โปรแกรม Super PI ใช้วิธีการคำนวณค่า PI จากเส้นรอบวง/เส้นผ่านศูนย์กลางจะได้เป็นค่า 3.14? โดยที่ทศนิยมนั้นเป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ ดังนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ ถ้าไม่สั่งให้มันหยุด โปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่าให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1 ล้านตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นช่วง Loop อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่ง ต่อ 1 Loop ยิ่งซีพียูมีประสิทธิภาพเท่าไร ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง
Intel Core i5 540M ยังทำเวลาได้ในเกณฑ์มาตรฐานครับ 16 วินาทีกว่า ๆ เท่านั้นเอง
โปรแกรม Hyper PI ใช้หลักการคำนวณเหมือนกับ Super PI แต่สามารถสั่งให้ทุก Thread ของ CPU คำนวณได้พร้อมกัน
พอให้มาคำนวณแบบหลาย ๆ Thread พร้อมกัน ความเร็วตกไปเยอะเลย ใช้เวลาไปเท่าตัวในการคำนวณค่า PI ออกมา จาก 16 วินาที วิ่งไป 33 วินาที
โปรแกรม PCMark05 ใช้สำหรับการทดสอบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ในหลาย ๆ รูปแบบ เช่น การคำนวณทางฟิสิกส์ การเข้ารหัสไฟล์ภาพยนตร์เพื่อสร้างคะแนนเปรียบเทียบประสิทธิภาพออกมา
ผลการทดสอบก็ไม่เลวครับ ถึงแม้จะไม่ได้คะแนนรวมออกมา แต่จุดอ่อนก็ยังคงเป็นการ์ดจอออนบอร์ดนั่นเอง แต่ถ้าซื้อมาเพื่อการทำงานจริง ๆ จัง ๆ ละก็ การ์ดจอออนบอร์ดก็สามารถตอบสนองการทำงานได้ดีครับ เท่าที่ใช้ดูจะดูหนัง YouTube ความละเอียดสูง ๆ ก็ไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใด
โปรแกรม 3DMark06 ใช้สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU โดยทดสอบทั้ง High Dynamic Range, Shader Model 3.0 รองรับ CPU ทั้ง Single Core และ Multi Core
ทดสอบที่ความละเอียด 1280 x 800
จะบอกว่าคะแนนสวยที่สุดในเครื่องที่เคยทดสอบมาเลยครับ 1234 ซึ่งก็ได้ไปตามสมควรครับ กับการ์ดจอออนบอร์ดแบบนี้ ยังไงก็คงไม่มีใครคิดจะซื้อเครื่องนี้มาเล่นเกมอยู่แล้วละครับ มันไม่คุ้มเงิน
โปรแกรม CINEBENCH R 11.5 ใช้ทดสอบการประมวลผลงานสามมิติแบบมืออาชีพที่ต้องใช้งานผ่าน OpenGL โปรแกรมทดสอบทั้งการเรนเดอร์ด้วย CPU และ GPU โดยมีพื้นฐานมาจากโปรแกรม Maxon CINEMA 4D
คะแนนทดสอบออกมาน้อยทั้งสองการทดสอบตามระเบียบครับ พูดง่าย ๆ เครื่องนี้ไม่เหมาะจะนำมาทำงานสามมิตินั่นเองครับ โดยเฉพาะใครที่ต้องการใช้การ์ดสามมิติในการโมเดลงาน ควรหาเครื่องที่มีการ์ดจอแยกอย่างยิ่งครับ เพราะว่าการ์ดมันเปลี่ยนแบบพีซีไม่ได้ แต่ถ้าจะเอามาแก้งานเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอถูไถไปได้
โปรแกรม Performance Test เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่สามารถทดสอบประสิทธิภาพเครื่องได้ในหลาย ๆ ส่วนทั้ง CPU, GPU, 2D, 3D, CD/DVD ด้วย
คะแนนทดสอบของเครื่องได้ไม่เยอะครับ เพราะไม่มีเครื่องอ่านแผ่น ถ้าดูจากผลคะแนนที่แยกออกมาในแต่ละส่วน เราจะเห็นว่าจุดอ่อนก็ยังคงเป็นเรื่องของกราฟิกและฮาร์ดดิสก์นั้นเองครับ ถ้าเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์เป็น SSD ท่าจะเยี่ยม