hz และ 240Hz โดยแบ่งออกเป็น 2 รุ่น สนนราคาที่ 59,990 และ 69,990 บาท

Advertisement

Specification

DELL G7 15 7590 W5670152707PTHW10 copy

Dell G7 15 7590 ใช้ชิประมวลผลรุ่นล่าสุดจากทาง Intel อย่าง Core i7-9750H และการ์ดจอระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2060 หรือ RTX 2070 Max-Q แรมมาตรฐานเป็น DDR4 ขนาด 16GB พร้อม SSD 256GB + HDD 1TB หรือ SSD 512GB มีหน้าจอความละเอียดสูงระดับ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน 144Hz หรือ 240Hz ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ใครจะเอาไปทำงานหรือเล่นเกมอันนี้ไม่ว่ากัน สนนราคาเริ่มต้นที่ 59,990 บาท ไปจนถึง 69,990 บาท ซึ่งจากสเปกหลักตรงนี้ทำให้รอรับการเล่นเกมในปัจจุบันลื่นๆ ได้ทุกเกมแน่นอน

พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB-C DisplayPort/USB-C Thunderbolt 3 ในช่องเดียว, HDMI, mini DisplayPort, 3 x USB Type-A 3.1 (with PowerShare), Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45 Killer Networks E2500V2 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน Killer Wireless 1550 2×2 AC ที่สำคัญยังโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นด้วยการติดตั้ง Finger Print ไว้ทำหน้าที่สแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งานอีกด้วย

แน่นอนว่านั่นก็มาจากการที่ Dell มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมกับมาตรฐานของ Dell ที่มีแฟนๆ เชื่อมั่นอยู่เสมอมา ที่สำคัญด้วยบริการ Dell Premium Support ซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก วันทำการ (On-site Sevice) ระยะเวลา 2 ปีเต็มด้วย ทำให้มั่นใจได้เลย บริการหลังการขายของ Dell นั้นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน 

หน้าสเปกราคาของ Dell G7 15 7590

Hardware / Design

Dell G7 15 7590 Review 27

การออกแบบต่างๆ ของ Dell G7 15 7590 ดูมีความใกล้เคียงกับ Dell G5 15 5590 ที่เป็นรุ่นรอง แต่มีความดูดีกว่าหลายๆ ส่วน ในเรื่องวัสดุและความบางเบา เค้าโครงเหลี่ยมมุมได้ DNA มาจาก Dell รุ่นก่อนหน้านี้ ผสมกับความเป็น Alienware ที่ดูแล้วเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมู โดยเปลี่ยนในเรื่องของพื้นผิวและดีไซน์บางอย่างบางตำแหน่งไม่เหมือนเดิม แต่แง่ของดีไซน์โดยรวมแล้ว ก็ยังแฝงความดุดันรวมไปถึงงานประกอบที่ต้องบอกว่าแน่นหนา ยังคงมีความเยี่ยมยอดตามมาตรฐาน Dell ที่ไม่ใช่แค่สวยงามแต่แข็งแรงทนทาน

Dell G7 15 7590 บอกได้เลยว่ามีโครงสร้างโดยรวมเป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมสีสันแนวเย็นๆ สีเทาๆ ดำๆ อย่าง Abyss Grey ที่แซมด้วยสีฟ้าสดใสเชื่อว่าน่าจะถูกใจหลายๆ คนทีเดียว วัสดุก็จะเป็นอะลูมิเนียมและพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดีตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม และมีความบางของตัวเครื่องอยู่ที่ 19.9 มิลลิเมตร เทียบแล้วบางเบากว่าเดิม ให้ประสบการณ์การเป็น Gaming Notebook ประสิทธิภาพสูงแต่ยังให้ความสะดวกในการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่

Dell G7 15 7590 Review 43

หน้าจอของ Dell G7 15 7590 จะเป็นแบบบานพับเดียวดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณ 145 องศา ส่วนขอบด้านบนด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่แบบคู่สองพัดลม พร้อมด้านข่างตัวเครื่องอีกสองช่อง จุเด่นคือครีบฟินสีฟ้าสวยงาม ลักษณะไปในทิศทางเดียวกับตัวเครื่องโดยรวม ซึ่งสามารถทำหน้าที่ช่วยลดความอุณหภูมิจากชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดได้อย่างน่าประทับใจ ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมจากสองช่องแยกจากกัน พร้อมร่องช่องแนวยาวพาดผ่านตลอดขอบๆ ตัวเครื่อง ที่ดูแล้วมีความเรียบหรูมากๆ

ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องมียางรองกันลื่นสองเส้นพาดยาวยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น  ยกตัวเครื่องให้อากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นอีก 2 ช่องด้านล่างด้วยพร้อมมีโลโก้ G7 ติดตั้งเอาไว้ที่เราสามารถมองเห็นกันได้อย่างชัดเจน ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัว รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง Dell นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย เป็นข้อดีที่หาได้ยากในหลายๆ แบรนด์

Dell G7 15 7590 โดดเด่นด้วยการเลือกติดตั้ง Thunderbolt 3 มาให้ด้วย ซึ่งหน้าตาจะเหมือนกับ USB Type-C แต่ว่าสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วกว่า ที่สำคัญยังเป็น Gaming Notebook รุ่นนึงในตลาดที่ติดตั้ง Finger Print มาให้ โดยเป็นปุ่มเดียวปุ่ม Power นั่นเอง ส่วนการพกพาเองก็ถือว่า Dell G7 15 7590 มีน้ำหนักที่ 2.5 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ สเปกใกล้เคียงกัน ที่ถึงแม้ว่าจะหนักซักหน่อย ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ นับได้ว่าเบากว่ารุ่นก่อนแบบรู้สึกได้เลย

Dell G7 15 7590 Review 21

สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Dell ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ อย่างไรก็ตามแม้ Dell G7 15 7590 จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของ Dell ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลัก แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ อะไรก็แล้วแต่เลย อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าราคาสูงกว่าแบรนด์คู่แข่ง (เทียบกับ Gaming Notebook ที่เป็นการ์ดจอ RTX) วางตำแหน่งเป็นตัวรองท็อปจาก Gaming Notebook ตระกูล Alienware ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี

Keyboard / Touchpad

Dell G7 15 7590 Review 75

ส่วนของคีย์บอร์ด Dell G7 15 7590 นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาวโปร่งแสง (ไม่มีการสกรีนภาษาไทย) มีการออกแบบตามสไตล์โน๊ตบุ๊ค Dell ปกติ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้ว กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size พร้อม Numpad อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED RGB ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว เป็นแบบ 4 โซนคล้าย Alienware ดูแล้วสวยงาม ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่ด้านบนคีย์บอร์ด สีกลืนไปกับเครื่อง พร้อมใช้งานสแกนลายนิ้วมือได้

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ขอบเป็นฟ้า ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น มีเส้นแบ่งเป็นสีฟ้า การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

Dell G7 15 7590 Review 15

Dell G7 15 7590 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พร้อมดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2019 ที่ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าพาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมมีกล้อง Web Cam และไมค์ติดตั้งมาตามมาตรฐานอยู่ที่บริเวณขอบจอด้านบน

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell G7 15 7590 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด โดยทดสอบออกมาแล้วเผยให้เห็นขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 90% และ AbodeRGB ที่ 69%

เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีน่าประทับใจ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน

s3 7

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องมุมขวาบน มีแสงสว่างที่ลดลงไประดับ 11% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite

ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่หน้าระบบเสียงให้เสียงคมชัด พร้อมฟีเจอร์ Nahimic Sound Center เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ด้วยความที่เป็น 2 ชาแนล อยู่ข้างใต้ตัวเครื่องทางซ้ายและขวา ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

Dell G7 15 7590 Review 41

ส่วนในการเชื่อมต่อต่างๆ Dell G7 15 7590 มีทั้งขอบตัวเครื่องทั้ง 3 ด้าน คือ ข้างซ้ายขวาและด้านหลัง รองรับการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 อย่างที่ Gaming Notebook น้อยรุ่นจะให้มา รวมไปถึง HDMI, miniDisplayPort, 3 x USB 3.1 Gen 1 with PowerShare, SD Card Reader, RJ-45 (Killer Networks E2500V2 Gigabit Ethernet Port), Headset และ Kensington lock พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน Killer Wireless 1550 2×2 AC ถือว่ารองรับได้ดีเหนือตามมาตรฐาน Notebook ทั่วไป

Dell G7 15 7590 เลือกติดตั้ง Thunderbolt 3 มาให้ด้วย ซึ่งหน้าตาจะเหมือนกับ USB Type-C แต่ว่าสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วกว่า รวมไปถึงต่อจอแยก หรือต่อการ์ดจอแยกก็ยังได้ นับได้ว่าเหนือชั้นกว่า Gaming Notebook หลายรุ่น ส่วนการพกพาเองก็ถือว่า Dell G7 15 7590 มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมากถึง 2.5 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อหน้าจะเห็นว่าเบากว่าเดิม แถมมิติตัวเครื่องยังบางกว่าเดิม ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พัฒนาดียิ่งขึ้น ซึ่งถ้ารวมอแดปเตอร์แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 2.8 กิโลกรัม ไม่ลำบากในการพกพามากนัก

Performance / Software

c1 7 . c2 7

โดย Dell G7 15 7590 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง Intel Core i7-9750H (ว่าที่รุ่นยอดนิยมประจำปี 2019) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.50 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads

ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-8750HQ พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Bus 2666MHz แบบ 8GB x 2 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

g1 7 .  g2 7

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน

โดยมีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 2070 Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ แรงกว่า GTX 1070 แบบรู้สึกได้ (เป็นรองแค่ GTX1080) เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว เรียกว่าสำหรับเกมออนไลน์สามารถทำได้ลื่นไหลแน่นอน แต่ยังไงไปดูผลทดสอบอีกทีดีกว่าด้านล่าง

cine 5

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ssd3

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1602MB/s และเขียนที่ 884MB/s ซึ่งถ้าใส่ NVMe ที่เร็วระดับ 2xxx – 3xxx MB/s มาจะดีมากๆ หรือความเร็วในการเขียนที่มากกว่านี้ ส่วนตัวคิดว่าน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว

pc 6

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,081 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยกอย่าง RTX 2070 Max-Q  แต่ถ้าเทียบจริงๆ จะเห็นถึงคะแนนที่ต่ำกว่า Gaming Notebook ในสเปกที่ใกล้เคียงกัน

game g7 7590

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว โดย Battlefield V เปิด DX12 แต่เลือกปิด DLSS / Ray Tracing ที่แม้จะทำให้ภาพสวยแต่ก็กินทรัพยากรเครื่องพอตัวอยู่ เฟรมเรทเฉลี่ยของทั้ง 3 เกม อยู่ที่ระดับ 80+ ทั้งหมดเลย

Dell G7 15 7590 Review 114

เกมออนไลน์กินสเปกเบาๆ หน่อยอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 140 ขึ้นไปตลอด (PUBG ได้ 85) ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แต่ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นอื่นที่สเปกใกล้เคียงกัน ถือว่าประสิทธิภาพการเล่นที่ได้ต่ำกว่า

ที่สำคัญด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 240Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 144Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมากลางๆ หน่อย

d2 3

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell G7 15 7590 Gaming Notebook ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง Dell SupportAssistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

dp

รวมไปถึงซอฟต์แวร์ Dell Power Manager ที่คอยเป็นตัวช่วยในการจัดการพลังงาน การชาร์จไฟ สถานะแบตเตอรี่ รวมไปถึงระบบระบายความร้อน ที่เราสามารถเลือกการจัดการได้ ว่าจะใช้งานทั่วไป อัตโนมัติ หรือเร่งรอบพัดลม เพื่อให้ระบายความร้อนได้สูงสุด ตามแต่ลักษณะการใช้งานของเรา

a1 copy  a2 copy a3 copy  a4 copy

นอกเหนือจากนี้ทาง Dell ยังมีซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Alienware Command Center โดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ อาทิเช่น โหมดการใช้งานต่างๆ โปรไฟล์เกมที่มีอยู่ AlienFX ไว้ปรับไฟทั้งตัวเครื่อง ไว้จัดการเกี่ยวประประสิทธิภาพ รวมไปถึงหน้าตาโปรแกรมว่าเป็นโทนสว่างโทนมืด หรือกราฟิกต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Gaming Notebook ระดับสูงของทาง Dell ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจาก Alienware เท่านั้น

Dell G7 15 7590 Review 110

ปิดท้ายด้วย Dell Mobile Connect ซอฟต์แวร์ที่คอยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องแยกการใช้งานระหว่างพีซีและสมาร์ทโฟน  โดยเชื่อมต่อกันผ่านสัญญาณ Bluetooth ซึ่งทำให้การแจ้งเตือนต่างๆ ข้อมความ เบอร์โทร รวมไปถึงการโทรศัพท์ติดต่อ สามารถทำผ่านโน๊ตบุ๊คของ Dell ได้เลย สำหรับ Dell G7 15 7590 ก็มีซอฟต์แวร์ตัวนี้ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน เรียกได้ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปากทีเดียว

Battery / Heat / Noise

batt 6

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Dell G7 15 7590 เครื่องนี้มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 6870 mAh แต่ด้วยที่เป็นชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงานจึงมีการใช้พลังงานค่อนข้างน้อย ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำที่สุดแล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 6 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจกับการจัดการพลังงานของ Gaming Notebook เครื่องนี้ทีเดียว

temp 3

สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติหนักๆ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผลอยู่ที่ไม่เกิน 97 – 100 องศาเซลเซียส และการ์ดจอไม่เกิน 60 – 78 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ถือว่าเสียงไม่ดังเลยเมื่อใช้งานหนักๆ ถือว่าไม่รบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกม

Conclusion / Award

dell g7 15 7590 top 1

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับ Dell G7 15 7590 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คสายเล่นเกมที่มีความแตกต่างจากทาง Dell ที่ต่อยอดความสำเร็จจาก G7 รุ่นก่อนหน้าในเรื่องของสเปกที่เป็นชิปประมวลผล Core i Gen 9 อย่าง i7-9750H พร้อมจับคู่มากับการ์ดจอ GeForce RTX 2070 Max-Q โดดเด่นด้วยความบางเบากว่ารุ่นเดิม ได้เป็นอย่างดีด้วยประสิทธิภาพที่แรงเหนือชั้นยิ่งกว่า ส่วนดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ยังคงสมบูรณ์เหมือนเดิม ส่งผลได้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดยิ่งกว่า เรียกได้ว่าใครเป็นแฟน Dell ต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน

โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการติดตั้ง Finger Print อีกทั้งแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานมาประมาณ 6 ชั่วโมงถือว่าน่าประทับใจ ส่วนหน้าจอก็ให้ค่า sRGB ที่ใกล้เคียงในรุ่นสเปกช่วงราคาเคียงกัน ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟ RGB และซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ใช้งานได้จริง ทแม้ว่าอาจจะข้อสังเกตในเรื่องการระบายความร้อนที่อุณหภูมิสูงไประดับร้อนสุดที่ 100 องศา รวมไปถึง SSD ที่ให้มาความเร็วน้อยเกินไปหน่อย สุดท้ายถ้าดูราคาแล้วรับได้ รวมไปถึงพอใจกับ งานประกอบ สเปก และการมีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้แล้ว ก็ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าซื้อที่สุดอีกรุ่นนึงช่วงปลายปี 2019 นี้ก็ว่าได้

Dell G7 15 7590 Review 124

Dell G7 15 7590 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานที่เน้นเล่นเกมเป็นหลักด้วยดีไซน์การออกแบบและสเปกเกมมิ่ง หรือผู้ที่รักความบันเทิงและมัลติมีเดีย ส่วนทำงานทั่วๆ ไปนั้นสบายๆ อยู่แล้ว ด้วยสเปคภายในที่แรงตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แถมยังให้การรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ Dell Premium Support คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจาก Dell

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นความแรง งานประกอบ ดีไซน์ที่ดุดัน และการรับประกันเทพๆ แล้วล่ะก็ Dell G7 15 7590 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว ส่วนข้อมูล Dell รุ่นอื่นๆ สามารถตามดูต่อได้ที่ https://www.facebook.com/DellThailand ได้เลย ส่วนการมาของ Dell G7 15 7590 ทำให้ Alienware รุ่นปัจจุบันดูเก่าไปเลยทีเดียว คงต้องรอดู Alienware m15, Alienware m17 รุ่นใหม่ปี 2019 อีกที ยังไงก็ตามถ้าเป็นแฟน Dell อยู่แล้ว และรับได้ในเรื่องของความร้อนและ SSD ที่ความเร็วน้อยไปหน่อย รวมไปถึงราคาค่าตัวที่สูงกว่ารุ่นอื่น ก็จัด Dell G7 15 7590 ที่เป็น Gaming Notebook รุ่นแรกของ Dell ที่มาพร้อมการ์ดจอ RTX 20 Series และดีไซน์ใหม่ล่าสุดกันได้เลย

จุดเด่น

  • เป็น Gaming Notebook ดีไซน์ใหม่ บางเบากว่ารุ่นก่อนๆ บางสุดในของ Dell
  • งานประกอบแน่นๆ วัสดุอลูมิเนียมเกรดดี ตลอดทั้งตัวเครื่อง มาตราฐาน Dell
  • ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Core i7 Gen 9 ตระกูล H และการ์ดจอ RTX 2070 Max-Q
  • สเปกแรมได้มา 16GB และ SSD 512GB ไม่ต้องอัพเกรดแล้ว
  • ได้หน้าจอพาเนล IPS ความละเอียด Full HD แบบ 240Hz คุณภาพดีระดับสูง
  • คีย์บอร์ดได้เป็นแบบไฟ RGB สี่โซนปรับแต่งได้
  • เป็นโน๊ตบุ๊คมาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 3 ความเร็วสูง
  • มี Finger Print เข้าใช้งานผ่านทาง Windows Hello
  • ซอฟต์แวร์ติดเครื่องมีมาให้อย่างจัดเต็ม ใช้ได้จริง
  • ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม Dell Premium Support (On-site Sevice)

ข้อสังเกต

  • แป้นคีย์บอร์ดไม่มีภาษาไทย
  • ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกใกล้เคียงกัน
  • ความเร็ว SSD ในการเขียนน้อยเกินไป
  • การระบายความร้อนมีอุณหภูมิค่อนข้างสูง

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell G7 15 7590 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Dell Gaming โน๊ตบุ๊คสายคเล่นเกม ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell G7 15 7590 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกัน ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

NBS award 7 Design

Best Performance

ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q ขนาด 8GB DDR6 รวมไปถึงหน้าาจอ 240Hz ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ รวมไปถึงการเล่นเกมในปัจจุบัน

award new performance

VDO Review

Specification

DELL G7 15 7590 W5670152707PTHW10 copy

Dell G7 15 7590 ใช้ชิประมวลผลรุ่นล่าสุดจากทาง Intel อย่าง Core i7-9750H และการ์ดจอระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2060 หรือ RTX 2070 Max-Q แรมมาตรฐานเป็น DDR4 ขนาด 16GB พร้อม SSD 256GB + HDD 1TB หรือ SSD 512GB มีหน้าจอความละเอียดสูงระดับ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน 144Hz หรือ 240Hz ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ใครจะเอาไปทำงานหรือเล่นเกมอันนี้ไม่ว่ากัน สนนราคาเริ่มต้นที่ 59,990 บาท ไปจนถึง 69,990 บาท ซึ่งจากสเปกหลักตรงนี้ทำให้รอรับการเล่นเกมในปัจจุบันลื่นๆ ได้ทุกเกมแน่นอน

พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB-C DisplayPort/USB-C Thunderbolt 3 ในช่องเดียว, HDMI, mini DisplayPort, 3 x USB Type-A 3.1 (with PowerShare), Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45 Killer Networks E2500V2 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน Killer Wireless 1550 2×2 AC ที่สำคัญยังโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นด้วยการติดตั้ง Finger Print ไว้ทำหน้าที่สแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งานอีกด้วย

แน่นอนว่านั่นก็มาจากการที่ Dell มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมกับมาตรฐานของ Dell ที่มีแฟนๆ เชื่อมั่นอยู่เสมอมา ที่สำคัญด้วยบริการ Dell Premium Support ซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก วันทำการ (On-site Sevice) ระยะเวลา 2 ปีเต็มด้วย ทำให้มั่นใจได้เลย บริการหลังการขายของ Dell นั้นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน 

หน้าสเปกราคาของ Dell G7 15 7590

Hardware / Design

Dell G7 15 7590 Review 27

การออกแบบต่างๆ ของ Dell G7 15 7590 ดูมีความใกล้เคียงกับ Dell G5 15 5590 ที่เป็นรุ่นรอง แต่มีความดูดีกว่าหลายๆ ส่วน ในเรื่องวัสดุและความบางเบา เค้าโครงเหลี่ยมมุมได้ DNA มาจาก Dell รุ่นก่อนหน้านี้ ผสมกับความเป็น Alienware ที่ดูแล้วเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมู โดยเปลี่ยนในเรื่องของพื้นผิวและดีไซน์บางอย่างบางตำแหน่งไม่เหมือนเดิม แต่แง่ของดีไซน์โดยรวมแล้ว ก็ยังแฝงความดุดันรวมไปถึงงานประกอบที่ต้องบอกว่าแน่นหนา ยังคงมีความเยี่ยมยอดตามมาตรฐาน Dell ที่ไม่ใช่แค่สวยงามแต่แข็งแรงทนทาน

Dell G7 15 7590 บอกได้เลยว่ามีโครงสร้างโดยรวมเป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมสีสันแนวเย็นๆ สีเทาๆ ดำๆ อย่าง Abyss Grey ที่แซมด้วยสีฟ้าสดใสเชื่อว่าน่าจะถูกใจหลายๆ คนทีเดียว วัสดุก็จะเป็นอะลูมิเนียมและพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดีตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม และมีความบางของตัวเครื่องอยู่ที่ 19.9 มิลลิเมตร เทียบแล้วบางเบากว่าเดิม ให้ประสบการณ์การเป็น Gaming Notebook ประสิทธิภาพสูงแต่ยังให้ความสะดวกในการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่

Dell G7 15 7590 Review 43

หน้าจอของ Dell G7 15 7590 จะเป็นแบบบานพับเดียวดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณ 145 องศา ส่วนขอบด้านบนด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่แบบคู่สองพัดลม พร้อมด้านข่างตัวเครื่องอีกสองช่อง จุเด่นคือครีบฟินสีฟ้าสวยงาม ลักษณะไปในทิศทางเดียวกับตัวเครื่องโดยรวม ซึ่งสามารถทำหน้าที่ช่วยลดความอุณหภูมิจากชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดได้อย่างน่าประทับใจ ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมจากสองช่องแยกจากกัน พร้อมร่องช่องแนวยาวพาดผ่านตลอดขอบๆ ตัวเครื่อง ที่ดูแล้วมีความเรียบหรูมากๆ

ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องมียางรองกันลื่นสองเส้นพาดยาวยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น  ยกตัวเครื่องให้อากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นอีก 2 ช่องด้านล่างด้วยพร้อมมีโลโก้ G7 ติดตั้งเอาไว้ที่เราสามารถมองเห็นกันได้อย่างชัดเจน ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัว รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง Dell นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย เป็นข้อดีที่หาได้ยากในหลายๆ แบรนด์

Dell G7 15 7590 โดดเด่นด้วยการเลือกติดตั้ง Thunderbolt 3 มาให้ด้วย ซึ่งหน้าตาจะเหมือนกับ USB Type-C แต่ว่าสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วกว่า ที่สำคัญยังเป็น Gaming Notebook รุ่นนึงในตลาดที่ติดตั้ง Finger Print มาให้ โดยเป็นปุ่มเดียวปุ่ม Power นั่นเอง ส่วนการพกพาเองก็ถือว่า Dell G7 15 7590 มีน้ำหนักที่ 2.5 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ สเปกใกล้เคียงกัน ที่ถึงแม้ว่าจะหนักซักหน่อย ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ นับได้ว่าเบากว่ารุ่นก่อนแบบรู้สึกได้เลย

Dell G7 15 7590 Review 21

สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Dell ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ อย่างไรก็ตามแม้ Dell G7 15 7590 จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของ Dell ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลัก แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ อะไรก็แล้วแต่เลย อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าราคาสูงกว่าแบรนด์คู่แข่ง (เทียบกับ Gaming Notebook ที่เป็นการ์ดจอ RTX) วางตำแหน่งเป็นตัวรองท็อปจาก Gaming Notebook ตระกูล Alienware ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี

Keyboard / Touchpad

Dell G7 15 7590 Review 75

ส่วนของคีย์บอร์ด Dell G7 15 7590 นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาวโปร่งแสง (ไม่มีการสกรีนภาษาไทย) มีการออกแบบตามสไตล์โน๊ตบุ๊ค Dell ปกติ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้ว กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size พร้อม Numpad อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED RGB ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว เป็นแบบ 4 โซนคล้าย Alienware ดูแล้วสวยงาม ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่ด้านบนคีย์บอร์ด สีกลืนไปกับเครื่อง พร้อมใช้งานสแกนลายนิ้วมือได้

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ขอบเป็นฟ้า ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น มีเส้นแบ่งเป็นสีฟ้า การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

Dell G7 15 7590 Review 15

Dell G7 15 7590 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พร้อมดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2019 ที่ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าพาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมมีกล้อง Web Cam และไมค์ติดตั้งมาตามมาตรฐานอยู่ที่บริเวณขอบจอด้านบน

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell G7 15 7590 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด โดยทดสอบออกมาแล้วเผยให้เห็นขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 90% และ AbodeRGB ที่ 69%

เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีน่าประทับใจ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน

s3 7

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องมุมขวาบน มีแสงสว่างที่ลดลงไประดับ 11% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite

ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่หน้าระบบเสียงให้เสียงคมชัด พร้อมฟีเจอร์ Nahimic Sound Center เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ด้วยความที่เป็น 2 ชาแนล อยู่ข้างใต้ตัวเครื่องทางซ้ายและขวา ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

Dell G7 15 7590 Review 41

ส่วนในการเชื่อมต่อต่างๆ Dell G7 15 7590 มีทั้งขอบตัวเครื่องทั้ง 3 ด้าน คือ ข้างซ้ายขวาและด้านหลัง รองรับการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 อย่างที่ Gaming Notebook น้อยรุ่นจะให้มา รวมไปถึง HDMI, miniDisplayPort, 3 x USB 3.1 Gen 1 with PowerShare, SD Card Reader, RJ-45 (Killer Networks E2500V2 Gigabit Ethernet Port), Headset และ Kensington lock พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน Killer Wireless 1550 2×2 AC ถือว่ารองรับได้ดีเหนือตามมาตรฐาน Notebook ทั่วไป

Dell G7 15 7590 เลือกติดตั้ง Thunderbolt 3 มาให้ด้วย ซึ่งหน้าตาจะเหมือนกับ USB Type-C แต่ว่าสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วกว่า รวมไปถึงต่อจอแยก หรือต่อการ์ดจอแยกก็ยังได้ นับได้ว่าเหนือชั้นกว่า Gaming Notebook หลายรุ่น ส่วนการพกพาเองก็ถือว่า Dell G7 15 7590 มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมากถึง 2.5 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อหน้าจะเห็นว่าเบากว่าเดิม แถมมิติตัวเครื่องยังบางกว่าเดิม ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พัฒนาดียิ่งขึ้น ซึ่งถ้ารวมอแดปเตอร์แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 2.8 กิโลกรัม ไม่ลำบากในการพกพามากนัก

Performance / Software

c1 7 . c2 7

โดย Dell G7 15 7590 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง Intel Core i7-9750H (ว่าที่รุ่นยอดนิยมประจำปี 2019) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.50 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads

ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-8750HQ พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Bus 2666MHz แบบ 8GB x 2 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

g1 7 .  g2 7

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน

โดยมีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 2070 Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ แรงกว่า GTX 1070 แบบรู้สึกได้ (เป็นรองแค่ GTX1080) เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว เรียกว่าสำหรับเกมออนไลน์สามารถทำได้ลื่นไหลแน่นอน แต่ยังไงไปดูผลทดสอบอีกทีดีกว่าด้านล่าง

cine 5

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ssd3

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1602MB/s และเขียนที่ 884MB/s ซึ่งถ้าใส่ NVMe ที่เร็วระดับ 2xxx – 3xxx MB/s มาจะดีมากๆ หรือความเร็วในการเขียนที่มากกว่านี้ ส่วนตัวคิดว่าน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว

pc 6

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,081 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยกอย่าง RTX 2070 Max-Q  แต่ถ้าเทียบจริงๆ จะเห็นถึงคะแนนที่ต่ำกว่า Gaming Notebook ในสเปกที่ใกล้เคียงกัน

game g7 7590

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว โดย Battlefield V เปิด DX12 แต่เลือกปิด DLSS / Ray Tracing ที่แม้จะทำให้ภาพสวยแต่ก็กินทรัพยากรเครื่องพอตัวอยู่ เฟรมเรทเฉลี่ยของทั้ง 3 เกม อยู่ที่ระดับ 80+ ทั้งหมดเลย

Dell G7 15 7590 Review 114

เกมออนไลน์กินสเปกเบาๆ หน่อยอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 140 ขึ้นไปตลอด (PUBG ได้ 85) ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แต่ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นอื่นที่สเปกใกล้เคียงกัน ถือว่าประสิทธิภาพการเล่นที่ได้ต่ำกว่า

ที่สำคัญด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 240Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 144Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมากลางๆ หน่อย

d2 3

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell G7 15 7590 Gaming Notebook ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง Dell SupportAssistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

dp

รวมไปถึงซอฟต์แวร์ Dell Power Manager ที่คอยเป็นตัวช่วยในการจัดการพลังงาน การชาร์จไฟ สถานะแบตเตอรี่ รวมไปถึงระบบระบายความร้อน ที่เราสามารถเลือกการจัดการได้ ว่าจะใช้งานทั่วไป อัตโนมัติ หรือเร่งรอบพัดลม เพื่อให้ระบายความร้อนได้สูงสุด ตามแต่ลักษณะการใช้งานของเรา

a1 copy  a2 copy a3 copy  a4 copy

นอกเหนือจากนี้ทาง Dell ยังมีซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Alienware Command Center โดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ อาทิเช่น โหมดการใช้งานต่างๆ โปรไฟล์เกมที่มีอยู่ AlienFX ไว้ปรับไฟทั้งตัวเครื่อง ไว้จัดการเกี่ยวประประสิทธิภาพ รวมไปถึงหน้าตาโปรแกรมว่าเป็นโทนสว่างโทนมืด หรือกราฟิกต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Gaming Notebook ระดับสูงของทาง Dell ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจาก Alienware เท่านั้น

Dell G7 15 7590 Review 110

ปิดท้ายด้วย Dell Mobile Connect ซอฟต์แวร์ที่คอยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องแยกการใช้งานระหว่างพีซีและสมาร์ทโฟน  โดยเชื่อมต่อกันผ่านสัญญาณ Bluetooth ซึ่งทำให้การแจ้งเตือนต่างๆ ข้อมความ เบอร์โทร รวมไปถึงการโทรศัพท์ติดต่อ สามารถทำผ่านโน๊ตบุ๊คของ Dell ได้เลย สำหรับ Dell G7 15 7590 ก็มีซอฟต์แวร์ตัวนี้ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน เรียกได้ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปากทีเดียว

Battery / Heat / Noise

batt 6

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Dell G7 15 7590 เครื่องนี้มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 6870 mAh แต่ด้วยที่เป็นชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงานจึงมีการใช้พลังงานค่อนข้างน้อย ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำที่สุดแล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 6 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจกับการจัดการพลังงานของ Gaming Notebook เครื่องนี้ทีเดียว

temp 3

สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติหนักๆ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผลอยู่ที่ไม่เกิน 97 – 100 องศาเซลเซียส และการ์ดจอไม่เกิน 60 – 78 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ถือว่าเสียงไม่ดังเลยเมื่อใช้งานหนักๆ ถือว่าไม่รบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกม

Conclusion / Award

dell g7 15 7590 top 1

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับ Dell G7 15 7590 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คสายเล่นเกมที่มีความแตกต่างจากทาง Dell ที่ต่อยอดความสำเร็จจาก G7 รุ่นก่อนหน้าในเรื่องของสเปกที่เป็นชิปประมวลผล Core i Gen 9 อย่าง i7-9750H พร้อมจับคู่มากับการ์ดจอ GeForce RTX 2070 Max-Q โดดเด่นด้วยความบางเบากว่ารุ่นเดิม ได้เป็นอย่างดีด้วยประสิทธิภาพที่แรงเหนือชั้นยิ่งกว่า ส่วนดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ยังคงสมบูรณ์เหมือนเดิม ส่งผลได้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดยิ่งกว่า เรียกได้ว่าใครเป็นแฟน Dell ต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน

โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการติดตั้ง Finger Print อีกทั้งแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานมาประมาณ 6 ชั่วโมงถือว่าน่าประทับใจ ส่วนหน้าจอก็ให้ค่า sRGB ที่ใกล้เคียงในรุ่นสเปกช่วงราคาเคียงกัน ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟ RGB และซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ใช้งานได้จริง ทแม้ว่าอาจจะข้อสังเกตในเรื่องการระบายความร้อนที่อุณหภูมิสูงไประดับร้อนสุดที่ 100 องศา รวมไปถึง SSD ที่ให้มาความเร็วน้อยเกินไปหน่อย สุดท้ายถ้าดูราคาแล้วรับได้ รวมไปถึงพอใจกับ งานประกอบ สเปก และการมีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้แล้ว ก็ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าซื้อที่สุดอีกรุ่นนึงช่วงปลายปี 2019 นี้ก็ว่าได้

Dell G7 15 7590 Review 124

Dell G7 15 7590 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานที่เน้นเล่นเกมเป็นหลักด้วยดีไซน์การออกแบบและสเปกเกมมิ่ง หรือผู้ที่รักความบันเทิงและมัลติมีเดีย ส่วนทำงานทั่วๆ ไปนั้นสบายๆ อยู่แล้ว ด้วยสเปคภายในที่แรงตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แถมยังให้การรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ Dell Premium Support คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจาก Dell

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นความแรง งานประกอบ ดีไซน์ที่ดุดัน และการรับประกันเทพๆ แล้วล่ะก็ Dell G7 15 7590 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว ส่วนข้อมูล Dell รุ่นอื่นๆ สามารถตามดูต่อได้ที่ https://www.facebook.com/DellThailand ได้เลย ส่วนการมาของ Dell G7 15 7590 ทำให้ Alienware รุ่นปัจจุบันดูเก่าไปเลยทีเดียว คงต้องรอดู Alienware m15, Alienware m17 รุ่นใหม่ปี 2019 อีกที ยังไงก็ตามถ้าเป็นแฟน Dell อยู่แล้ว และรับได้ในเรื่องของความร้อนและ SSD ที่ความเร็วน้อยไปหน่อย รวมไปถึงราคาค่าตัวที่สูงกว่ารุ่นอื่น ก็จัด Dell G7 15 7590 ที่เป็น Gaming Notebook รุ่นแรกของ Dell ที่มาพร้อมการ์ดจอ RTX 20 Series และดีไซน์ใหม่ล่าสุดกันได้เลย

จุดเด่น

  • เป็น Gaming Notebook ดีไซน์ใหม่ บางเบากว่ารุ่นก่อนๆ บางสุดในของ Dell
  • งานประกอบแน่นๆ วัสดุอลูมิเนียมเกรดดี ตลอดทั้งตัวเครื่อง มาตราฐาน Dell
  • ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Core i7 Gen 9 ตระกูล H และการ์ดจอ RTX 2070 Max-Q
  • สเปกแรมได้มา 16GB และ SSD 512GB ไม่ต้องอัพเกรดแล้ว
  • ได้หน้าจอพาเนล IPS ความละเอียด Full HD แบบ 240Hz คุณภาพดีระดับสูง
  • คีย์บอร์ดได้เป็นแบบไฟ RGB สี่โซนปรับแต่งได้
  • เป็นโน๊ตบุ๊คมาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 3 ความเร็วสูง
  • มี Finger Print เข้าใช้งานผ่านทาง Windows Hello
  • ซอฟต์แวร์ติดเครื่องมีมาให้อย่างจัดเต็ม ใช้ได้จริง
  • ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม Dell Premium Support (On-site Sevice)

ข้อสังเกต

  • แป้นคีย์บอร์ดไม่มีภาษาไทย
  • ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกใกล้เคียงกัน
  • ความเร็ว SSD ในการเขียนน้อยเกินไป
  • การระบายความร้อนมีอุณหภูมิค่อนข้างสูง

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell G7 15 7590 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Dell Gaming โน๊ตบุ๊คสายคเล่นเกม ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell G7 15 7590 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกัน ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

NBS award 7 Design

Best Performance

ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q ขนาด 8GB DDR6 รวมไปถึงหน้าาจอ 240Hz ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ รวมไปถึงการเล่นเกมในปัจจุบัน

award new performance

VDO Review

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

รีวิว MSI

ถ้าคิดว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจะต้องใหญ่และหนัก เชิญพบกับไลท์เวทหมัดหนักอย่าง MSI Cyborg 14 A13V ข้อดีของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ก็ต้องยกให้เรื่องสเปคแรงพอจะทำงานได้ดีเล่นเกมได้ลื่นแต่ก็แลกกับน้ำหนักตัวระดับ 2 กก. ขึ้นไป แต่ก็มี MSI Cyborg 14 A13V รุ่นย่อขนาดจาก Cyborg 15 เดิมให้เครื่องเล็กลงนิดน้ำหนักเบาลงหน่อย ฉีกกฏเดิมว่าถ้าอยากแรงก็ต้องหนักกลายเป็นว่าไม่ต้องหนักสเปคก็แรงได้ ภายในตัวเครื่องขนาด 14 นิ้ว...

CONTENT

ในบทความก่อนหน้านี้จะเป็นการแนะนำโน้ตบุ๊ก AMD น้ำหนักเบาที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมตอบโจทย์การทำงานที่ต้องเน้นการพกพาเครื่องบ่อย ๆ โดยที่ยังได้พลังในการทำงานที่ดีอยู่ ส่วนในบทความนี้เราจะมาดูโน้ตบุ๊ก AMD การ์ดจอแรง แต่มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบากันบ้าง เผื่อในกรณีของท่านที่ต้องการซื้อโน้ตบุ๊กใหม่ซักเครื่อง แล้วอยากได้แพลตฟอร์มของค่ายแดงมาไว้ใช้ทำงาน เล่นเกม แต่ก็ยังอยากพกง่าย ๆ อยู่ด้วยในเครื่องเดียว

รีวิว Lenovo

Lenovo LOQ 15APH8 รุ่นคุ้มราคาประหยัด แต่ใส่สเปคมาจัดจ้านในราคาคุ้มเกินตัว!! Lenovo LOQ 15APH8 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเล็กราคาประหยัดซึ่งแฟนคลับ Lenovo ก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นมาโดยตลอด เพราะรวมองค์ประกอบน่าใช้เอาไว้มากมายทั้งบอดี้สวยเรียบร้อยคล้ายกับพี่ใหญ่อย่าง Legion Series อยู่พอควร แถมยังให้สเปคต่อราคามาคุ้มค่าทั้งซีพียู AMD Ryzen กับจีพียู NVIDIA GeForce RTX 30 series...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก