วันก่อนทีมงานได้เห็นข่าวที่มีผู้ใช้ไม่รู้จักว่าไอค่อนปุ่มเซฟในโปรแกรมออฟฟิตคืออะไร จนเรียกไปต่างๆนาๆ ทั้งมันคือรูปของ floppy disk ที่ปัจจุบันไม่ได้มีใช้งานแล้ว ซึ่งผู้ใช้คอมพิวเตอร์มาสัก 10-20 ปีคงจะรู้จักเจ้าอุปกรณ์นี้เป็นอย่างดี แต่คนรุ่นใหม่ไม่รู้จักเสียแล้ว วันนี้ทีมงาน NBS เลยขอพาทุกท่านไปรู้จัดอุปกณณ์คอมเก่าๆที่หลายท่านอาจจะไม่รู้จักว่ามันก็มีด้วยเหรอ
Floppy disk
หน้าตาสีเหลี่ยมบางๆ ขนาดเท่ากับกระดาษเช็คมือ โดยภายในกล่องพลาสติกด้านนอกจะมีจานเก็บข้อมูลสีดำภายใน โดยเริ่มแรก Floppy disk มีขนาดให้ถึง 8 นิ้ว – 5¼ นิ้ว จนย่อมาเหลือเพียง 3½ นิ้ว กับความจุเริ่มต้น 110 กิโลไบต์ (ขณะที่ 1 กิกกะไบต์มี 1,000,000 กิโลไบต์ ) ช่วง ค.ศ. 1984 บริษัทแอปเปิล ผลิตเครื่องที่ใช้แผ่นดิสก์ขนาด 3½ นิ้วของบริษัทโซนี่ และผลักดันให้แผ่น 3½ นิ้ว เป็นมาตรฐานในวงการอุตสาหกรรมของอเมริกา ความจุเริ่มแรกของแผ่นดิสก์ขนาด 3½ นิ้ว คือ 360 กิโลไบต์ สำหรับหน้าเดียว (single density) และ 720 กิโลไบต์ สำหรับสองหน้า และต่อมาก็สามารถเพิ่มความจุเป็น 1.44 เมกะไบต์ ซึ่งถือเป็นยุคทองของ Floppy disk แต่แม้จะมีการพัฒนาเพิ่มความจุเป็น 2.88 เมกะไบต์ แต่ก็ไม่ได้รับความนิยม เพราะเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในขณะนั้น ต้องการความจุที่สูงกว่านี้ แผ่นดิสก์จึงถูกแทนที่ด้วยหน่วยจัดเก็บข้อมูลแบบอื่นไป เช่น ซีดีรอม, ดีวีดีรอม
ฮาร์ดดิสค์แบบ IDE
ฮาร์ดดิสก์แบบ IDE (Intergrated Device Electronics) เป็นระบบเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์ซึ่งเก่าแก่ที่สุดตัวหนึ่ง โดยเชื่อมต่อฮาร์ดดิสค์แบบสายแพ 80 เส้น เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อแบบขนาด แต่มีหัวต่อเพียง 40 ขา (40 เส้นที่เหลือเป็นสายกราวน์ เพื่อช่วยลดสัญญาณรบกวน) ในหนึ่งสายแพร IDE จะสามารถต่อกับฮาร์ดดิสค์ได้ 2 ลูก แต่ต้องมีการเซ็ตจัทเปอร์ที่ตัวไดร์ฟด้วยว่าอยู่ปลายสาย (Master) หรือ กลางสาย (Clave) โดยมีความจุตั้งแต่เมกะไบต์ ไปจนถึงหลักร้อยกิกกะไบต์ นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับไดร์ฟ CD หรือ DVD ได้ด้วย โดยมีความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 133 MB/s แต่สุดท้ายเทคโนโลยีก็เปลี่ยนมาเป็นการเชื่อมต่อแบบอนุกรม SATA (กิกกะไบต์) ที่เร็วกว่าด้วยความเร็วเริ่มต้น 150 MB/s และพัฒนามาถึง 600 MB/s ในปัจจุบัน
แต่ถ้าไม่พูดถึงพอร์ตเชื่อมต่อ โครงสร้างของฮาร์ดดิสค์แบบ IDE และ SATA ก็แทบไม่ต่างกันเท่าไรนัก
Serial & Parallel Port
รู้หรือไม่ว่าก่อนจะมีพอร์ต USB แบบที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน พีซีสมัยก่อนจะให้พอร์ตขนาน Parallel Port กับพอร์ตอนุกรม Serial Port สำหรับเชื่อมต่อข้อมูลมาก่อนนะครับ โดยเฉพาะปริ้นเตอร์สมัยก่อนส่วนใหญ่เชื่อมต่อผ่าน Parallel Port กันทั้งนั้น และปัจจุบันปริ้นเตอร์แบบ dot matrix ที่เป็นหัวเข็มทำสำเนาที่เราเห็นเสียงดังตามหน่วยงานราชการหลายที่ก็ยังเชื่อมต่อแบบ Parallel Port อยู่ ส่วน Serial port จะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อเอนกประสงค์ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ตั้งแต่คีย์บอร์ดเมาส์ ไปจนถึงอุปกรณ์โรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆก็เชื่อมต่อผ่านพอร์ต Serial port ซึ่งในบางอุตสาหกรรมก็ยังใช้งานเจ้าพอร์ตนี้อยู่ แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์รุ่นใหม่ก็จะถูกย้ายมาเชื่อมต่อผ่าน USB เป็นหลักแล้ว
Express Slot
ในยุดที่โน๊ตบุ๊คมีขนาดใหญ่และหน้า ทำให้นอกจากพอร์ตใช้งานแล้ว ก็ยังสามารถเพิ่มช่องสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เข้าไปได้อีกอย่างเช่น Express Slot ที่หน้าตาเหมือนรูสำหรับเสียบการ์ดขนาดไม่หนามาก แต่เป็นช่องที่เรียกว่าเอนกประสงค์เหมือนสล๊อต PCIe เลยก็ว่าได้ เพราะ Express Slot เราสามารถเสียบการ์ดแปลงเป็นอุปกรณ์ได้หลากหลายมาก เช่นเพิ่มพอร์ต USB ,Card Reader แปลงเป็นสายแลน ต่อโมเด็ม หรือแม้กระทั่งต่อเป็นการ์ดเสียงก็ยังได้ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในโน๊ตบุ๊คสายทำงานพวก ThinkPad มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่สุดท้ายเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น และผู้ใชต้องการโน๊ตบุ๊คที่บางเบาลง Express Slot ก็เลยต้องจากไป
##แล้วเพื่อนๆละครับคิดว่าอุปกรณ์ไหนเก่าๆอยากแนะนำให้รู้จักก็คอมเมนท์กันเข้ามาหน่อย##